พูดถึง Tencent คิดว่าหลายคนคงไม่รู้จักเท่าที่ควร แต่ถ้าพูดถึง chat application ชื่อดังอย่าง Wechat นั้น ก็น่าจะรู้จักกัน เนื่องจากทาง Wechat นั้นก็ได้มาทำตลาดในไทยมาช่วงหนึงแล้ว ถึงแม้จะยังไม่สามารถโค่นผู้นำอย่าง LINE ไปได้ แต่ถือว่าในประเทศจีนนั้น WeChat ไม่เป็นสองรองใคร
Martin Lau นั้นขณะนี้รับตำแหน่ง President ของ Tencent Group บริษัทเทคโนโลยีระดับแถวหน้าของประเทศจีน จากวีดีโอข้างต้นนั้น ทาง Martin Lau นั้นได้ไปพูดในงานเสวนาที่ Stanford University ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งสิ่งที่เป็นข้อดีสำหรับนักศึกษาในมหาลัยชั้นนำของอเมริกา คือ จะได้รับแรงบรรดาลใจจากผู้ที่ประสบความสำเร็จมากมายทั่วโลก มาบรรยายให้ฟังกันบ่อย ๆ
สำหรับ Tencent นั้นมีผลิตภัณฑ์ที่ดูแลอยู่มากมาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็น Platform ในระบบ internet แทบทั้งสิ้น โดย product เปิดตัวที่ทำให้ Tencent เริ่มแจ้งเกิดคือ QQ โปรแกรมแชทชื่อดังในอดีต ซึ่งในยุคแรก ๆ ของการ chat นั้น QQ ก็ถือว่าเป็น chat application ยอดนิยมของจีน ที่ครองตลาดมาจนถึงปัจจุบัน
Marting Lau นั้นได้กล่าวเปรียบเทียบ Business Model ของทางฝั่ง US และ China ที่มีความแตกต่างกัน โดยตลาดที่ใหญ่ที่สุดจะเป็น Ecommerce ซึ่งน่าจะเหมือนกับใน US แต่ส่วนที่ต่างที่ทำให้ Tencent กลายเป็นบริษัทแนวหน้าในจีนนั้นคือ ส่วนของ Online Game ซึ่งมีมูลค่าตลาดสูงกว่าตลาดของ Display Ads และ Search Ads รวมกัน ซึ่งถือว่าเป็นจุดแตกต่างที่สำคัญของตลาด US และ China ซึ่งทาง Tencent นั้นสร้าง Platform ขึ้นมาอยู่ใน QQ.com ซึ่งจะประกอบไปด้วย service ต่าง ๆ มากมายทั้ง Game online , Instant Messenging , Ecomerce ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับตลาดใน จีน ซึ่งมีขนาดตลาดที่ใหญ่ อเมริกา อยู่มากทำให้สามารถทำรายได้อย่างมหาศาลจาก User
ซึ่ง User ที่เป็น Monthly Active User ของ Tencent นั้นตัวหลักคือ QQ ที่มีสูงถึง 818 ล้าน user ส่วน Wechat ที่เป็น product ใหม่ก็มีสูงถึง 236 ล้าน User ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงข้อได้เปรียบของบริษัทเทคโนโลยี ในตลาดที่มีขนาดใหญ่ จะมีความได้เปรียบกว่า การเริ่มสร้างในตลาดที่มีขนาดเล็ก เพราะต้นทุนทางด้าน Technology นั้นจะสูงแค่ในช่วงแรก ๆ สำหรับการจ้างคน หรือ สร้าง server เท่านั้น และสามารถหากินกับ จำนวน User ที่เพิ่มขึ้นได้เรื่อย ๆ โดยลงทุนการลงทุนเพิ่มนั้นไม่ได้มากมายเหมือนช่วงแรกที่เริ่มการสร้าง Product
นี่คือข้อได้เปรียบที่สำคัญของเหล่าบริษัทเทคโนโลยีจีน ที่สามารถสร้างรายได้มากมายมหาศาล ซึ่งสามารถสู้กับบริษัทเทคโนโลยีของ อเมริกา ได้อย่างสบาย เนื่องจากขนาดของตลาดที่ใหญ่กว่าในตอนเริ่มต้น และ สิ่งสำคัญคือนโยบายการ Block Service แทบจะทุกอย่างจากอเมริกาเช่น facebook , twitter , youtube … ซึ่งทำให้บริษัทภายในจีนนั้นสามารถแจ้งเกิดขึ้นมาได้ และเนื่องจากความสามารถของคนจีนในด้านเทคโนโลยีนั้น ก็ถือว่าแทบไม่ต่างจากทางฝั่งอเมริกาเลย และ โดยเฉลี่ยสูงกว่าด้วยซ้ำ ซึ่งเราจะเห็นคนฝั่งเอเชียชื่อดังใน silicon valley เป็นจำนวนมากในปัจจุบัน
ก็น่าสนใจเหมือนกันว่าในอนาคตนั้นบริษัทเทคโนโลยีจีนเหล่านี้อาจจะกลับมาบุกประเทศอเมริกาก็เป็นได้หลังจากสร้างความแข็งแกร่งจากตลาดภายในประเทศเรียบร้อย คิดว่าคงอีกไม่กี่จากนี้ เราอาจจะได้เห็นบริษัทเทคโนโลยีจีน เข้าซื้อกิจการบริษัทยักษ์ใหญ่ของอเมริกาก็เป็นได้