Geek Daily EP218 : การยุบโปรเจกต์ Apple Car กับอีกหนึ่งการตัดสินใจที่ท้าทายความเป็นผู้นำของ Tim Cook

ความแตกต่างระหว่างผู้นำบริษัทแบบทั่วไปกับสุดยอดผู้นำที่สามารถผลักดันบริษัทก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกนั่นก็คือการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ที่มีความสำคัญกับกลยุทธ์บริษัท

เราได้เห็นผู้นำระดับสุดยอดเหล่านี้ที่มีความแตกต่าง กล้าตัด กล้ายุบโปรเจ็กต์ขนาดยักษ์ และยอมรับกับความผิดพลาดของตนเอง ซึ่งได้เห็นในบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น Satya Nadella ที่สั่งยุบโปรเจกต์ smartphone ที่เคยซื้อกิจการ Nokia มามูลค่าหลายพันล้านเหรียญ , Mark Zuckerberg ที่ยอมถอยก้าวหนึ่งจาก Metaverse เพื่อเดินหน้าเทคโนโลยี AI หรือการตัดสินใจครั้งล่าสุดของ Tim Cook ที่จะยุบโปรเจกต์รถยนต์ไฟฟ้าของ Apple

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/4w4axpcu

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/3tscrhfa

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://tinyurl.com/yf37ar3w

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
 http://bit.ly/2kxHtQ3

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/oCgM_GYcwNU

เจาะลึกเบื้องหลังการจับมือเป็นพาร์ทเนอร์ยาวนาน 5 ปีต่อเนื่อง ระหว่าง เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย และ มาริโอ้ เมาเร่อ

ในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่า มาริโอ้ เมาเร่อ ถือเป็นหนึ่งในซุปเปอร์สตาร์แถวหน้าของประเทศไทย ผู้มีผลงานโดดเด่นหลากหลายด้านในวงการบันเทิง ทั้งด้านการแสดง เดินแบบ ศิลปิน และพิธีกร การันตีความสามารถด้วยรางวัลมากมาย ทั้งยังเป็นที่รักของแฟนคลับทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังร่วมงานกับบริษัทต่างๆ ในฐานะพรีเซนเตอร์ และหนึ่งในนั้นแน่นอนว่าคือ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส 

ความร่วมมือระหว่าง เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส และขวัญใจมหาชนอย่าง มาริโอ้ นั้นมีมายาวนานตลอด 5 ปี ตั้งแต่เปิดให้บริการในประเทศไทยเมื่อปี 2562 ด้วยภาพลักษณ์ของธุรกิจที่ตอบโจทย์ทุกๆ เจเนอเรชัน โดยเริ่มจากการเปิดตัว “Express Your Online Business” สโลแกนหลักของ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ที่นำเสนอการบริการที่เป็นเลิศ พร้อมสนับสนุนและยกระดับธุรกิจของเหล่าผู้ขาย รวมถึงอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งพัสดุให้กับผู้ใช้บริการ

ต่อมาในปี 2564 เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ได้เปิดตัวบริการ “Claim Next Day” โดยนำเสนอผ่านการนำผลงานระดับมาสเตอร์พีซของหนุ่มมาริโอ้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์โฆษณา ในปีต่อมา เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ได้เปิดตัวแคมเปญ “We Grow Together” เพื่อสนับสนุนธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ของคนไทย

ด้วยการช่วยโปรโมทร้านค้าของเหล่าผู้ขายสินค้าออนไลน์บนโซเชียลมีเดียของแบรนด์ โดยมีมาริโอ้มาไลฟ์สดช่วยขายสินค้า เพื่อช่วยขยายการรับรู้ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น และในปี 2566 มาริโอ้ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำหน้าที่เป็นกรรมการตัดสินโครงการ “J&T Green Innovation” ที่จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ถ่ายทอดไอเดียของตนเองผ่านวิดีโอ ภายใต้การคำนึงถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมขนส่ง

อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือที่แน่นแฟ้นมาโดยตลอดนี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีความไว้เนื้อเชื่อใจและความน่าเชื่อถือที่มีต่อแบรนด์ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส มุ่งมั่นพัฒนาบริการขนส่งพัสดุอย่างต่อเนื่อง จนขึ้นแท่นเป็นแบรนด์ขนส่งพัสดุขวัญใจมหาชน

ตลอดหลายสิบปี ในเส้นทางวงการบันเทิงของมาริโอ้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและทุ่มเท ในขณะเดียวกัน เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ก็เป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดขนส่งพัสดุด่วนระดับโลก ที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

ตัวอย่างเช่น J&T HOME ที่เปิดโอกาสให้ผู้สนใจเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส สามารถสมัครเป็นตัวแทนจุดรับพัสดุ โดยสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่มีอยู่แล้วเพื่อสร้างรายได้ เพื่อขยายเครือข่ายการบริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ Jet Transport บริการรถขนส่งครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทย

เพื่อสร้างสมรรถนะในการขนส่งให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด J&T Fulfillment การจัดการคลังสินค้า แพ็กสินค้า และการส่งออกอย่างเป็นระบบ เพื่อสนับสนุนธุรกิจแบบ B2B และ B2C รวมถึง J&T International การขนส่งพัสดุระหว่างประเทศครบวงจร เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า

ไม่เพียงเท่านั้น มาริโอ้ยังคงรักษามาตรฐานในการทำงานและพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ซึ่งในปีที่ผ่านมาเขาได้รับรางวัลนักแสดงนำชายดีเด่น จากงานประกาศรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในผลงานการทำงาน เช่นเดียวกับที่ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส มีมาตรฐานระดับสูงจนทำให้ได้รับรางวัล BUSINESS+ Product of the Year Awards ในกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ ในปีเดียวกัน

อีกหนึ่งความคล้ายคลึงกันคือความเป็นซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกของมาริโอ้ ด้วยเสน่ห์และบุคลิกอันโดดเด่นทำให้เขาเป็นที่รักของสื่อมวลชนและผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะไปที่ไหนหรือทำอะไรก็ตาม เช่นเดียวกันกับ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส แบรนด์ระดับโลกที่มีพันธมิตรและให้บริการผู้ใช้งานมากมายทั่วโลก

ทุกปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ช่วยตอกย้ำถึงคุณภาพและความน่าเชื่อถือของ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ในฐานะผู้ให้บริการหลักด้านการขนส่งพัสดุด่วน นับเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้การจับมือกันในฐานะพาร์ทเนอร์ดำรงมาอย่างยาวนาน และในปี 2567 นี้เตรียมพบกับความร่วมมือในกิจกรรมและแคมเปญสุดพิเศษที่จะปล่อยออกมาตลอดปี โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวผ่านทางเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ทุกช่องทาง

Oasys เปิดตัวระบบจัดการคลังสุดล้ำ รวดเร็ว แม่นยำ ตอบโจทย์ร้านค้าออนไลน์และธุรกิจคลังสินค้ายุคใหม่

ปัจจุบันโลกอีคอมเมิร์ซ ได้เปลี่ยนแปลงธุรกิจไปสู่ยุคแห่งความรวดเร็วเป็นอย่างมาก การจัดการออเดอร์จำนวนมากให้มีประสิทธิภาพและความแม่นยำจึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง หากพิจารณาถึงตลาดอีคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆแล้ว ผู้ประกอบการจำเป็นต้องตัดสินใจลงทุนด้านเทคโนโลยีและอัปเกรดระบบเพื่ออนาคต จึงถือเป็นต้นกำเนิดการคิดค้นนวัตกรรมที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาและพัฒนาเพื่อให้พร้อมรองรับการเติบโตของธุรกิจ 

เส้นทางของ Oasys หรือ โอเอซิส เริ่มจากประสบการณ์ของคุณธวัชชัย แก้วใส อดีตโปรแกรมเมอร์มากประสบการณ์ผู้เป็นเจ้าของธุรกิจขายสินค้าออนไลน์และนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งธุรกิจนี้เต็มไปด้วยความท้าทายในการจัดการสินค้าคงคลังหลายร้อยรายการในแต่ละวัน

คุณธวัชชัยพบว่ามีความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งจากการประมวลผลการจัดการสินค้าคงคลัง ซึ่งยังขาดเครื่องมือช่วยเหลือที่เชื่อถือได้ จึงได้จุดประกายให้เกิดระบบอย่าง Oasys WMS จากทักษะของคุณธวัชชัยในการเขียนโปรแกรม ผนวกกับความต้องการจะพัฒนาระบบ ซึ่งไม่เพียงแต่ปรับปรุงการจัดการได้มีประสิทธิภาพ ลดเวลา ลดต้นทุน รวดเร็ว แม่นยำ เท่านั้น แต่ต้องเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการคลังสินค้าขึ้นไปอีกระดับด้วย

ระบบการจัดการคลังสินค้า (WMS) ของ Oasys ถูกออกแบบเพื่อยกระดับความสามารถในโลกอีคอมเมิร์ซด้วยฟีเจอร์พิเศษหลักๆ อาทิเช่น

  • การจัดการสินค้าปริมาณมากได้รวดเร็วและแม่นยำ – เพิ่มความรวดเร็วในการค้นหาสินค้าตามคำสั่งซื้อ หยิบสินค้าได้ถูกต้องแม่นยำขึ้น ช่วยลดปัญหาสินค้าไม่ครบถ้วนและปัญหาด้านการสูญหาย
  • เช็คสต็อกสินค้าได้เรียลไทม์ – ฟีเจอร์ระบุตำแหน่งสินค้า สต็อกขาดเหลือเท่าไหร่ อัปเดตข้อมูลสต็อกได้แบบเรียลไทม์
  • รองรับระบบการหยิบสินค้าแบบ “เข้าก่อน-ออกก่อน” (FIFO) และ สินค้าใดหมดอายุก่อนออกก่อน (FEFO)
  • การบันทึกวิดีโอขณะ Pick & Pack – ฟีเจอร์ที่ถือเป็นแนวหน้าในตลาด ณ เวลานี้ ด้วยระบบเช็ควีดีโอย้อนหลังหากพบว่าออเดอร์มีการหยิบสินค้าผิด โดยมีการบันทึกข้อมูลไว้บน Cloud แบบออเดอร์ต่อออเดอร์ ง่ายต่อการค้นหาและแก้ไขจุดพลาดของเจ้าหน้าที่ได้อย่างแม่นยำ
  • รองรับผู้ที่สนใจธุรกิจ Fulfillment – เปิดโอกาสให้สำหรับผู้ประกอบการที่อยากลองทำธุรกิจคลังสินค้า โดยทาง Oasys พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำแนวทางธุรกิจให้และสอนใช้งานระบบตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมหาลูกค้าให้แบบครบวงจร

ราคาเข้าถึงง่าย ปรับแผนได้ และพร้อมสำหรับการเติบโตของธุรกิจ

ระบบการจัดการคลังสินค้า (WMS)  ของ Oasys ได้รับการออกแบบสำหรับธุรกิจทุกระดับ เป็นโซลูชันที่ราคาไม่แพงและสามารถปรับแผนได้ตามความเหมาะสม โดยแผนสมัครสมาชิกเริ่มต้นเพียง 3,150 บาทต่อเดือนเท่านั้น ตอบโจทย์ธุรกิจให้ได้รับประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งครอบคลุมการทำงานตั้งแต่ธุรกิจที่มียอดสั่งซื้อสินค้าหลักสิบจนถึงหลายหมื่นออเดอร์ต่อวัน

ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา Oasys WMS มีผู้ประกอบการ มากกว่า 30 ราย เช่นแม่แพรว จากเพจ PRAEW ที่หลายคนรู้จักกันดีในบทบาทของ Influencer สายแม่และเด็ก มีผู้ติดตามใน เฟซบุ๊กเพจ กว่า 673,000 คน ก็เป็น 1 ในเจ้าของธุรกิจที่เลือกใช้ระบบ WMS จาก  Oasys ในการช่วยจัดการออเดอร์เช่นกัน และในอนาคต Oasys ก็มีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ เช่น ประเทศสิงคโปร์อีกด้วย

สิทธิพิเศษในโอกาสครบรอบ 1 ปี ของ Oasys

ในโอกาสครบรอบ 1 ปี Oasys มีสิทธิพิเศษมอบให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์และเจ้าของธุรกิจคลังสินค้า  สมัครใช้บริการ WMS  รายปี เพิ่มเวลาใช้งานให้อีก 2 เดือน พร้อมรับฟรี อุปกรณ์ 6 ชิ้น: เครื่องชั่งน้ำหนัก, เครื่องปรินต์ใบปะหน้า, เครื่องปรินต์บาร์โค้ด, ปืนยิงบาร์โค้ด, เครื่องปรินต์ใบแพ็กของ, ชั้นวาง มูลค่ากว่า 40,000 บาท สิทธิพิเศษนี้จำกัดถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 เท่านั้น

“Oasys มุ่งมั่นที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประกอบการได้ปรับตัวและเตรียมพร้อมสำหรับตลาดอีคอมเมิร์ซในอนาคต ด้วยระบบที่แข็งแกร่งและพัฒนามาเพื่อแก้ปัญหาและตอบโจทย์ผู้ประกอบการอย่างแท้จริงเพื่อสร้างมูลค่าทางธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน” คุณธวัชชัย กล่าวเสริม

ผู้ประกอบการท่านใดสนใจในระบบ WMS ของ Oasys ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมและรับสิทธิพิเศษได้ทางไลน์ @Oasys โทร 097-267-9487 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ https://oasys.co.th/

Cheeky Chunk กับการทิ้งปริญญา MBA สู่เส้นทางมหาเศรษฐีค้าร่มออนไลน์

ร่ม อย่างที่เราได้รู้จักกันดีว่ามันถูกใช้เพื่อปกป้องเราจากฝน หรือ แสงแดด หลายคนมองร่มเป็นสินค้าที่มีคู่แข่งมากมาย และเป็นธุรกิจที่ไม่น่าสนใจ แต่ชายที่มีนามว่า Pratik Doshi มองเห็นโอกาสที่ต่างออกไป

Pratik เติบโตขึ้นในเมือง Wadala ทางมุมไบตอนใต้ ประเทศอินเดีย พ่อของ Pratik เป็นนักธุรกิจธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยแต่อย่างใด แต่เขาไม่ต้องการที่จะอยู่ภายใต้เงาพ่อเขาเขา ต้องการสร้างความสำเร็จด้วยตัวของเขาเอง

Pratik ได้เริ่มต้นธุรกิจ Cheeky Chunk ในปี 2014 ในตอนแรกนั้นเขาได้วางจำหน่ายร่มสุดแหวกแนวของเขาไม่กี่แห่งในตลาดเล็ก ๆ ของประเทศอินเดีย แต่เนื่องจากได้รับการตอบรับที่ดี เขาจึงได้เริ่มมาเอาจริงเอาจัง และเริ่มต้นสร้างบริษัทขายร่มที่มีดีไซน์และเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร

แล้วคำถามว่าทำไมต้องเป็นร่ม? คำตอบของ Pratik คือ “ทุกคนใช้ร่ม และผมก็คิดว่าทำไมไม่ออกแบบมันในลักษณะที่ผู้คนจะรู้สึกผูกพันกับมัน แล้วจึงต้องพกมันไปเพราะความรักสิ่ง ๆ นี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อประโยชน์ใช้สอยเท่านั้น และนั่นคือวิธีที่ Cheeky Chunk ถูกสร้างขึ้น”

Pratik ที่เรียนจบ MBA จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศอินเดีย ต้องทนให้เพื่อนหัวเราะเยาะเขาอยู่ตลอดเวลาในช่วงแรก ๆ ของการตั้งบริษัทค้าร่มของเขา ซึ่งในขณะที่เพื่อน ๆ MBA ได้รับเงินเดือนมหาศาล และนั่งโต๊ะทำงานสบาย ๆ ในห้องแอร์ แต่ชีวิตของ Pratik นั้นแตกต่างออกไป

Pratik คิดอย่างเดียวว่า ต้องสร้างตัวให้ทัดเทียมเพื่อน ๆ ให้ได้เร็วที่สุด เขาก็พยายามขยายตลาดร่มของเขาไปทั่วเมือง โดยการเริ่มต้นจาก 0 เพราะเขาเองก็แทบจะไม่มีเงินทุนในการขยายกิจการมากนัก

Pratik เริ่มต้นจากการทำงานร่วมกับนักเรียนศิลปะที่ดูมีแวว เขาได้นำร่ม 500 คันที่ทำการผลิตและจำหน่ายผ่านทางเพื่อน ๆ และครอบครัวของเขา โดยใช้เงินทุนตั้งต้นราว ๆ 135,000 รูปี หรือราว ๆ ห้าหมื่นบาทไทย เพื่อนำมาเป็นทุนในการออกแบบผลิตภัณฑ์และพัฒนาเว็บไซต์ โดยเป็นเงินที่เขาได้รับจากการสอนพิเศษในสมัยเรียนมหาวิทยาลัย

ร่มที่ดีไซต์เป็นเอกลักษณ์ของ Cheeky Chunk
ร่มที่ดีไซต์เป็นเอกลักษณ์ของ Cheeky Chunk (CR:yourstory)

แต่ครึ่งปีแรกผ่านไปอย่างทุลักทะเล เพราะแทบจะไม่มีลูกค้านอกจากจากเพื่อนและครอบครัวของเขา ซึ่งแทบจะไม่สร้างกำไรจากธุรกิจขายร่มของเขาได้เลย ตอนนั้นเขาคิดว่าตัวเองต้องไปหางานที่เหมาะสมจริง ๆ ที่ดีกว่าการมาขายร่ม และทำตัวให้เหมือนกับเพื่อน ๆ ที่นั่งตากแอร์ทำงานสบาย ๆ

มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมาก ๆ และเต็มไปด้วยความเครียดและความผิดหวัง ที่เมื่อเขามองเพื่อน ๆ ที่ได้ดิบได้ดีกันถ้วนหน้า เขาจึงต้องเลือกทางเดินของชีวิต โดยตัดสินใจที่จะลองพยายามอีกครั้ง เป็นครั้งสุดท้ายหากไม่ work ก็จะกลับไปทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนเพื่อน ๆ คนอื่น

เขาจึงต้องทำร่มที่สมบูรณ์แบบที่ดีที่สุดในตลาด โดยปรับกระบวนการผลิต Pratik ได้ทำการจัดหาเฟรมร่มคุณภาพสูงจากซัพพลายเออร์ในประเทศ และจ้างผู้รับเหมามืออาชีพในเรื่องการพิมพ์และเย็บร่ม

เขาต้องทำหลาย ๆ อย่างด้วยตัวคนเดียวไม่ว่าจะเป็นการซ่อมเครื่องพิมพ์ลายเพื่อให้มันกลับมาทำงานได้อีกครั้ง หรือ การแบกผ้า 10 กก. ไว้บนบ่าเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร เพื่อให้แน่ใจว่าร่มของเขาจะได้รับการผลิตที่ตรงตามเวลา

หลังจากมาโฟกัสเรื่องคุณภาพ คำสั่งซื้อก็เพิ่มเข้ามามากขึ้น ซึ่งสูงถึง 400 คันต่อวัน จึงเป็นเรื่องยากที่เขาจะสามารถแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียวอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการแพ็คสินค้า ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ การออกใบแจ้งหนี้ หรือ ดูแลงานอื่น ๆ

เมื่อยอดขายเพิ่มขึ้น Pratik ก็ต้องการทีมงานเพื่อขยายกิจการ
เมื่อยอดขายเพิ่มขึ้น Pratik ก็ต้องการทีมงานเพื่อขยายกิจการ (CR:yourstory.com)

ในปี 2015 เขาจึงได้เพิ่มทีมงานระดับท็อป 6 คน ซึ่งประกอบไปด้วยนักศึกษาฝึกงาน MBA 2 คน นักบัญชี และ เจ้าหน้าที่บรรจุร่มอีกตำแหน่งละ 2 คน เพื่อมาขยายกิจการร่มของเขา

เมื่อฝนตกหนัก

แน่นอนว่าจุดเปลี่ยนสำคัญของกิจการร่มของเขาก็คือ เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนที่ฝนในอินเดียตกหนักมาก ๆ และร่มของ Pratik ก็เริ่มขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

และการที่ Pratik ได้นำร่มเข้าสู่ตลาด Ecommerce เขาใช้เทคนิควิธีในการอัปโหลดรายชื่อผลิตภัณฑ์ทั้งหมด และใส่คำค้นหามากกว่า 100 คำ เพื่อให้ผู้คนสามารถค้นพบผลิตภัณฑ์ของเขาได้

ซึ่งเป็นการทำตลาดแบบ SEO (Search Engine Optimization) เมื่อเขาวางขายร่มคันแรกในเว๊บไซต์อย่าง amzon ตอนแรกคำค้นหาของเขาอยู่หน้า 20 แต่เพียงไม่ถึง 3 สัปดาห์มันก็ได้พุ่งขึ้นไปอยู่หน้าแรก และกลายเป็นร่มที่ขายดีที่สุดใน amazon.in ทันที

ปัจจุบัน Cheek Chunk ขายผ่านเว๊บไซต์ของพวกเขาเอง รวมถึงในแพล็ตฟอร์ม Ecommerce ต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป้น Flipkart , Amazon , Snapdeal และร้านค้าปลีกอีก 2-3 แห่งในเมืองมุมไบ

ยอดขายส่วนใหญ่มาจาก Ecommerce แทบจะทั้งสิ้น ทำให้บริษัทร่มของเขากลายเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดใน แพล็ตฟอร์ม Ecommerce ของอินเดีย

Pratik ยังตัดสินใจที่เพิ่มสีสันให้กับร่มของเขาด้วย เขาตัดสินใจผลิตร่มที่มีสีต่าง ๆ กัน ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเขากลายเป็นที่นิยมเพื่อจุดประสงค์อื่นนอกเหนือจากการเป็นเพียงแค่ร่มกันฝนเพียงเท่านั้น

เป้าหมายของ Cheeky Chunk ไม่ใช่เรื่องความเชี่ยวชาญในการผลิตร่ม เพราะคงมีคนทำได้จำนวนมากในอินเดีย แต่ Pratik เลือกที่จะผลิตร่มที่มีธีมและการออกแบบที่สร้างสรรค์เพื่อเชื่อมโยงความทรงจำของสายฝนกับอารมณ์ความรู้สึกของผู้ใช้ร่ม

แนวคิดที่น่าสนใจจาก Pratik กับธุรกิจขายร่มอย่าง Cheek Chunk เขาได้กล่าวว่า การถ่ายภาพที่สวยงามนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญต่อธุรกิจของเขา เขาเชื่อว่า 50 % ของการตลาดของผลิตภัณฑ์ของเขา มันได้ถูกสร้างการบอกต่อโดยตัวผลิตภัณฑ์และลูกค้าของเขาเอง

เขาแนะนำสิ่งที่สำคัญว่า อย่าจ่ายเงินให้ใครเด็ดขาด เพื่อมาอวยผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ปล่อยให้การรีวิวแบบธรรมชาติจากลูกค้าเป็นการบอกต่อสร้างคุณค่าของผลิตภัณฑ์ของตัวคุณเองจะดีกว่า

มีคำพูดที่น่าสนใจจาก Pratik ที่กล่าวว่า “คุณจะไม่มีทางเห็นพวกเราขาย แก้วกาแฟธรรมดา ๆ หรือ เสื้อยืดธรรมดา ๆ ที่มีหลายคนทำมัน และเราไม่อยากเสียเวลาในการทำแบบเดียวกันกับคนอื่น คุณจะเห็นเราแก้ปัญหาที่แท้จริงด้วยความคิดสร้างสรรค์ของเราเท่านั้น”

“คุณอาจจะเห็นคนสิบคนที่ถือร่มสีดำที่ดูซ้ำซากจำเจน่าเบื่อ แต่คุณต้องยิ้มเมื่อเห็นคนที่สิบเอ็ดถือร่ม Cheeky Chunk สีเหลืองที่ออกแบบมาโดยความคิดสร้างสรรค์ของเรา นั่นคือสิ่งที่เราตั้งใจจะทำเพื่อผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเรา”

References : https://yourstory.com/2015/07/cheeky-chunk-pratik-doshi
https://medium.com/the-innovation/the-man-whose-startup-made-millions-just-by-selling-umbrellas-2ab1d802a7
https://www.theweekendleader.com/Success/2693/happy-rainy-days.html
https://www.hfumbrella.com/umbrella-manufacturer-story

มาสด้าชวนลูกค้าส่งภาพความประทับใจกับรถมาสด้า แชร์ประสบการณ์ความสุข “You and Mazda Moments” 

นิยามความสุขของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนมีความสุขกับการให้ บางคนสุขกับการรับ บางทีความสุขอาจหาได้จากสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเรา แม้จะเป็นความสุขเล็กๆ ในบางโมเมนต์ ไม่ว่าจะสุขอย่างไร วันนี้ มาสด้าชวนลูกค้ามาช่วยกันแชร์ภาพความสุขและความประทับใจกับรถมาสด้าคันโปรด ให้คนที่รักในการเดินทางได้อิจฉาในความสุขของการเดินทางไปกับรถมาสด้า กับกิจกรรม “You and Mazda Moments”

ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวและประสบการณ์อันน่าจดจำโดยมีรถยนต์มาสด้าเป็นพาหนะคู่ใจในทุกการเดินทาง เรื่องราวและภาพความประทับใจที่ลูกค้าส่งเข้าร่วมกิจกรรมจะถูกนำขึ้นแสดงบนแกลเลอรี่วอลล์ที่บูธมาสด้าในงานมอเตอร์โชว์ 2024

โดยผู้โชคดี 100 ท่าน ที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับบัตร Starbucks Card มูลค่า 500 บาท และมาสด้าจะนำภาพความประทับใจกับรถมาสด้ามาบอกเล่าผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ จากทางมาสด้า พร้อมยังได้รับสิทธิ์เข้าชมยนตรกรรมมาสด้าก่อนใคร ในงานมอเตอร์โชว์ 2024 รอบวีไอพี ในวันที่ 25 มีนาคม 2567 ระหว่างเวลา 16:00 – 18:00 น.

รวมถึงสิทธิพิเศษต่างๆ อีกมากมาย ลูกค้ามาสด้าและครอบครัวมาสด้าที่สนใจสามารถส่งภาพเข้าร่วมกิจกรรมผ่านการสแกน QR Code ได้ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 – วันที่ 21 มีนาคม 2567 

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บูธมาสด้าในงาน มอเตอร์ โชว์ 2024 ครั้งนี้ จะมาพร้อมคอนเซ็ปต์การออกแบบใหม่ทั้งหมด ภายใต้แนวคิด “Memorable love of cars”

เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ความสุขของลูกค้าที่มีรถยนต์มาสด้าเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตและการเดินทาง อันเป็นไปตามแนวทางของมาสด้าในการสร้างประสบการณ์ร่วมกับลูกค้า หรือ Customer Experience Management

ซึ่งในปีนี้ มาสด้าได้เตรียมความพร้อมเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาชมงานฯ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีแห่งอนาคต รวมถึงกิจกรรมอีกมายมายเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์แห่งความสุขให้กับลูกค้า

เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างลูกค้าและแบรนด์มาสด้า ตอกย้ำถึงความสำคัญของการมีลูกค้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทุกประสบการณ์การใช้ชีวิต

มาสด้าขอเชิญลูกค้ามาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความประทับใจเหล่านี้ไปด้วยกัน ผ่านกิจกรรม “You and Mazda Moments” ด้วยการแชร์ภาพความประทับใจของคุณคู่กับรถมาสด้าคันโปรดผ่านช่องทางที่กำหนด

ซึ่งมาสด้าจะรวบรวมภาพความสุขของลูกค้ามาสด้าเหล่านี้มาจัดเป็น Photo Gallery โซนสุดพิเศษและจัดแสดงในงานมอเตอร์โชว์ 2024 พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างๆ ของมาสด้า โดยแบ่งเป็นโซนพิเศษให้ประชาชนที่มาเข้าชมงานฯ ได้เห็นถึงความสุขในการขับขี่ที่เกิดขึ้นกับลูกค้ามาสด้าและครอบครัว” 

“เพราะความสุขของลูกค้า คือ ความสุขของมาสด้า เราต้องการส่งต่อเรื่องราวความสุขของลูกค้าผ่าน Photo Gallery ที่รวบรวมเรื่องราวและประสบการณ์ที่ทำให้ลูกค้ามีความสุข (Joy of Driving) รูปภาพจากการใช้งานในชีวิตจริงของลูกค้า เราปรารถนาที่จะให้ผู้เข้าชมงานมอเตอร์โชว์ มีความสุขเฉกเช่นเดียวกับครอบครัวมาสด้า

เพื่อร่วมเติมเต็มประสบการณ์ดีๆ ที่มีรถยนต์มาสด้าเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิต เพื่อยกระดับประสบการณ์ความสุขในการขับขี่ และการใช้ชีวิตในทุกด้านให้กับลูกค้าทุกคน” นายธีร์ กล่าวเพิ่มเติม

ลูกค้ามาสด้าสามารถแชร์ภาพความประทับใจที่มีร่วมกับรถยนต์มาสด้าคันโปรด ได้เพียงสแกน QR Code ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 – วันที่ 21 มีนาคม 2567 โดยจะประกาศรายชื่อผู้ที่โชคดี 100 ท่าน ที่ได้รับการคัดเลือก ผ่านทาง Facebook Mazda Thailand Official Account ในวันที่ 22 มีนาคม 2567 และจะเริ่มจัดส่งของรางวัล ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2567 เป็นต้นไป

สแกน QR Code เพื่อแชร์ภาพเข้าร่วมกิจกรรม You and Mazda Moments

หมายเหตุ:

*รางวัลบัตร Starbuck มูลค่า 500 บาท (1 ท่าน 1 รางวัล) สำหรับภาพความประทับใจของคุณคู่กับรถมาสด้าที่ได้รับการคัดเลือก เท่านั้น โดยจะประกาศรายชื่อผู้โชคดีที่ร่วมทำกิจกรรมและทำถูกต้องตามกติกา 100 ท่าน ผ่านทาง Facebook Mazda Thailand Official Account ในวันที่ 22 มีนาคม 2567 และจะเริ่มจัดส่งของรางวัล ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2567 เป็นต้นไป

*เงื่อนไขและกติกาต่างๆ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mazda.co.th