Unicorns บริษัทที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญ มันไม่ได้เกิดขึ้นมาง่าย ๆ แต่ชายอย่าง Uri Levine ผู้ร่วมก่อตั้ง Waze ได้สร้างขึ้นมาถึงสองบริษัท ในหนังสือ Fall in Love with the Problem, Not the Solution เขาแสดงให้เห็นว่าเขาทำได้อย่างไร ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง Waze ซึ่งเป็นแอปการเดินทางและการนำทางชั้นนำของโลกที่มีผู้ใช้มากกว่า 700 ล้านคนในปัจจุบัน และ Google ซื้อกิจการในปี 2013 ด้วยมูลค่า 1.15 พันล้านดอลลาร์
มีผู้เชี่ยวชาญมากมายได้ให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวที่มีความสำคัญพอ ๆ กัน ทั้งความโปร่งใสในการฝึกอบรมข้อมูล และ การกำหนดกรอบที่ชัดเจนสำหรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ AI
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจที่ยังไม่มีการพูดถึงก็คือ เมื่อคำนึงถึงเศรษฐศาสตร์ของการสร้างโมเดล AI ขนาดใหญ่ อุตสาหกรรมอาจได้เห็นการเกิดขึ้นของการผูกขาดทางเทคโนโลยีประเภทใหม่นี้ได้เช่นเดียวกัน
ซึ่งการควบคุม AI นั้น ควรเป็นความร่วมมือระหว่างนักวิชาการ อุตสาหกรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบาย และหน่วยงานระหว่างประเทศ
ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเปรียบเทียบแนวทางดังกล่าวนี้กับ องค์กรระหว่างประเทศ เช่น European Organization for Nuclear Research หรือที่รู้จักกันในชื่อ CERN หรือ องค์กรพัฒนาเอกชนที่เกี่ยวข้องกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ภาคประชาสังคม อุตสาหกรรม และผู้กำหนดนโยบาย เช่น Internet Corporation for Assigned Names and Numbers และ World Telecommunication Standardization Assembly ตัวอย่างเหล่านี้เป็นแบบจำลองสำหรับอุตสาหกรรมและผู้กำหนดนโยบายในปัจจุบัน
ผู้ออกใบอนุญาต ไม่ควรเป็นองค์กรธุรกิจ
แม้ว่า Altman จาก OpenAI จะแนะนำว่าบริษัทต่าง ๆ สามารถได้รับอนุญาตให้เผยแพร่เทคโนโลยี AI สู่สาธารณะ แต่เขาก็ชี้แจงว่าเขาหมายถึง เทคโนโลยี AI ทั่วไป
เทคโนโลยี AI ที่ควรได้รับการออกใบอนุญาติ คือ AI ในอนาคตที่มีศักยภาพซึ่งจะมีสติปัญญาเหนือกว่ามนุษย์ซึ่งอาจจะเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ มันคล้ายกับบริษัทที่ได้รับสัมปทาน หรือ ใบอนุญาตในเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เป็นอันตราย เช่น พลังงานนิวเคลียร์
ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ได้กล่าวว่า ปัญหาเรื่องความลำเอียงและความเป็นธรรมของ AI ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการเทคนิคเพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องมีแนวทางปฏิบัติในการลดความเสี่ยงที่ครอบคลุมมากขึ้น
การเสริมสร้างกฎหมายที่มีอยู่เกี่ยวกับความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และการคุ้มครองผู้บริโภค จะช่วยให้ระบบ AI ซับซ้อนน้อยลง สิ่งที่สำคัญก็คือต้องมีความตระหนักว่าความรับผิดชอบและความโปร่งใสของข้อมูลที่มากขึ้นอาจะกำหนดข้อจำกัดใหม่ๆ ให้กับองค์กรเช่นเดียวกัน
ต้องมีกรอบการทำงานเพื่อรับรู้ถึงอันตรายของการทำงานของ AI ในสาขาต่าง ๆ เช่น การจ้างงาน การประกันภัย และการดูแลสุขภาพ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับใบอนุญาต เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการยุติธรรมมีความยุติธรรมเพียงพอและปกป้องในเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องมีการถกเถียง ระหว่าง นักพัฒนา AI และผู้กำหนดนโยบาย และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการนำ AI ไปใช้ในวงกว้าง เช่นเดียวกัน
ไลน์รองเท้าผ้าใบ Nike Air Jordan เปิดตัวในปี 1985 และพลิกโฉมธุรกิจบาสเก็ตบอลของ Nike ได้อย่างน่าทึ่ง ก่อนที่ Air Jordan จะเปิดตัว Nike มีส่วนแบ่งในตลาดรองเท้าบาสเก็ตบอลเพียง 18% อย่างไรก็ตาม แบรนด์ Air Jordan ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่นักกีฬาและผู้ที่ชื่นชอบรองเท้าผ้าใบ และส่วนแบ่งการตลาดของ Nike ก็เพิ่มสูงขึ้นเป็น 43% ในปี 1987
Air – Courting a Legend ภาพยนต์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวการตามล่าลายเซ็น Michael Jordan ของ Nike ที่นำแสดงโดย Matt Damon, Ben Affleck และ Viola Davies บอกเล่าเรื่องราววิธีที่ Nike พัฒนารองเท้า Air Jordan สำหรับ Michael Jordan เพื่อช่วยให้เขาเล่นได้ดียิ่งขึ้นในสนามบาสเก็ตบอล และยังผลักดันให้ Air Jordan กลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
เป็นอีกหนึ่งบทความที่น่าสนใจจาก The Economist ที่รอบนี้ เป็นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI จาก Yuval Noah Harari นักเขียนชื่อดังจากหนังสือยอดนิยมอย่าง Sapiens: A Brief History of Humankind
Yuval มองว่า AI ได้ทำการหลอกหลอนมนุษยชาติตั้งแต่เริ่มยุคของคอมพิวเตอร์ ความกลัวในยุคเก่า ๆ นั้นอาจจะมองมันเป็นหุ่นยนต์เหมือนในภาพยนต์ hollywood ชื่อดัง ที่จะมาเข่นฆ่ามนุษย์เรา
แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทุกสิ่งทุกอย่างมันเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเครื่องมือ AI ใหม่ ๆ กำลังคุกคามความอยู่รอดของอารยธรรมมนุษย์ในสิ่งที่ไม่มีใครคาดถึง
AI ยุคใหม่โดยเฉพาะเทคโนโลยีอย่าง Generative AI มีความสามารถที่โดดเด่นในการสร้างภาษา ไม่ว่าจะเป็น คำพูด เสียง หรือภาพ มันจึงเปรียบเสมือนการที่ AI กำลังเจาะระบบปฏิบัติการของอารยธรรมมนุษย์เรา
ต้องบอกว่า ภาษา นั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นจากวัฒนธรรมเกือบทั้งหมด ซึ่งแตกต่างจากสิ่งอื่น ๆ เช่น สิทธิมนุษยชนที่ไม่ได้อยู่ใน DNA ของมนุษย์เรา แต่เป็นสิ่งประดิษฐ์ทางวัฒนธรรมที่เราสร้างขึ้นโดยการบอกเล่าเรื่องราวและเขียนกฎหมายเพื่อสร้างมันขึ้นมา
แต่ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นลัทธิแรกในประวัติศาสตร์ที่เขียนเรื่องราวที่น่าเชื่อถือ ที่ดูเหมือนเป็นเรื่องจริง แต่มันถูกสร้างโดย AI แทบจะทั้งสิ้น เปรียบเสมือนกับศาสนาที่ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาได้อ้างอิงสิ่งที่เว่อร์เกินจริงในพระคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา ซึ่งอีกไม่นานเรื่องราวเหล่านี้กำลังจะเกิดง่ายดายยิ่งขึ้นผ่าน AI
ในไม่ช้า มนุษย์เราอาจพบว่าตัวเองกำลังถกเถียงบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำแท้ง การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การรุกรานยูเครน หรือแม้กระทั่งเรื่องของการฝักใฝ่ในเรื่องการเมือง กับสิ่งที่เราคิดว่าเป็นมนุษย์ แต่แท้จริงแล้วคือ AI
ในขณะที่เราถกเถียง แน่นอนว่า มันเป็นเรื่องยากที่เราจะไปถกเถียงกับ AI ที่มีความคิดที่ลึกซึ้งและเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ ได้ดีกว่าเรามาก ๆ แต่ในขณะเดียวกัน AI สามารถหลอกล่อโดยปรับแต่งเรื่องราวได้อย่างแม่นยำจนพวกมันจะมีอิทธิพลต่อความคิดของเราในท้ายที่สุด
ด้วยความเชี่ยวชาญด้านภาษาระดับเทพของ AI นั้น ทำให้พวกมันสามารถสร้างความใกล้ชิดกับผู้คน และใช้พลังของความใกล้ชิดเพื่อเปลี่ยนความคิดและโลกทัศน์ของเรา
ในการต่อสู้ทางการเมือง ความใกล้ชิดเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพที่สุดและ AI มีความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับผู้คนนับล้าน
เราทุกคนต่างทราบดีว่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สื่อสังคมออนไลน์ได้กลายเป็นสมรภูมิในการควบคุมความสนใจของมนุษย์ และด้วย AI ยุคใหม่ มันจะเปลี่ยนจากความสนใจไปสู่ความใกล้ชิด
จะเกิดอะไรขึ้นกับสังคมมนุษย์และจิตวิทยาของมนุษย์ เมื่อ AI ต้องต่อสู้กันเพื่อแกล้งสร้างความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกับเรา ซึ่งสามารถนำมาใช้เพื่อโน้มน้าวให้เราลงคะแนนให้นักการเมืองคนใดคนหนึ่งหรือซื้อผลิตภัณฑ์บางอย่างได้
เครื่องมือ AI ใหม่จะมีอิทธิพลอย่างมากต่อความคิดเห็นและโลกทัศน์ของเรา ผู้คนอาจใช้ที่ปรึกษา AI เป็นเหมือนเทพยากรณ์ที่มีความรอบรู้ในที่เดียว
การปฏิวัติ AI กำลังนำพามนุษย์เราเผชิญหน้ากับปีศาจของเดส์การตส์ ถ้ำของเพลโต และโลกแห่งมายา หากเราไม่ระวัง เราอาจติดอยู่หลังม่านแห่งภาพลวงตา ซึ่งเราไม่สามารถที่แยกออกได้ หรือแม้แต่ตระหนักว่ามันมีอยู่จริง
แต่แน่นอนว่า AI สามารถช่วยเราได้มากมายนับไม่ถ้วน ตั้งแต่ การค้นหาวิธีรักษามะเร็งใหม่ ๆ ไปจนถึงการค้นพบวิธีแก้ไขวิกฤติทางนิเวศวิทยา
เรายังสามารถควบคุม เครื่องมือ AI ใหม่ได้ แต่เราต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพราะ AI สามารถที่จะสร้าง AI ใหม่ที่ทรงพลังขึ้นแบบทวีคูณ ขั้นตอนสำคัญอันดับแรกคือต้องตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวดก่อนที่เครื่องมือ AI อันทรงพลังเหล่านี้ จะเผยแพร่ออกไปสู่คนหมู่มาก
มันไม่ต่างจากบริษัทยาที่ไม่สามารถออกผลิตภัณฑ์ยาชนิดใหม่ได้ก่อนที่จะทำการทดสอบผลข้างเคียงทั้งระยะสั้นและระยะยาว ดังนั้นบริษัทเทคโนโลยีจึงไม่ควรออก เครื่องมือ AI ใหม่ ก่อนที่มันจะถูกตรวจสอบว่ามีความปลอดภัยเพียงพอ
การใช้งาน AI ที่ไม่ได้รับการควบคุมจะสร้างความสับสนวุ่นวายในสังคม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้มีอำนาจเผด็จการและทำลายระบอบประชาธิปไตย
เพราะประชาธิปไตยคือการสนทนา และการสนทนาต้องอาศัยภาษา เมื่อ AI เข้าแฮ็กภาษาของมนุษย์เราได้ พวกมันอาจจะทำลายความสามารถของเราในการสนทนาที่มีความหมาย ซึ่งจะเป็นการทำลายประชาธิปไตยในท้ายที่สุดนั่นเองครับผม