ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยเครื่องอ่านการ์ดสี่เหลี่ยมเล็กๆ Jack Dorsey (อดีต CEO ของ Twitter) และ Jim McKelvey ออกเดินทางเพื่อค้นหาวิธีที่ตรงไปตรงมาสำหรับศิลปินและผู้ขายในการรับบัตรเครดิต วิธีแก้ปัญหามาในรูปของดองเกิลพลาสติกขนาดเท่าแสตมป์ที่สามารถเสียบเข้ากับแจ็คของ iPhone ได้
เรื่องราวของ Square มันเริ่มต้นตอนที่ Jack Dorsey ที่หลังจากพ่ายแพ้ในศึกแย่งชิง Twitter ในครั้งแรก เขาได้กลับบ้านไปที่เมือง เซนต์หลุยส์ เขาได้ไปพบกับเพื่อนเก่าอย่าง Jim McKelvey และเริ่มแลกเปลี่ยนไอเดียธุรกิจใหม่ที่พวกเขาอาจจะเริ่มต้นด้วยกัน
McKelvey มีอาชีพ เป่าแก้ว และงานที่เกี่ยวกับแก้ว เขาขายให้ร้านต่าง ๆ และนักสะสม เขาบอกกับ Dorsey ว่า เขาพลาดการขายประติมากรรมแก้วขนาดใหญ่ เพราะลูกค้าเขาไม่มีเงินสดมากพอ
และทำมันทำให้ Dorsey ปิ๊งไอเดียขึ้นมา พวกเขาเริ่มพูดคุยกันเรื่องผลิตภัณฑ์ที่ทำให้คนซื้อได้โดยใช้โทรศัพท์ มือถือ และบัตรเครดิต มันจึงเป็นที่มาของการตั้งบริการชำระเงินผ่านมือถือในชื่อ Square
และตัว Square นี่เองที่ Dorsey กลับมาเป็นที่สนใจในวงกว้างได้อีกครั้งไอเดียของเขาในเรื่องการสร้างอุปกรณ์รูดบัตรเครดิต โดยเสียบไว้ที่ช่องหูฟังของ มือถือ นั้น ถือว่าเป็นการปฏิวัติการเงินโลกอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งสองคนเปิดตัวธุรกิจใหม่ในปี 2009 และได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากสมาร์ทโฟนและการชำระเงินออนไลน์ ในช่วงสิบสามปีที่ผ่านมา Square ซึ่งปัจจุบันคือ Block ได้เติบโตขึ้นเป็นบริษัททางการเงินมูลค่ากว่า 54 พันล้านดอลลาร์
″เราบังเอิญตระหนักถึงปัญหา: ในสหรัฐฯ ผู้คนจำนวนมากจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตซึ่งเหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปเพราะสะดวก แต่ปัญหาคือผู้ขายจำนวนมากไม่สามารถรับบัตรได้” Dorsey กล่าวในการสัมภาษณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ กับ CEO ของ MicroStrategy ″เราไม่รู้ว่านั่นเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่มหึมา”
ดองเกิล iPhone รุ่นแรกๆ ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วกลายมาเป็นแอป iPad ซึ่งทาง Square ได้ตกลงกับ Apple ในการขายฮาร์ดแวร์ในร้านค้า และต่อมากับ Starbucks ซึ่งแพลตฟอร์มของพวกเขากลายเป็นตัวประมวลผลการ์ดของเชนร้านกาแฟชื่อดังอย่างเป็นทางการ
ปัจจุบัน Block ดำเนินการกับธนาคารที่ได้รับการคุ้มครองโดย FDIC ซึ่งได้สร้างบริการอย่าง Cash App บริการจ่ายเงินผ่านมือถือซึ่งกลายเป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินของผู้บริโภค การซื้อขายหุ้นและสกุลเงินดิจิทัล ซึ่ง Square ยังได้ซื้อบริการสตรีมเพลงของ Jay-Z อย่าง Tidal และ Afterpay ผู้ให้บริการที่ซื้อก่อนและจ่ายภายหลังจากออสเตรเลีย
เช่นเดียวกับบริษัท Disruptor 50 ส่วนใหญ่ การเติบโตของ Square ได้รับแรงหนุนจากเงินร่วมลงทุนจำนวนมหาศาล
การระดมทุนรอบแรกอย่างเป็นทางการในปี 2009 นำโดย Khosla Ventures ด้วยการประเมินมูลค่าประมาณ 45 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนักลงทุนรายแรกในรอบ 10 ล้านดอลลาร์นั้น ได้แก่ Sir Richard Branson ผู้ก่อตั้ง Virgin Group, Marissa Mayer อดีต CEO ของ Yahoo, ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter Biz Stone และ Shawn Fanning แห่ง Napster
ภายหลังการระดมทุนได้นำไปสู่การร่วมทุนของ Visa, Citi, Starbucks, Goldman Sachs รวมถึง Sequoia และ Kleiner Perkins ยักษ์ใหญ่ใน Silicon Valley
การเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2015 โดย Square เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กภายใต้สัญลักษณ์ SQ โดยมี Dorsey เป็นผู้นำ บริษัทมหาชนแห่งใหม่นี้มีมูลค่าเพียง 3 พันล้านดอลลาร์ โดยมีราคาหุ้นอยู่ที่ 9 ดอลลาร์ ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเกือบ 900% ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ธุรกิจของ Square เติบโตอย่างรวดเร็ว Cash App ตอนนี้ทำรายได้ประมาณครึ่งหนึ่งให้กับบริษัท และเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่ใหญ่ที่สุดในช่วงการแพร่ระบาด เนื่องจากชาวอเมริกันหันไปใช้บริการธนาคารดิจิทัล
ในช่วงแรก ๆ ของ Cash App Dorsey อธิบายเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่ามีคนเพียงไม่กี่คนที่คิดว่ามันคุ้มค่าที่จะลอง
″Cash App เป็นสิ่งที่ทุกคนในบริษัท ในขณะที่เราเริ่มต้น ไม่คิดว่าเราควรจะทำ” Dorsey กล่าวในการประชุม Microstrategy ในเดือนกุมภาพันธ์ “มันเป็นการขายไอเดียที่ยากมาก… เราไม่เห็นโอกาสมากนักในตลาด และทุกวันผมสูญเสียความน่าเชื่อถือ ซึ่งผมตระหนักดีถึงการปกป้องสิ่งนี้ ในที่สุดทีมก็พบแบบจำลองและทำให้มันเกิดขึ้น”
สกุลเงินหลักของอินเทอร์เน็ต
Dorsey ได้ใช้รูปแบบการทดลองนี้ในด้านอื่นๆ ของธุรกิจของ Block โดยเฉพาะ bitcoin
Square เริ่มทดลองกับ cryptocurrency ภายใน Cash App ในปี 2014 Dorsey เปิดใช้งานร้านค้าออนไลน์เพื่อรองรับ cryptocurrency ซึ่งในช่วงแรกมีการทำธุรกรรมเพียงเล็กน้อยและแทบจะไม่มีใครสนใจเลยด้วยซ้ำ
บริษัท ดำเนินการอย่างจริงจังอีกครั้งในปีต่อมา และตอนนี้สามารถซื้อและขาย bitcoin บนแอป Cash นอกเหนือจากหุ้น ในไตรมาสแรกของปีที่แล้ว การซื้อขาย bitcoin สร้างรายได้ 3.5 พันล้านดอลลาร์
ปัจจุบัน Block ถือ bitcoin ในงบดุลแทนเงินสด และได้เปิดตัวโครงการ crypto แบบโอเพนซอร์สหลายโครงการภายในบริษัท รวมถึงกำลังทำงานเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยน cryptocurrency แบบกระจายอำนาจและโครงการขุดเหมือง bitcoin และมีแผนกที่โฟกัสไปที่ bitcoin ของบริษัทโดยเฉพาะที่เรียกว่า TBD
Dorsey เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน Bitcoin ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด และมักเรียกมันว่า ”สกุลเงินหลักของอินเทอร์เน็ต”
เขาลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของ Twitter เมื่อปลายปีที่แล้ว และกล่าวว่าเขาเชื่อว่าบริษัทพร้อมที่จะก้าวต่อไปในยุคใหม่แล้ว
นั่นทำให้ Dorsey ในวัย 45 ปีมีเวลามากขึ้นที่จะอุทิศให้กับธุรกิจที่กำลังเติบโตของ Block แต่ Dorsey ก็คาดหวังที่จะมุ่งเน้นไปที่ความสนใจหลักของเขาที่มีต่อสกุลเงินดิจิทัล
การรีแบรนด์เป็น Block เป็นแสดงถึงความทะเยอทะยานในธุรกิจ crypto ของบริษัท และถือเป็นการเปลี่ยนโฟกัสของบริษัทให้เป็นมากกว่าแค่ธุรกิจเครื่องอ่านบัตรเครดิตแบบเดิม
“เราสร้างแบรนด์ Square สำหรับธุรกิจผู้ขายของเรา” Dorsey กล่าวในแถลงการณ์ “Block เป็นชื่อใหม่ แต่จุดประสงค์ในการเสริมอำนาจทางเศรษฐกิจของเรายังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าเราจะเติบโตหรือเปลี่ยนแปลงอย่างไร เราจะยังคงสร้างเครื่องมือเพื่อช่วยเพิ่มการเข้าถึงเศรษฐกิจ”
Block เป็นหนึ่งในผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคโรคระบาด เนื่องจากนักลงทุนเปิดใจรับหุ้นเทคโนโลยีที่มีการเติบโตสูง แต่ราคาหุ้นกลับร่วงลงสู่พื้นก่อนการเกิดโรคระบาด เนื่องจากนักลงทุนหนีจากการประเมินมูลค่าที่สูงเว่อร์ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นซึ่งคุกคามการเติบโตในอนาคต
หุ้นร่วงลงมากกว่า 45% ในปีนี้เพียงอย่างเดียว บริษัทรายงานผลประกอบการหลังจากตลาดหุ้นปิดเมื่อวันพฤหัสบดี และนักลงทุนกำลังจับตาดูการคาดการณ์ของ Block สำหรับปี 2022 อย่างใกล้ชิด และแผนการที่จะดำเนินการในยุคถัดไปของการเติบโต
References :
https://www.cinemonic.com/the-rapid-growth-of-jack-dorseys-square-inc-the-square-fintech-story/
https://www.cnbc.com/2022/02/24/how-jack-dorsey-grew-square-from-start-up-to-payments-powerhouse.html
https://www.cnbc.com/2021/12/01/square-changes-corporate-name-to-block-.html
https://www.tharadhol.com/twitter-part8-square/
https://www.cnbc.com/2021/08/02/square-to-buy-australia-fintech-afterpay-amid-buy-now-pay-later-trend.html