หนึ่งวันในชีวิตของ Sam Altman ผู้หมกมุ่นกับการยืดอายุขัย และเตรียมตัวพร้อมสำหรับวันสิ้นโลก

Sam Altman เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกเทคโนโลยี โดยเขาได้ร่วมก่อตั้ง ลงทุนและเป็นผู้นำบริษัทสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมและประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคของเรา

เขายังเป็น CEO ของ OpenAI ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างเทคโนโลยี AI ที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือถูกควบคุมโดยคนไม่กี่คน

หลังจากถูกบีบจากบอร์ดบริหารให้ออกจากตำแหน่ง Altman กลับมายึดอำนาจคืนในตำแหน่ง CEO ของ OpenAI ได้สำเร็จ หลังจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่สั่นสะเทือน Silicon Valley ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา

ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องงานแล้วนั้น ชีวิตด้านอื่นๆ ของเขาก็น่าสนใจไม่แพ้กัน Altman เป็นหนึ่งในผู้บริหารบริษัทด้านเทคโนโลยีที่หมกมุ่นอยู่กับความพยายามในการยืดอายุขัยของตัวเอง

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเขา ไมว่าจะเป็นการนอนหลับ ตารางงาน หรือการรับประทานอาหาร เขาให้ความสำคัญกับแง่มุมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของเขาเป็นพิเศษและต้องการเพิ่ม Productivity ให้ได้สูงสุด

ตอนเช้า

Altman เริ่มต้นวันด้วยการทำสมาธิ หลังจากนั้นจะดื่มเอสเพรสโซ่แก้วใหญ่ทันที และไม่ค่อยรับประทานอาหารเช้า ซึ่งเขามองว่าการดื่มแต่เอสเปรสโซ่ในตอนเช้า อาจช่วยระงับความอยากอาหารและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

Altman กับการดื่มแต่เอสเปรสโซ่ในตอนเช้า (CR:Analytic India Magazine)
Altman กับการดื่มแต่เอสเปรสโซ่ในตอนเช้า (CR:Analytic India Magazine)

หลังจากนั้นเขาจะเริ่มเช็คอีเมล และมักจะหลีกเลี่ยงการจัดตารางการประชุมในช่วงเช้า เนื่องจากเขามองว่าเป็นช่วงที่สร้าง productivity ที่สุดสำหรับเขา

Altman ใช้เวลาสองสามชั่วโมงแรกของวันในตอนเช้ากับงานที่ productive ที่สุด

ช่วงบ่าย

Altman มักจะให้มีการนัดหมายการประชุมเรื่องต่าง ๆ ในช่วงบ่าย โดยใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้นต่อการประชุมแต่ละครั้ง

เขาจะหลีกเลี่ยงการประชุมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และมักจะไปขลุกตัวอยู่ในออฟฟิศเพื่อทำงานซึ่งเขามองว่ามันมีคุณค่ามากกว่าการประชุมไร้สาระที่เขาเองมองว่ากว่า 90% ของเวลาในใช้ในการประชุมนั้นเป็นเรื่องเสียเวลาเป็นอย่างมาก

Altman มักจะไปขลุกตัวอยู่ในออฟฟิศเพื่อทำงานซึ่งเขามองว่ามันมีคุณค่ามากกว่าการประชุมไร้สาระ (CR:Paubox)
Altman มักจะไปขลุกตัวอยู่ในออฟฟิศเพื่อทำงานซึ่งเขามองว่ามันมีคุณค่ามากกว่าการประชุมไร้สาระ (CR:Paubox)

เขามักจะหาเวลาในการพบปะกับผู้คนเพื่อสร้าง Network ใหม่ ๆ และมองหาแนวคิดใหม่ ๆ ให้กับตัวเองอยู่เสมอ

เขาย้ำถึงความสำคัญของการทำงานในสิ่งที่ถูกต้องและใช้เวลาร่วมกับผู้คนที่สร้างแรงบันดาลใจ เขาหลีกเลี่ยงงานที่เขาไม่สนใจ โดยเลือกที่จะมอบหมายงานเหล่านั้นให้ทีมงานทำแทน

เขามักจะใช้กระดาษในการจดสิ่งต่าง ๆ มากกว่าการใช้พวก iPad หรือ แท็ปเล็ตในการจดแบบดิจิทัล

Altman จะกำหนดสิ่งที่ต้องทำให้เสร็จในแต่ละปี แต่ละเดือน และแต่ละวัน เขาสามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างไม่มีปัญหา และมักจะจัดลำดับความสำคัญของงานที่สร้างโมเมนตัมให้กับบริษัทก่อนเสมอ

หลังอาหารกลางวัน Altman จะดื่มเอสเปรสโซอีกหนึ่งช็อต

หากมีเวลาว่างหลังเลิกงาน Altman มักจะไปยกน้ำหนักสัปดาห์ละประมาณ 3 ครั้งโดยใช้เวลาราว ๆ หนึ่งชั่วโมง

ตอนเย็น

แม้จะติดกาแฟ แต่ Altman ก็มองว่าการนอนหลับเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขา และพยายามหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารก่อนนอน รวมถึงแทบจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์อีกด้วย

Altman เป็นมังสวิรัตมาตั้งแต่เด็ก และมักจะดื่มโปรตีนเชคบ่อย ๆ เขากล่าวว่าพยายามที่จะหลีกเลี่ยงอาหารพวกรสจัด หรืออะไรก็ตามที่ทำให้ระบบการย่อยอาหารแย่ลง รวมถึงหลีกเลี่ยงการกินน้ำตาลมากเกินไป

Altman มักจะทำสมาธิอีกครั้งในตอนเย็นเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายก่อนนอน ซึ่งเป็นการตอกย้ำความสำคัญของความสม่ำเสมอในการรักษาการฝึกสมาธิ

เมื่อเขาเข้านอน เขาจะใช้เครื่องมือในการติดตามประสิทธิภาพการนอนหลับ เขาชอบห้องที่เย็น มืด และเงียบสงบ พร้อมที่นอนดี ๆ

โดยหากอากาศไม่เย็นพอ เขาจะใช้แผ่นทำความเย็นและมักจะรับประทานยานอนหลับหรือกัญชาในปริมาณเล็กน้อยเพื่อช่วยให้เขานอนหลับ

เรื่องน่าสนใจอื่น ๆ เกี่ยวกับ Sam Altman

Altman ลงทุนในการวิจัยเรื่องการต่อต้านวัยอย่างจริงจัง และใช้ Metformin ซึ่งเชื่อกันว่าช่วยในการชะลอวัย

Altman มีความสามารถพิเศษในการมองเห็นสตาร์ทอัพที่มีอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่เจอปัญหาหนัก ๆ เขาได้ลงทุนในบริษัทมากกว่า 100 แห่ง ซึ่งรวมถึง Airbnb , Reddit , Dropbox , Stripe , Asana , Instacart , Coinbase และอีกมากมาย

Altman ไม่เพียงแต่ชื่นชอบเทคโนโลยีเพียงเท่านั้น แต่เขายังมีความหลงใหลในการแข่งรถและเครื่องบิน ซึ่งเป็นงานอดิเรกที่เขาชอบทำทุกครั้งที่มีเวลาว่าง เขาชอบเช่าเครื่องบินและบินไปทั่วแคลิฟอร์เนีย และเขามีใบอนุญาตของนักบินตั้งแต่อายุ 17 ปี

Altman ยังมีความหลงใหลในการแข่งรถและเครื่องบิน (CR:Car Blog India)
Altman ยังมีความหลงใหลในการแข่งรถและเครื่องบิน (CR:Car Blog India)

Altman อาจมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของมนุษยชาติและเทคโนโลยี แต่เขาก็เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดด้วยเช่นกัน โดยครั้งหนึ่งเขาเคยบอกกับผู้ก่อตั้ง Shypmate ว่า เขาเตรียมตัวสำหรับวันโลกาวินาศไว้แล้ว เขามีทั้งปืน ทองคำ ยาฆ่าเชื้อ แบตเตอรี่ น้ำ หน้ากากป้องกันแก๊สพิษ และบังเกอร์ขนาดใหญ่ที่สามารถบินไปอาศัยอยู่ได้ในวันโลกแตก

References :
https://www.businessinsider.com/open-ai-sam-altman-daily-routine-schedule-for-productivity-2024-1
https://www.entrepreneur.com/business-news/openai-ceo-sam-altmans-day-morning-led-afternoon-espresso/467807
https://hurwitz.tv/the-daily-routines-of-sam-altman-open-ais-brilliant-ceo/
https://indianexpress.com/article/technology/artificial-intelligence/9-unknown-facts-sam-altman-openai-chatgpt-8973470/
https://www.newyorker.com/magazine/2016/10/10/sam-altmans-manifest-destiny

หนึ่งวันในชีวิตของ Oprah Winfrey พิธีกรสาวใจป้ำที่ได้รับฉายาราชินีแห่งสื่อทั้งปวง

รายการทอล์คโชว์ของ Oprah Winfrey อย่าง The Oprah Winfrey Show ซึ่งออกอากาศจากชิคาโก โดยเป็นการออกอากาศทั่วประเทศเป็นเวลา 25 ปี ตั้งแต่ปี 1986 ถึง 2011 เป็นหนึ่งในรายการทอล์คโชว์ทางทีวีที่มีเรตติ้งสูงสุดตลอดกาล

เธอได้รับการประกาศเกียรติคุณให้เป็น “Queen of All Media (ราชินีแห่งสื่อทั้งปวง)” ชาวแอฟริกันอเมริกันที่ร่ำรวยที่สุดในศตวรรษที่ 20 ครั้งหนึ่งเคยเป็นมหาเศรษฐีผิวสีเพียงคนเดียวในโลก  เธอได้รับการยกย่องให้เป็น 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของนิตยสาร Time ถึง 10 ครั้ง ความสำเร็จของเธอไม่มีวันสิ้นสุด เนื่องจาก Oprah มุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จให้มากขึ้นอยู่เสมอ

เธอยังได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหญิงผู้ใจบุญผิวสีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา แม้ว่าเธอจะเกิดมาในความยากจนก็ตาม

ตอนที่เธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย Oprah ทำรายการวิทยุ และเมื่ออายุได้ 19 ปี เธอก็ได้เป็นผู้ประกาศร่วมของสถานีข่าวภาคค่ำในท้องถิ่น แล้วก็ย้ายไปที่รายการทอล์คโชว์ที่ออกอากาศในท้องถิ่นในชิคาโก จากนั้นจึงเปิดบริษัทโปรดักชันของตัวเองในชื่อ Harpo (Oprah สะกดแบบย้อนกลับ) ตอนนั้นเองที่เธอเริ่มรายการทอล์คโชว์ของตัวเอง ส่วนที่เหลือก็คือประวัติศาสตร์ล้วน ๆ

เธอประสบความสำเร็จมากมาย แน่นอนว่าทุกคนต่างอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอทำทั้งหมดนี้ได้อย่างไร และนี่คือภาพรวมกิจวัตรประจำวันของเธอในแต่ละวัน

ตอนเช้า

Oprah Winfrey ตื่นประมาณ 07.10 น. เธอบอกว่าสถานที่โปรดของเธอในการตื่นนอนแล้วล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติในคฤหาสน์มอนเตซิโต ที่รัฐแคลิฟอร์เนียของเธอเอง ซึ่งเธอเรียกว่า “Promised Land (ดินแดนแห่งพันธสัญญา)”

เวลา 8 โมงเช้าเธอจะลุกขึ้น แปรงฟัน และพาสุนัขทั้ง 5 ตัวออกไปเดินเล่นในสวน หลังจากนั้นเธอจะกลับมาทำเอสเปรสโซแก้วโปรดของเธอ

Promised Land (ดินแดนแห่งพันธสัญญา) คฤหาสน์ของ Oprah (CR:iDesignArch)
Promised Land (ดินแดนแห่งพันธสัญญา) คฤหาสน์ของ Oprah (CR:iDesignArch)

ขณะที่เธอกำลังรอเอสเปรสโซชงอยู่ Oprah จะอ่านการ์ด 5 ใบจากกล่อง 365 Gathered Truths ( กล่องนี้เป็นที่เก็บคำคมเตือนสติดี ๆ ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ)

และในเวลา 08.30 น. เธอนั่งสมาธิประมาณ 20 นาที ถ้าอากาศข้างนอกดี เธอจะนอนบนเก้าอี้สนามหญ้าโดยหลับตา จินตนาการถึงเป้าหมายของเธอสำหรับวันนี้ Oprah สังเกตว่าการเริ่มต้นวันใหม่อย่างช้าๆ ช่วยให้จิตใจของเธอดีขึ้นและมีสมาธิเต็มที่กับวันนั้น ๆ

เวลา 9.00 น. หลังจากทำสมาธิ เธอออกกำลังกายเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง รูทีนการออกกำลังกายของเธอเกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายเบา ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และการวิ่ง ไม่ว่าจะเป็นบนลู่วิ่ง หรืออาจะออกไปวิ่งระยะทาง 2 ไมล์ โดยไม่ต้องออกจากที่พัก เพราะเธออาศัยอยู่บนพื้นที่ 65 เอเคอร์

ช่วงบ่าย

เมื่อถึงเวลาประมาณ 12:30 น. Oprah และ Stedman Graham หุ้นส่วนที่รู้จักกันมานานของเธอ รับประทานอาหารกลางวันที่ทำจากผลผลิตจากสวนของเธอ Oprah บอกว่ามื้อกลางวันเป็นมื้อโปรดของเธอ เธอจึงพยายามเต็มที่กับมัน บ่อยครั้งที่เธอจะชวนเพื่อนๆ เช่น Chrissy Metz และ Jennifer Lawrence มาหาถ้า Stedman ไม่อยู่

Oprah และ Stedman Graham หุ้นส่วนที่รู้จักกันมานานของเธอ (CR:NBC News)
Oprah และ Stedman Graham หุ้นส่วนที่รู้จักกันมานานของเธอ (CR:NBC News)

หลังอาหารกลางวัน เธอดูแลธุรกิจ ซึ่งรวมถึงการจัดการเรื่องการเงิน การตอบอีเมล โทรศัพท์ และพูดคุยกับ Gayle King เพื่อนสนิทของเธอ ซึ่งเป็นบรรณาธิการใหญ่ของนิตยสาร O , Oprah’s

ต่อมาในช่วงบ่าย เธอออกกำลังกายเบาๆ อีกครั้ง จากนั้นจะไปที่โรงน้ำชาของเธอ ซึ่งเธอชอบดื่มชาที่ไม่มีคาเฟอีน

ตอนเย็น

เวลา 18.00 น. Oprah รับประทานอาหารเย็น ถ้า Stedman อยู่ที่นั่น เธอจะทานอาหารเย็นอย่างเป็นทางการ แต่ถ้าเธออยู่คนเดียว เธอมักจะหยิบชามซุปหรือโปรตีนเชคขึ้นมาดื่ม

สำหรับ Oprah ตอนเย็นคือเวลาพบปะกับครอบครัวและผ่อนคลาย ซึ่งจะเน้นไปที่การพักผ่อน มักจะคุยกับครอบครัว ดูหนังดีๆ หรืออ่านหนังสือ เธอสังเกตว่านี่คือช่วงเวลาที่เธอชอบมากที่สุดในแต่ละวัน เพราะมันทำให้เธอมีโอกาสผ่อนคลายและใช้เวลาร่วมกับคนที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอ

หลังจากทานอาหารเสร็จ เธอพาสุนัขไปเดินเล่นและจบวันรอบกองไฟกับคนที่เธอรัก และจิบชาสมุนไพรเล็กน้อย

เมื่อถึงเวลา 21:30 น. เธออาบน้ำก่อนที่จะเข้านอน

เรื่องน่าสนใจอื่น ๆ เกี่ยวกับ Oprah Winfrey

เหตุการณ์ในหน้าประวัติศาสตร์วงการโทรทัศน์คือ Oprah ได้ทำการแจกรถสปอร์ตหรูยี่ห้อ Pontiac รุ่น G6 มูลค่าคันละประมาณ 28,500 เหรียญสหรัฐฯ ให้กับผู้เข้าร่วมรายการ 276 คน ได้รับคนละคัน เป็นการฉลองความสำเร็จในการจัดรายการก้าวขึ้นสู่ปีที่ 19

Oprah ได้ทำการแจกรถสปอร์ตหรูยี่ห้อ Pontiac รุ่น G6 ให้ผู้ร่วมรายการ (CR: USA Today)
Oprah ได้ทำการแจกรถสปอร์ตหรูยี่ห้อ Pontiac รุ่น G6 ให้ผู้ร่วมรายการ (CR: USA Today)

Oprah ใช้เวลามากมายในการดูแลจัดการ “Oprah Book Club” ของเธอ เพื่อช่วยให้ผู้อื่นมีส่วนร่วมกับหนังสือมากขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ  USA Today รายงานว่ายอดขายหนังสือ “Oprah editions” จาก 70 รายชื่อในกลุ่มหนังสือของเธอขายรวมกันได้ประมาณ 55 ล้านเล่ม

คนส่วนใหญ่คิดว่าการอาบน้ำเป็นเรื่องสุขอนามัย ไม่ใช่งานอดิเรก แต่ไม่ใช่กับ Oprah “ฉันชอบสร้างประสบการณ์การอาบน้ำ เจลอาบน้ำ ฟองสบู่ คริสตัล เกลือ นมลาเวนเดอร์” เธอกล่าวกับ Harper’s Bazaar ในปี 2012 และในรายการ The Late Late Show เธอได้เปิดเผยกับพิธีกรรายการ James Corden ว่าเธอจริงจังกับการอาบน้ำมากจนมีอ่างอาบน้ำที่แกะสลักตามรูปร่างของเธอ

Oprah เป็นคนเข้มแข็ง ตรงไปตรงมา และมีความสามารถโน้มน้าวผู้อื่นได้ เธอรับผิดชอบ มุ่งมั่น และเอาแต่ใจ จัดรายการทอล์คโชว์ที่เปิดมาอย่างยาวนาน เปิดตัวเครือข่ายโทรทัศน์ของเธอเอง และเป็นผู้นำในความพยายามเพื่อการกุศลหลายอย่าง

References :
https://finty.com/us/daily-routines/oprah-winfrey/
https://www.wework.com/ideas/professional-development/management-leadership/the-morning-routines-of-successful-people
https://owaves.com/day-plan/day-life-oprah-winfrey-2/
https://grafixfather.com/blog/what-are-oprahs-hobbies/
https://www.yahoo.com/lifestyle/oprah-says-hobby-makes-her-130000979.html
https://stylecaster.com/beauty/beauty/347955/successful-women-hobbies/
https://www.groupworks.com/general/10-famous-people-and-the-hobbies-that-fire-them-up/

หนึ่งวันในชีวิตของ Steve Jobs  ผู้ที่กินวีแกน และฝึกสมาธิตามแนวทางของนิกายเซน

Steve Jobs ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple และ Pixar Animation Studios เป็นที่รู้จักจากบุคลิกที่สร้างสรรค์ ความเป็นผู้นำและความหลงใหลในเทคโนโลยีของเขาเป็นสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ และเขายังสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนรอบตัวเขาในทุกๆ วัน เขาเป็นผู้ประกอบการที่มีหัวธุรกิจชั้นยอดและมีความสามารถที่แปลกประหลาดที่จะรู้ล่วงหน้าว่าผู้คนต้องการอะไร

กิจวัตรประจำวันของเขามีบทบาทสำคัญในความสำเร็จ ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของโลก ตั้งแต่กิจวัตรตอนเช้าไปจนถึงการทำสมาธิตอนเย็นและการฝึกฝนทางจิตวิญญาณ กิจวัตรประจำวันของ Jobs ถูกสร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความคิดสร้างสรรค์ของเขา

ตอนเช้า

Jobs จะตื่นนอนในช่วง 6 โมงช้า เขาใส่ชุดเดิมๆ ทุกวัน เสื้อคอเต่าสีดำของอิซเซย์ มิยากิ และกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน เขาจึงไม่ต้องเสียเวลาเลือกว่าจะใส่อะไรในทุกเช้า

โดย Jobs จะเริ่มทำงานที่บ้านก่อนในช่วง 6.30 น. เรียกว่าโลกทั้งใบของ Jobs คืองาน ไม่ว่าจะที่สำนักงานหรือที่บ้าน เขามักใช้เวลาช่วงเช้า เช็คอีเมลก่อนที่ลูก ๆ ของเขาจะตื่น

โลกทั้งใบของ Jobs คืองาน ไม่ว่าจะที่สำนักงานหรือที่บ้าน  (CR:Cult of Mac)
โลกทั้งใบของ Jobs คืองาน ไม่ว่าจะที่สำนักงานหรือที่บ้าน (CR:Cult of Mac)

เมื่อเวลาประมาณ 7.30 น. Jobs จะมารับประทานอาหารเช้ากับครอบครัว และมักจะทานของว่างเช่น ผลไม้ น้ำผลไม้ ซึ่งผักและผลไม้ของครอบครัวจำนวนมากมักจะนำมาจากสวนภายในบ้านของเขาเอง

Jobs จะถึงสำนักงานใหญ่ของ Apple ประมาณ 9.00 น. และเริ่มประชุมนัดแรกของวันเวลาประมาณ 9.30 น. สิ่งที่จะทำในทุกวันจันทร์คือการตรวจสอบธุรกิจทั้งหมด ดูยอดขายจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำการตรวจสอบทุกสิ่ง ทั้งผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในช่วงพัฒนา ผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหา หรือ ในเคสที่สินค้ามีความต้องการเกินกว่าที่จะผลิตได้

Jobs จะวางกำหนดการดังกล่าวนี้ไว้ในทุก ๆ สัปดาห์ ซึ่ง 80% ของเวลาส่วนใหญ่ก็จะทำเหมือน ๆ กันกับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดย Apple จะมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แต่นั่นเป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่ทำให้ทุกคนบริษัทเข้าใจวิสัยทัศน์ตรงกัน

การประชุมในวันจันทร์ จะสงวนไว้สำหรับผู้บริหาร 10 ลำดับแรกของ Apple ส่วนวันพุธ Jobs มักจะพบกับทีมการตลาด

Jobs จะมุ่งเน้นไปที่การประชุมแบบตัวต่อตัวเป็นหลัก เขามองว่ามันสำคัญมากที่จะต้องเจอผู้คนแบบเห็นหน้ากัน พูดคุย สบตาพวกเขา ตะโกนใส่พวกเขา หรือโอบกอดพวกเขา และรับรู้อารมณ์ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่

สำหรับมือเที่ยง Jobs นั้นขึ้นชื่อได้ว่าเป็นนักมังสวิรัติ บางครั้งเขาจะกินอาหารเพียงหนึ่งหรือสองอย่าง เช่น แอปเปิ้ลหรือแครอท

ช่วงบ่าย

เริ่มต้นช่วงบ่าย Jobs จะไปเยี่ยมชมห้องทดลองของทีม Industrial Design ซึ่ง Jony Ive และทีมนักออกแบบของเขาทำงานเกี่ยวกับต้นแบบผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ในอนาคต

Jobs มักจะไปขลุกอยู่กับ Ive ในช่วงบ่ายเสมอ (CR: AppleInsider)
Jobs มักจะไปขลุกอยู่กับ Ive ในช่วงบ่ายเสมอ (CR: AppleInsider)

ถ้าทีมของ Ive กำลังทำงานกับ iPhone รุ่นใหม่ Jobs จะใช้เวลาขลุกกับมันอย่างเข้มข้น เรียกได้ว่า Jobs เองเป็นคนตรวจสอบผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายด้วยตัวเองทุกครั้ง และมักจะมี sense ความเข้าใจผู้บริโภคว่าต้องการอะไรกันแน่ และ Jobs เองก็ค่อนข้างเชื่อมันในสัญชาตญาณของตนเองในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ

ในช่วงเวลา 15.00 น. เป็นช่วงเวลาของการตอบอีเมล การประชุมย่อย และการรับโทรศัพท์ ซึ่ง Jobs เองเป็นคนเปิดเผยที่อยู่อีเมลของเขาต่อสาธารณะ เขามักจะตอบกลับอีเมลโดยเฉลี่ยมากกว่า 100 ฉบับต่อวัน และคอยรับโทรศัพท์ 10 ครั้งต่อวัน

ในช่วงที่อยู่ที่ Pixar และ Apple นั้น กิจกรรมอื่น ๆ ในช่วงบ่าย อาจจะรวมถึงการซ้อมสำหรับการนำเสนอประเด็นสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้น

ตอนเย็น

Jobs มักจะเลิกงานในช่วงเวลา 17.30 น. และกลับไปรับประทานอาหารเย็นกับครอบครัว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพาสต้ากับมะเขือเทศดิบ ข้าวโพดสดจากสวน ดอกกะหล่ำนึ่ง และสลัดแครอทขูดฝอย

ครอบครัวของ Jobs มักจะมีการดื่มชาหลังอาหารเย็น ซึ่งมักทำจากสมุนไพรสด เช่น เลมอนเวอร์บีน่าจากสวนของพวกเขา ซึ่งการดื่มชา ช่วยในการย่อยอาหาร เพิ่มความสงบและผ่อนคลาย และขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

Jobs เป็นคนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากจิบไวน์เป็นครั้งคราวเพียงเท่านั้น

ในเวลา 18.30 Jobs มักจะออกไปเดินเล่นกับ Laurene ภรรยาของเขา ทั้งสองมักออกไปเดินเล่นรอบ ๆ พาโลอัลโต

Jobs มักจะออกไปเดินเล่นกับ Laurene ภรรยาของเขาในช่วงเย็นเสมอ (CR:Business Insider)
Jobs มักจะออกไปเดินเล่นกับ Laurene ภรรยาของเขาในช่วงเย็นเสมอ (CR:Business Insider)

ในช่วงเวลา 22.00 น. เป็นต้นไป จะเป็นช่วงเวลาส่วนตัวที่ Jobs มักทำในกิจกรรมที่ตัวเองชอบ ไม่ว่าจะเป็น การฟังเพลง การทำสมาธิ และฝึกฝนจิตวิญญาณ

ศิลปินที่ Jobs ชื่นชอบมีตั้งแต่ Bob Dylan ไปจนถึง Bach ดนตรีช่วยให้ Jobs สามารถที่จะพาตัวเองเข้าถึงศูนย์กลางทางอารมณ์และจิตวิญญาณได้อีกครั้งในรอบวัน เขามักจะนั่งทำสมาธิ โดย Jobs ฝึกฝนตามแนวทางของพุทธศาสนานิกายเซน

หลังจากนั้น Jobs จะเข้านอน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันใหม่

เรื่องน่าสนใจอื่น ๆ เกี่ยวกับ Steve Jobs

  • เขาชอบฟังเพลงของ The Beatles และ Bob Dylan เป็นอย่างมาก และใช้เงินมากถึง 100,000 ดอลลาร์ไปกับระบบสเตอริโอสำหรับบ้านของเขาเมื่อเขาสร้างมันขึ้นมา
  • หนังสือที่เขาอ่านบ่อยคือ – อัตชีวประวัติของโยคี
  • มีคนไม่กี่คนที่ Steve Jobs ยกย่องให้เป็นฮีโร่ แต่บุคคลหนึ่งที่เขารักมากที่สุดตลอดชีวิตคือมหาตมา คานธี
  • Jobs เป็นวีแกน โดยเขาเริ่มกินวีแกนตั้งแต่ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยเมื่ออายุ 19 ปี
  • Steve รักธุรกิจและวิศวกรรมของชาวเยอรมัน และเป็นผู้สนับสนุน Mercedes เขายังเป็นเจ้าของเครื่องบิน Gulfstream Jet เพราะต้องการที่จะเดินทางรอบโลกอย่างมีสไตล์

References :
https://www.quora.com/What-did-Steve-Jobs-do-for-fun-Did-he-have-a-hobby
https://www.cravingtech.com/5-things-you-didn%E2%80%99t-know-about-steve-jobs.html
https://owaves.com/day-plan/day-life-steve-jobs/
https://finty.com/us/daily-routines/steve-jobs/
https://www.forbes.com/sites/connieguglielmo/2012/05/07/a-day-in-the-life-of-steve-jobs/?sh=63ac2fdb7d6a

หนึ่งวันในชีวิตของ Bob Iger เจ้าพ่อแห่ง Disney ผู้ที่ชอบหลีกหนีจากโลกออนไลน์

ในฐานะ CEO ของ Disney ตั้งแต่ปี 2005 จนกระทั่งก้าวลงจากตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 (ก่อนที่จะมารับตำแหน่งอีกครั้งในช่วงปลายปี 2022)

Bob Iger เป็นแรงผลักดันเบื้องหลังที่สำคัญของการฟื้นตัวของบริษัท เป็นหัวหอกในการเข้าซื้อกิจการหลักหลายรายการ รวมถึง Pixar ในปี 2006 Marvel Entertainment ในปี 2009 Lucasfilm ในปี 2012 ด้วยมูลค่า 4.06 พันล้านดอลลาร์ และ 21st Century Fox ในปี 2019

ภายใต้การดำรงตำแหน่งของ Iger มูลค่าตลาดของ Disney เพิ่มขึ้นจาก 48.4 พันล้านดอลลาร์เป็น 257 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 13 ปี

ในวัยเจ็ดสิบปี เขาสามารถเข้าสู่วัยเกษียณที่เงียบสงบและผ่อนคลายได้อย่างง่ายดาย แต่ในทุกวันนี้เขาก็ยังทำงานที่มีความท้าทายอยู่ทุกวัน และนี่คือกิจวัตรที่น่าสนใจของ Bob Iger ในแต่ละวัน

ตอนเช้า

Bob Iger ตื่นนอนเวลา 4:15 น. โดยในเวลา 04.25 น. เขาเริ่มออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอด้วย VersaClimber โดยใช้เวลาถึง 45 นาทีบนเครื่อง โดยจะมีเทรนเนอร์ส่วนตัวมาช่วยเหลือสัปดาห์ละสองครั้ง เขาจะออกกำลังกาย 6 วันต่อสัปดาห์ และหลีกเลี่ยงการดูโทรศัพท์จนกว่าจะออกกำลังกายเสร็จ

กฎสำคัญข้อหนึ่งของเขาคือจะไม่เช็คอีเมลก่อนออกกำลังกาย เพราะนั่นอาจทำให้อารมณ์แปรปรวนได้ และเขาต้องการเวลานี้ให้เป็นเหมือนช่วงเวลาที่สงบ และสามารถอยู่กับความคิดที่ชัดเจนได้

Igner จะออกกำลังกาย 6 วันต่อสัปดาห์ และดูแลสุขภาพดีมาก ๆ (CR:Daily Mail)

หลังจากออกกำลังกาย Iger จะดื่มกาแฟ อ่านหนังสือพิมพ์ และมักจะมาถึงออฟฟิศระหว่างเวลา 6.30-6.45 น

เขาสามารถผ่อนคลายในแต่ละวันและหลีกเลี่ยงการถูกรบกวน คำพูดที่ว่า “นกที่ตื่นเช้าย่อมจับหนอนได้” เป็นหนึ่งในถ้อยคำที่ซ้ำซากจำเจที่เก่าแก่ที่สุดในหนังสือ แต่มันก็เป็นเรื่องจริงสำหรับเขาเช่นกัน การมาทำงานเช้า ทำให้เขามีความสันโดษมากขึ้น เขาสามารถไปที่โต๊ะทำงานและจัดระเบียบความคิดและสร้างวาระการประชุมได้ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่จะเตรียมพร้อมสิ่งต่างๆ สำหรับวันนั้น ๆ

ช่วงบ่าย

เขาเดินทางบ่อย ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาในที่ทำงานน้อยมาก  Iger บริหารบริษัทที่มีพนักงาน 180,000 คนต้องใช้เวลาอยู่ในอากาศเยอะมาก เจ้าหน้าที่ของเขาคำนวณว่าเขาใช้เวลาราวเทียบเท่ากับ 1 ปีบนเครื่องบินของบริษัท Disney

เมื่อเขาอยู่ในเมือง ลอสแอนเจลิส เขาจัดตารางวันทำงานในสำนักงานให้เหมาะสม โดยจะมีการตรวจสอบอีเมลและข้อความเกี่ยวกับเรื่องงานที่เข้ามาทั้งวัน

เมื่อ Iger อยู่ในเมือง ลอสแอนเจลิส เขาจัดตารางวันทำงานในสำนักงานให้เหมาะสม (CR:arkhavencomics)
เมื่อ Iger อยู่ในเมือง ลอสแอนเจลิส เขาจัดตารางวันทำงานในสำนักงานให้เหมาะสม (CR:arkhavencomics)

ในบางครั้ง Igner ชอบที่จะจดบันทึกสิ่งที่ต้องทำลงในกระดาษ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีเพียงสองหรือสามอย่างเท่านั้น

นิสัยอย่างนึงของ Iger คือ การควบคุมอาหารของเขาอย่างใกล้ชิด งดทานคาร์โบไฮเดรตทั้งหมด ยกเว้นกรณีพิเศษจริง ๆ

ตอนเย็น

การไปทำงานแต่เช้าช่วยให้เขามีโอกาสกลับบ้านในเวลาที่เหมาะสม เขาแยกเวลางานและเวลาส่วนตัวอย่างชัดเจน เขามองว่าครอบครัวก็เป็นส่วนสำคัญในชีวิตเขา เขามีลูกชายอยู่ที่บ้านและเลี้ยงลูกสี่คนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาชอบที่จะอยู่บ้านเพื่อทานอาหารเย็นและนั่งคุยกับครอบครัวของเขา 

Iger มองว่าครอบครัวก็เป็นส่วนสำคัญในชีวิตเขา (CR:Daily Mail)
Iger มองว่าครอบครัวก็เป็นส่วนสำคัญในชีวิตเขา (CR:Daily Mail)

หลังอาหารเย็นและกิจวัตรตอนเย็นกับครอบครัวของเขา ลูกๆ ของเขาเข้านอนหรือทำการบ้าน เขาอาจจะใช้เวลาทำงานต่ออีกสองสามชั่วโมง

จากนั้นหากมีเวลาเขามักจะอ่านหนังสือหรือดูรายการทีวี ก่อนที่จะเข้านอน

เรื่องน่าสนใจอื่น ๆ เกี่ยวกับ Bob Iger

Iger กล่าวถึงประโยชน์หลักประการแรกของการหลีกเลี่ยงโลกออนไลน์ ว่า

“ผมเชื่อว่าในทุกๆ วัน คุณต้องมีเวลาเงียบๆ เพื่อคิด โดยที่คุณจะไม่ถูกรบกวนจากภายนอกจริงๆ … ในบางกรณี คุณไม่ได้อ่านอีเมล คุณไม่ได้ดูโทรศัพท์ คุณไม่ได้ทำอะไรจริง ๆ แต่ให้ตัวเองมีสมาธิกับสิ่งที่คุณคาดหวังหรือสิ่งที่คุณวางแผนจะทำ นั่นเป็นสิ่งสำคัญ”

พ่อแม่ของ Iger ทั้งคู่มีอาการหัวใจวายเมื่ออายุ 40 ปี ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีสามารถช่วยชีวิตเขาได้ เขาเปลี่ยนกิจวัตรการรับประทานอาหารและออกกำลังกายเมื่ออายุ 20 ต้นๆ เพื่อให้มีวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้น 

Iger มักเน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันแบบตัวต่อตัวหลังเหตุการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19

“ขณะที่ผมประชุมกับทีมงานทั่วทั้งบริษัทในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ผมได้รับการเตือนถึงคุณค่ามหาศาลในการอยู่ร่วมกับผู้คนที่คุณทำงานด้วย”

“อย่างที่คุณเคยได้ยินผมพูดมาหลายครั้ง ความคิดสร้างสรรค์คือหัวใจและจิตวิญญาณของสิ่งที่เรา (Disney) เป็น และสิ่งที่เราทำที่ Disney และในธุรกิจที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ไม่มีสิ่งใดสามารถแทนที่ความสามารถในการสังเกต เชื่อมโยง หรือสร้างสรรค์ร่วมกับเพื่อนร่วมงานได้จากการอยู่ร่วมกัน หรือแม้กระทั่งโอกาสที่จะเติบโตอย่างมืออาชีพโดยการเรียนรู้จากผู้นำอย่างใกล้ชิด”

References :
https://docplayer.net/228371875-Bob-iger-daily-routine-facts-and-lifestyle-in-2022.html
https://allthemoments.co/calendar-archetypes-bob-iger/
https://balancethegrind.co/daily-routines/bob-iger-daily-routine/#:~:text=After%20his%20exercise%2C%20Iger%20will,be%20the%20first%20one%20there.
https://www.masterclass.com/classes/bob-iger-teaches-business-strategy-and-leadership/chapters/using-your-time-effectively
https://whatgotyouthere.com/the-distillation-of-bob-iger/
https://medium.com/mind-cafe/try-this-simple-habit-from-a-former-disney-ceo-to-increase-your-focus-f04ce79cc4a1

หนึ่งวันในชีวิตของ Daniel Ek ผู้เคร่งครัดในเรื่องตารางงาน และไม่เชื่อในเรื่อง Work-Life Balance

การก่อตั้ง Spotify ไม่ใช่เรื่องง่าย Daniel Ek คิดเกี่ยวกับการสร้าง Spotify เป็นครั้งแรกเมื่อ Napster ถูกปิดตัวลงเนื่องจากประสบปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ Napster ให้ผู้ใช้เข้าถึงเพลงจำนวนมากได้ฟรี อนุญาตให้แชร์กับคนอื่นที่ใช้ซอฟต์แวร์ของพวกเขาได้

Daniel และผู้ร่วมก่อตั้ง Martin Lorentzon ก่อตั้ง Spotify ในปี 2006 ในกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน Ek กล่าวว่าวัตถุประสงค์หลักของเขากับ Spotify คือการกีดกันการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงออนไลน์โดยสร้างทางเลือกที่มีต้นทุนต่ำ และทำให้สามารถเก็บรายได้จากค่าลิขสิทธิ์จำนวนมากให้กับอุตสาหกรรมเพลง

และเมื่อเวลาผ่านไป Spotify ได้สร้างเอกลักษณ์และสร้างความแตกต่างจากแอปพลิเคชันสตรีมเพลงอื่นๆ Spotify เปิดตัวในปี 2008 และได้รับความนิยมทั้งในหมู่ผู้ใช้และได้รับการตอบรับที่ดีมาก ๆ จากเหล่านักลงทุน

แล้วชายอย่าง Daniel Ek มีกิจวัตรประจำวันอย่างไร มาดูกันว่ากิจวัตรประจำวันของเขาตั้งแต่เช้ายันเข้านอนของเขามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง 

ตอนเช้า

Daniel Ek ตื่นนอนประมาณ 06.30 น. และใช้เวลาอยู่กับลูกและภรรยา เวลา 7:30 น. เขาจะไปออกกำลังกาย เวลา 8:30 น. เขามักจะออกไปเดินเล่น แม้จะเป็นช่วงฤดูหนาว เขาพบว่านี่คือจุดที่เขาได้ใช้ความคิดที่ดีที่สุดอยู่บ่อยๆ 

Daniel Ek ตื่นนอนประมาณ 06.30 น. และใช้เวลาอยู่กับลูกและภรรยา (CR:Business Chronicle)
Daniel Ek ตื่นนอนประมาณ 06.30 น. และใช้เวลาอยู่กับลูกและภรรยา (CR:Business Chronicle)

เวลา 9:30 น. เป็นเวลาที่ Ek มักจะอ่านหนังสือเป็นเวลาสามสิบนาทีถึงหนึ่งชั่วโมง บางครั้งก็อ่านข่าว คนทั่วไปจะเห็นกองหนังสือที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดเวลาในที่ทำงาน ข้างๆ เตียง บนโต๊ะรอบๆ บ้าน ของ Ek อยู่เสมอ 

Ek อ่านหนังสือหลากหลายทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ ความเป็นผู้นำ ชีวประวัติ เป็นการผสมผสานที่ค่อนข้างลงตัว คล้าย ๆ กับรสนิยมทางดนตรีของเขา โดยปรกติ Ek จะเริ่มต้นทำงานในเวลา 10:30 น 

เมื่อเขาอยู่ที่บ้านในสตอกโฮล์มซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของ Spotify เขาจะใช้เวลาในการเดิน 5 นาทีไปยังสำนักงาน

ช่วงบ่าย

“หลายคนตัดสินใจเรื่องสำคัญในช่วงเช้าของวัน แต่ผมมักตัดสินใจทีหลัง” Ek กล่าว 

นั่นเป็นเพราะในขณะที่เขาประจำอยู่ที่ยุโรป พนักงานส่วนใหญ่ของเขาอยู่ที่อเมริกา หมายความว่าด้วยความแตกต่างของเวลา การประชุมที่สำคัญที่สุดของเขาจะมาถึงในช่วงบ่ายเป็นหลัก

ส่วนที่เหลือของวัน Ek แบ่งออกเป็น ส่วนแรกจะมุ่งเน้นไปที่การ coaching แบบตัวต่อตัว และการวางแผน จากนั้น Ek มักจะจัดการปัญหาหนึ่งหัวข้อต่อวันซึ่งใช้เวลากับมันมาก และนั่นคือเรื่องใหญ่ของวันนั้น ๆ

Ek ยังใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเตรียมการประชุม “พูดคุยกับสมาชิกในทีมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการตัดสินใจหรือผู้ที่มีข้อมูลเชิงลึก บางครั้งผมก็ได้รับมุมมองที่ดีจากทีมงาน” เขากล่าว 

การพูดคุยกับสมาชิกในทีมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการตัดสินใจหรือผู้ที่มีข้อมูลเชิงลึก (CR:Wikimedia Commons)
การพูดคุยกับสมาชิกในทีมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการตัดสินใจหรือผู้ที่มีข้อมูลเชิงลึก (CR:Wikimedia Commons)

Ek มีนิสัยที่ชอบเขียนเป้าหมายรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน และติดตามความคืบหน้าทุกเย็นอย่างเคร่งครัด จากนั้นเขาจะจัดสรรเวลาให้สอดคล้องกับแต่ละเป้าหมาย “ผู้คนคิดว่าความคิดสร้างสรรค์คือความอิสระที่ไร้ซึ่งขอบเขต” เขาบอกกับ Fast Company ว่า “ไม่ แท้จริงแล้วคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่สุดในโลกนั้นกำหนดเวลาความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขา ดังนั้นผมจึงพยายามทำเช่นเดียวกัน”

นิสัยที่สำคัญอีกอย่างของ Ek หลีกเลี่ยง งานสังคม หรือการนัดหมายใด ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ Ek กล่าวกับ Fast Company ว่า”สำหรับคนจำนวนมาก คุณอาจชอบงานสังคมแบบนี้ ถ้าผมไม่ไป บางคนอาจจะต้องเสียใจ แต่ผมค่อนข้างเป็นคนที่ไร้ความปรานีในการจัดลำดับความสำคัญ”

Ek มักจะไม่ให้มีการประชุมมากกว่าสามหรือสี่ครั้งต่อวัน ยกเว้นในช่วงการเดินทาง ซึ่งอาจไม่ได้เป็นไปตามตารางเวลาปกติของเขา

ตอนเย็น

Ek มักจะออกจากสำนักงานของ Spotify เวลาประมาณ 20.00 น. กินข้าวเย็นนอกบ้านแล้วกลับบ้านไปพักผ่อน เขาอาจจะมีกิจกรรมยามว่างเช่นเล่นกีตาร์สักสองสามชั่วโมงหรืออ่านหนังสือสองถึงสามเล่มสลับกันไป หลังจากนั้นเขาจะกลับมาออนไลน์อีกครั้งเพื่อส่งอีเมล จากนั้นเข้านอนตอนประมาณตี 2

Ek มีกิจกรรมยามว่างเช่นเล่นกีตาร์สักสองสามชั่วโมงในช่วงเย็น (CR:USA Today)
Ek มีกิจกรรมยามว่างเช่นเล่นกีตาร์สักสองสามชั่วโมงในช่วงเย็น (CR:USA Today)

เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับ Daniel Ek ส่วนอื่น ๆ

Ek เล่นฟุตบอลสโมสรในขณะที่เติบโตในย่านชนชั้นแรงงานแห่งหนึ่งของสตอกโฮล์ม แต่เขากล่าวว่า “ผมรู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้เก่งที่สุดตั้งแต่เนิ่นๆ” เขาไม่มีแรงขับหรือพรสวรรค์ในด้านฟุตบอลเหมือนคนอื่น ๆ

ในเรื่องดนตรี Ek กล่าวว่า ตอนอายุ 18 หรือ 19 ปี เขาได้พยายามที่จะเป็นนักดนตรีเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม เขาเล่นกีตาร์และใช้เวลาอยู่ในรถทัวร์ “นักดนตรีที่ผมไปเที่ยวด้วย พวกเขาอยู่บนท้องถนนตลอดเวลา และวันหนึ่งคุณก็กลายเป็นมือกีตาร์คนที่สอง ทันใดนั้นก็มีมือกีตาร์อีกคนที่เล่นเก่งกว่าคุณเข้ามา ในการก้าวไปสู่ระดับถัดไป คุณต้องยกระดับตัวเองขึ้นไปสองสามระดับ และผมไม่เคยทำมันได้เลย ” เขายังคงโหยหาชีวิตในฐานะร็อคสตาร์: “มันเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนของคุณ และการตระหนักว่าคุณไม่ดีพอ มันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับ”

Ek ชอบเล่น FIFA ซึ่งเป็นเกมวิดีโอฟุตบอลที่สร้างโดย Electronic Arts เขาเป็นแชมป์ FIFA ที่ Spotify อยู่ช่วงหนึ่ง

เมื่อ Scooter Braun ซึ่งเป็นผู้จัดการของ Justin Bieber บอกกับ Ek ในวันหนึ่งว่า Bieber เป็นคนที่เล่นปิงปองเก่งมาก Ek ก็แย้งว่าเขาก็ใช่ย่อยเหมือนกัน Braun เล่าว่า “มีการแข่งขันระหว่าง Ek กับ Justin นั่นทำให้ Ek รู้ว่าเขาไม่ได้เก่งที่สุดในการเล่นปิงปองอีกต่อไป” (มีรายงานว่า Justin เอาชนะไปด้วยคะแนน 21-1) เมื่อเพลง “What Do You Mean” ของ Bieber สร้างสถิติในบริการสตรีมมิ่งในสัปดาห์แรก Ek มอบรางวัล Golden Ping-Pong Paddle ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษให้กับ Bieber

Ek เป็นอีกหนึ่ง CEO ด้านเทคโนโลยีที่มีมุมมองเกี่ยวกับความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานคล้าย ๆ กับ Jeff Bezos ที่มองว่ามันเป็นวลีที่ทำให้บั่นทอนกำลังใจในการทำงานเสียมากกว่า และไม่ค่อยเห็นด้วยกับวลีดังกล่าว

References :
https://balancethegrind.co/daily-routines/daniel-ek-daily-routine/
https://www.cnbc.com/2020/10/06/spotify-ceo-i-start-my-workday-at-1030-ama-look-at-his-morning-routine.html
https://www.businessinsider.com/spotify-ceo-daniel-ek-ruthless-schedule-2018-8
https://www.theobservereffect.org/daniel.html
https://vedaon.com/the-life-story-of-spotify-ceo-daniel-ek/