แม้ว่าทาง Apple จะสร้าง iPod ให้กลายเป็นสินค้ายอดฮิตยอดขายถล่มทลาย กลายเป็นปรากฏการณ์ไปทั่วโลก แต่ในปี 2004 หากพูดถึงบริษัทอย่าง Apple กับธุรกิจโทรศัพท์มือถือนั้น คงไม่มีใครคาดคิดว่า Apple บริษัทที่เริ่มต้นด้วยการขายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลนั้นจะพลิกธุรกิจมาลุยในตลาดมือถืออย่างแน่นอน
สิ่งแรกคือเรื่องของ Knowhow ต่าง ๆ ในเรื่องมือถือ นั้น ต้องเรียกได้ว่า Apple แทบจะไม่เคยย่างกายเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้เลยด้วยซ้ำ และการครองตลาดอย่างเบ็ดเสร็จของ Nokia ที่มีทีมงานที่พร้อมทุกอย่างทั้งเรื่อง Hardware , Software รวมถึง Knowledge ด้านโทรคมนาคม คงเป็นเรื่องยากที่ใครจะสามารถล้ม Nokia ลงได้ในขณะนั้น
ซึ่งแน่นอนว่า ROKR นั้นมันคือหายนะอย่างสิ้นเชิง สำหรับ Apple ในการที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดโทรศัพท์มือถือ ทำให้ จ็อบส์นั้นหงุดหงิดหัวเสียกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และเป็นแรงผลักดันที่สำคัญที่ต้องการจะตัดคนกลางทั้งหลายออกจากวงจรนี้
Apple นั้นต้องการควบคุมทุกอย่างแบบเบ็ดเสร็จ แบบที่พวกเขาทำได้กับ iPod ทั้ง Hardware , Software หรือแม้กระทั่งเครือข่ายโทรศัพท์ก็ตาม และสามารถที่จะนำผลิตภัณฑ์ของ Apple ส่งไปถึงมือของลูกค้าได้โดยตรงนั่นเอง
และไม่ใช่ว่าในช่วงนั้นจะไม่มีคู่แข่งเลยเสียทีเดียวสำหรับ บริษัทมือถือที่ต้องการเข้ามาลุยในตลาดเพลง แน่นอนว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Nokia ก็ได้ออก Nokia N91 ที่สามารถเก็บเพลงได้กว่า 1,000 เพลง คล้าย ๆ iPod Mini แต่สุดท้าย Nokia ก็ไม่สามารถที่จะผลักดันตัวเองให้เข้าไปสู่ธุรกิจเพลงอย่างที่คาดหวังได้เช่นกัน เพราะเหล่าค่ายโทรศัพท์มือถือในสหรัฐอเมริกาไม่ยอมนั่นเอง
Nokia N91 ที่ออกมาท้าชนในตลาดเดียวกับ (CR:IMEI.info)
ซึ่งเราจะเห็นได้ถึงบทสรุปของการลุยเข้าไปสู่ตลาดมือถือของ Apple ครั้งแรกนั้น ต้องจบลงด้วยความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เพราะ ROKR ไม่ได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีเหมือนที่ลูกค้าคาดหวังจาก Apple และเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความตกต่ำของ Motorola ในคราเดียวกัน
แต่อย่างน้อย ROKR ได้กลายเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าของทีมงาน Apple ทุก ๆ คนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตัวจ็อบส์เอง และมันได้ทำให้จ็อบส์นั้นค้นพบว่า Apple ควรทำอะไรที่แท้จริงในตลาดโทรศัพท์มือถือ
ซึ่งแน่นอนว่าจ็อบส์จะไม่ยอมให้ใครมาครอบงำการสร้างผลิตภัณฑ์ของ Apple อีกต่อไปมันได้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ว่าหาก Apple ไม่สามารถ Control ทุกอย่างได้เหมือนที่พวกเขาเคยทำ หายนะก็มาเยือนอย่างที่ประสบพบเจอกับมือถือ ROKR นั่นเอง
ทีมงานเริ่มสร้างแอปที่มีความทะเยอทะยานมากขึ้นด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลเพื่อรวบรวมและจัดระเบียบรูปแบบเนื้อหามากมายจากอินเทอร์เน็ต แอปที่ขับเคลื่อนโดย Big Data และ Machine Learning ที่จะให้บริการผู้คนด้วยฟีดที่ปรับแต่งตามความชอบส่วนบุคคลด้วยเทคโนโลยี AI แบบไม่ต้องพึ่งพามนุษย์
ในขณะที่เทคโนโลยีกำลังก้าวไปข้างหน้า เขารู้สึกว่ามนุษย์จะถูกกำจัดออกจากกระบวนการจัดการข่าวทั้งหมด และแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติที่ใช้ประโยชน์จาก Big Data และ Machine Learning
Google พบขุมทรัพย์ทำเงินใหม่ผ่านอัลกอริธึม Machine Learning พวกเขาได้พัฒนาพวกมันขึ้นไปอีกขั้น โดยสิ่งที่เรียกว่า Google Brain ซึ่งพัฒนาโดยกลุ่ม Moonshot อันโด่งดังของบริษัท Google X ที่นำโดยศาสตราจารย์ Andrew Ng จากสแตนฟอร์ด
Andrew Ng มหาเทพด้าน Machine Learning อันดับต้น ๆ ของโลก (CR:Tech in Asia)
Google Brain ใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าครั้งใหม่ของเทคโนโลยี Deep Learning แม้ผลกระทบจาก Sibyl นั้นจะน่าประทับใจ แต่ผลกระทบจาก Google Brain นั้นสร้าง Impact ที่สูงกว่ามาก
สำหรับโปรไฟล์เนื้อหา Cao ได้ยกตัวอย่างบทความข่าวเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษระหว่างลิเวอร์พูลกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดยคำหลักจะถูกดึงออกมาจากบทความโดยใช้เทคโนโลยี Natural Language Processing (NLP)
การทำธุรกิจกับเพื่อนถือว่าเป็น case study ในเรื่องปัญหาที่มักจะตามมาในภายหลังซึ่งมีน้อยคนนักที่สามารถทำธุรกิจร่วมกับเพื่อนแล้วจะประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สบาย ๆ อย่างที่หลายคนคิด โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องเงินและความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มักจะเข้ามารบกวนการทำธุรกิจอยู่เสมอ
แต่ปัญหาใหญ่ในการรวมบริษัท ก็คือ วัฒนธรรมที่แตกต่าง แม้กระทั่ง เทคโนโลยีที่แทบจะต่างกันคนละขั้ว confinity นั้นใช้ open source อย่าง Linux ส่วน X ของ Musk ขับเคลื่อนโดย Windows Server รวมถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมาก ๆ ซึ่งมันแทบจะแบ่งแยกชนชั้นศักดินากันระหว่างฝั่งที่ศรัทธาใน Linux และอีกฝั่งที่ศรัทธาใน Windows
และเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อ Peter Thiel ที่ดำรงตำแหน่งรองประธานด้านการเงินหลังจากควบรวม ได้ส่ง email แจ้งให้กับพนักงานทราบว่าเขาได้ลาออกจากตำแหน่งรองประธานบริหารของ X (บริษัทที่ควบรวม)
ในระหว่างที่ PayPal กำลังเติบโตได้สวยงามนั้น ก็เกิดความไม่ลงรอยกันระหว่าง Bill Harris กับ Peter Thiel อย่างรุนแรง ในเรื่องแนวความคิดในการนำพาบริษัทก้าวต่อไปในหลาย ๆ เรื่อง ทำให้สุดท้าย Thiel ต้องเป็นฝ่ายถอยออกไป
Bill Harris ที่มีปัญหาไม่ลงรอยกับ Peter Thiel (CR:The Business Journals)
ฟากฝั่ง Elon Musk นั้น ก็เริ่มได้ฟังเสียงบ่นจากเหล่าทีมบริหารที่เริ่มไม่พอใจกับผลงานของ Bill Harris เช่นเดียวกัน บริษัทกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเป็นอย่างยิ่ง การควบรวมที่ไม่เป็นไปตามแผน
Musk จึงได้เรียกประชุมคณะกรรมการฉุกเฉิน เพื่อทำการขับไล่ชายที่เขาจ้างมาช่วยดูแลในฐานะ CEO เมื่อหกเดือนก่อน และสุดท้าย Bill Harris ก็ต้องเป็นฝ่ายที่ต้องจากลาไปอีกหนึ่งคน
หลังจากนั้น Musk ก็ได้เข้ามาดูแลทั้งสองบริษัทในฐานะ CEO แบบเต็มตัว สิ่งที่ Musk โฟกัสเป็นอันดับแรกคือ ทีมที่ดูแลด้านผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซึ่ง Musk นั้นได้ให้ David Sacks เข้ามาดูแลในส่วนนี้
ปัญหาต่าง ๆ เริ่มรุมเร้าตัว Musk ทันที ซึ่งสถานการณ์ของบริษัท กำลังจะอยู่ในจุดวิกฤติในทุก ๆ ด้าน เหล่าวิศวกรยังทะเลาะกันอย่างไม่จบสิ้นในเรื่องสถาปัตยกรรมที่แตกต่างระหว่าง Linux และ Windows Server
และต้องการให้ตั้ง Peter Thiel กลับมาเป็น CEO แทน และสร้างเอกสารขึ้นมาเพื่อบังคับให้กรรมการบริษัท พร้อมใบลาออกของพวกเขาหากคณะกรรมการปฏิเสธที่จะกระทำการดังกล่าว
Max Levchin และ Reid Hoffmann เป็นกำลังหลักในการล้มล้าง Elon Musk (CR: The Business Journals)
Max ได้รวมรวมทีมงานที่เป็นวิศวกรทั้งหมด ตอนนี้สถานการณ์ของ Musk นั้นอยู่บนเส้นด้ายแล้ว ซึ่งวันรุ่งขึ้น ทั้งสามคนได้รวมเอาจำนวนพนักงานทั้งหมดพร้อมลายเซ็นต์ และได้ร่างคำร้องไปยังคณะกรรมการ และไปยังห้องทำงานของคณะกรรมการอย่าง Mike Moritz เพื่อนำเสนอเรื่องดังกล่าว
ดูเหมือนกลุ่มกบฏจะอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ เนื่องจาก Max ซึ่งเป็นพนักงานคนเดียวที่มีเก้าอี้ในคณะกรรมการ ที่นอกเหนือจาก Musk พร้อมที่จะลงคะแนนเพื่อดึง Peter Thiel กลับมา
ส่วน Musk นั้นต้องการการสนับสนุนจากกรรมอิสระอย่างน้อยสองในสามคน : Moritz จาก Sequoia Capital , John Malloy จาก Nokia Ventures และ Tim Hurd จาก Medison Dearborn
และมันทำให้อิทธิพลของ Musk ต่อ X นั้นลดลงไปอย่างรวดเร็ว ในเดือน มิถุนายน ปี 2001 X ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็น PayPal แทน และ Peter Thiel กลับมาเป็น CEO ของบริษัทอีกครั้ง
ซึ่งสุดท้าย เหล่าคณะกรรมการของบริษัทเลือกวิธีการประนีประนอม ที่ทำให้ Thiel นั้นกลับมารับตำแหน่ง CEO ชั่วคราว เพื่อรอการค้นหาผู้บริหารเต็มรูปแบบสำหรับ CEO คนใหม่
References : หนังสือ Elon Musk Tesla ,SpaceX , and the Quest for a Fantastic Future เขียนโดย Ashlee Vance หนังสือ The Engineer : Follow Elon Musk on a journey from South Africa to Mars โดย Erik Nordeus หนังสือ The PayPal Wars โดย Eric M.Jackson https://finance.yahoo.com/news/elon-musk-dethroned-peter-thiel-130048628.html