ต้องเรียกได้ว่าแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลยทีเดียวหลังการเปิดตัว Disney Plus + Hotstar เมื่อคืนที่ผ่านมา ด้วยการอัดแน่นไปด้วย content คุณภาพในบริษัทเครือข่ายของ Disney
ต้องบอกว่าเป็นเริ่มเป็นธุรกิจที่มีการแข่งแข่งเริ่มดุเดือดกันเลยทีเดียวสำหรับบริการ Streaming ที่เมื่อก่อนเราอาจจะเห็นทางฝั่งของ Netflix เป็นเจ้าตลาดยึดครองตลาดอยู่เพียงแห่งเดียว
Bob Iger CEO ของ Disney กล่าวซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าเป็น Disney Plus เป็นลำดับความสำคัญสูงสุด ของ Walt Disney Company
Disney ภายใต้การนำของประธานและซีอีโอ Iger ได้ปรับโครงสร้างส่วนปฏิบัติการและปรับตำแหน่งผู้บริหารเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตของการ Streaming
ก่อนหน้านี้ Disney ได้ลงทุนมหาศาลในด้านโครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิค และ Igner เองก็ได้เขย่าวงการฮอลลีวูดในปี 2017 ด้วยการเข้าซื้อกิจการ Fox ของรูเพิร์ต เมอร์ด็อก
ในเดือนสิงหาคม 2016 Disney ได้เข้าถือหุ้นใน BAMTech (ซึ่งแยกออกจากธุรกิจเทคโนโลยีสตรีมมิ่งของ MLB Advanced Media ) มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดของบริการ Streaming อย่าง Disney Plus
หลังจากการซื้อ ESPN ได้ประกาศแผนสำหรับเทคโนโลยี ( ESPN+ ) เพื่อแทนที่บริการที่ฉายทางโทรทัศน์ในรูปแบบเดิม ๆ ผ่านโครงสร้างพื้นฐานอันแข็งแกร่งที่พวกเขาเพิ่งได้ take over มา
แม้ว่า Netflix จะสามารถระดมทุนได้อย่างมหาศาล และเริ่มสร้าง original content เป็นของตนเอง และถือว่าทำได้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ตัวเลขของสมาชิกก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
แต่การเข้ามาของ Disney Plus ต้องบอกว่า มาได้ถูกจังหวะเวลาเป็นอย่างยิ่ง การเกิดขึ้นของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 นั้นทำให้คนทั้งโลกถูก lockdown
ซึ่งมันคงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการเสพสื่อบันเทิงผ่านบริการ Streaming Service เหล่านี้ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และทำให้ Disney Plus นั้น สร้างฐานสมาชิก 50 ล้านคนในเวลาเพียงแค่ 6 เดือนเพียงเท่านั้น
ทั้งที่เป้าหมายเดิมของ Disney ตัวเลข 50 ล้านคนของจำนวนสมาชิกนั้นพวกเขาวางไว้ในปี 2024 เรียกได้ว่า COVID-19 นั้นช่วยลดระยะเวลาการเข้าสู่ตลาด Mass ของ Disney ได้ถึง 4 ปีเลยทีเดียว
ด้วยจุดแข็งที่สำคัญที่สุดของ Disney ด้วยจำนวน content ที่มีมหาศาล ทำให้พวกเขาไม่ต้องกังวลกับการที่จะต้องสร้าง content ใหม่ตลอดเวลาเหมือนที่ Netflix กำลังประสบอยู่ในตอนนี้
แน่นอนว่าเมื่อเจอคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Disney ทำให้ Netflix เองก็ต้อง Speed ตัวเองให้เร็วขึ้น ซึ่ง content ของพวกเขาหลายส่วนก็มาจากค่ายยักษ์ใหญ่แห่งนี้ ที่ต้องส่งคืนกลับต้นสังกัดทั้งหมด
Disney เองได้ประกาศสร้างภาพยนตร์และรายการทีวีใหม่กว่า 105 เรื่องสำหรับ Disney Plus ซึ่งจะทยอยออกมาในอีก 2-3 ปีข้างหน้า แน่นอนว่า Disney เองไม่ต้องลงไปเล่นสงครามกับ Netflix ด้วยรายการใหม่ 30 รายการที่จะออกทุกวันศุกร์แบบที่ Netflix ทำ
ด้วยทีมงานเบื้องหลังแบรนด์ยักษ์ใหญ่ 4 แบรนด์ของ Disney อย่าง Disney , Marvel , Lucasfilm และ Pixar รวมถึง Fox , Fox Searchlight และ National Geographic มันคือทีมงานระดับคุณภาพที่มีเหนือ Netflix ที่เติบโตมาจากธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีเสียมากกว่าการมีรากฐาน DNA ของบริษัทบันเทิงอย่างที่ Disney เป็น
หลัง COVID-19 เครื่องจักรทำเงินของ Disney จะเร่งเครื่องเต็มที่
อย่างที่เราทราบตอนนี้ สวนสนุกของ Disney ทุกแห่งปิดให้บริการเนื่องจาก COVID-19 ซึ่งในรายงานทางการเงินฉบับล่าสุด บริษัทยังรายงานถึงการหยุดชะงักในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งทำให้การขายสินค้าที่เป็นรายได้หลักต้องหยุดชะงักไป
การระบาดครั้งใหญ่ทำให้ แหล่งทำเงินใหญ่ที่สุดของ Disney ต้องหยุดชะงัก นั่นเป็นเหตุผลที่ Disney ไม่สามารถที่จะต่อยอดธุรกิจเพื่อสร้างกำไรทั้งหมดจากฐานแฟน ๆ ของ Disney Plus ได้ ผ่านสินค้าที่ระลึกต่าง ๆ รวมถึงธุรกิจสวนสนุก
แต่ในที่สุดโรคระบาดก็จะผ่านพ้นไป สวนสนุกของ Disney จะกลับมาคึกคักอีกครั้งด้วยเด็กๆ หลายล้านคน ของเล่นของ Disney จะขายดีอย่างถล่มทลายอีกครั้งจากแฟน ๆ ที่ติดตาม content ผ่าน Disney Plus และเครื่องจักรทำเงินของ Disney จะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งและแน่นอนว่ามันจะมีพลังมากขึ้นกว่าเดิมอย่างมหาศาล
และที่สำคัญ อาวุธหลักของ Disney มันมีมากกว่าแค่เพียงบริการ Streaming อีกไม่นานเด็ก ๆ หลายล้านคนเหล่านี้จะขอพ่อแม่ของพวกเขาสำหรับซื้อของเล่นของที่ระลึกอย่างดาบไลท์เซเบอร์สตาร์วอร์สที่ราคาสุดแพง และทริปวันเกิดที่ Disney Land
และพ่อแม่ที่ชอบใจจะยัดเยียดเงินเข้ากระเป๋าของ Disney ด้วยเงินหลายพันล้านเหรียญ นี่คือที่ที่ศักยภาพที่แท้จริงของ Disney Plus รออยู่นั่นเองครับผม
References : https://en.wikipedia.org/wiki/Disney%2B
https://www.forbes.com/sites/danrunkevicius/2020/07/08/disney-master-plan-with-disney-plus-that-no-one-is-talking-about
https://variety.com/2019/biz/features/disney-plus-streaming-plans-bob-iger-1203120734/
https://www.fastcompany.com/90607786/how-disney-plus-is-winning-by-ripping-up-the-streaming-playbook
https://adage.com/article/cmo-strategy/netflix-already-feeling-impact-disney/2164726