ข่าวร้ายสำหรับทีมงานครั้งแรกปรากฎขึ้นเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2011 เมื่อ Apple ได้เปิดตัวผู้ช่วยเสมือนจริงอย่าง Siri ใน iPhone 4S ซึ่งถือได้ว่าเป็นโปรเจกต์สุดท้ายที่ Steve Jobs เข้ามาคลุกคลีก่อนที่จะเสียชีวิต
Apple ได้เปิดตัวผู้ช่วยเสมือนจริงอย่าง Siri ใน iPhone 4S (CR:AnandTech)
และมันนำไปสู่การซื้อกิจการครั้งที่สาม ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ในเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ ชื่อ Evi โดยผู้ประกอบการชาวอังกฤษ William Tunstall-Pedoe ซึ่งดีลนี้ Amazon ทุ่มเงินไปกว่า 26 ล้านดอลลาร์
ในปี 2012 Tunstall-Pedoe ได้รับแรงบันดาลใจจากการเปิดตัวของ Siri โดยเริ่มเปิดตัวแอป Evi บน App Store และ Play Store ผู้ใช้สามารถถามคำถามโดยการพิมพ์หรือพูด โดย Evi จะทำการประเมินคำถามและพยายามเสนอคำตอบแบบ Realtime ซึ่งคล้ายๆ กับสิ่งที่เราเห็นใน ChatGPT ณ ปัจจุบันนั่นเอง
การบูรณาการเทคโนโลยีของ Evi ช่วยให้ Alexa ตอบคำถามที่เป็นข้อเท็จจริง เช่น การร้องขอให้ตั้งชื่อดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ โดยพื้นฐานทางเทคโนโลยีของ Evi จะใช้เทคนิคที่เรียกว่า Knowledge Graph ซึ่งจะเชื่อมโยงแนวคิดและหมวดหมู่ในโดเมนที่เกี่ยวข้อง
แม้ว่าทาง Apple จะสร้าง iPod ให้กลายเป็นสินค้ายอดฮิตยอดขายถล่มทลาย กลายเป็นปรากฏการณ์ไปทั่วโลก แต่ในปี 2004 หากพูดถึงบริษัทอย่าง Apple กับธุรกิจโทรศัพท์มือถือนั้น คงไม่มีใครคาดคิดว่า Apple บริษัทที่เริ่มต้นด้วยการขายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลนั้นจะพลิกตัวเองมาลุยในตลาดมือถืออย่างแน่นอน
สิ่งแรกคือเรื่องของ Knowhow ต่าง ๆ ในเรื่องมือถือนั้นต้องเรียกได้ว่า Apple แทบจะไม่เคยย่างกรายเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้เลยด้วยซ้ำ และการครองตลาดอย่างเบ็ดเสร็จของ Nokia ที่มีทีมงานที่พร้อมทุกอย่างทั้งเรื่อง Hardware , Software รวมถึง Knowledge ด้านโทรคมนาคมคงเป็นเรื่องยากที่ใครจะสามารถล้ม Nokia ลงได้ในขณะนั้น
ซึ่งแน่นอนว่า ROKR นั้นมันคือหายนะอย่างแท้จริงสำหรับ Apple ในการที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดโทรศัพท์มือถือ ทำให้ตัวจ็อบส์นั้นหงุดหงิดหัวเสียกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และเป็นแรงผลักดันที่สำคัญที่ต้องการจะตัดคนกลางทั้งหลายออกจากวงจรนี้
Apple นั้นต้องการควบคุมทุกอย่างแบบเบ็ดเสร็จ แบบที่พวกเขาทำได้กับ iPod ทั้ง Hardware , Software หรือแม้กระทั่งเครือข่ายโทรศัพท์ก็ตามและต้องการที่จะนำผลิตภัณฑ์ของ Apple ส่งไปถึงมือของลูกค้าได้โดยตรง
และไม่ใช่ว่าในช่วงนั้นจะไม่มีคู่แข่งเลยเสียทีเดียวสำหรับ บริษัทมือถือที่ต้องการเข้ามาลุยในตลาดเพลง แน่นอนว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Nokia ก็ได้ออก Nokia N91 ที่สามารถเก็บเพลงได้กว่า 1,000 เพลง คล้าย ๆ iPod Mini แต่สุดท้าย Nokia ก็ไม่สามารถที่จะผลักดันตัวเองให้เข้าไปสู่ธุรกิจเพลงอย่างที่คาดหวังได้เช่นกัน เพราะเหล่าค่ายโทรศัพท์มือถือในสหรัฐอเมริกาไม่ยอมนั่นเอง
Nokia N91 ที่ออกมาท้าชนในตลาดเดียวกับ (CR:IMEI.info)
ซึ่งเราจะเห็นได้ถึงบทสรุปของการลุยเข้าไปสู่ตลาดมือถือของ Apple ครั้งแรกนั้น ต้องจบลงด้วยความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เพราะ ROKR ไม่ได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีเหมือนที่ลูกค้าคาดหวังจาก Apple และเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความตกต่ำของ Motorola ในคราเดียวกัน
แต่อย่างน้อย ROKR ได้กลายเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าของทีมงาน Apple ทุก ๆ คนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตัวจ็อบส์เอง และมันได้ทำให้จ็อบส์นั้นค้นพบว่า Apple ควรทำอะไรที่แท้จริงในตลาดโทรศัพท์มือถือ
ซึ่งแน่นอนว่าจ็อบส์จะไม่ยอมให้ใครมาครอบงำการสร้างผลิตภัณฑ์ของ Apple อีกต่อไปมันได้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ว่าหาก Apple ไม่สามารถ Control ทุกอย่างได้เหมือนที่พวกเขาเคยทำ หายนะก็มาเยือนอย่างที่ประสบพบเจอกับมือถือ ROKR นั่นเอง
ตัวอย่างผู้นำด้านเทคโนโลยียุคบุกเบิกรายใหญ่อย่าง Apple และ Microsoft พวกเขาได้พิสูจน์ความสำเร็จด้วยการจัดลำดับความสำคัญของผลิตภัณฑ์ที่แก้ปัญหาได้ชัดเจน ควบคู่ไปกับการสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว