Vishal Garg & Better.com ชายผู้ไล่พนักงานออก 900 คนผ่าน Zoom กับการต่อสู้ดิ้นรนหลังยุค COVID-19

“HELLO — WAKE UP BETTER TEAM,” Vishal Garg ซีอีโอของ Better.com ได้เขียนในอีเมลถึงพนักงาน “พวกคุณมันเชื่องช้า พวกคุณคือกลุ่มปลาโลมาโง่ ๆ และ…ปลาโลมาโง่ ๆ ติดแหจนถูกฉลามกิน ดังนั้นจงหยุดมัน หยุดมันซะ พวกคุณกำลังทำให้ผมอับอายขายขี้หน้า”

Vishal Garg ได้ย้ายจากประเทศอินเดียไปอยู่กับครอบครัวที่ควีนส์ นิวยอร์ก เมื่ออายุได้เจ็ดขวบ เขาได้ฉายแววในการเป็นผู้ประกอบการตั้งแต่วัยเยาว์ ตอนที่เรียนมัธยมต้นที่ Stuyvesant High School เขาได้ทำการลงทุนซื้อ CliffsNotes จากนั้นเขาก็นำมาขายให้กับเหล่านักเรียนภายในคลาสเพื่อทำกำไร

และที่ Stuyvesant นี่เอง Garg ได้พบกับ Raza Khan ที่เป็นผู้อพยพจากอินเดียอีกคนหนึ่ง ในปี 1995 ทั้งคู่ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์กโดย Garg ศึกษาการเงินและธุรกิจระหว่างประเทศ ในขณะที่ Khan สนใจการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์

ด้วยการผสานความฉลาดทางเทคโนโลยีของ Khan เข้ากับความเฉียบแหลมทางธุรกิจของ Garg พวกเขาจึงก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี 2000 และเติบโตเป็น MyRichUncle ผู้ให้บริการสินเชื่อนักเรียนออนไลน์ที่ใช้อัลกอริทึมเพื่อช่วยตัดสินใจเงื่อนไขการกู้ยืมเงินสำหรับนักเรียน

Vishal Garg และ Raza Khan (CR: X.com)
Vishal Garg และ Raza Khan (CR: X.com)

ธุรกิจดังกล่าวเริ่มต้นด้วยเงินทุน 30,000 ดอลลาร์จากพี่ชายของ Khan และในปี 2007 ได้เติบโตขึ้นเป็นบริษัทมหาชนซึ่งมีแหล่งเงินทุนสำหรับให้กู้สูงถึง 320 ล้านดอลลาร์ ทำให้เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการสินเชื่อนักเรียนรายใหญ่ที่สุดในประเทศ

แต่การที่ต้องเจอกับวิกฤตการณ์ทางการเงินและภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ MyRichUncle หมดเงินทุนที่จำเป็นสำหรับการให้กู้ต่อ สุดท้ายพวกเขาก็ถูกบังคับให้ล้มละลายในปี 2009 โดยทั้ง Garg และ Khan ได้แยกทางกันและปัญหาฟ้องร้องกันในภายหลัง

ในปี 2014 Garg ได้เปิดตัวธุรกิจใหม่หลังความพยายามในการซื้อบ้านของเขาล้มเหลว

“ภรรยาของผมตั้งท้องลูกคนที่สองของเรา และเรายังคงเช่าบ้านอยู่” Garg กล่าว “ในที่สุดบ้านที่เราต้องการก็หลุดลอยไปให้กับผู้ซื้อที่สามารถซื้อได้ด้วยเงินสดเต็มจำนวน เพราะกระบวนกู้เงินซื้อบ้านในยุคนั้นมันใช้เวลายาวนานมากและไม่มีประสิทธิภาพ”

เขาได้ออกแบบแนวคิดที่น่าสนใจ ลดระยะเวลาในกระบวนการกู้ซื้อบ้านและนำเสนอวิธีการอนุมัติล่วงหน้าบนโทรศัพท์มือถือในเวลาประมาณ 3 นาที โดยใช้อัลกอริทึมและข้อมูลจาก 3rd parties รวมถึงลดค่าธรรมเนียมที่ยุ่งยากลง ทำให้ราคาถูกกว่าคู่แข่ง

ผลิตภัณฑ์ของ Better.com ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคทันที ด้วยการตลาดเชิงรุก และการร่วมมือกับแพลตฟอร์มอย่าง Airbnb และ Ally Financial นั่นทำให้ Better.com ได้รับเงินลงทุนจากเหล่านักลงทุนและปิดรอบการระดมทุนใน Series A มูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ได้ในปี 2016

มูลค่าของบริษัทพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ไต่จาก 200 ล้านดอลลาร์ -> 600 ล้านดอลลาร์ และ 4 พันล้านดอลลาร์ในระยะเวลาเพียงไม่ถึงสองปี

Better.com ได้นำเสนอวิธีแก้ปัญหาง่าย ๆ ให้กับคนรุ่นมิลเลนเนียมที่ต้องการที่จะซื้อบ้าน รูปแบบของแพลตฟอร์มที่อนุมัติสินเชื่อได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางความต้องการสินเชื่อที่เพิ่งสูงขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

แนวคิดง่าย ๆ ที่ผลักดันให้บริษัทสามารถสร้างกำไรได้อย่างรวดเร็ว และไปเตะตานักลงทุนยักษ์ใหญ่อย่าง Softbank และ Goldman Sachs ซึ่งทุ่มเงิน 1.5 พันล้านดอลลาร์ใน Better.com และพุ่งสู่การเป็น unicorn ด้านฟินเทค ซึ่งสุดท้ายสามารถพิชิตเป้าหมายในการทำ IPO ได้สำเร็จด้วยการประเมินมูลค่าสูงถึง 7.7 พันล้านดอลลาร์

มันคล้าย ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับแพลตฟอร์มทางด้านเทคโนโลยีทั้งหลายที่พุ่งขึ้นมาจาก demand เทียม ๆ ในยุคการแพร่ระบาด เมื่อการแพร่ระบาดสิ้นสุดลง นั่นทำให้ช่วงเวลาที่เฟื่องฟูของ Better.com ได้สิ้นสุดลงแล้ว

นั่นเองที่เหล่านักลงทุนหมายหัวไปที่ Garg ทันที เพราะเขาเป็นผู้นำที่มีข่าวเชิงลบมาตลอด การเยาะเย้ยพนักงานของเขาว่าเป็น “ปลาโลมาโง่” หรือแม้กระทั่งในปี 2021 ที่เขาไล่พนักงาน 900 คนออกผ่าน Zoom และตำหนิพวกเขาเหล่านี้ว่าเป็นพวกขี้เกียจ

Garg ไล่พนักงาน 900 คนออกผ่าน Zoom และตำหนิพวกเขาเหล่านี้ว่าเป็นพวกขี้เกียจ (CR:Newsweek)
Garg ไล่พนักงาน 900 คนออกผ่าน Zoom และตำหนิพวกเขาเหล่านี้ว่าเป็นพวกขี้เกียจ (CR:Newsweek)

ซึ่งเหตุการณ์หลังจากมีการไล่พนักงานออกทาง Zoom นั้น Garg เองถูกบังคับให้ลางานเป็นเวลาหนึ่งเดือน และเมื่อเขาได้กลับเข้ามารับตำแหน่ง คณะกรรมการบริษัทก็ได้สั่งให้เขาไปอบรมในเรื่องการบริหารองค์กรเพื่อให้มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีขึ้น แต่การกลับมาอีกครั้งของ Garg นั้นก็ยังทำให้อัตราการลาออกของพนักงานพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง เพราะทุกคนต่างเข็ดขยาดกับพฤติกรรมของ Garg

ต้องบอกว่าไม่เพียงแต่รูปแบบการนำองค์กรของ Garg เท่านั้นที่เป็นปัญหา แต่เขายังทำให้ Better.com ขาดการควบคุมทางการเงินที่ดีพอ บริษัทเผชิญกับการฟ้องร้องของผู้บริหารที่กำลังจะหมดวาระ โดยอ้างว่า Better.com ได้บิดเบือนความจริงเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของบริษัทก่อนการทำ IPO ผ่าน SPAC

ในขณะที่ Garg เองยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของบริษัท และยังคงควบคุมการลงคะแนเสียงไว้ 37% Better.com สูญเสียเงินมากกว่า หนึ่งพันล้านดอลลาร์ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งขาดทุนต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสแรกของปี 2023 ซึ่งบริษัทสร้างรายได้เพียงแค่ 21 ล้านดอลลาร์เพียงเท่านั้น และกำลังถูกดำเนินคดีที่ร้ายแรงจาก ก.ล.ต. ของสหรัฐอเมริกา

References :
https://www.forbes.com/sites/davidjeans/2023/08/24/better-mortgage-ceo-vishal-garg-spac/?sh=6cd0bbf15cb5
https://www.forbes.com/sites/davidjeans/2020/11/20/mortgages-fraud-claims-and-dumb-dolphins-a-tangled-past-haunts-bettercom-ceo-vishal-garg/?sh=79f5b23c10f4
https://www.inc.com/magazine/202305/brit-morse/what-bettercoms-vishal-garg-thinks-he-got-wrong-about-those-infamous-layoffs.html