Vision Fund เป็นกองทุนร่วมลงทุนขนาดมหึมาถึง 100 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งใหญ่กว่ากองทุนอื่นๆ กว่า 4 เท่า วัตถุประสงค์หลักของกองทุนนี้คือการลงทุนในเทคโนโลยี AI และบริษัทที่นำ AI มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ
การระดมทุนสำหรับ Vision Fund เป็นเรื่องที่น่าทึ่ง มาซาโยชิสามารถระดมทุนเบื้องต้น 45 พันล้านดอลลาร์จากซาอุดีอาระเบียภายในเวลาเพียง 45 นาที นอกจากนี้ ยังมีเงินลงทุนจาก SoftBank เอง รวมถึงจากอาบูดาบี และบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple และ Foxconn
อย่างไรก็ตาม Vision Fund ก็ไม่ได้ปราศจากข้อวิพากษ์วิจารณ์ หลายคนกล่าวหาว่ามาซาโยชิกำลังสร้างฟองสบู่ขนาดใหญ่และบิดเบือนมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทต่างๆ โดยการทุ่มเงินมหาศาลเข้าไปในบริษัทที่อาจไม่ได้เป็น “บริษัทเทคโนโลยี” อย่างแท้จริง
ดูเหมือนว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะสังเกตเห็นประโยชน์ของ AI ประเภทนี้ โดยกระทรวงกลาโหม, CIA และกระทรวงการต่างประเทศได้ใช้ AI เพื่อทำนายการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในต่างประเทศแล้ว
อดีตผู้บริหารของ Googleได้ออกมาเตือนถึงสิ่งที่นักวิจัยกำลังพัฒนาเทคโนโลยี AI และยิ่งไปกว่านั้น เขาบอกว่ามันกำลังเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อมนุษยชาติ
Mo Gawdat อดีตประธานเจ้าหน้าที่ธุรกิจสำหรับองค์กร Moonshot ของ Google หรือ Google X ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะไทม์
เขาเชื่อว่าปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (AGI) ซึ่งเป็น AI ที่ทรงพลังและมีความรู้สึกที่เห็นในนิยายวิทยาศาสตร์อย่าง Skynet จาก “The Terminator” เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเมื่อมันเกิดขึ้น เราอาจพบว่าตัวเองกำลังจ้องมองวันโลกาวินาศที่เกิดจากเครื่องจักรที่เปรียบเหมือนพระเจ้า
Gawdat บอกกับ เดอะไทม์ ว่าเขาได้รับข้อมูลที่น่ากลัวในขณะที่ทำงานร่วมกับนักพัฒนา AI ที่ Google X ซึ่งสร้างอาวุธหุ่นยนต์ที่สามารถค้นหาและหยิบลูกบอลขนาดเล็กได้ หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง Gawdat กล่าวว่าแขนข้างหนึ่งของหุ่นยนต์คว้าลูกบอลและดูเหมือนจะยกมันขึ้นเพื่อแสดงให้นักวิจัยเห็น ด้วยท่าทางที่สำหรับเขาดูเหมือนว่ามันกำลังแสดงออกทางด้านอารมณ์ออกมา
พวกมันสามารถกลายเป็นฮีโร่ของเราได้เช่นกัน แต่โปรดจำไว้ว่า AI ต่างจากมนุษย์ที่มีระบบค่านิยมและศีลธรรมที่ทำให้เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะเผชิญกับความขัดแย้งกันที่มีความตึงเครียดมากมายขนาดไหนก็ตามที
แต่หาก AI ได้รับมอบหมายให้แก้ไขยาก ๆ เช่น ปัญหาภาวะโลกร้อน วิธีแก้ปัญหาแรกที่น่าจะเกิดขึ้น ก็คือการจำกัดวิถีชีวิตที่สิ้นเปลืองของมนุษย์เรา หรือแม้แต่กำจัดมนุษยชาติไปโดยสิ้นเชิงเลยก็เป็นได้
แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เครือข่าย Social Media ยักษ์ใหญ่ในตอนนี้ แทบจะไม่มีมนุษย์คอยควบคุมมันอีกต่อไป เพราะมันได้ปล่อยให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้ด้วยเทคโนโลยี AI ที่มีความซับซ้อนสูงที่ขึ้นเรื่อย ๆ
ซึ่งผมก็เคยเขียนเรื่องราวเหล่านี้ไปในหลายโพสต์ แม้กระทั่งผู้นำด้านการพัฒนา AI ของ Facebook เอง ก็ยังไม่รู้ว่าจะแก้ไขมันอย่างไร
เพราะมีน้อยคนนัก แม้กระทั่งวิศวกรระดับอัจฉริยะของบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้เองก็ตามที่จะเข้าใจได้ว่า คอมพิวเตอร์ หรือ AI เหล่านี้มันกำลังจะทำอะไรอยู่ ซึ่งเทคโนโลยีด้าน AI เหล่านี้ มีความคิดเป็นของตนเอง ถึงแม้ว่าจะมีมนุษย์เป็นผู้เขียน Code ให้กับมันก็ตามที
ดังนั้นมันคือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ตอนนี้เราอาจจะอยู่ในโลกที่ มนุษย์เราเองนั้น ไม่สามารถที่จะไปควบคุมระบบเหล่านี้ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะเป็นฝ่าย AI ต่างหากที่ควบคุมข้อมูลของพวกเราอยู่นั่นเองครับผม