โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน PIF กับการผลัดใบซาอุดิอาระเบียเข้าสู่ยุคใหม่ที่ไร้ซึ่งการเสพติดน้ำมัน

ในปี 2016 โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบียสวมเสื้อคลุมและรองเท้าแตะ ประกาศวิสัยทัศน์ปี 2030 โดยมีเป้าหมายเพื่อยุติการเสพติดน้ำมันของราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย

แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือการผลักดัน Saudi Aramco บริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์และนำเงินที่ได้มาก่อตั้งกองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งชาติ (Svereign-Wealth Fund – SWF) เพื่อลงทุนในอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่น้ำมัน

วันนี้กองทุน SWF ของซาอุดิอาระเบียหรือที่เรียกว่า Public Investment fund (PIF) กำลังทำสิ่งที่เจ้าชายโมฮัมเหม็ดใฝ่ฝัน เพราะมูลค่าทรัพย์สินของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 7 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีพนักงานกว่า 1,400 คน

กองทุน PIF นั้นเข้าไปเชื่อมโยงในทุกสิ่งทั้งบริษัทเทคโนโลยีชื่อดัง การเข้าไปปฏิวัติวงการกอล์ฟ การซื้อสโมสรฟุตบอลชื่อดังอย่างนิวคาสเซิลในพรีเมียร์ลีกของประเทศอังกฤษ เดิมพันกับบริษัทเกมชื่อดัง การสร้างสายการบินใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น หรือการ transform สู่รถยนต์ไฟฟ้าของ Aston Martin

แนวทางการลงทุนของ PIF นั้นเรียกได้ว่าแหกกฎของกองทุนส่วนใหญ่ในโลก เพราะพวกเขาลงทุนทุกอย่าง ทุกที่ ทุกเวลา แต่ก็คอยพิจารณาดูอย่างระมัดระวังเช่นเดียวกัน

เป้าหมายของ PIF นั้นก็มีลักษณะคล้ายกับกองทุน SWF ของหลาย ๆ ประเทศคือเปลี่ยนความมั่งคั่งด้านน้ำมันของประเทศไปสู่สินทรัพย์ระดับโลกเพื่อการเติบโตในระยะยาว แต่ก็ยังจำเป็นต้องหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายภายในราชอาณาจักรเช่นเดียวกัน

แผนการลงทุนนั้นมีความทะเยอทะยานสูงเป็นอย่างมาก โดยมีเป้าหมายที่จะมีสินทรัพย์ในพอร์ตภายใต้การบริหารงานให้ได้มากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯภายในปี 2025 และ อย่างน้อยต้องเพิ่มเป็นสองเท่าภายในปี 2030

แผนที่ทะเยอะทะยานดังกล่าวนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับน้ำมันเพียงเท่านั้น เพราะมูลค่าทรัพย์สินของ PIF สามารถที่จะเพิ่มสูงขึ้นได้หากสามารถดึงดูดผู้ร่วมลงทุนให้เข้ามาลงทุนโครงการภายในราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย

มันผ่านการคิดและวิเคราะห์มาอย่างยอดเยี่ยม เพราะเป็นจุดที่กลยุทธ์ภายในประเทศนั้นถูกประสานเข้ากับกลยุทธ์การลงทุนในต่างประเทศ PIF ได้ถือหุ้น 75% ใน 4 ทีมกีฬาชั้นนำของประเทศซาอุดิอาระเบีย รวมถึงโครงการเมกะโปรเจ็กต์ที่เกิดขึ้นมากมายภายในประเทศ

ซึ่งเมื่อเวลาผ่านพ้นไป การลงทุนดังกล่าวยังสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการขนาดใหญ่ด้านอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว เช่น โครงการ Neom ซึ่ง PIF มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนเป็นเมืองยูโทเปียในทะเลทราย ซึ่งจะดึงดูดเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวได้อีกมหาศาล หรือโครงการ The Line เมืองแนวตั้งแห่งเดียวในทะเลทราย โดยมีความยาว 170 กิโลเมตร และรองรับประชากรได้กว่า 9 ล้านคน ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้

Neo และ The Line สุดยอดโครงการเมกะโปรเจกต์ของซาอุดิอาระเบีย (CR: ipgegypt)
Neo และ The Line สุดยอดโครงการเมกะโปรเจกต์ของซาอุดิอาระเบีย (CR: ipgegypt)

เจ้าชาย บิน ซัลมาน ต้องการปักหมุด ซาอุดิอาระเบียเป็น Landmark แห่งใหม่บนแผนที่โลก เหมือนกับที่ ดูไบ เคยทำได้สำเร็จมาแล้ว

กลยุทธ์ด้านกีฬา

กลยุทธ์ที่น่าสนใจที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องของกีฬา ไม่ว่าจะเป็นการดึงนักกอล์ฟชื่อดังเข้ามา การซื้อทีมนิวคาสเซิลยูไนเต็ดซึ่งเป็นสโมสรในพรีเมียร์ลีกของประเทศอังกฤษ

มันเป็นการลงทุนเพื่อเปลี่ยนอาณาจักรให้กลายเป็นขุมพลังแห่งวงการฟุตบอล การดึงซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง Cristiano Ronaldo ซึ่งจ่ายเงินเดือนสูงถึง 200 ล้านดอลลาร์เพื่อเล่นให้กับทีมในลีกซาอุดิอาระเบีย แถมในปีนี้ยังมีนักเตะดัง ๆ ย้ายตาม Ronaldo เข้ามาสร้างสีสันให้กับลีกซาอุดิอาระเบียกันเป็นว่าเล่น

การดึงซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง Cristiano Ronaldo มาสร้างกระแสในประเทศ (CR:SuperSport)
การดึงซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง Cristiano Ronaldo มาสร้างกระแสในประเทศ (CR:SuperSport)

PIF ยังมีการลงทุนเชิงกลยุทธ์อื่น ๆ ที่หวังผลต่อเนื่องให้เกิดการพัฒนาในประเทศ เช่น การเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นต่างชาติรายใหญ่ที่สุดใน Nintendo ซึ่งเป็นบริษัทเกมของญี่ปุ่น รวมถึงใน Activision Blizzard และ Electronic Arts และหวังจะทำให้ Neom เป็นศูนย์กลางการพัฒนาเกมในอนาคต

รวมถึงในเรื่องพลังงานสะอาด หนึ่งในการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดคือ Lucid ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา Lucid ได้รับสัญญาในการจัดหามอเตอร์ไฟฟ้าและระบบแบตเตอรี่ให้กับ Aston Martin ผู้ผลิตรถยนต์หรูสัญชาติอังกฤษ ซึ่ง PIF เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ Lucid กำลังสร้างโรงงานในต่างประเทศแห่งแรกในซาอุดิอาระเบีย

แต่ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะสวยหรูไปซะหมด เพราะการเดิมพันบางอย่างก็มีประสิทธิภาพต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างมาก เช่น Vision Fund ที่ร่วมทุนกับ Softbank ก็สร้างความมัวหมองด้วยผลการขาดทุนของ Uber , WeWork และในอีกหลายๆ บริษัทที่ดูเหมือนจะล้มเหลว

รวมถึงธนาคารแห่งชาติซาอุดิอาระเบียก็ได้รับความเสียหายกับการลงทุนใน Credit Suisse หรือ เมกะโปรเจกต์เช่น Neom นั้นดูจะยิ่งใหญ่มาก มันเป็นการเดิมพันที่มีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกัน หากล้มเหลวมันจะกลายเป็นเรื่องขายหน้าระดับชาติครั้งใหญ่

บทสรุป

ต้องบอกว่าในตอนนี้ ไม่มีกองทุนรัฐใดที่มีความทะเยอทะยานสูงเท่า PIF ของซาอุดิอาระเบียอีกแล้ว แน่นอนว่าแง่หนึ่งมันเหมือนเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของ โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ที่ก่อนหน้านี้เคยมีภาพลักษณ์ที่มัวหมองโดยเฉพาะประเด็นเรื่องการฆาตกรรมในปี 2018 ของ Jamal Khashoggi คอลัมนิสต์ชาวซาอุดีอาระเบียของ Washington Post ที่กลายเป็นประเด็นฉาวโฉ่ไปทั่วโลก

แม้จะมีเงินมากมายมหาศาลแต่ PIF ก็อยู่ภายใต้แรงกดดันเป็นอย่างมาก เพราะมันแทบจะเป็นการเดิมพันอนาคตของราชอาณาจักรที่เสพติดกับน้ำมันมาอย่างยาวนาน และต้องการพลิกโฉมหน้าประเทศในแบบที่ไม่มีประเทศไหนในโลกเคยทำได้สำเร็จมาก่อนนั่นเองครับผม


เรื่องราวการก้าวขึ้นมาเถลิงอำนาจของ โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน นั้นเป็นเรื่องราวดราม่าที่โครตมันส์ อย่าลืมอ่านต่อได้ที่

Blog Series : Blood Oil – The Rise to Power of Mohammed Bin Salman

–> อ่านตอนที่ 1 : Prologue


References :
https://www.economist.com/business/2023/06/29/meet-the-worlds-most-flirtatious-sovereign-wealth-fund
https://www.thetimes.co.uk/article/saudi-crown-princes-500bn-city-of-the-future-in-crisis-kmg9mqznp
https://www.japantimes.co.jp/sports/2023/06/06/soccer/saudi-wealth-fund-to-take-control-of-cristiano-ronaldos-club/

Geek Daily EP182 : Meta VS Twitter ไฟต์หยุดโลก อัจฉริยะหรือคนบ้ากับการเปิดตาให้มองเห็นด้วย Blue Check

กลายเป็นไฟต์หยุดโลกไปซะแล้วนะครับ สำหรับการท้าดวลของสองเจ้าพ่อเทคโนโลยี ที่มีความอัจฉริยะและความบ้าบิ่นพอ ๆ กันทั้งคู่ระหว่าง Elon Musk และ Mark Zuckerberg ดูเหมือนไฟต์นี้จะเกิดขึ้นจริง ๆ เสียด้วย ถือเป็นคู่มวยหยุดโลกที่น่าสนใจคู่หนึ่งเลยทีเดียว

ซึ่งเรียได้ว่าทั้งคู่มีมุมมองหลายๆ อย่างที่ไม่ค่อยถูกกันมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เช่น ประเด็นในเรื่องเทคโนโลยี AI หรือแม้กระทั่งการที่ Zuckerberg เองพยายามสร้างบริการเพื่อมาแข่งขันกับ Twitter โดยตรง และทั้งคู่ก็มีแนวคิดในเรื่อง Verified Account ที่แทบจะเหมือน ๆ กันตามข่าวที่ออกมาล่าสุดที่ Meta จะเปิดให้บริการเสียเงินแบบรายเดือนสำหรับ Verified Account เพื่อเปิดการมองเห็นซึ่งคล้ายกับที่ Musk ทำกับ Twitter Blue มาก่อนหน้านี้แล้วนั่นเอง

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://tinyurl.com/3rhnacae

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/y529nmmw

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
http://bit.ly/2kxHtQ3

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/mru5ymbe

🎧 ฟังผ่าน Youtube : 
https://youtu.be/HdsWolpsQ4I

มาสด้าปลื้มกระแสตอบรับ NEW MAZDA2 ร้อนแรงเกินต้าน 5 วัน กวาดยอดจองทั่วประเทศทะลุ 1,500 คัน

มาสด้าเผยกระแสตอบรับรถยนต์ซับคอมแพ็ค New Mazda2 รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่ถึงสัปดาห์ ณ ใจกลางสยามสแควร์แหล่งรวมตัวของวัยรุ่นยอดนิยม พร้อมจัดงานอีเว้นต์ให้กับลูกค้าได้ชมและสัมผัสคันจริงทุกโชว์รูมทั่วประเทศในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีลูกค้าหลั่งไหลเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากและกวาดยอดจองไปแล้วกว่า 1,500 คัน ภายในระยะเวลาเพียง 5 วัน

โดยได้รับความนิยมสูงสุดทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแฮชท์แบค 5 ประตู ที่มาในดีไซน์แบบ New Wave ที่ให้ภาพลักษณ์สดใสมีชีวิตชีวา และดีไซน์แบบ Sport ที่ส่งผ่านความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวได้อย่างชัดเจน ซึ่งทุกรุ่นได้รับความนิยมสูงสุดจากลูกค้าทั่วประเทศ

ในขณะที่รถรุ่นพิเศษ Rookie Drive และ Clap Pop ก็เรียกความสนใจจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบความแตกต่างได้เช่นกัน ตอกย้ำถึงความสำเร็จในการพัฒนารถยนต์ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายเจนฯ Z ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องดีไซน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไลต์ของวัยรุ่นยุคใหม่ พร้อมเดินหน้าส่งมอบรถใหม่ให้ลูกค้าทันทีโดยไม่ต้องรอนาน

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงกระแสตอบรับของลูกค้าต่อรถยนต์ New Mazda2 ว่า “หลังจากที่มาสด้าได้เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ณ ใจกลางสยามสแควร์แลนด์มาร์คแห่งแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ รวมถึงจัดกิจกรรมเปิดตัวที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องจนถึงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีโดยมีลูกค้าและแฟนๆ มาสด้าแวะเวียนมาชมรถคันจริงกันอย่างหนาแน่นทุกโชว์รูมตลอดทั้งวัน

จนเกิดเป็นปรากฏการณ์มาสด้า2 ฟีเวอร์ ซึ่ง ณ ตอนนี้มียอดจองซื้อไปแล้วกว่า 1,500 คัน ภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ทั้งนี้ มาสด้าขอขอบคุณลูกค้าเป็นอย่างสูงที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีตลอดมา สำหรับลูกค้าที่จองไปแล้วนั้นทางมาสด้าก็พร้อมส่งมอบรถใหม่ให้กับลูกค้าทันที เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ความสนุกในการขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์มาสด้าได้อย่างเร็วที่สุด”

วันนี้ กระแสตอบรับอย่างร้อนแรงของ New Mazda2 ที่กำลังเกิดขึ้น ถือเป็นการกลับมาสร้างปรากฏการณ์ด้านการขายของรถยนต์รุ่นนี้อีกครั้ง หลังจากที่เคยสร้างปาฏิหาริย์เหนือความคาดหมายด้วยการก้าวขึ้นอันดับหนึ่งด้านยอดขายมาแล้วถึง 3 ปีติดต่อกัน ถือเป็นรถยนต์ที่มอบความสนุกอย่างไร้ขีดจำกัด มีความพิเศษของดีไซน์ที่หลากหลายที่มีให้เลือกถึง 83 ดีไซน์ ทั้งรูปลักษณ์ การเลือกใช้สีภายนอกและภายใน รวมถึงอุปกรณ์ที่นำมาตกแต่งในแต่ละรุ่น

เพื่อตอบโจทย์ตัวตนที่แตกต่างของลูกค้ายุคใหม่เจเนอเรชั่น Z ที่สะท้อนให้เห็นถึงตัวตนและคุณค่าของผู้ขับขี่ ควบคู่ไปกับการคงเอกลักษณ์การเป็นรถยนต์ที่ส่งมอบคุณค่าเกินกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง ด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟทั้งคันที่ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย i-Activsense และสนุกสนานเพลิดเพลินไปในโลกการสื่อสารกับ Mazda Connect ที่สามารถเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียได้อย่างไร้ขีดจำกัดตามแบบฉบับมาสด้า

สำหรับลูกค้าที่พลาดโอกาสไม่ได้ไปงานเปิดตัวที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศในวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ยังสามารถพบกับรถ New Mazda2 ได้ตลอดเดือนมิถุนายนและเดือนกรกฎาคม ตามกิจกรรมที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษที่จัดขึ้นให้เพียงแค่ช่วงเปิดตัวแนะนำเท่านั้น กับดอกเบี้ยต่ำสุด 1.59%* ดาวน์ 25%* ผ่อนนาน 48 เดือน* และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance* ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ก.ค. 66 โดยลูกค้าที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.mazda.co.th

ไฮเออร์จัดแคมเปญ “ช้อปสุดคุ้ม ของแถมสุดฟิน” เอาใจขาช้อป รับของแถมสุดพรีเมียม เมื่อซื้อสินค้าที่ร่วมรายการ 

ไฮเออร์ ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกและแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 14 ปีซ้อน จัดแคมเปญ “ช้อปสุดคุ้ม ของแถมสุดฟิน” เอาใจลูกค้าสายช้อป ด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ เพียงซื้อสินค้าตู้เย็นไฮเออร์เฉพาะรุ่นที่กำหนด จะได้สิทธิ์รับของแถมพรีเมียมเป็นเครื่องบดอาหารไฮเออร์ รุ่น FP7723A มูลค่า 1,990 บาท หรือ ซื้อเครื่องซักผ้าฝาหน้าไฮเออร์รุ่นที่กำหนด รับฟรีเครื่องปั่นอเนกประสงค์ไฮเออร์ รุ่น HBL-3320 มูลค่า 1,290 บาท

โดยมีรายละเอียดดังนี้

สงวนสิทธิ์สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าตู้เย็นไฮเออร์เฉพาะรุ่นที่กำหนดจะได้สิทธิ์รับของพรีเมียมเป็น   เครื่องบดอาหารไฮเออร์ รุ่น FP7723A มูลค่า 1,990 บาท และลูกค้าที่ซื้อสินค้าเครื่องซักผ้าไฮเออร์ หรือ เครื่องอบผ้าไฮเออร์เฉพาะรุ่นที่กำหนดจะได้สิทธิ์ รับฟรีเครื่องปั่นอเนกประสงค์ไฮเออร์ รุ่น HBL-3320 มูลค่า 1,290 บาท

ผลิตภัณฑ์ตู้เย็นที่ร่วมรายการ ได้แก่ รุ่น ตู้เย็นมัลติดอร์ รุ่น HRF-MD350 STL ขนาด 13.6 คิว,    ตู้เย็นมัลติดอร์ รุ่น HRF-MD350 GB ขนาด 13.6 คิว, ตู้เย็นมัลติดอร์ รุ่น HRF-MDM448 ขนาด 16.1 คิว, ตู้เย็นมัลติดอร์ รุ่น  HRF-MD456GB ขนาด 16.1 คิว, ตู้เย็นมัลติดอร์ รุ่น  HRF-MD758IOT ขนาด 22.6 คิว, ตู้เย็นมัลติดอร์ รุ่น  HRF-MD550GB ขนาด 19.5 คิว, ตู้เย็นไซด์บายไซด์ รุ่น  HRF-SBS490 ขนาด 16.1 คิว และ ตู้เย็นไซด์บายไซด์ รุ่น  RSB59CRFD1OFL ขนาด 18.5 คิว

ผลิตภัณฑ์สินค้าเครื่องซักผ้าที่ร่วมรายการ ได้แก่ เครื่องอบผ้า รุ่น HD100-AR959S ขนาด 10 กิโลกรัม, เครื่องซ้าผ้าฝาหน้า รุ่น HW100-BP149596S ความจุ 10 กิโลกรัม, เครื่องซ้าผ้าฝาหน้า รุ่น HW120- BP14959S6 ความจุ 12 กิโลกรัม, เครื่องซ้าผ้าฝาหน้า รุ่น HW150-BP14986ES9 ความจุ 15 กิโลกรัม,        เครื่องซักผ้าฝาหน้าซักอบ รุ่น HWD100-BP14959S8 ความจุซัก 10 กิโลกรัม ความจุอบ 6 กิโลกรัม,             เครื่องซักผ้าฝาหน้า รุ่น HW105-BP14959S6 ความจุ 10.5 กิโลกรัม

โดยลูกค้าต้องซื้อสินค้าในช่องทางของห้างสรรพสินค้าและร้านค้าตัวแทนจำหน่ายตามแต่ละจังหวัดเท่านั้น (ไม่รวมช่องทางการซื้อผ่านออนไลน์) และกรอกรายละเอียดเพื่อใช้ในการรับของพรีเมียมให้ครบถ้วนผ่านทาง QR code ที่กำหนดไว้ จากนั้นสินค้าพรีเมียมจะทำการจัดส่งภายใน 15 วันทำการหลังจากลูกค้าลงทะเบียนรับสิทธิ์ ผ่านทาง QR Code เรียบร้อยแล้วเท่านั้น 

กิจกรรมดังกล่าวมีระยะเวลาตั้งแต่ 22 เมษายน – 31 กรกฏาคม 2566 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ณ ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเออร์ทั่วประเทศ

*หมายเหตุ

ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกสิทธิ์ผู้โชคดีที่ไม่ปฏิบัติตามกฎกติกา และ ไม่สามารถติดต่อเพื่อรับของพรีเมียมได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด  บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือยกเลิกกิจกรรมส่งเสริมการขายโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ในกรณีที่มีข้อโต้แย้งใด ๆ เกิดขึ้นคำตัดสินของบริษัทถือเป็นที่สิ้นสุด

สามารถติดตามข่าวสารของไฮเออร์ ได้ที่ Facebook : Haier (TH) Instagram : @haierthailand_official และ Twitter : @ThailandHaier

Eddie Wu ขุนศึกคู่ใจ Jack Ma ผู้ที่จะนำพา Alibaba กลับไปสู่รากเหง้าของธุรกิจ Ecommerce อีกครั้ง

ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ กับการประกาศสับเปลี่ยนผู้นำครั้งใหญ่ของ Alibaba ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของประเทศจีน เมื่อ Daniel Zhang วางแผนที่จะก้าวลงจากตำแหน่ง และส่งไม้ต่อให้กับขุนศึกคู่ใจ Jack Ma ในยุคก่อตั้งบริษัทอย่าง Eddie Wu

โดย Eddie Wu นั้นจะเข้ารับตำแหน่ง CEO ในขณะที่ Joe Tsai จะเข้ารับตำแหน่งประธานของบริษัทในวันที่ 10 กันยายนที่จะถึงนี้

ความน่าสนใจที่สุดต้องโฟกัสไปที่ Eddie Wu ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Alibaba ยุคเริ่มต้น ซึ่งได้เข้าร่วมกับ Jack Ma ในฐานะขุนพลอรหันต์ตั้งแต่ก่อตั้ง China Pages โดยเขาเป็นหนึ่งในนักพัฒนารายแรก ๆ ที่เข้าร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับ Jack Ma

Wu เป็นคนที่ Jack Ma เรียกใช้งานตลอดเวลาซึ่งหลังจากก่อตั้ง China Pages ได้ไม่นาน Wu ก็เป็นหนึ่งในทีมงานที่ไปยังปักกิ่งร่วมกับ Jack Ma เพื่อจัดทำเว็บไซต์สำหรับกระทรวงการค้าจีน

“Wu เป็นคนทำงานหนักมาก” He Yibing ผู้ร่วมก่อตั้ง China Pages กล่าว “มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เรานำเข้าเวิร์กสเตชันและเซิร์ฟเวอร์ของคอมพิวเตอร์จากอเมริกา และคู่มือทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ แม้ทักษะด้านภาษาอังกฤษของ Wu จะไม่ดีนัก แต่เขากลับสนใจคู่มือเหล่านั้น คอยตรวจดูคำศัพท์ในพจนานุกรมเพื่อที่เขาจะได้ประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันให้ได้”

ซึ่งหลังจากที่ Jack Ma เสร็จสิ้นงานที่กระทรวงการค้าจีนในปักกิ่ง Wu ก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง 18 คน ที่เข้าไปอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของเขาในเมืองหางโจวในปี 1999 เพื่อสร้างกิจการต่อไปของเขาในชื่อ Alibaba

Wu ก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง 18 คน ยุคก่อตั้ง Alibaba (CR:Yahoo)
Wu ก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง 18 คน ยุคก่อตั้ง Alibaba (CR:Yahoo)

หลายปีต่อมา Jack Ma ได้มอบหมายให้ Wu ดูแลการสร้าง Alimama ซึ่งเป็นเครื่องมือโฆษณาที่จะสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ ecommerce ของบริษัท ซึ่งเหตุการณ์นี้นี่เองที่ทำให้เขาได้รับฉายาว่า “Mama Wu”

ฉายานี้ได้มาจากการที่ Wu คอยดูแลทุกอย่างอยู่เสมอ พยายามแก้ไขจุดบกพร่องหรือคอยคิดสถาปัตยกรรมใหม่ และเขามักจะหาทางแก้ไขปัญหาในสิ่งที่ไม่มีใครทำได้อยู่เสมอ

จากนั้น Wu ได้มาช่วย Jack Ma สร้าง Taobao ซึ่งพัฒนาอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นส่วนสำคัญของพฤติกรรมการช็อปปิ้งประจำวันของผู้บริโภคชาวจีน หลังจากที่ Alibaba ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก เขาได้กลายเป็นผู้ช่วยพิเศษของ Jack Ma โดยมักจะติดตาม Ma ไปทุกที่

ในปี 2015 Wu ได้ก้าวออกจาก Alibaba โดยเข้าไปเป็นประธานกลุ่มธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพ และได้เปิดตัว Vision Plus Capital ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่ตั้งอยู่ข้างสำนักงานของ Jack Ma

Wu มีประสบการณ์ในสองโลกที่แตกต่างกัน หนึ่งในฐานะนักเขียนโค้ดมากประสบการณ์ และอีกหนึ่งในฐานะผู้นำบริษัท VC ที่มีมูลค่า 1 หมื่นล้านหยวน (1.4 พันล้านดอลลาร์)

พอร์ตโฟลิโอที่ Wu เข้าไปลงทุนนั้นมีความหลากหลายไล่ตั้งแต่ autonomous driving , Internet of Things , AI , cloud services รวมไปจนถึง video entertainment

เหล่าพนักงานของ Alibaba มองว่าประสบการณ์ด้านการลงทุนของ Wu จะเป็นประโยชน์สำหรับเครือบริษัท เนื่องจากตอนนี้ Alibaba ได้กลายเป็นกลุ่มบริษัท Holding ซึ่งคอยดูแลเรื่องผลกำไรที่ได้จาก Taobao และ Tmall ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสร้างรายได้หลักของบริษัท

งานแรกของ Wu เรียกได้ว่ามีความท้าทายอย่างมาก ด้วยการนำพา Alibaba กลับสู่รากเหง้าในธุรกิจ ecommerce อีกครั้ง โดย Jack Ma ได้ผลักดันให้หันมาโฟกัสที่กลุ่มผู้ขาย Taobao ขนาดกลางและเล็ก และ Alimama ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโฆษณาที่ Wu สร้างขึ้น และจะกลายเป็นกุญแจสำคัญสู่อนาคตของบริษัท

เรียกได้ว่าเป็นภาระที่หนักอึ้งของผู้นำคนใหม่ของ Alibaba ในตอนนี้ เพราะต้องเผชิญกับความละเอียดอ่อนในการพลิกฟื้นธุรกิจ

นับเป็นเวลาสองปีครึ่งแล้วที่ Alibaba โดนเล่นงานจากหน่วยงานรัฐของจีน โดยเริ่มจากการระงับการทำ IPO ของ Ant Group ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2020 หลังจากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล

รัฐบาลจีนได้เข้มงวดกับกฎระเบียบในภาคส่วนเทคโนโลยีในประเทศตั้งแต่เรื่องของการผูกขาดไปจนนถึงการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้

รวมถึงบริษัทประสบกับปัญหาการเติบโตที่ชะลอตัวเนื่องจากเศรษฐกิจจีนที่ซบเซาและการแข่งขันที่สูงขึ้นจากคู่แข่งอย่าง JD.com และ Pinduoduo

Tsai และ Wu กำลังมองหาหนทางที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับการเติบโตของบริษัท ท่ามกลางสิ่งที่ยังคงเป็นฉากหลังของเศรษฐกิจมหภาคที่ยากลำบาก

Eddie Wu และ Joe Tsai ผู้ที่จะมานำพา Alibaba ก้าวสู่ยุคถัดไป (CR:TTG Asia)
Eddie Wu และ Joe Tsai ผู้ที่จะมานำพา Alibaba ก้าวสู่ยุคถัดไป (CR:TTG Asia)

ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่อยู่เบื้องหลังผลการดำเนินงานของบริษัทคือสภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรมทางด้านเทคโนโลยีในจีน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ กฎระเบียบจากหน่วยงานรัฐที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่ง ซึ่งดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านี้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเร็ววันนี้นั่นเองครับผม


หากต้องการอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมการก่อตั้ง Alibaba ของ Jack Ma

Blog Series : Jack Ma Rise of the Dragon

Blog Series : Jack Ma Rise of the Dragon

–> อ่านตอนที่ 1 : Internet


References :
https://www.cnbc.com/2023/06/20/who-is-alibabas-new-ceo-eddie-wu-and-chairman-joe-tsai.html
https://www.bloomberg.com/news/articles/2023-06-26/who-is-alibaba-baba-ceo-eddie-wu-early-employee-to-continue-jack-ma-s-legacy#xj4y7vzkg
https://www.ft.com/content/4e6421bd-eae0-4dc8-a101-da16118590c1
https://www.straitstimes.com/business/alibaba-turns-to-little-known-coder-to-continue-jack-ma-s-legacy