Geek Book EP28 : The Hundred-Year Marathon กลยุทธ์ลับของจีนในการแทนที่อเมริกาในฐานะมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก

Michael Pillsbury ผู้เชี่ยวชาญจีนระดับแนวหน้าคนหนึ่งของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เปิดเผยกลยุทธ์ที่ซ่อนเร้นซึ่งกระตุ้นการเติบโตของประเทศจีน และกลวิธีที่ชาวอเมริกันถูกล่อลวงให้ช่วยจีนแซงหน้าในฐานะมหาอำนาจชั้นนำของโลก

เป็นเวลากว่าสี่สิบปีแล้วที่สหรัฐฯ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยรัฐบาลจีนสร้างเศรษฐกิจที่เฟื่องฟู พัฒนาขีดความสามารถทางวิทยาศาสตร์และการทหาร และก้าวขึ้นมามีบทบาทในเวทีโลก ด้วยความเชื่อที่ว่าการเติบโตของจีนจะนำความร่วมมือมาสู่อเมริกา ทั้งการทูตและการค้าเสรี แต่จะเป็นอย่างไรถ้า “ความฝันของจีน” ใหญ่กว่านั้นเพราะพวกเขาต้องการมาเป็นเบอร์หนึ่งแทนอเมริกา เหมือนกับที่อเมริกาเข้ามาแทนที่จักรวรรดิอังกฤษโดยแทบไม่ใช้กระสุนแม้แต่นัดเดียว

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
http://bit.ly/3K3JsmI

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
http://bit.ly/3zkS5EL

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
http://bit.ly/4395Ow7

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
http://bit.ly/3lXQSjy

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/1jL29C_7eTg

“บุญรอดฯ- OR” เขย่าตลาดเครื่องดื่ม เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ “ฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที” และ กาแฟพร้อมดื่ม “คาเฟ่อเมซอน” บรรจุขวด เสิร์ฟผู้บริโภค

“บุญรอดฯ” และ “OR” เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ หลังจากประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญเมื่อปีที่ผ่านมา ด้วยการ “ร่วมทุน” ผ่านบริษัทในเครือ เพื่อพัฒนาเครื่องดื่มพร้อมดื่ม(RTD)ออกสู่ตลาด ตอบสนองผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย

โดยมี 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ชาเขียว “ฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที” บรรจุขวด ที่ผ่านกระบวนการ Cold Brew สร้างความแตกต่างจากในตลาด ยกระดับรสชาติระดับพรีเมียม และ กาแฟพร้อมดื่ม “คาเฟ่อเมซอน” นำเสนอความพิถีพิถันของการสกัดกาแฟเพียง 27 วินาที เพื่อให้ได้ทั้งรสชาติ กลิ่น และความรู้สึกในการดื่มที่ใกล้เคียงกับกาแฟสดที่ร้านคาเฟ่อเมซอน 

โดยวันที่ 30 มีนาคม 2566 ผลิตภัณฑ์ชาเขียว  “ฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที” และ กาแฟพร้อมดื่ม “คาเฟ่อเมซอน” บรรจุขวด  ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก ภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด และคุณดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR  พร้อมด้วยนายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ และนายสมยศ คงประเวช รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจไลฟ์สไตล์ OR ตลอดจนนายวรภัทร ชวนะนิกุล วรภัทร ชวนะนิกุล Chief Financial Officer, and Chief Strategy Officer และนายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล Chief Marketing Officer บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัดร่วมงาน

นายภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า บุญรอดฯ มีประสบการณ์และความชำนาญในการทำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มยาวนานก้าวสู่ปีที่ 90 ไม่เคยหยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพตอบสนองผู้บริโภค  

โดยบริษัทบุญรอดฯ มีแบรนด์สินค้าคุณภาพที่ครองใจผู้บริโภคอันดับ 1 หลากหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่มสิงห์, น้ำแร่เพอร์ร่า, โซดาสิงห์, สิงห์ เลมอน โซดา ฯลฯ และในปี 2565 ที่ผ่านมา เป็นอีกก้าวสำคัญของบริษัทในการมุ่งมั่นพัฒนาสินค้า ด้วยการร่วมมือกับ ปตท.ค้าปลีกและน้ำมันหรือ OR นำความเชี่ยวชาญ จุดแข็งของทั้ง 2 ฝ่ายสร้างการเติบโตไปด้วยกัน และในปีนี้ได้ออก 2 ผลิตภัณฑ์ คือ ชาเขียวพร้อมดื่ม “ฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที” และ กาแฟพร้อมดื่ม “คาเฟ่อเมซอน” เสิร์ฟกลุ่มเป้าหมาย 

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสำเร็จรูปพร้อมบริโภค (RTD) ร่วมกับบุญรอดฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งของธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม (กลุ่ม Lifestyle) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของ OR ในการสร้างพันธมิตรเพื่อหาโอกาสขยายธุรกิจ (Strategic Alliance) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเครื่องดื่มของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วนและครอบคลุมยิ่งขึ้น (All Lifestyle) 

อีกทั้งยังสอดคล้องกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน SDG ในแบบฉบับของ OR หรือ OR SDG ในด้านการสร้างโอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ (D – DIVERSIFIED) ผ่านศักยภาพของ OR ที่จะเป็น Platform ในการกระจายโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายและครอบคลุม พร้อมเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

สำหรับผลิตภัณฑ์ชาเขียวพร้อมดื่ม “ฮารุ” นำความเชี่ยวชาญของสิงห์ ที่เป็นหนึ่งในผู้ผลิตชา ครบวงจรชั้นนำของเมืองไทยมาต่อยอดสู่เครื่องดื่มชาเขียวระดับพรีเมียม ที่มีกระบวนการสกัดชาผ่านกรรมวิธี Cold Brew ซึ่งให้ความสำคัญด้านอุณหภูมิและเวลาสกัดที่นานกว่าชาทั่วไป 2 เท่า สร้างความแตกต่างในตลาดและทำให้ได้เอกลักษณ์ของชาเขียวอย่างเต็มรสชาติ

นอกจากนี้วัตถุดิบใบชายังผ่านการคัดสรรยอดอ่อนใบชาสายพันธุ์คุณภาพเกรดพรีเมียม ที่ปลูกอย่างพิถีพิถันด้วยกรรมวิธีเฉพาะจากแหล่งปลูกที่ถูกยอมรับในระดับโลก ทั้งนี้ ชาเขียวพร้อมดื่ม “ฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที” เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ที่รักสุขภาพ รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์ไปคาเฟ่ มองหาประสบการณ์ใหม่ๆ และดื่มด่ำช่วงเวลาแห่งความสุข เรียบง่ายผ่านการดื่มชาสไตล์ Cold Brew ที่มีความหอมนุ่มละมุน มีมิติของรสและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์

ส่วนกาแฟพร้อมดื่ม “คาเฟ่อเมซอน” เป็นการนำจุดแข็งของ OR ที่เชี่ยวชาญในการรังสรรค์เครื่องดื่มรูปแบบคาเฟ่มานานกว่า 20 ปี และเสิร์ฟผู้บริโภคชาวไทยกว่า 300 ล้านแก้วต่อปี มาบรรจุลงขวดเป็นครั้งแรก ซึ่งจุดเด่นคือการนำเสนอความพิถีพิถันการสกัดกาแฟร้อนเพียง 27 วินาที สูตรเฉพาะของคาเฟ่ อเมซอน เพื่อคงความเข้มข้น ให้ได้รสชาติ กลิ่นแท้ๆของกาแฟ มอบประสบการณ์ความรู้สึกในการดื่มที่ใกล้เคียงกับกาแฟสดที่ร้านคาเฟ่อเมซอน 

สำหรับชาเขียวพร้อมดื่ม “ฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที”  มาในรูปแบบขวดขนาด 440 มล. มี 2 รสชาติ ได้แก่ สูตรปราศจากน้ำตาล(Natural) และสูตรหวานน้อย (Mild Sweet)  ราคาจำหน่าย ขวดละ 30 บาทส่วนกาแฟพร้อมดื่ม คาเฟ่อเมซอน  เปิดตัวสู่ตลาดด้วย 3 รสชาติ ได้แก่ อเมซอนแบล็ค ราคาจำหน่ายขวดละ 29 บาท อเมซอนเอสเปรสโซ่ และอเมซอนลาเต้ ราคาจำหน่ายขวดละ 35 บาท โดยมาในรูปแบบขวดขนาด 200 มิลลิลิตร ส่วน โดยทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์จะจำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น เป็นแห่งแรก จากนั้นจะขยายสู่ช่องทางห้างค้าปลีก และช่องทางอื่นๆต่อไป  

เมื่อโลกของ Metaverse กำลังล่มสลายโดยสิ้นเชิง

ยังคงจำกันได้ ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาเหมือนว่าบริษัทเทคโนโลยีทั้งหลาย ต่างมุ่งหน้าพาตัวเองเข้าสู่โลกของ Metaverse กันเป็นทิวแถว หลังจากที่ Mark Zuckerberg CEO ของ Facebook ที่ประกาศรีแบรนด์บริษัทใหม่เป็น Meta

เป็นบทความที่น่าสนใจจาก The Wall Street Journal สื่อยักษ์ใหญ่ที่ได้รายงานว่า ทั้ง Disney และ Microsoft สองบริษัทชื่อดังได้ทำการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เพื่อยุติการดำเนินงาน metaverse โดย Disney โละทิ้งแผนกที่เกี่ยวข้องกับ metaverse ทั้งหมดและ Microsoft ปิดหน่วยธุรกิจด้าน VR ที่พวกเขาได้ซื้อกิจการมาในปี 2017

“บริษัทและธุรกิจจำนวนมากเข้าใจดีว่าพวกเขาจำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานหรือค่าใช้จ่ายโดยรวม ซึ่งหมวดหมู่ประเภทนี้ (metaverse) ดูเหมือนจะเป็นเป้าหมายที่ค่อนข้างง่ายที่จะโละทิ้ง” Scott Kessler นักวิเคราะห์ภาคเทคโนโลยีของบริษัทวิจัย Third Bridge Group กล่าว

“สิ่งที่เกิดขึ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่าง AI ดูเหมือนจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ในขณะนี้”  แต่เมื่อพูดถึง metaverse “มันแทบไร้ประโยชน์” Kessler กล่าวเสริม

กล่าวอีกนัยหนึ่ง AI ดูเหมือนจะเป็นเทคโนโลยีของจริงในยุคนี้ ในขณะที่ metaverse ดูเหมือนสิ่งเพ้อฝันเสียมากกว่า

เป็นการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่ชัดเจนมาก ๆ เพราะเมื่อย้อนกลับไปในเดือนตุลาคมของปีที่ผ่านมา Zuckerberg ยังมองว่า metaverse ยังคงอยู่ในวิสัยทัศน์ของเขา 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีพันธมิตรองค์กรที่มีชื่อเสียงจำนวนมากที่เข้ามาร่วมในงาน Meta’s Connect 2022

งาน Meta's Connect 2022 ที่ Meta และ Microsoft ร่วมมือเป็นพันธมิตรกัน (CR:AI Business)
งาน Meta’s Connect 2022 ที่ Meta และ Microsoft ร่วมมือเป็นพันธมิตรกัน (CR:AI Business)

Microsoft ก็เป็นหนึ่งในพันธมิตรรายใหญ่ที่โดดเด่นเหล่านั้น Zuckerberg ใช้งานดังกล่าวเพื่อวาง metaverse เป็นอนาคตของการทำงาน และ Microsoft ซึ่งมีโซลูชั่นด้านธุรกิจจำนวนมากก็พยายามที่จะยัดเยียด metaverse เข้าไปในส่วนต่าง ๆ ของ software ของพวกเขาเช่นเดียวกัน

ในส่วนของ Disney ได้ดำเนินโครงการ metaverse มาตั้งแต่ปี 2021 ในช่วงที่ Zuckerberg ได้แสดงรายละเอียดวิสัยทัศน์ AR ของเขา

ในตอนนั้น Satya Nadella CEO ของ Microsoft อยู่บนเวทีพร้อมกับ Zuckerberg พร้อมยกย่องโลก metaverse ของผู้ก่อตั้ง Facebook แต่เวลาผ่านไปเพียงแค่สามเดือน Microsoft ได้หันเหทิศทางของบริษัทไปอย่างสิ้นเชิง และได้ประกาศลงทุน 10,000 ล้านดอลลาร์ใน OpenAI

Microsoft ได้หันเหทิศทางของบริษัทไปอย่างสิ้นเชิง และได้ประกาศลงทุน 10,000 ล้านดอลลาร์ใน OpenAI  (CR:GeekWire)
Microsoft ได้หันเหทิศทางของบริษัทไปอย่างสิ้นเชิง และได้ประกาศลงทุน 10,000 ล้านดอลลาร์ใน OpenAI (CR:GeekWire)

Nadella กำลังเปลี่ยนทิศทางของบริษัทมุ่งเน้นไปที่ AI  ตามรายงานของ WSJ  เขาใช้คำว่า “AI” ถึง 28 ครั้ง ในขณะที่คำว่า “metaverse” ถูกพูดน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัดในการประกาศวิสัยทัศน์ของบริษัทล่าสุด

การเปลี่ยนแปลงที่คล้ายคลึงกันนี้พบได้ในข้อความอธิบายคำขอโทษล่าสุดของ Zuckerberg ต่อพนักงานที่เพิ่งถูกเลิกจ้าง ซึ่ง Zuckerberg เองได้กล่าวถึง AI สี่ครั้ง ในขณะเดียวกันแทบจะไม่กล่าวถึง metaverse อีกเลย

สอดรับกับยอดขายชุดหูฟัง Quest 2 ของ Meta ที่ลดลงอย่างมากในไตรมาสที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่สอดคล้องกับจำนวนผู้คนที่อยู่ใน Horizon Worlds ซึ่งดูเหมือนจะเป็นดินแดนป่าช้าไปแล้วในตอนนี้

ในขณะที่บริษัทขนาดเล็กอย่าง Decentraland และ Sandbox ที่ผู้ใช้สามารถซื้อที่ดินเสมือนจริงและสร้างโลกของตัวเองได้ ยอดขายที่ดินก็ลดลง ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรใน Decentraland ลดลงจากประมาณ 45 ดอลลาร์ในปีที่แล้วเหลือ 5 ดอลลาร์ รวมถึงจำนวนผู้ใช้งานก็ลดลงสูงถึง 25%

แน่นอนว่า Meta ได้ลงทุนใน Metaverse มากกว่าใคร ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าสนใจว่าอุตสาหกรรมนี้จะก้าวต่อไปในทิศทางใด แต่การเปลี่ยนแปลงคงไม่ได้รวดเร็วมากขนาดนั้น 

สำหรับ Microsoft  ทุกคนรู้ว่าพวกเขาไม่เคยพลาดในการแข่งขันในทุก ๆ พรมแดนของโลกเทคโนโลยี ซึ่งเราคงไม่แปลกใจที่จะได้เห็น Microsoft ออกมาลุยกับ AI แบบเต็มที่เพื่อสร้างพรมแดนใหม่ทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมนั่นเองครับผม 

References :
https://www.wsj.com/articles/the-metaverse-is-quickly-turning-into-the-meh-taverse-1a8dc3d0
https://www.theverge.com/2023/3/28/23659691/disney-metaverse-job-cuts-eliminated
https://futurism.com/metaverse-completely-falling-apart

Geek Daily EP171 : Shou Zi Chew ซีอีโอของ TikTok กับวันหายนะในสภาคองเกรสของสหรัฐฯ

Shou Zi Chew ซีอีโอของ TikTok ให้การต่อหน้าสภาคองเกรสเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาโดยมีการเรียกร้องให้มีการบังคับขายธุรกิจในสหรัฐฯ หรือการแบน TikTok ทั่วประเทศ

การไต่สวนกลายเป็นการนองเลือดของคำถามจากนักการเมืองทั้งสองฝั่ง แนวคิดเบื้องหลังการพิจารณาคดีคือการให้ TikTok ซึ่งเป็นแอปที่มีผู้ใช้งาน 150 ล้านคนต่อเดือนในสหรัฐฯหรือเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรในประเทศ คลายความกังวลของฝ่ายนิติบัญญัติเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและความสัมพันธ์ของแอปโซเชียลมีเดียไปยังประเทศจีนผ่านทางบริษัทแม่ Bytedance

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
http://bit.ly/3TSE768

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
http://bit.ly/3JKmoJu

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
http://bit.ly/3JREbie

🎧 ฟังผ่าน Youtube : 
https://youtu.be/YI_lYHHVhFY