หนูต้องใช้เรียนออนไลน์ กับคำพูดบาดใจ สู่ช่องโหว่สำหรับมิจฉาชีพในยุคเรียนออนไลน์

‘หนูต้องใช้เรียนออนไลน์’ ต้องบอกว่าเป็นพูดที่บาดใจมาก ๆ สำหรับ การสัมภาษณ์ในรายการโหนกระแส ที่มีการเจาะประเด็นตามล่า ‘พิยดา’ ที่มีการหลอกขายมือถือ พบเหยื่อกว่า 500 คน และกลายเป็นข่าวใหญ่โตเมื่อมีเด็กคนหนึ่งต้องเสียชีวิตเพราะเครียดเรื่องนี้จนเส้นเลือดในสมองแตก

น่าสนใจมาก ๆ ที่เหยื่อส่วนใหญ่นั้น เป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกันหมด นั่นก็คือ กลุ่มเด็กนักเรียนที่ต้องการมือถือเพื่อไปใช้สำหรับการเรียนออนไลน์ แทบจะทั้งสิ้น

การแพร่ระบาดของโควิด ทำให้การเรียนการสอนเปลี่ยนไป และเครื่องมือสำคัญที่เด็กทุกคนต้องมีนั่นก็คือ มือถือ หรือ แท็ปเล็ต สำหรับใช้ในการเรียนออนไลน์

ทำให้ความต้องการในตลาดสูงมาก ๆ ผมเองก็อยู่ในกลุ่มซื้อขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับมือถือ หรือ แท็ปเล็ต ก็สังเกตความคึกคักของตลาดได้อย่างชัดเจนว่า ความต้องการทั้งสินค้ามือหนึ่ง หรือ สินค้ามือสองในกลุ่มนี้ เป็นที่ต้องการสูงเป็นอย่างมาก

แล้วทำไมส่วนใหญ่จึงต้องซื้อสินค้ามือสอง

ผมคิดว่าถ้าหากผู้ปกครองไปซื้อสินค้ามือหนึ่งจากศูนย์ ก็คงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่แน่นอนว่า ยังมีผู้ปกครองอีกมากมายที่ฐานะทางการเงินไม่ดีนัก ซึ่งคิดว่าเป็นส่วนใหญ่ด้วย การบีบบังคับเรียนออนไลน์ การไม่มีอุปกรณ์ดี ๆ ก็ทำให้ลูก ๆ ของตัวเองเสียโอกาสในการศึกษาได้

นั่นทำให้เกิดช่องโหว่ ให้เหล่ามิจฉาชีพเหล่านี้ เข้ามา ซึ่งมักจะมาขายสินค้าราคาถูก ซึ่งเป็นสินค้ามือสองเป็นส่วนใหญ่ เพราะ มันดูไม่น่าสงสัย เพราะหากมือหนึ่ง ลดราคาลงมาเยอะ ๆ มันเป็นพฤติกรรมที่น่าสงสัยอยู่แล้ว

นั่นเองมันทำให้กลายเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ที่ผู้ปกครองหรือเหล่านักเรียน ต่างควานหา มือถือ หรือ แท็ปเล็ต จากแหล่งออนไลน์ ที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน

และอีกสาเหตุ ก็คงเป็น การเรียนแบบออนไลน์ดังกล่าว คงไม่ใช่แผนระยะยาวของการศึกษาอย่างแน่นอน มันเป็นแผนระยะสั้น เพื่อไม่ให้เด็กเสียการเรียน ซึ่งสุดท้ายนักเรียนทุกคนก็ต้องกลับเข้าไปที่โรงเรียนเหมือนเดิม

ซึ่งการลงทุนในสินค้าเหล่านี้ ที่เป็นมือสอง น่าจะคุ้มกว่า เพราะอาจจะใช้เพียงชั่วคราวเท่านั้น จึงไม่จำเป็นที่จะต้องลงทุนซื้อสินค้ามือ หนึ่ง ให้กับลูกหลานของตน ในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่ในตอนนี้ ซึ่งหลายครอบครัวก็น่าจะประสบปัญหาทางเศรษฐกิจกันอยู่แล้ว

บทสรุป

ผมมองว่าแม้จะจับกุมคนร้ายได้สำเร็จในเคสนี้ แต่ ปัญหานี้ มันไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุหลัก คงจะมีการโกงแบบนี้อีกต่อไปเรื่อย ๆ เหมือนกับที่เกิดขึ้นในวงการต่าง ๆ เช่น แชร์ลูกโซ่ ที่วนเวียนไม่จบไม่สิ้น สร้างความเสียหายหลักร้อย หรือ พันล้าน กันเลยทีเดียว

ประเทศเราควรมีหน่วยงานบูรณาการ เพื่อแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่ายจริง ๆ ทั้งเครือข่ายมือถือ ธนาคาร และส่วนขององค์กรยุติธรรม ตำรวจ อัยการ เอาจริง ๆ แค่ปัญหาง่าย ๆ พวกเปิดบัญชีม้า หรือ บัญชีผี ที่ตอนนี้ เรียกได้ว่าเปิดกันว่อน กำเงินแค่ 3,000 บาท ก็หาบัญชีผีเหล่านี้ได้แล้ว และ มีอยู่เยอะมาก ขายกันอย่างโจ่งครึ่ม

ซึ่งบ้านเรากำลังเดินหน้าในการปฏิวัติทางด้านการเงินครั้งใหญ่ ทั้งสังคมไร้เงินสด และ Fintech ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย แต่นั่นก็เหมือนดาบสองคม ที่ทำให้เหล่ามิจฉาชีพสามารถใช้ช่องโหว่ต่าง ๆ เหล่านี้ ผ่านเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาแล้วสร้างรายได้ให้กับพวกเขาอย่างเป็นกอบเป็นกำอย่างที่เราได้เห็นในข่าวนี้นั่นเองครับผม

Credit Image : https://hilight.kapook.com/view/216909
youtube : รายการโหนกระแส

Geek Story EP121 : Michael Dell เปลี่ยนธุรกิจพีซีที่ตกต่ำของเขาให้กลายเป็นเครื่องจักรผลิตเงินในตอนนี้ได้อย่างไร

Michael Dell ผู้บุกเบิกธุรกิจคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หลังจากเป็นเวลาหลายปีแล้วที่เขาปิดตัวเงียบ และนำพา Dell ออกจากตลาดหุ้นของอเมริกา ตอนนี้เขากำลังพลิกฟื้นจากธุรกิจพีซีที่ตกต่ำ สู่ความทะเยอทะยานครั้งใหม่ที่สุดที่รอเขาอยู่ข้างหน้า

แม้ธุรกิจพีซี จะไม่ได้เติบโตเหมือนอย่างที่เคยเป็น แต่ Michael และ Egon Durban ผู้ร่วมก่อตั้งของบริษัท ก็ได้เห็นโอกาสใหม่

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/2Y09W4g

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
http://bit.ly/2kxHtQ3

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/2m0PTzR

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/EYVONFeJKAk

เวียดนาม vs เกาหลีใต้ กับ Fighting DNA ของการดิ้นรนต่อสู้ในแวดวงเทคโนโลยี

มีเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่สามารถสร้างบริการด้านเทคโนโลยี เพื่อต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม ทั้งจากโลกตะวันตก หรือ บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีเงินทุนมหาศาลใน Region และไม่พ่ายแพ้ให้กับศัตรูเหล่านี้ เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นในหลายบริการของประเทศเกาหลีใต้

ไม่ว่าจะเป็น แพล็ตฟอร์มการแชท Search Engine หรือ แม้กระทั่ง Social Network หรือ Ecommerce บริษัทยักษ์ใหญ่จากโลกตะวันตก นั้นไม่สามารถเจาะเข้าไปในดินแดนเกาหลีใต้ได้ หรือ ถึงแม้จะเจาะเข้าไปได้ก็ยากที่จะขึ้นเป็นผู้นำในตลาดของพวกเขา

มันเป็น Fighting DNA ของคนเกาหลี ที่ส่งต่อมาแม้กระทั่งในธุรกิจเทคโนโลยีที่พวกเขา ไม่เคยยอมพ่ายแพ้ให้กับใครง่าย ๆ พวกเขาพร้อมที่จะสร้างสรรค์บริการ ที่เข้ากับวัฒนธรรมในประเทศของเขา เพื่อเอาชนะยักษ์ใหญ่เหล่านี้ให้ได้ และส่วนใหญ่ก็ประสบความสำเร็จ

เราได้เห็นความสำเร็จของบริการต่าง ๆ ของเกาหลีใต้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Naver ที่เป็นเหมือน Super App ครอบคลุมทุกพฤติกรรมของคนเกาหลี หรือ Kakao Talk ที่ ยึดอันดับหนึ่งในแพล็ตฟอร์ม chat ที่ยากที่คู่แข่งจากต่างประเทศจะเจาะเข้าไปได้

ความเหมือนที่แตกต่างในประเทศเวียดนาม

และรูปแบบที่เกิดขึ้นดังกล่าว มันกำลังเกิดขึ้นกับประเทศเวียดนามเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่า มี DNA ที่คล้ายคลึงกันอย่างน่าสนใจมาก ๆ ในแวดวงเทคโนโลยี ที่พวกเขาพร้อมจะสรรค์สร้างบริการภายในประเทศตัวเอง เพื่อสู้กับคู่แข่งที่น่าเกรงขามจากต่างประเทศ

ไม่ว่าจะเป็น Ecommerce ที่พวกเขาก็ส่ง TIKI ออกมาสู้ยักษ์ใหญ่ใน Region อย่าง Shopee ได้อย่างสูสี หรือ Coc Coc ที่เป็นคู่แข่งโดยตรงกับบริการ Search Engine ยักษ์ใหญ่อย่าง Google

TIKI บริการ Ecommerce ที่สู้กับ Shopee อย่างไม่เกรงกลัว (CR:TIKI.vn)
TIKI บริการ Ecommerce ที่สู้กับ Shopee อย่างไม่เกรงกลัว (CR:TIKI.vn)

ที่น่าสนใจคือ บริการ messenger หรือ social media ของพวกเขามีบริการอย่าง Zalo ที่เป็นบริการที่คิดค้นโดยชาวเวียดนามเอง ซึ่งเอาชนะ LINE , Whatsapp , Wechat หรือ Facebook Messenger ไปอย่างขาดลอยเลยทีเดียว และเป็นบริการยอดฮิตอันดับต้น ๆ ของชาวเวียดนามในขณะนี้อีกด้วย

เรียกได้ว่าประเทศเวียดนามมีแทบจะทุกบริการ พวกเขาไม่เคยเกรงกลัว ยักษ์ใหญ่หน้าไหนที่จะบุกเข้ามาในประเทศ พวกเขาพร้อมสร้างบริการที่ตอบโจทย์ชาวเวียดนามมากกว่า ซึ่งมันก็คล้าย ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศเกาหลีใต้นั่นเอง

ซึ่งความน่าสนใจ ทั้งสองประเทศมีประวัติที่คล้าย ๆ กัน คือ การถูกแบ่งแยกประเทศ แม้เกาหลีจะยังไม่สามารถรวมประเทศได้ แต่มันก็เคยทำให้เกิดการต่อสู้ของชนชาติเดียวกันมาก่อน ซึ่งเหตุการณ์ก็คล้ายกับที่เกิดขึ้นที่เวียดนาม แต่พวกเขาสามารถรวมกันเป็นหนึ่งก่อร่างสร้างประเทศขึ้นมาใหม่ได้

ซึ่งผมว่า มันเป็นสาเหตุอย่างนึงให้ประเทศเหล่านี้ มี DNA ที่มีความแตกต่างจากชาติอื่น ๆ นั่นคือ การประสบพบเจอกับความยากลำบากแบบสุด ๆ มาก่อน ถึงขึ้นต้องรบกันเองด้วยซ้ำ ชาติเกือบแตกสลาย แต่สุดท้ายก็ร่วมใจกันกลับมาสร้างประเทศให้ยิ่งใหญ่ได้ เหมือนที่เกาหลีทำได้มาก่อน

บทสรุป

ส่วนตัวผมก็ติดตามแวดวง startup ของเวียดนามผ่านสื่อใหญ่ ๆ ตัวอย่างเช่น Tech in Asia ที่เน้นการรายงานข่าว startup ในภูมิภาคของเรา ต้องบอกว่า เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มาแรงมาก ๆ และพร้อมจะเกิด unicorn อีกหลายบริการมาก ๆ เลยก็ว่าได้

มีข่าวการระดมทุนจากบริการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งน่าสนใจนะครับ เพราะมันกำลังกลายเป็นธุรกิจแห่งอนาคตแทบจะทั้งสิ้น ดูเหมือนพวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งเพียงแค่ ดึงดูด เฉพาะเรื่องค่าแรงราคาถูก เพื่อให้บริษัทยักษ์ใหญ่ย้ายฐานการผลิตมาที่ประเทศพวกเขาเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป

เพราะดูเหมือนอนาคตทางในเรื่องบริการทางด้านเทคโนโลยี ที่โลกกำลังมุ่งไป เส้นทางของพวกเขาก็กำลังสดใสเป็นอย่างมาก พร้อมด้วยพลังของคนหนุ่มเวียดนาม ที่กำลังก่อร่างสร้างประเทศ ซึ่งผมมองว่าเป็นประเทศที่น่าจับตามองมาก ๆ ในอีกแง่มุมหนึ่ง ที่หลายคนอาจไม่คาดคิดมาก่อนนั่นเองครับผม

References :
https://vietnamnet.vn/en/sci-tech-environment/coc-coc-criticizes-google-for-policy-that-hurts-its-platform-769712.html
https://datareportal.com/reports/digital-2021-vietnam
https://vietnamcredit.com.vn/news/overview-of-vietnams-e-commerce-market-in-2021_14374
https://www.techinasia.com/move-whatapp-zalo-vietnams-favorite-messaging-app

Geek Daily EP93 : หลอมรวมมนุษย์และเครื่องจักร กับศูนย์วิจัย Bionics ใหม่เพื่อลดความพิการของ MIT

ศูนย์วิจัย MIT ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่กำลังศึกษาการหลอมรวมของร่างกายมนุษย์ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น โครงกระดูกภายนอกของหุ่นยนต์และส่วนต่อประสานระหว่างสมองกับคอมพิวเตอร์ โดยมีเป้าหมายที่ทะเยอทะยานในการพัฒนาระบบเพื่อฟื้นฟูการทำงานของผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกายและระบบประสาท

ลิซ่า หยาง ผู้บริจาคทุนให้กับสถาบันวิจัยใหม่นี้มีวิสัยทัศน์สำหรับอนาคตที่ทุกคนในโลกมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่โดยปราศจากความพิการ

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/2Y6pa8g

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
http://bit.ly/2kxHtQ3

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/2m0PTzR

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/G3Cj9J9igcQ

Credit Image : Futurism.com

แม่ค้ามหาภัย กับบทเรียนหลอกขายมือถือออนไลน์ สู่วิธีการที่จะทำให้คุณไม่ถูกหลอกอีกต่อไป

ต้องเรียกได้ว่าเป็นข่าวสะเทือนใจ ที่เด็กนักเรียนชั้น ม.2 ถูกร้านค้าออนไลน์โกงซื้อมือถือจนเครียด เส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต สร้างความเสียใจให้กับพ่อแม่และครอบครัว ซึ่งน่าสนใจตรงที่ แม่ค้ามหาภัยคนนี้ ทำเป็นกระบวนการมาอย่างยาวนานมาก ๆ

สำหรับส่วนตัวผมเองนั้น ก็เป็นคนหนึ่งที่มีการซื้อขายผ่านออนไลน์เป็นประจำ โดยเฉพาะสินค้าพวก gadget ใหม่ ๆ ที่ผมมักจะลองซื้อมาใช้งานอยู่บ่อย ๆ และมีประสบการณ์ในการโดนหลอกจากพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้มาพอสมควร

และด้วยประสบการณ์โดนหลอกมาเยอะ ผมจึงได้หาวิธีการที่จะไม่ทำให้โดนหลอกจากพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้อีกต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่จะสังเกตได้ว่า เป็นพ่อค้าแม่ค้าหน้าเดิม ๆ เปลี่ยน profile เป็นชื่อใหม่ ๆ ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัว ผมมีวิธีการที่จะทำให้คุณไม่ถูกหลอกอีกต่อไปดังต่อไปนี้ครับ

1. เช็คจาก Blacklistseller

เป็นหนึ่งเว็บที่ถือว่ามั่นใจได้กว่า 90% เลยทีเดียวสำหรับเว็บไซต์อย่าง https://www.blacklistseller.com/ โดยคุณสามารถเข้าไปเช็คผ่านเลขบัญชี , true wallet , promptpay , ชื่อ และ นามสกุลของผู้ขายได้ก่อนโอนเงิน

เว็บไซต์ www.blacklistseller.com
เว็บไซต์ www.blacklistseller.com

สามารถเลือกค้นหาได้เพียงเงื่อนไขใด เงื่อนไขหนึ่งก็ได้ ซึ่งหากพบมีอยู่ในฐานข้อมูลคนโกง ก็แน่นอนว่าคุณเจอโจรแล้วนั่นเอง

ซึ่งต้องบอกว่าที่เว็บนี้ได้รวมรวมข้อมูลแบบอัพเดทรายวัน คุณสามารถมาร่วมแจ้งข้อมูลคนโกงได้ที่เว็บไซต์แห่งนี้ ผมคิดว่าเป็นแหล่งข้อมูลคนโกงที่เยอะที่สุดเท่าที่ผมหาข้อมูลมาแล้วนะครับ แนะนำเลย

หรืออีกเว็บไซต์ที่สามารถค้นหาได้ก็คือที่ www.เช็คคนโกง.com ฐานข้อมูลก็จะคล้าย ๆ กันครับ

2. กลุ่มแจ้งข่าวคนโกง

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้ผลเช่นเดียวกัน กับการติดตามกลุ่มที่แจ้งรายงานคนโกงของ Facebook วิธีการง่าย ๆ คือค้นหาคำว่า คนโกง รายชื่อคนโกง ในช่องการค้นหาของ facebook แล้วเข้าไปติดตามในกลุ่มต่าง ๆ

กลุ่มรายชื่อคนโกงใน Facebook
กลุ่มรายชื่อคนโกงใน Facebook

สำหรับข้อเสียในกลุ่มเหล่านี้ ข้อมูลยังไม่จัดระเบียบดีนัก ทำให้หารายชื่อยากกว่าในเว็บไซต์ blacklistseller ที่จัดข้อมูลได้เป็นระเบียบมากกว่า แต่เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีมาก ๆ ในการเช็คคนโกงครับผม

3. การซื้อขายผ่านแอดมินกลาง

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน ที่หลาย ๆ กลุ่ม ที่มีการซื้อขายของเฉพาะของแต่ละกลุ่ม จะมีแอดมินกลางคอยมาจัดการเรื่องซื้อขาย เพื่อเป็นคนกลางให้ความสะดวกระหว่างคนซื้อ และ คนขาย มีความสบายใจทั้งสองฝ่าย

ตัวอย่างการซื้อขายผ่าน admin กลาง
ตัวอย่างการซื้อขายผ่าน admin กลาง (CR: FB Group ซื้อขาย เเลกเปลี่ยนเกม PES2021 FREEFIRE ROV ผ่านกลางเเอดกลุ่ม)

สำหรับข้อเสียของวิธีการนี้ ก็คือ การมีค่าใช้จ่ายในการใช้บริการแอดมินกลาง แต่ ก็มีความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย เงินจะถูกพักไว้ที่แอดมินก่อน คนซื้อสามารถตรวจสอบสินค้าก่อนให้แอดมินโอนเงินให้กับคนขายนั่นเอง

4. ทำการเช็คข้อมูลเบื้องต้นของผู้ขาย

ในส่วนนี้ก็แล้วแต่แพล็ตฟอร์มที่ใช้ ซึ่งในหลาย ๆ แพล็ตฟอร์มก็จะมีในส่วนของการยืนยันตัวตนของผู้ขาย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการยืนยันผ่านบัตรประชาชน

ตัวอย่างการยืนยันบัญชีในแพล็ตฟอร์ม Kaidee (CR:Kaidee)
ตัวอย่างการยืนยันบัญชีในแพล็ตฟอร์ม Kaidee (CR:Kaidee)

ตัวอย่างแพล็ตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Kaidee ที่จะมีส่วนของการยืนยันบัญชี ซึ่งจะมีความปลอดภัยมากกว่าหากผู้ขาย มีการยืนยันบัญชีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หรือในกรณีการโพสต์ขายในกลุ่ม ก็จะมีการตั้งกติกาในที่ต้องมีการถ่ายรูป เขียนชื่อ profile / เบอร์โทร หรือช่องทางติดต่อให้ชัดเจน คู่กับสินค้า เพื่อป้องกันไม่ให้นำสินค้าจากที่อื่นมาหลอกขายได้

หรือการนำชื่อ เบอร์โทร เลขบัญชีธนาคารไปค้นหาผ่าน Google ก็เป็นการ double check อีกวิธีหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่จะมีประวัติในโลกออนไลน์ ที่เป็น digital footprint กันอยู่แล้วสำหรับคนโกง

ตัวอย่างการนำชื่อคนโกงไปค้นหาผ่าน google
ตัวอย่างการนำชื่อคนโกงไปค้นหาผ่าน google

จากรูปตัวอย่าง ผมได้เอาข้อมูลจาก Database คนโกงใน blacklistseller ไปค้นหาใน Google เรียกได้ว่าประวัติยาวเป็นหางว่าวเลยทีเดียว

5. เช็ค Social Media Profile

หากมีการซื้อขายผ่านเครือข่าย Social Media ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Instagram ซึ่งถือเป็นช่องทางยอดฮิตเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน

สิ่งแรก ที่ควรจะทราบก็คือ ตอนนี้ได้มีบริการต่าง ๆ มากมาย ที่คอยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับ Social Media Account ทั้งการทำ Fake Review , การเข้ามา comment ที่เหมือนจะสร้างเครดิตให้กับผู้ขายที่ดีเว่อร์จนเกินไป

ผมไม่อยากให้เชื่อข้อมูลเหล่านี้มากนัก ซึ่งส่วนใหญ่ พวกคนโกงก็จะจ้างทำเพื่อสร้างเครดิตให้กับตัวเอง ส่วนคอมเม้นต์เสีย ๆ หาย ก็จะลบออกจากระบบไป

ประสบการณ์ส่วนตัวก็เคยเจอ Profile สุดหรู รีวิวสุดเทพ มีหน้าม้ามาคอยสนับสนุน แต่สุดท้ายก็โกง ซึ่งมีถมไป แต่สิ่งที่ผมอยากให้พิจารณาอย่างยิ่งก็คือ สิ่งที่ไม่สามารถลบได้บนแพล็ตฟอร์มเหล่านี้

ตัวอย่างรีวิวเพจ ที่ไม่สามารถลบได้
ตัวอย่างรีวิวเพจ ที่ไม่สามารถลบได้

ส่วนของรีวิวเพจ เป็นส่วนที่แม้จะสามารถจ้างเพื่อมาโพสต์อวย หรือ สร้าง Fake Review ได้ แต่ หากมี รีวิว ในแง่ลบ เจ้าของเพจ แม้กระทั่งสิทธิ์ admin ขั้นสูงสุดก็ไม่สามารถลบได้ เพราะฉะนั้น สามารถอ่านส่วนของรีวิว โดยรวมทั้งหมดได้ครับ

ตัวอย่างการกดปุ่มโกรธแบบผิตปรกติ
ตัวอย่างการกดปุ่มโกรธแบบผิตปรกติ

นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ผมเคยโดนมา ทุกอย่างดูดีหมด เช็คมาแล้วทุก สเต็ป แต่ก็ไม่รอด พอมาไล่เช็คหลังจากโดนโกงไปแล้ว พบว่า ใน profile ของคนขาย มีสิ่งที่แปลกคือ แทบจะไม่มี comment แต่ ทุก ๆ โพสต์ มีการกดปุ่มโกรธเยอะมาก

ซึ่งแน่นอนว่า ส่วนของ comment นั้นเป็นสิ่งที่ลบได้ แต่ ส่วนของ emotion ต่าง ๆ เหล่านี้ admin ไม่สามารถลบมันออกไปได้นั่นเองครับผม เจอปุ่มโกรธเยอะ ๆ เมื่อไหร่ แน่นอนครับ ว่าเหล่าเหยื่อที่โดนหลอกมากดโกรธนั่นเอง ส่วน comment เชิงลบ ก็โดนเจ้าของเพจลบไปหมดแล้วครับผม

6. Whoscall เช็คเบอร์มิจฉาชีพ

สำหรับเครื่องมือสุดท้าย ที่น่าสนใจก็คือแอปพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า Whoscall ซึ่งสามารถเช็คได้ทันที ผ่านฐานข้อมูลของระบบ เมื่อมีเบอร์แปลก ๆ โทรมา หรือ สามารถนำเบอร์ผู้ขายที่เราไม่แน่ใจลองเช็คผ่านตัวแอปก็ได้ครับ

Whocall แจ้งทันทีว่าเป็นมิจฉาชีพ
Whocall แจ้งทันทีหากเป็นมิจฉาชีพ

ตัว Whoscall ตอนนี้มีให้โหลดทั้งใน Google Play (Android) และ App Store ของฝั่ง Apple สามารถใช้เพื่อป้องกันการโทรจากพวกประกัน หรือมิจฉาชีพในแขนงอื่น ๆ ที่มักโทรมาก่อกวน ได้ ซึ่งตัวนี้ถือว่าฐานข้อมูลค่อนข้างอัพเดทมาก ๆ ชัวร์ค่อนข้าง 100% เลยทีเดียว แนะนำให้ลงติดมือถือไว้เลยครับ

บทสรุป

ก็ต้องบอกว่าตอนนี้ กลโกง มีมาหลากหลายรูปแบบโดยเฉพาะในการซื้อขายของผ่านออนไลน์ จากที่เป็นข่าวแม้ค้าที่ถูกจับเรื่องหลอกขายมือถือ ให้เด็กนักเรียนจนเสียชีวิตนั้น หลอกมาอย่างยาวนาน ได้เงินไปเป็นจำนวนมหาศาล โดยการเปลี่ยนสลับ account ไปเรื่อย ๆ และแน่นอนว่าตอนนี้มีการซื้อขายบัญชีธนาคารกันอย่างแพร่หลายทำให้ สามารถหลอกได้ต่อเนื่องยาวนานอย่างที่เป็นข่าว

สำหรับข้อมูลข้างต้นก็เป็นเทคนิคของตัวผมเอง ที่หลังจากใช้เทคนิคเหล่านี้ ก็ไม่ได้เจอการโดนโกงอีกต่อไป แล้วเพื่อน ๆ มีวิธีไหนที่น่าสนใจอีกบ้างครับ ในการหลีกเลี่ยงไม่ให้เราโดนหลอกจากพ่อค้าคนโกงเหล่านี้ สามารถแชร์เทคนิค แนะนำกันได้เลยนะครับผม

Credit Image : https://mgronline.com/