ทีมที่บาร์เซโลน่าเกรงกลัวที่สุด

ผ่านพ้นไปสำหรับผล UCL รอบ 16 ทีมสุดท้าย ก็แทบจะเป็นไปตามคาดในผลการแข่งขันทุกคู่ ไม่มีการพลิกล็อกแต่อย่างใด ทีมใหญ่ ๆ ก็เข้ากันครบทั้ง Real Madrid , Barcelona หรือ เสือใต้ Bayern Munich  ทั้งสามทีมเต็มก็พาเหรดกันเข้ารอบไปได้ครบ

สำหรับ อาเซน่อล ก็คงอยู่ในวังวนเดิม ๆ กับรอบนี้ ถึงแม้เกมส์ที่บุกไปเยือนบาร์เซโลน่าที่ คัมป์นูร์ จะเล่นได้ดีพอสมควร แต่ก็ไม่สามารต้านทานพลังของ MSN 3 แนวรุกของบาร์เซโล่น่าได้ ก็ออกไปพ่ายมา 3-1 รวมผลสองนัดแพ้ไปอย่างขาดลอย 5-1 ซึ่งว่ากันตรง ๆ เกมส์นี้ก็ไม่ได้เล่นได้ขี้เหร่ซักเท่าไหร่ โอกาสการทำประตูก็พอ ๆ กัน แต่ความคมที่ห่างชั้นกันเยอะ โดยโดนจัดกันไปคนละดอกทั้ง เนย์มาร์  ซัวเรส และ เมสซี่ ตกรอบไปแบบไม่ต้องลุ้นอะไรมากมาย

มาว่ากันถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ผลการจับสลากออกมา ทีมที่น่าจะสบายในก็คงเป็นทั้ง Bayern Munich และ Real Madrid ที่ได้เจอทีมรองบ่อน กว่า และน่าจะผ่านไปได้ไม่ยากเย็นเท่าไหร่ สำหรับบาร์เซโลน่า ถือว่าเป็นเกมส์ที่หนักที่สุดของพวกเขาเลยก็ว่าได้ที่จับได้มาเจอกับ Atletico Madrid เอาตรง ๆ ผลงานการเจอกันของทั้งคู่ในช่วงหลัง ๆ นั้น Atletico Madrid อาจจะดูดีกว่าด้วยซ้ำ หลังจากการเข้ามาคุมทีมของ Diego Simeone ถ้าถามว่าทีมไหนที่บาร์เซโลน่าไม่อยากเจอที่สุด คงไม่ใช่ Bayern Munich หรือ Real Madrid แต่คงเป็น Atletico Madrid ทีมนี้มากกว่าที่ บาร์เซโลน่าอยากเลี่ยง ซึ่ง Atletico Madrid นั้นมักจะทำผลงานได้ดีเสมอในการเล่นกับ บาร์เซโลน่าไม่ว่าจะเป็นเจ้าบ้านหรือไปเยือน เหมือนกับ Diego Semione นั้นมีแผนในการพิชิตบาร์เซโลน่าได้ในหลาย ๆ ครั้งในช่วงหลัง ๆ

สำหรับอาถรรพ์ เรื่องการป้องกันแชมป์ UCL ที่ไม่สามารถมีทีมใดที่เป็นแชมป์เก่าสามารถป้องกันแชมป์ในปีถัดไปได้เลยในช่วงหลัง ๆ โดยมีการสลับหน้าทีมที่จะเป็นแชมป์ตลอด ซึ่งปีนี้ตามหน้าสื่อนั้นบาร์เซโลน่า น่าจะมีโอกาสสูงสุดในการป้องกันแชมป์ได้ทีมแรกในรอบหลายปีหลัง เนื่องจากศักยภาพของทีมนั้น โดดเด่นกว่าทีมคู่แข่งอย่างชัดเจน จากการได้ตัว ซัวเรสมาในฤดูกาลที่แล้ว พูดถึงก็เสียดายโอกาสที่ ซัวเรสจะย้ายมาอาร์เซน่อลในช่วง 2 ปีก่อน น่าจะมีการยื่นข้อเสนอแบบจริง ๆ จัง ๆ หน่อย ผมคิดว่าถ้าได้ซัวเรส มานี่ น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของอาร์เซน่อลเลยก็ได้ แต่เสียดายที่มันไม่เกิดขึ้น เนื่องจากบอร์ดบริหารก็ไม่ได้พยายามที่จะซื้อตัวซัวเรสมาแบบเต็มที่ สุดท้าย ก็เลือกอยู่ลิเวอร์พูลต่อ และย้ายมาบาร์เซโลน่าในที่สุด

สำหรับปีนี้นั้นผมเชื่อว่า หากทีมที่จะหยุดบาร์เซโลน่านั้น ผมมองเพียงทีมเดียวคือ Atletico Madrid ในรอบ 8 ทีมนี่แหละ หากไม่สามารถหยุด บาร์เซโลน่าในรอบนี้ได้ ผมว่า บาร์เซโลน่าก็คงคว้าแชมป์ไปได้อีกปีแบบไม่ยากเย็นเหมือนปีที่แล้วอย่างแน่นอน เพราะคิดว่า Bayern Munich หรือ Real Madrid ไม่ใช่ทีมที่จะมีพลังพอมาต่อกรกับ บาร์เซโลน่าในชุดนี้อย่างแน่นอน

Img Ref : soccerparole.com

Movie Review : Rudderless


Review

 

เอาจริง ๆ  สำหรับหนังเรื่องดีถ้าดูจากหน้าหนัง หรือ ดูจาก trailer โดยส่วนตัวก็ไม่ถือว่าเป็นหนังที่น่าสนใจเท่าไหร่ แต่ผมไปเอะใจกับคะแนนใน web site imdb ได้คะแนนไป 7.5 ซึ่งคะแนนระดับนี้ ก็ถือว่าต้องเป็นหนังที่ไม่ธรรมดาสำหรับนักวิจารณ์หนังใน imdb อย่างแน่นอน ซึ่งโดยส่วนตัวผมค่อนข้างมั่นใจกับคะแนนใน imdb ถ้าเกิน 7 นี่รับประกันดูแล้วไม่ผิดหวังแม้แต่เรื่องเดียว ถึงแม้จะไม่ใช่เป็นแนวที่เราชอบก็ตาม

สำหรับ Rudderless นั้นกำกับ โดย William H.macy ดารารุ่นใหญ่ที่ฝากผลงานไว้มากมาย รวมถึงราววัลการันตีคุณภาพได้เป็นอย่างดี โดยเรื่องนี้เค้านำแสดงด้วย แต่ไม่ได้ไม่เป็นบทหลักของเรื่อง โดยดารานำของเรื่องนั้น คือ Billy Crudup , Anton Yelchin , Felicity Huffman สำหรับโดยส่วนตัวนั้นผ่านตาผลงานของ Billy Crudup มาบ้างในหลาย ๆ เรื่องแต่ส่วนใหญ่จะได้รับบทรอง แต่การแสดงของเขาในเรื่องนี้ ทำให้เขาสามารถรีดเอาประสิทธิภาพของการแสดงได้ออกมาได้อย่างเต็มที่สำหรับบท Sam ในเรื่อง ถ้าเทียบกับผลงานทั้งหมดที่ผ่านตามาของ Billy Crudup ผมชอบการแสดงจากเรื่องนี้มากที่สุดเลยก็ว่าได้

เรื่องนี้ก็ไม่เชิงว่าเป็น Drama ที่เข้มข้นไปทั้งเรื่องเสียเลยทีเดียว ถึงแม้ตอนต้นเรื่องจะมีเนื้อหาที่ค่อนข้าง Drama มากก็ตาม แต่ในช่วงตอนกลางไปถึงท้ายเรื่องก็ถือว่า เป็นหนังที่ผสมผสานระหว่าง Comedy และ Music นำมาผูกเรื่องการได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว ไม่แพ้เรื่องไหน ๆ ที่ผ่านมา ทำให้เราได้ลุ้นไปกับเรื่องราวความผูกพันธ์ของตัวละครเอกของเรื่องทั้งหมด และมีปมที่พระเอกต้องพบเจอ ซึ่งถือเป็นปมด้านครอบครัวที่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร หนังก็เปิดให้เราได้เดาเรื่องราวที่เกิดขึ้น และมาเฉลยในตอนท้าย ๆ ของเรื่อง ซึ่งถือว่าบทของหนังเรื่องนี้มีการผูกเรื่องมาได้อย่างลงตัว จึงถือเป็นงานคุณภาพอีกเรื่องนึงของการกำกับ โดย William H.macy และถือว่าเป็นการแสดงที่ดีที่สุดในสายตาผมของ Billy Crudup ที่ไม่ควรพลาดชมเป็นอย่างยิ่งเลยครับ

เก็บตกจากหนัง

  • ผลงานเรื่องจะเป็นผลงานที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของนักแสดงที่เราคุ้นตาอย่าง Billy Crudup
  • เป็นหนัง Drama ที่ผสมผสานส่วนของ Comedy และ Music ได้อย่างลงตัวเรื่องนึงเลยทีเดียว

คะแนน

9/10


สรุป
“ส่วนผสมที่ลงตัวของ Drama,Comedy และ Music ที่ไม่ควรพลาด”

JT 8704 ตอนที่ 0 : ปฐมบท

ความคิดที่จะมาเขียน Blog Series ชุดนี้เกิดจากอารมณ์ที่อยากจะเล่าประสบการณ์ในการพบเจอเหตุการณ์ ประหลาด ซึ่งมาพร้อมโรคประหลาดที่ทำให้ชีวิตผมได้เปลี่ยนไปมากมายหลังจากที่ได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

และเนื่องด้วยการใช้ชีวิตที่ต้องปรับเปลี่ยนไป ไม่สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปรกติได้  การเดินทางก็ลำบากยากเย็น จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต โดยเน้นอยู่กับบ้านเท่านั้น ไม่ค่อยได้ออกไปไหน จากเดิมที่มีกิจกรรมออกไปสังสรรค์กับเพื่อนข้างนอก หรือ ไปดูหนัง ไปเดินตามตลาดนัดกับแฟน ก็ไม่สามารถทำได้อีกเหมือนเคย ต้องทำใจต่อสู้กับโรคที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรอยู่นานมาก จึงเป็นช่วงเวลาที่ทรมานที่สุดของชีวิตเลยก็ว่าได้ ไม่สามารถใช้ร่างกายเราได้อย่างเต็มที่ตามใจที่เราอยากจะทำ

ซึ่งก่อนหน้านี้ปี ถึง สองปี ก็เป็นคนที่ค่อนข้างสังสรรค์เป็นประจำ ดื่มเหล้าเกือบจะทุกวัน เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงที่อกหัก ครั้งที่ 2 ในชีวิต โดยร่างกายก็เริ่มสงสัญญาณบางอย่างออกมาบ้าง ว่าเริ่มจะไม่ไหวแล้ว แต่โดยปรกติผมจะมีการตรวจร่างกายเป็นประจำอยู่ทุกปี ซึ่งส่วนมาก ก็จะมีปัญหาแค่ส่วนของ คลอเรสเตอรอล ที่สูง ซึ่งในออฟฟิส ร้อยละ 80 ก็จะมีคลอเรสเตอรอลสูงอยู่แล้ว จึงไม่ได้ใส่ใจกับการดูแลสุขภาพมากมาย คิดว่าเป็นเรื่องปรกติของผู้ชายวัยนี้ ส่วนการออกกำลังกายนั้น มีการออกกำลังกายบ้างในช่วงฟิต ๆ เนื่องจากได้ซื้อลู่วิ่งไว้ที่บ้าน แต่ก็เหมือนคนทั่วไป จะฟิตได้ซัก 1-2 อาทิตย์เท่านั้น ก็จะหยุด ไม่ได้มีการออกกำลังกายต่อเนื่องแบบเป็นกิจวัตรประจำวัน

สำหรับด้านเรื่องส่วนตัวนั้นก่อนหน้านี้ผมก็เป็นวิศวกร ทางด้านคอมพิวเตอร์ ในบริษัทเอกชนขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ก็มีประสบการณ์ทำงานมาค่อนข้างพอสมควรคือประมาณ 9 ปี  อายุ 30 ต้น ๆ ขีวิตก็ค่อนข้างโอเค มีการงานที่ค่อนข้างมั่นคง งานก็มีสลับ ๆ กันไปหนักบ้างเบาบ้าง เครียดบ้าง สนุกสนานบ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่ายังสนุกกับงาน และมีหัวหน้าที่ดีและเข้าใจเรา รายได้ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี และพร้อมที่จะก้าวเดินไปยัง step ต่อไปของชีวิต ซึ่งก็คือการแต่งงานและ มีลูก แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องพลิกผันหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว มีเหตุการณ์ทำให้ชีวิตแย่ลงเรื่อย ๆ มากมาย ดังที่จะเล่าในบทถัด ๆ ไปต่อจากนี้

Blog Series : JT8704 Flight เปลี่ยนชีวิต

Img Ref :  vancouversun.com

Blog Series : JT 8704 Flight เปลี่ยนชีวิต

สำหรับ Blog Series ชุดนี้จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผมตลอด 1 ปีที่ผ่านมาหลังจากขึ้นเครื่องบิน Flight JT 8704 เพื่อเดินทางไปร่วมงานแต่งานเพื่อนที่เชียงราย แต่ก็ไม่คาดคิดว่า Flight ที่เหมือนเป็นการเดินทางที่ปรกติของผม Flight นี้จะทำให้ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล

ตอนที่ 0 : ปฐมบท

ตอนที่ 1 : จุดเริ่มต้น

ตอนที่ 2 : การเดินทางที่แสนทรมาน

ตอนที่ 3 : เที่ยวให้เต็มที่สิ

ตอนที่ 4 :

ตอนที่ 5 :

ตอนที่ 6 :

ตอนที่ 7 :

ตอนที่ 8 :

ตอนที่ 9 :

ตอนที่ 10 : ประสบการณ์ MRI ครั้งแรก

ตอนที่ 11 : วันลุ้นผล MRI

 

JT 8704 ตอนที่ 11 : วันลุ้นผล MRI

จาก blog ประสบการณ์ MRI ครั้งแรกเมื่อเดือนที่ผ่านมา ในที่สุดก็ถึงวันที่ต้องไปรับฟังผล โดยเนื่องจากเป็นโรงพยาบาลรัฐ และทางคุณหมอได้นัดไว้ในวันศุกร์ จึงต้องออกแต่เช้าประมาณ 6.30 น. เพื่อไปให้ทันรับ คิว แรก ๆ โดยไปถึงราว ๆ 7 โมงครึ่งเหมือนเช่นเคย และ เป็นที่น่า Surprise ว่าได้บัตรคิวหมายเลข 5 เหมือนกับที่มาในครั้งแรกเป๊ะ ๆ

เนื่องจากหมอจะเข้าตรวจในเวลา 9 โมงตรง ซึ่งคนไข้ก็เริ่มเข้ามาเยอะแล้ว ก็ได้แต่นั่งรออีกประมาณ 1 ชม.ครึ่ง และเมื่อใกล้เข้าสู่เวลา 9 โมงเช้า หมอท่านอื่น ๆ ก็เริ่มเข้ามา ผ่านไปเกือบ 30 นาทีหมอที่เป็นเจ้าของไข้ของผมเองนั้นก็ยังไม่มา ซักพักพยาบาลก็มาเปลี่ยนป้ายที่หน้าห้องตรวจเป็นชื่อหมอท่านอื่น และแจ้งให้ผู้ป่วยทราบว่าวันนี้หมอติดราชการไม่สามารถเข้าตรวจได้และจะมีหมอท่านอื่นก็มาตรวจแทน ก็คิดในใจว่าต้องเล่าเรื่องราวของเราใหม่อีกครั้งหรือไม่กับหมอท่านใหม่

หลังจากเริ่มเรียกคิวแรก ก็รออีกประมาณ 20 นาทีก็ถึงคิวที่ 5 ของผมเอง เดินเข้าไปพบเป็นหมอที่หนุ่มกว่าหมอเจ้าของไข้ตัวจริง น่าจะเป็นหมอที่เพิ่งจบเฉพาะทางมา แต่ที่นี่รับรองเป็นหมอที่เชี่ยวชาญด้านระบบสมองทุกคน โดยก่อนจะเข้าก็ได้เริ่ม search ข้อมูลของชื่อหมอที่จะตรวจ ก็ถือว่ามี profile ที่เป็นหมอเฉพาะทางด้านสมองเหมือนหมอเจ้าของไข้ของผมตัวจริงที่ติดราชการในวันนี้ นั่งซักพักหมอก็เริ่มพลิกอ่านข้อมูลในแฟ้มประวัติคนไข้ ก่อนจะถามข้อมูลเบื้องต้นเพิ่มเติม ผมก็ได้อธิบายไปตามที่เคยบอกไปกับหมอคนแรก ต่อจากนั้นก็เริ่มดูผลของ Ekg  ผลออกมาเป็นปรกติ ส่วนผล MRI ที่ต้องลุ้นหนักนั้น ก็ต้องรอหมอเปิดระบบเพื่อดูภาพ X-ray ผ่านคอมพิวเตอร์

หมอพยายามคลิกเปิด-ปิด โปรแกรมอยู่หลายรอบ ก็ไม่สามารถเปิดได้จึงเรียกพยาบาลเข้ามาช่วย ก็ไม่สามารถเปิดได้เช่นกัน ช่วงนั้นก็ถือว่าตื่นเต้นมาก ๆ เพราะกลัวว่าจะเป็นอะไรหนักหรือป่าวเนื่องจากการตรวจ MRI นั้นเป็นการตรวจแบบละเอียด และคิดในใจกับตัวเองตลอด 6 เดือนที่ผ่านมาว่าน่าจะเกี่ยวกับสมองแน่ๆ  เนื่องจากเป็นอาการที่ไม่หายมา 6 เดือนแล้ว หลังจากนั้นหมอก็เดินไปดูผลตรวจอีกห้องนึงเนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์ในห้องตรวจที่ผมอยู่ใช้ไม่ได้ หมอเข้าไปประมาณ 15 นาทีก่อนจะเดินเข้ามาที่ห้องด้วยสีหน้าเรียบเฉย ฉิบหายแล้วตูจะเป็นอะไรร้ายแรงหรือป่าวววะ !

“ผลก็ปรกติดีนี่”  เหมือนเสียงสวรรค์จากหมอ แต่ก็ถือว่า เป็นผลที่ทำให้ตัวผมนั้นคิดหนักเพราะต่อจากนี้มันคืออะไรกับอาการที่เราเจอมาตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งทรมานกับการใช้ชีวิตกับมันมาก ๆ  หลังจากนั้นหมอก็ถามเรื่องอาการอีกครั้ง ให้อธิบายอาการให้ละเอียด ผมก็แจ้งไป หลังจากนั้น หมอก็บอกว่าอาการคุณปรกติดี ไม่เกี่ยวกับหัวใจและสมอง ( คิดในใจว่าอ้าวแล้วมันเกิดจากอะไรครับหมอ)  หมอก็นิ่งอยู่พักนึงก่อนบอกว่า ลองไปปรึกษาคลินิกจิตเวชมั๊ย อาการมันไม่น่าจะใช่ อาการทางร่างการแล้วนะ มันมีอาการที่ใกล้เคียงคือ panic คุณจะตรวจที่นี่เลยก็ได้ถ้าสะดวก มีคลินิกอยู่ข้าง  ๆ  เดี๋ยวหมอจะ consult ไปให้

Blog Series : JT8704 Flight เปลี่ยนชีวิต

Img Ref : wisegeekhealth.com