ในปี 2017 Facebook ประกาศว่า กำลังพัฒนาอินเทอร์เฟซคอมพิวเตอร์กับสมองที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้พิมพ์ input ข้อความต่าง ๆ เหมือนกับ keyboard แต่ผู้ใช้เพียงแค่คิดมันเท่านั้น
และในวันนี้ บริษัท ได้เปิดเผยเป็นครั้งแรกว่ามันมาไกลแค่ไหนในการสร้างอุปกรณ์ดังกล่าวให้เป็นจริง
“ ลองจินตนาการถึงโลกที่ ทุกความรู้ ความสนุกสนาน และประโยชน์มากมายของสมาร์ทโฟน ที่ทุกจะสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ได้และไม่ต้องใช้มือในการป้อนข้อมูลอีกต่อไป”
ซึ่งทาง บล็อกของ Facebook ได้มีการแถลงข้อมูลสำคัญ “ เทคโนโลยีนี้จะกลายเป็นสิ่งที่ช่วยให้สามารถติดต่อกับผู้อื่นได้อย่างมีความหมาย โดยไม่คำนึงถึงข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ หรือแม้แต่ความพิการซึ่งเป็นข้อจำกัดทางกายภาพของผู้ใช้งาน “
ซึ่งเนื้อหาของการประกาศในวันนี้: Facebook กล่าวว่า การร่วมมือกับนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนียในซานฟรานซิสโก เพื่อสร้างอุปกรณ์ที่สามารถช่วยผู้ป่วยที่มีความเสียหายทางระบบประสาทให้สามารถกลับมาพูดได้อีกครั้ง โดยการวิเคราะห์จากคลื่นสมองได้แบบ RealTime
ในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications วันนี้ทีมนักวิจัยได้เปิดเผยความก้าวหน้าล่าสุดของพวกเขาในอุปกรณ์ดังกล่าว
ในการทดลองพวกเขาถามคำถามผู้เข้าร่วมและชี้นำให้มีการพูดคำตอบออกมาดัง ๆ ด้วยการตรวจสอบจากการอ่านผ่านเครื่องมือที่ให้ไฟฟ้าความหนาแน่นสูง โดยอิเล็กโทรดที่ฝังอยู่บนพื้นผิวของสมองโดยตรง ซึ่งผลการทดลองนั้นน่าสนใจมาก เพราะพวกเขาสามารถวิเคราะห์คำตอบด้วยอัตราความแม่นยำ “สูงถึง 61 %” โดยการดูสัญญาณจากสมองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
นักวิจัยอ้างว่าผลลัพธ์ดังกล่าวของพวกเขา “แสดงให้เห็นถึงการถอดรหัสการพูดได้แบบ RealTime ในสภาพแวดล้อมทั่วไปที่มีการโต้ตอบและสนทนา ซึ่งผลลัพธ์นี้แสดงให้เห็นถึงหลักไมล์ที่สำคัญ ที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยที่ไม่สามารถสื่อสารได้”
แต่มีอีกหลายส่วนที่ทีมนักวิจัยยังคงต้องทำงานหนักอยู่ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาเป้าหมายของนักวิจัยในเรื่อง“ ความเร็วของการถอดรหัสแบบเรียลไทม์ 100 คำต่อนาที โดยมีคำศัพท์ 1,000 คำและอัตราความผิดพลาดของคำน้อยกว่า 17 %”
ในระหว่างการทดลองครั้งแรกจำนวนคำศัพท์ของคำตอบที่เป็นไปได้นั้นมีอยู่จำกัดมากและอัตราความแม่นยำที่ทำได้ 61% นั้น ทำให้มีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องมือชุดนี้ให้ดียิ่งขึ้น
แต่ตอนนี้ห้องแล็บวิจัยของ Facebook กำลังสำรวจทางเลือกใหม่ ๆ เช่น การใช้รังสี อินฟราเรด ด้วยการวัดระดับออกซิเจนในเลือด ซึ่งทาง Facebook เชื่อว่าจะทำให้สามารถสร้างชุดอุปกรณ์อินเทอร์เฟซคอมพิวเตอร์กับสมองที่มีขนาดเล็กลงได้
กล่าวอีกนัยหนึ่งนั่นคือ Facebook จะไม่เข้ามายุ่งกับความคิดของคุณเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน อุปกรณ์ที่ช่วยให้เราทุกคนสามารถเลื่อนเมาส์ พิมพ์ความเห็นบน Facebook และเล่นเกมด้วยความคิดของเราเพียงอย่างเดียวยังคงต้องใช้เวลาพัฒนาเป็นเวลาอีกหลายปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งานจริง ๆ
และยังมีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว ความคิดของเราเป็นหนึ่งในสิ่งที่ปลอดภัยที่สุด ที่ธรรมชาติมอบให้เรามา ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องยากที่ระบบจะมา hack ข้อมูลจากการใช้ความคิดเราโดยตรง แต่ในอนาคต มันก็กลายเป็นเรื่องไม่แน่นอนแล้วเหมือนกัน เพราะความคิดของเรากำลังจะถูกนำเข้าไปสู่ระบบ internet เหมือนข้อมูลส่วนอื่น ๆ ที่ตอนนี้แทบจะหาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลไม่ได้แล้ว นั่นเองครับ