“สิงห์” เปิดตัว “Singha 89 Cals” ชูจุดแข็ง แคลอรี่ต่ำ-ไร้กลูเตน

“สิงห์” ส่งโปรดักท์ใหม่ “Singha 89 Cals” ลงตลาด รับเทรนด์โลก โดยเฉพาะสายรักสุขภาพ New Gen ด้านช่องทางจำหน่าย ปูพรมสินค้าผ่านห้างค้าปลีกทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร และ ผับบาร์ ในจังหวัดท่องเที่ยวทั่วประเทศ

คุณภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า หัวใจสำคัญในการพัฒนาสินค้าใหม่ของบริษัทบุญรอดฯ คือคุณภาพที่ต้องมาเป็นอันดับแรก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า

และสินค้าใหม่ครั้งนี้ เราได้จับเทรนด์รักสุขภาพ ที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น จนกลายเป็นไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่ง Singha 89 Cals จะเข้ามาตอบโจทย์เทรนด์ดังกล่าวที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ให้ทางเลือกที่มีคุณภาพระดับพรีเมียมกับผู้บริโภค

คุณธิตินันท์ ชุ่มภาณี ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาดแบรนด์แอลกอฮอล์ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า Singha 89 Cals เป็นเบียร์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกของผู้บริโภค สามารถดื่มได้ในขณะทำกิจกรรมระหว่างวัน สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพและใส่ใจในเรื่องอาหารการกิน 

สำหรับ Singha 89 Cals มีทั้งรูปแบบกระป๋องและขวด ขนาด 320 มล. มีจำหน่ายตามร้านอาหาร ผับบาร์ บีชคลับ และ สปอร์ตคลับ ในกรุงเทพฯและจังหวัดท่องเที่ยว รวมถึงในช่องทางร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ต โดยวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศในเดือนพฤศจิกายนนี้

มาสด้าสร้างเซอร์ไพรส์นำ Mazda6 20th Anniversary Edition ฉลองครบรอบ 20 ปี เปิดรับจองสิทธิ์เพียง 100 คัน ในประเทศไทย

บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด มีความภูมิใจอย่างยิ่งที่จะประกาศให้ลูกค้าชาวไทยทราบว่า วันนี้ การรอคอยได้สิ้นสุดลงแล้ว เมื่อมาสด้าเตรียมนำเข้ารถยนต์นั่งสปอร์ตซีดานระดับไฮเอนด์ที่ให้ความหรูหราภูมิฐานจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสและเป็นเจ้าของ กับการเผยโฉมครั้งแรกของ Mazda6 20th Anniversary Edition ที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี ของมาสด้า6 โดยจะนำเข้ามาเพียง 100 คัน เท่านั้น เพื่อเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม นักธุรกิจชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ผู้บริหารระดับผู้นำสูงสุดขององค์กร

โดยจะเริ่มเปิดให้ลูกค้าจองสิทธิ์เพื่อเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นพิเศษได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผ่านผู้จำหน่ายทั่วประเทศไทย และมีกำหนดส่งมอบให้กับลูกค้ารายแรกในช่วงเดือนเมษายนปี พ.ศ. 2567 โดยจะวางราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณการณ์ 2.4 ล้านบาท  พร้อมแพ็กเกจพิเศษเพื่อเอาใจใส่ดูแลลูกค้าแบบพิเศษสุดกับโปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ Mazda Ultimate Service นานสูงสุด 7 ปี และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี รวมถึงสิทธิพิเศษต่างๆ อีกมากมาย

มร. ทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้า6 เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ไอคอนที่สำคัญของมาสด้า ภายใต้สโลแกน “Zoom-Zoom” โดยนับตั้งแต่ มาสด้า6 เจเนอเรชั่นแรก (หรือที่รู้จักในชื่อ Mazda Atenza ในประเทศญี่ปุ่น) ได้วางจำหน่ายเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2545 ในประเทศญี่ปุ่น ก็เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางที่เติมเต็มความสุขในการขับขี่ให้กับลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ

แม้ว่ามาสด้า6 ผ่านการออกแบบใหม่ทั้งหมดมาแล้วสองครั้ง แต่ยังคงเอกลักษณ์ตัวตนที่ชัดเจนในด้านการส่งมอบความสุขในการขับขี่ ด้วยการนำเสนอคุณค่าในระดับสากลที่รถยนต์สามารถมอบให้ได้อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้รถรุ่นนี้ได้รับความนิยมและกลายเป็นรถที่ส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าทั่วโลกมาแล้วกว่า 4 ล้านคัน

เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้ามาสด้า และร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี ของ มาสด้า6 เจเนอเรชั่นแรก เมื่อปี พ.ศ. 2545 เช่นเดียวกับ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และแฟนมาสด้าทั่วโลก ทาง มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จึงเตรียมนำรถยนต์ Mazda6 20th Anniversary Edition เข้ามาเปิดตัวแนะนำ เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าที่เชื่อมั่นในแบรนด์มาสด้า เพื่อให้แฟนมาสด้าได้เป็นเจ้าของด้วยความภาคภูมิใจ

โดยรถที่จะนำเข้ามานี้เป็นรถโมเดลเดียวกับที่วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นและผลิตจากโรงงานมาสด้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งยังคงความสนุกสนานในการขับขี่สไตล์มาสด้าเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม ผสานกับการออกแบบที่มีสไตล์ทำให้เกิดรูปลักษณ์อันสง่างาม พิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด จนกลายเป็นรถยนต์ที่ไม่ธรรมดา และให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ซึ่งได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตลอดประวัติศาสตร์ 20 ปี ของรถยนต์รุ่นนี้ 

มาสด้ายังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์หนึ่งเดียวที่สร้างความรักความผูกพันอันแน่นแฟ้นกับลูกค้า โดยมุ่งเน้นไปที่แก่นแท้ของรถยนต์ นั่นคือ “ความสุขในการขับขี่” หรือ Joy of Driving และมุ่งมั่นที่จะรักษาโลกของเราให้ยังคงสวยงาม ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และสร้างสังคมที่น่าอยู่ เพื่อยกระดับจิตวิญญาณของทุกคน

ในโอกาสพิเศษนี้ มาสด้าจึงนำเข้า Mazda6 20th Anniversary Edition ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้าและแฟนๆ มาสด้าในประเทศไทย เพื่อให้รถยนต์มาสด้าเป็นยานพาหนะคู่ใจของทุกคนในครอบครัว โดยมาสด้าจะเริ่มเปิดให้จองสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2023 และโชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ โดยจำกัดจำนวนเพียง 100 คัน เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น 

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด รถยนต์นั่งสุดหรู Mazda6 20th Anniversary Edition มาพร้อมแนวคิด “The Ultimate Maturation of Sportiness and Elegance” โดยเป็นรถที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ด้านสมรรถนะในการขับขี่ เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่และฟีเจอร์อำนวยความสะดวกสบายต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงรูปลักษณ์ภายนอกที่ถูกออกแบบให้มีความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ในรูปแบบสปอร์ตซีดาน 4 ประตู โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ไฟหน้าแบบ LED และหลังคาซันรูฟไฟฟ้า มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร เจเนอเรชั่นใหม่ พร้อมเทคโนโลยี Cylinder Deactivation อัจฉริยะ ที่เปิดตัวแนะนำเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

โดยระบบสามารถคำนวณและลดการทำงานของกระบอกสูบตามความเหมาะสมในแต่ละช่วงความเร็ว จาก 4 สูบ ให้เหลือเพียง 2 สูบ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่เหนือกว่าถึง 14.3 กม./ลิตร* ให้พละกำลังสูงสุด 192 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 223 กม./ชั่วโมง พร้อมเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด และแมนนวลโหมด ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC แบบ Stop & Go ปรับเพิ่ม-ลดความเร็วตามรถคันหน้าแบบอัตโนมัติจนถึงจุดหยุดนิ่ง

*ทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ

ในด้านการออกแบบนั้น Mazda6 20th Anniversary Edition ได้รับการถ่ายทอดภาพลักษณ์ความภูมิฐาน ที่ผสมผสานระหว่างความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวและความหรูหราสง่างามในรูปแบบสปอร์ตซีดาน

ภายในตกแต่งอย่างประณีตด้วยวัสดุคุณภาพสูง ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนัง Faux Suede Leganu® สีแทน พรีเมี่ยมทุกจุดสัมผัส รวมถึงเบาะหนัง Nappa สีแทน ระบบเสียง Bose® คุณภาพพรีเมี่ยม ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย i-Activsense ครบทุกระบบ พร้อมสัญลักษณ์บ่งบอกความพิเศษบริเวณต่างๆ ของตัวรถ ได้แก่ สัญลักษณ์พิเศษครบรอบ 20 ปี ที่พนักพิงศีรษะเบาะคู่หน้า และชุดพรมปูพื้นห้องโดยสาร ป้ายสัญลักษณ์พิเศษครบรอบ 20 ปี ที่ซุ้มล้อหน้าซ้าย-ขวา และกุญแจรีโมทตามสีภายนอก

บ่งบอกถึงการเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 20 ปี ทำให้รถยนต์รุ่นพิเศษนี้แตกต่างโดดเด่นจากรถรุ่นอื่นอย่างชัดเจน โดยมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม นักธุรกิจชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ผู้บริหารระดับผู้นำสูงสุดขององค์กร แฟนพันธุ์แท้มาสด้า และผู้ที่ชื่นชอบคาแร็กเตอร์ของรถมาสด้า ที่มอบความสนุกสนานในการขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ถ่ายทอดภาพลักษณ์ของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลงตัว

ไม่เพียงเท่านี้ มาสด้ายังได้พัฒนา Mazda6 20th Anniversary Edition ให้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น ด้วยการเลือกสีตัวถังพิเศษที่เรียกว่า สีแดง Artisan Red Premium และ สีขาว Rhodium White Premium เป็นสีใหม่ที่ผ่านกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีการพ่นสีขั้นสูง ประกอบด้วยเกล็ดอลูมินัมที่มีความบางเป็นพิเศษแต่มีหนาแน่นสูง ด้วยเทคโนโลยี Takuminuri โดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เป็นสีที่ได้รับการพัฒนาเพื่อถ่ายทอดความงดงามในทุกมุมมองเรียบลื่นราวกับผ้าไหม บ่งบอกถึงความพรีเมี่ยมเหนือระดับ

นอกจากมาสด้าจะนำ Mazda6 20th Anniversary Edition มาแนะนำและเปิดให้จองสิทธิ์ภายในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2023 แล้ว มาสด้ายังได้นำยนตรกรรมมาสด้าทุกรุ่นมาจัดแสดงให้ลูกค้าได้จับจองเป็นเจ้าของ พร้อมกับเซอร์ไพรส์พิเศษ ด้วยการนำรถ New Mazda2 ในแบบแฮชท์แบ็ค 5 ประตู ที่ตกแต่งด้วยชุดแต่ง Sci-Fi** มาจัดแสดงให้แฟนๆ ได้ยลโฉม โดยเลือกใช้สีภายนอกโทนเข้มและหลังคาสีดำ ที่ตัดกับชุดตกแต่งสีเขียว Lime Green บนชุดสปอยเลอร์หลัง คิ้วตกแต่งกระจังหน้าและกันชนหลัง มาพร้อมชุดสติกเกอร์ Sci-Fi บริเวณกระจังหน้า ชุดครอบกระจกมองข้างและฝาครอบล้อสีดำ ที่มอบความเรียบง่าย สนุกสนาน และเต็มไปด้วยลูกเล่นที่โดดเด่นลงตัว

นอกจากนั้นยังนำ New Mazda2 ในแบบซีดาน 4 ประตู ที่ได้รับการเนรมิตโฉมแบบใหม่ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Clap Pop Sedan** ชุดครอบกระจกมองข้าง สีขาว Ceramic Metallic ชุดฝาครอบล้อ สีขาว Ceramic Metallic และหลังคาสีขาว มาจัดแสดงให้เป็นไอเดียให้ลูกค้าที่ชอบความมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำแบบใครได้นำไปเป็นแบบอย่างในการแต่งรถอีกหนึ่งรุ่น ที่สำคัญมาสด้ายังมอบข้อเสนอสุดพิเศษอีกมากมาย

อาทิ ลูกค้า 300 ท่านแรก ที่จองขั้นต่ำ 5,000 บาท ภายในงานฯ และออกรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 รับฟรีของพรีเมี่ยมสุดพิเศษจากมาสด้า พร้อมมอบสิทธิพิเศษให้กับเจ้าของรถมาสด้าและครอบครัว เมื่อออกรถใหม่ รับ ฟรี บัตรน้ำมัน มูลค่า 10,000 บาท*** รวมถึงมอบข้อเสนอมากมายส่งท้ายปี ไม่ว่าจะเป็น

  • New Mazda2: ดอกเบี้ย 0%1, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2 หรือ ดอกเบี้ย 0.59%3, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2 หรือ ดอกเบี้ย 1.39%4, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2, ฟรีแพ็กเกจบำรุงรักษารถตามระยะ Mazda Care 5 ปี (รวมค่าแรง ค่าอะไหล่ และของเหลว)5 
  • Mazda3 และ Mazda3 Carbon Edition: ดอกเบี้ย 2.39%4, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2, ฟรี โปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี Mazda Ultimate Service (MUS)6 หรือ ดอกเบี้ย 1.39%4, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2
  • New Mazda CX-3: ดอกเบี้ย 2.39%4, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2, ฟรีแพ็กเกจบำรุงรักษารถตามระยะ Mazda Care 5 ปี (รวมค่าแรง ค่าอะไหล่ และของเหลว)5 หรือ ดอกเบี้ย 1.19%4, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2
  • Mazda CX-30 และ Mazda CX-30 Carbon Edition: ดอกเบี้ย 0%4, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2 หรือ ดอกเบี้ย 0.99%4, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2, ฟรี โปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี Mazda Ultimate Service (MUS)6
  • Mazda CX-5: ดอกเบี้ย 2.39%4, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2, ฟรี โปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี Mazda Ultimate Service (MUS)6 หรือ ดอกเบี้ย 1.39%4, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2
  • Mazda CX-8: ดอกเบี้ย 2.39%4, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2, ฟรี โปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี Mazda Ultimate Service (MUS)6 หรือ ดอกเบี้ย 1.49%4, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2

ลูกค้าที่สนใจรถยนต์นั่ง Mazda6 20th Anniversary Edition รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 20 ปี ที่มีให้ครอบครองเป็นเจ้าของเพียง 100 คัน ในประเทศไทย สามารถยลโฉมคันจริงได้ที่งาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2023 ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 – 11 ธันวาคม 2566 นี้ เท่านั้น สำหรับลูกค้าที่สนใจรถยนต์มาสด้าทุกรุ่น ทุกคัน รับข้อเสนอพิเศษดีๆ เช่นนี้เฉพาะช่วงปลายปี สามารถเข้าชมและจับจองได้ภายในงานฯ หรือที่โชว์รูมมาสด้าใกล้บ้านทั่วประเทศ

MarketHub Asia 2023 ปฏิวัติอนาคตวงการ: วางแผนทิศทางท่องเที่ยวทั่วโลกเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ยั่งยืน

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา งาน MarketHub Asia 2023 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ โดยบริษัท Hotelbeds ได้จุดประกายการพูดคุยที่ผสานรวมความหลากหลายในเชิงลึกระหว่างผู้นำในอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่การได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับทิศทางของวงการท่องเที่ยวในอนาคตภายใต้แนวคิด “Where Next?” อินฟลูเอนเซอร์และผู้นำแนวหน้าในอุตสาหกรรมได้พูดคุยแบบเจาะลึกในหัวข้อสำคัญต่าง ๆ ครอบคลุมตั้งแต่ข้อมูลและเทคโนโลยี ไปจนถึงอิทธิพลเบื้องลึกของกลุ่มคนทำงาน

ท่ามกลางการหยุดชะงักครั้งใหญ่ในภาคการท่องเที่ยว Hotelbeds เผยข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญ ซึ่งได้มาจากงานประจำปีของบริษัท อันเป็นการเล่าเรื่องที่พร้อมจะกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมสู่ความสำเร็จในอีกหลายปี หรือหลายทศวรรษข้างหน้า

การเพิ่มที่ว่างสำหรับบุคคลากร

รายงานของสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (World Travel & Tourism Council) ระบุว่า ภาคการท่องเที่ยวทั่วโลกจะสร้างโอกาสการจ้างงานในตำแหน่งใหม่มากถึง 110 ล้านตำแหน่งในทศวรรษที่จะถึง โดยตำแหน่งงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะคิดเป็นเกือบ 70% ของทั้งหมด การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้มีสาเหตุมาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งภายในพื้นที่ และจำนวนประชากรชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้เป็นสิ่งที่มาขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโตอย่างมากภายในตลาดงานด้านการท่องเที่ยว

นักเดินทางแห่งอนาคต

กระแสการเพิ่มขึ้นของเอเจนซี่ท่องเที่ยงเผยให้เห็นว่า นักเดินทางมากถึง 90% มองหาโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการรายบุคคล เพื่อสอดรับต่อความต้องการที่จะเต็มที่ไปกับประสบการณ์ที่ถูกใจและไร้รอยต่อ Hotelbeds รายงานว่า ลูกค้าปลายทางเหล่านี้ไม่ได้มองหาแค่บริการที่จำเป็น อย่างประกันภัย หรือเงินสำรองเท่านั้น แต่พวกเขายังมองหาแพ็คเกจการเดินทางที่ครอบคลุม ซึ่งจะให้การช่วยเหลือลูกค้า 24 ชั่วโมง ตลอดทั้งสัปดาห์ ด้วยภาษาท้องถิ่นของลูกค้าเอง

นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพยังกำลังเผชิญกับกระแสที่เพิ่มขึ้นจากการที่นักเดินทางให้ความสำคัญต่อการสร้างความสมดุลภายในและภายนอกในชีวิตมากขึ้น ในขณะเดียวกัน การบรรเทาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมก็ก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจสำคัญในการท่องเที่ยว ซึ่งผลักดันแนวปฏิบัติด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนให้มีความโดดเด่น และเนื่องจากนักเดินทาง 70% คาดหวังที่จะได้รับประสบการณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ความนิยมของการเดินทางที่ไม่สร้างมลพิษออกสู่แวดล้อมโดยรอบจึงยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

อารมณ์คือมาตรฐานใหม่ของแบรนด์

ตามข้อมูลจาก Skift ความชื่นชอบของผู้บริโภคยุคใหม่นั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด โดยประมาณแล้ว 60% ของกลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) และเจนซี (Gen Z) ให้ความสำคัญกับบริการมากกว่าราคา โดยจะเฟ้นหาประสบการณ์ที่จะสร้างความทรงจำอันยาวนานระหว่างการเดินทาง ความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับความคาดหวังที่สูงกำลังขับเคลื่อนความจำเป็นของการมีโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ

โมเดลเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงของ AI ภายในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นอกจากการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของดีเวลลอปเปอร์ (Developer) แล้ว ยังช่วยยกระดับการช่วยเหลือลูกค้า การจัดการชื่อเสียง และการปรับปรุงฟังก์ชันการค้นหาที่พักอีกด้วย

เอเชียคือผู้นำด้านเทคโนโลยี

เอเชียก้าวนำภูมิภาคอื่น ๆ ไปมากถึง 10 ปี หากพูดถึงเรื่องของเทคโนโลยี และผู้บริโภคต่างก็ต้องการผลิตภัณฑ์การเดินทางใหม่ๆ อันรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ในแวดวงฟินเทคด้วย อีกทั้งยังได้เรียนรู้ว่า การยอมรับนำเทคโนโลยีมาใช้ ซึ่งรวมไปถึงปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) และความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality: AR) เป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องแน่ใจเสียก่อนว่า คุณภาพของข้อมูลที่มีนั้นอยู่ในระดับสูง

“MarketHub Asia รวมตัวแนวหน้าของอุตสาหกรรมจากทั่วเอเชียแปซิฟิกและจากนอกภูมิภาค เพื่อสำรวจอนาคตของการเดินทาง” Carlos Munoz ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของ HBX Group กล่าว “ภายใต้ธีม ‘Where Next?’ เราได้พิจารณาลงลึกถึงอนาคตของการท่องเที่ยวที่โอบล้อมไปด้วยการหยุดชะงักครั้งใหญ่ ผ่านการศึกษาข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญซึ่งจะช่วยกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมในปีต่อ ๆ ไป

สิ่งที่เกิดขึ้นนับเป็นคลื่นลูกใหม่แห่งความตื่นเต้นและสิ่งดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต เราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่งานครั้งนี้ได้ขับเคลื่อนวงการไปสู่ยุคแห่งนวัตกรรมด้านการเดินทางอย่างแท้จริง”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MarketHub Asia กรุณาไปที่เว็บไซต์

“โซดาสิงห์” เปิดตัว Singha Soda Collection 2023 ผนึก Rubber Killer แบรนด์ไทยรักษ์โลกชื่อดัง คอนเซ็ปต์ “ซ่าได้ไม่ทำร้ายโลก Less Waste, Recycle more”

“โซดาสิงห์” เปิดตัว Singha Soda Collection 2023 โดยในปีนี้ได้คอลแลปกับ “Rubber Killer”   แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นและแอ็กเซสซอรีชื่อดังของไทย ที่โดดเด่นในด้าน upcycling ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ในคอนเซ็ปต์ “ซ่าได้ไม่ทำร้ายโลก Less Waste, Recycle more” การนำมาใช้ใหม่ไม่มีที่สิ้นสุด

คุณธิติพร ธรรมาภิมุขกุล Chief Marketing Officer บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า Singha Soda Collection 2023 ของโซดาสิงห์ในปีนี้ เป็นการร่วมงานกับ “Rubber Killer” แบรนด์แฟชั่นของไทยที่มีจุดเด่นในการออกแบบผลิตภัณฑ์ โดยนำวัสดุเหลือใช้มาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ซ่าได้ไม่ทำร้ายโลก Less Waste, Recycle more”

สอดคล้องกับแนวทางของแบรนด์โซดาสิงห์ ที่ตระหนักในการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า กระบวนการผลิตต่างๆ มีการนำของเหลือใช้มาหมุนเวียน ใช้ซ้ำตามแนวทาง Circular Economy เช่น บรรจุภัณฑ์ขวดแก้วมาใช้ซ้ำ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สะท้อนถึง Brand Personality ของโซดาสิงห์ ซึ่งเป็นแบรนด์ของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี

สำหรับ คอลเล็กชั่น Singha Soda Collection 2023 ร่วมกับ Rubber Killer เป็นการนำจุดแข็งของโซดาสิงห์ เรื่อง “ความซ่า” ซึ่งมีจุดยืนในการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมายกับการทำตลาดที่ไม่เคยหยุดนิ่ง พร้อมเชื่อในพลังความคิดสร้างสรรค์ ครีเอทสิ่งใหม่ๆ ให้กับตลาดและผู้บริโภคอยู่เสมอ ผนึกกับ Rubber Killer แบรนด์แฟชั่นแอ็กเซสซอรีที่มีจุดยืนเรื่องสิ่งแวดล้อมร่วมกันต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ ดีไซน์เป็นแฟชั่นไอเท็มเอาใจคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น 

สินค้าภายใต้คอกเล็กชั่นพิเศษนี้ มีหลายรายการครอบคลุม เสื้อผ้าลำลอง และสินค้าไลฟ์สไตล์ เช่น เสื้อแจ๊คเกต เสื้อยืด กระเป๋าผ้า กระเป๋าผ้าไนล่อน (Sacoche Bag) กระเป๋าไวนิล หมวก และพวงกุญแจ เป็นต้น วางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ www.singhasodacollection.com ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เชื่อว่าจากความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเพิ่มพลังของการรับรู้ และดึงให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับแบรนด์โซดาสิงห์มากยิ่งขึ้น 

กลยุทธ์ Collaboration ของโซดาสิงห์ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ผู้บริโภครอคอยในแต่ละปีว่าจะร่วมมือกับใคร หรือแบรนด์ใดเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่โดดเด่นและมีพลัง ซึ่งที่ผ่านมามีพันธมิตรหลากหลายสไตล์ เช่น ALEX FACE ศิลปินผู้สร้างผลงานศิลปะบนกำแพง, Mister Cartoon ช่างสักระดับโลก, S.V.S.S. และ Dry Clean Only แบรนด์แฟชั่นสตรีทอาร์ตสัญชาติไทย ฯลฯ ซึ่งล้วนสร้างผลตอบรับและความสำเร็จได้เป็นอย่างดี 

สำหรับ Rubber Killer เป็นแบรนด์ไทยที่ให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยการนำวัสดุเหลือใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ยางในของรถบรรทุก-รถจักรยาน มาผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Eco-Friendly Product ที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ทำให้แบรนด์สามารถสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวและตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี

“ซานตาเฟ่” จัดใหญ่ต่อเนื่อง! ฉลอง 20 ปี “ลุ้นกินฟรียกร้าน-รถยนต์-ทองคำ” ถึงสิ้นปี รวมมูลค่ากว่า 2 ล้าน 

“ซานตาเฟ่” ร้านอาหารประเภทสเต๊กและอาหารสไตล์ตะวันตก ภายใต้บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด ฉลองครบรอบ 20 ปี จัดแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปีกับเทศกาลแห่งความสุข “อร่อยเต็มสุข โชคเต็มร้าน” ลุ้นรางวัลใหญ่รถยนต์ไฟฟ้า สร้อยคอทองคำ และรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท พร้อมส่ง “นายสถานี” เดินทางไป “มอบสุขสนุกทั่วไทย” มอบโชคให้กับผู้โชคดี เติมเต็มความสุขส่งท้ายปีให้ลูกค้าที่ร้านซานตาเฟ่ ลุ้นกินฟรี! ยกร้าน ตั้งแต่                     วันนี้ 31 ธ.ค. 66

ซานตาเฟ่ สเต๊ก ผู้นำร้านอาหารประเภทสเต๊กที่ครองใจผู้บริโภคมายาวนาน เสิร์ฟความสุขด้วยเมนูสเต๊ก และเมนูอร่อยหลากหลาย เติมเต็มความสุขและคืนกำไรให้กับลูกค้า ฉลองครบรอบ 20 ปี จัดแคมเปญ “อร่อยเต็มสุข โชคเต็มร้าน” มอบรางวัลใหญ่ “รถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat 400 Pro” มูลค่า 828,500 บาท จำนวน 1 รางวัล รางวัลทานฟรีตลอดปี มูลค่า 480,000 บาท จำนวน 20 รางวัล สร้อยคอทองคำ มูลค่า 340,000 บาท จำนวน 20 รางวัล และ Santa Fe Gift Voucher มูลค่า 200,000 บาท จำนวน 200 รางวัล และรางวัลอื่นๆ อีก 600 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท เริ่มแล้ววันนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2566 รับ 1 สิทธิ์ชิงโชคเมื่อรับประทานอาหารครบทุกๆ 450 บาท (หลังหักส่วนลด) จับรางวัล 2 ครั้ง ในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 และวันที่ 15 มกราคม 2567 

พร้อมกันนี้ ยังเพิ่มเติมความสุขให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ด้วยการส่ง “นายสถานี” Mascot ซานตาเฟ่ ไป มอบสุขสนุกทั่วไทย” มอบโชคให้กับลูกค้าซานตาเฟ่ เพื่อเติมเต็มความสุขในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี ในร้านซานตาเฟ่ ทั่วประเทศตลอดช่วงการจัดแคมเปญ โดยรับสิทธิ์รับประทานอาหารที่ร้านซานตาเฟ่ สเต๊ก ฟรี! ยกร้าน ทันทีเมื่อเจอนายสถานีทั่วประเทศ  ตั้งแต่วันนี้ 31 ธ.ค. 66

สามารถร่วมติดตามกิจกรรมสุดพิเศษต่างๆ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุนซานตาเฟ่ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมาได้ที่ https://www.facebook.com/santafesteak.th