มารู้จักเทคโนโลยีใหม่ในการควบคุมแขนหุ่นยนต์ผ่านจิต

ถ้าคุณต้องการควบคุมหุ่นยนต์ด้วยความคิดของคุณ และมันเป็นเทคโนโลยีที่น่าทึ่งมาก และแน่นอนว่าใครจะสนใจหากมันทำงานได้จริง แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวไกลในปัจจุบัน ตอนนี้คุณมีสองตัวเลือกในการควบคุมผ่านความคิด

คุณสามารถปลูกถ่ายสมองซึ่งในกรณีนี้ การควบคุมหุ่นยนต์ของคุณจะราบรื่นและมีความต่อเนื่อง หรือคุณสามารถข้ามความเสี่ยงการผ่าตัดที่มีราคาแพงหูฉี่ ด้วยอุปกรณ์ที่ตรวจจับคลื่นสมองของคุณจากภายนอกกะโหลกศีรษะของคุณ แต่การควบคุมนั้นจะไม่ราบรื่นเท่าที่ควรและที่สำคัญมันไม่ได้แม่นยำเหมือนการปลูกถ่ายสมอง

ตอนนี้ทีมจาก Carnegie Mellon University (CMU) กำลังลดช่องว่างระหว่างตัวเลือกทั้งสองโดยสร้างแขนหุ่นยนต์ที่ควบคุมโดยสามารถบังคับการเคลื่อนไหวอย่างได้อย่างต่อเนื่องและราบรื่น ซึ่งก่อนหน้านี้นั้นสามารถทำได้ในเฉพาะการปลูกถ่ายสมองเพียงเท่านั้น ซึ่งตอนนี้กำลังก้าวเข้าใกล้อนาคตที่เราทุกคนสามารถใช้ความคิดของเราเพื่อควบคุมเทคโนโลยีรอบตัวเราได้นั่นเอง

ในบทความที่ตีพิมพ์ใน วารสาร Science Robotics นักวิจัยอธิบายว่าพวกเขาใช้การผสมผสานระหว่าง sensing และเทคนิค Machine Learning เพื่อสร้างส่วนต่อประสานสมอง กับ คอมพิวเตอร์ (BCI) ที่สามารถเข้าถึงสัญญาณลึก ๆ ในสมองของผู้ใช้งาน

ในการทดสอบระบบของพวกเขา ได้ขอให้ผู้ใช้งานทดลองใช้แขนหุ่นยนต์ชี้ไปที่เคอร์เซอร์เมื่อมันกำลังเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ หน้าจอคอมพิวเตอร์ แขนหุ่นยนต์สามารถติดตามเคอร์เซอร์อย่างต่อเนื่องแบบเรียลไทม์โดยไม่มีการกระตุก – เป็นครั้งแรกที่น่าตื่นเต้นสำหรับระบบ BCI ที่ไม่ต้องมีการปลูกถ่ายสมอง

อนาคตกับการควบคุมโดยจิตใจ

ในขณะที่การมุ่งเน้นไปที่หุ่นยนต์ที่ควบคุมผ่านจิต ซึ่งทำเพื่อคนที่มีความผิดปกติของการเคลื่อนไหวหรือเป็นอัมพาตแต่นักวิจัยของ CMU Bin He มองเห็นอนาคตที่เทคโนโลยีเป็นที่แพร่หลายและเป็นประโยชน์ต่อผู้คนส่วนใหญ่ในอนาคตได้

“แม้จะมีความท้าทายทางเทคนิคแต่เรามีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะนำเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและราคาที่เข้าถึงได้ให้กับผู้ที่จะได้ประโยชน์จากมันโดยเฉพาะเหล่าผู้ที่มีความผิดปรกติทางร่างกาย” เขากล่าวในการแถลงข่าว “ งานนี้แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนสำคัญในการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์กับสมองแบบใหม่ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สักวันหนึ่งอาจกลายเป็นเทคโนโลยีที่แพร่หลายซึ่งจะช่วยเหลือทุกคนได้ในอนาคตอย่างแน่นอน”

References : 
https://futurism.com/mind-controlled-robot-arm-brain-implant

Janken หุ่นยนต์ เป่า ยิ้ง ฉุบ ที่มนุษย์ไม่มีวันชนะ

เป่า ยิ้ง ฉุบ การใช้มือแทนสัญลักษณ์ ค้อน กรรไกร กระดาษ เป็นเกมง่าย ๆ ที่ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับโชคชะตาเสียเป็นส่วนใหญ่ มันเป็นการเกิดขึ้นแบบสุ่ม ที่ดวงใครดีกว่าก็มีโอกาสที่จะคว้าชัยชนะได้

แต่เมื่อเล่นกับหุ่นยนต์จากห้องปฏิบัติการของอิชิกาวะวาตานาเบะในโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ความโชคดีและกลอุบายใด ๆ ก็ไม่มีผล เพราะมันมีอัตราการชนะ 100%

หุ่นยนต์ซึ่งดูเหมือนมือมนุษย์โดยมีสามนิ้วที่ตั้งอยู่บนขาตั้ง สามารถรับรู้ได้ว่าการเล่นของฝ่ายตรงข้ามของมนุษย์นั้นจะออกสัญลักษณ์ประเภทใด และจะโต้กลับได้ภายใน 1 มิลลิวินาที ก่อนที่มนุษย์จะเคลื่อนไหวเสร็จสิ้น 

นั่นหมายความว่าก่อนที่คุณจะได้รับรู้ว่าอีกฝั่งจะออกอะไรไม่ว่าจะเป็น หิน,กระดาษหรือกรรไกร หุ่นยนต์ได้อ่านสิ่งที่คุณจะทำและเอาชนะคุณไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หุ่นยนต์อาศัยเทคโนโลยี High Speed Vision ในการคาดการณ์และตอบโต้คู่ต่อสู้ในการเล่น

เล่นอย่างไรก็ไม่มีวันชนะเจ้า Janken
เล่นอย่างไรก็ไม่มีวันชนะเจ้า Janken

นี่ถือเป็นรุ่นที่สามของแชมป์หุ่นยนต์เป่า ยิ้ง ฉุบ ในรุ่นแรกหุ่นยนต์มีการเคลื่อนไหวได้ภายใน 20 มิลลิวินาที หลังจากที่มนุษย์ออกสัญลักษณ์เสร็จ ในรุ่นที่สองหุ่นยนต์สามารถเอาชนะ 100%  แต่การเคลื่อนไหวของแขนหุ่นนั้นใช้เวลาเดียวกันกับมนุษย์ ส่วนเวอร์ชันล่าสุดนั้นหุ่นยนต์ใช้เวลาเพียง 1 มิลลิวินาทีในการประมวลผลเพื่อเล่นเกม

หุ่นยนต์เป่า ยิ้ง ฉุบ รุ่นล่าสุดแสดงถึงศักยภาพสำหรับการทำงานร่วมกันในอนาคตระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ เป็นแนวคิดใหม่ที่จะเป็นการร่วมมือกันทำงานระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ แม้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ของหุ่นยนต์เป่า ยิ้ง ฉุบ ตัวนี้ แต่ไอเดียนี้ สามารถนำไปต่อยอดในเทคโนโลยีหุ่นยนต์ได้อีกมากมายในอนาคตอย่างแน่นอน

References : 
https://www.businessinsider.com/janken-robots-wins-rock-paper-scissors-every-time-2015-9

มารู้จัก Vera รถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัติจาก Volvo

ยานพาหนะอัตโนมัติของ Volvo Trucks Vera พร้อมที่จะออกเดินทางแล้วในขณะนี้ โดยในความร่วมมือกับ DFDS บริษัท เรือข้ามฟากและโลจิสติกส์ยักษ์ใหญ่ของสวีเดน ซึ่ง Vera จะเริ่มขนส่งสินค้าระหว่างศูนย์โลจิสติกส์และท่าเรือในโกเธนเบิร์กประเทศสวีเดน รถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัตินี้จะทำการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ไปตามเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในท้ายที่สุดวอลโว่หวังว่าจะมีรถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัติหลายคันที่เดินทางไปมาพร้อมๆกันได้ โดยจะถูกตรวจสอบจากหอควบคุม และสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 40 กม. / ชม. แม้ว่า Vera จะเหมาะสำหรับระยะทางสั้น ๆ ก็ตาม แต่ก็สามารถขนส่งสินค้าได้จำนวนมาก และ Volvo หวังว่าจะให้ประสิทธิภาพที่มากขึ้นกับการขนส่งรูปแบบใหม่นี้

มิคาเอล คาร์ลสัน รองประธานฝ่ายโซลูชันอัตโนมัติของวอลโว่ทรัคส์กล่าวว่า “การขนส่งอัตโนมัติที่มีระดับเสียงรบกวนต่ำและการปล่อยไอเสียเป็นศูนย์ จะมีบทบาทสำคัญในอนาคตของการขนส่งและจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งธุรกิจและสังคมอย่างแน่นอน”

แต่อย่าคาดหวังว่าจะเห็น Vera บนถนนใกล้ ๆ คุณในไม่ช้า การที่จะนำมาใช้แบบจริงจังนั้นจะต้องใช้เทคโนโลยีความปลอดภัย และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ เพิ่มเติม ซึ่งเป็นไปได้ว่าบางส่วนของเหล่ารถบรรทุกแบบอัตโนมัติจะเกิดขึ้นในประเทศสวีเดน ซึ่งกำลังกลายเป็นประเทศผู้นำในการทดสอบรถขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ

โดยก่อนหน้านี้ รถบรรทุกอัตโนมัติของ Einride เริ่มทำการทดสอบการจัดส่งทุกวัน บนถนนสาธารณะใน Jönköping ของสวีเดน  ซึ่งด้วยการทดลองใช้งานเหล่านี้จะเห็นได้ชัดว่ารถบรรทุกอัตโนมัติจะมีบทบาทอย่างแน่นอนในอนาคตของธุรกิจการขนส่ง

References : 
https://www.engadget.com/2019/06/14/volvo-trucks-autonomous-truck-vera-sweden/

Walkman กับการปฏิวัติการฟังเพลงเมื่อ 40 ปีที่แล้ว

โลกได้เปลี่ยนแปลงอีกครั้งในวันที่ 1 กรกฎาคม 1979 : วันที่ Sony เปิดตัว Walkman TPS-L2 เครื่องเล่นเพลงแบบพกพาเป็นครั้งแรก ที่จะปฏิวัติวิธีการที่เราฟังเพลงในแบบที่ไม่มีอุปกรณ์อื่นเคยทำได้มาก่อน  Walkman ทำให้รูปแบบของการฟังเพลงแบบพกพาเข้าสู่ยุคใหม่ของการฟังเพลงเมื่อ 40 ปีที่แล้วนั่นเอง

40 ปีต่อมา และ ตอนนี้ Walkmans ไม่เป็นที่นิยมอีกต่อไป  แต่การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจเพลง ทำให้ Walkman ที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของเราหลาย ๆ คนนั้น ทำให้เรายังคิดถึงเจ้าเครื่องเล่นเพลงตัวนี้อยู่ตลอดมา

แม้ในปัจจุบัน เราจะไม่ใช้ Cassette หรือ CD อีกต่อไป อุปกรณ์พกพาเกือบทุกเครื่องที่เราพกพาสามารถเล่นเพลง รวมถึงจัดเก็บเพลงนับพันและสตรีมมิ่งอีกนับหมื่นเพลงจากอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลาในโลก แต่ความคิดทั้งหมดของการฟังเพลงแบบส่วนตัว – ที่เราสามารถฟังเพลงโปรดของเราได้ทุกที่นั้น มีการเริ่มต้นมาตั้งแต่ยุคของ Walkman

Walkman นั้นได้รับการออกแบบมาสำหรับเพลงเป็นหลัก มันเป็นผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่าย: ตามประวัติภาพถ่ายของ Sony อุปกรณ์รุ่นแรก ๆ นั้นได้ถูกเยาะเย้ยจากสื่อต่าง ๆ  เนื่องจากการขาดความสามารถในการบันทึกเทป ซึ่งความจริงแล้วมันแทบจะไม่จำเป็นต้องใช้คุณสมบัตินี้ด้วยซ้ำเมื่อทำการวางขายจริง และ Walkman ยังมีแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มม. สองตัว ช่วยให้คุณฟังกับเพื่อนแทนลำโพงได้นั่นเอง

Walkman ได้มีการพัฒนารุ่นต่อ ๆ ไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมารวมถึงรุ่นซีดี “Discman” และเครื่องเล่น MiniDisc (MD) รวมถึงอุปกรณ์เครื่องเล่น MP3 แบบพกพาที่ทันสมัยซึ่ง Sony ยังคงขายอยู่ในปัจจุบัน 

ซึ่งเมื่อ 40 ปีที่แล้วการเกิดขึ้นของ Walkman ได้ปฏิวัติการฟังเพลงซึ่งมีผลต่อทั้งดนตรีและเทคโนโลยีที่ถือได้ว่าได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตมนุษย์เราครั้งสำคัญครั้งหนึ่งเลยก็ว่าได้

ปัญหาบริษัทญี่ปุ่นกับการก้าวผ่านยุค Analog

ปัญหาใหญ่ของบริษัทจากญี่ปุ่นคือ การที่พวกเขาส่วนใหญ่เติบโตมาในยุค Analog  เราจึงได้เห็นถึงความถดถอยของบริษัทญี่ปุ่นเรื่อยมา นับตั้งแต่มีการก้าวผ่านมาเป็นยุคของดิจิตอล

และการแจ้งเกิดจากบริษัทจากเกาหลี ไม่ว่าจะเป็น Samsung , LG ที่ปรับตัวเข้าสู่ยุค Digital ได้อย่างรวดเร็วกว่าอย่างชัดเจน หรือแม้กระทั่งบริษัทในจีนเองก็ตาม ที่มาพร้อมกับการทำราคาที่ต่ำกว่าแบรนด์ญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก และคุณภาพก็ไม่ได้ด้อยเหมือนในอดีต

Sony เป็น Brand ที่อดีตเคยยิ่งใหญ่มาก ทุกผลิตภัณฑ์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ทั่วโลก เรื่อง Design แม้กระทั่ง Apple เองยังเคยยอมรับว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากบริษัท Sony เสียด้วยซ้ำ

น่าเสียดาย Walkman ที่ตอนนั้นกลายเป็นกระแสไปทั่วโลก แต่ดันปรับตัวไม่ทันในยุคดิจิตอล แม้ Sony จะปล่อยเครื่องเล่น MiniDisc (MD) ออกมา แต่ก็ดูเหมือนจะใช้งานได้ยุ่งยากเกินไปไม่ถูกจริตผู้บริโภค และในที่สุดก็พ่ายแพ้ให้กับ iPod ของ Apple เป็นการ สิ้นสุดยุคอารยธรรม Walkman ไปในที่สุด

References : 
https://www.theverge.com/circuitbreaker/2019/7/1/20677636/sony-walkman-anniversary-tps-l2-cassette-music-player-portable-mp3-evolution