IIT (Indian Institutes of Technology) Bombay ในเมืองมุมไบ เป็นหนึ่งในสถาบันอุดมศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดของอินเดีย เป็นหนึ่งในห้าโรงเรียนวิศวกรรม IIT ดั้งเดิมที่ก่อตั้งขึ้นในทศวรรษที่ 1950 และ 1960
รัฐบาลอินเดียพยายามเลียนแบบความสำเร็จของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ของสหรัฐอเมริกา และเริ่มมีการขยายไปยังเมืองต่าง ๆ ทั่วอินเดียในปี 2008 โดยมีสาขาทั้ง 23 แห่งในปัจจุบัน
ในขณะนี้ IIT เป็นหนึ่งในโรงเรียนชั้นนำของโลก เด็กอินเดียจำนวนมากสมัครเข้าสอบทุกปี และรับน้อยมาก ๆ โดยในปี 2022 IIT มีเพียง 1.83% ของจำนวนผู้สมัครทั้งหมดที่สามารถเข้าเรียนได้ ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่น้อยกว่าการแย่งชิงที่นั่งในมหาวิทยาลัย Ivy League ของสหรัฐอเมริกาเสียด้วยซ้ำ
การได้เข้ามาเป็นสมาชิกของ IIT มันเป็นใบเบิกทางสู่ความสำเร็จด้านเทคโนโลยี บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งในธุรกิจสตาร์ทอัพของอินเดียล้วนเป็นศิษย์เก่าของ IIT ซึ่งจากจำนวน unicorn 108 บริษัทในประเทศ มีถึง 68 บริษัทที่ก่อตั้งโดยบัณฑิต IIT อย่างน้อยหนึ่งคน
ไม่ใช่เพียงแค่โด่งดังในประเทศของตัวเองเพียงเท่านั้น อิทธิพลของ IIT ได้แพร่ขยายออกไปในต่างประเทศ บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของ Silicon Valley หลายแห่งมีผู้บริหารสูงสุดที่มาจาก IIT
Sundar Pichai CEO ของ Google กล่าวในระหว่างการปราศรัยในปี 2016 ว่า การได้เข้าเรียนที่ IIT เปลี่ยนชีวิตของเขาไปอย่างสิ้นเชิง
มหาอำนาจ IIT คือเครือข่ายศิษย์เก่าที่มีความเหนียวแน่นกลมเกลียว การสำเร็จการศึกษาจาก IIT ทำให้ได้เข้าร่วมชมรมพิเศษที่สุดยอด Exclusive
สำหรับศิษย์เก่า resume ที่ประดับด้วยปริญญาของ IIT เป็นเหมือนประตูสู่ทางสวรรค์ของแวดวงธุรกิจระดับโลก ทั้งงานด้านบริษัทสตาร์ทอัพในอินเดีย เหล่าบริษัท VC ชั้นยอดใน Silicon Valley อย่าง Sequooia หรือบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกอย่าง McKinsey
Flipkart กับเคสตัวอย่างพลัง connection IIT
บริษัทหนึ่งที่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมาก ๆ จากพลัง Connection ของศิษย์เก่า IIT นั่นก็คือ ecommerce ยักษ์ใหญ่อย่าง Flipkart ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย
ผู้ก่อตั้งอย่าง Binny Bansal และ Sachin Bansal เรียนที่ IIT Delhi พวกเขาไม่ได้เป็นเพื่อนกันที่มหาวิทยาลัย แต่มีความสัมพันธ์กันหลังจากที่ทั้งคู่ย้ายไปทำงานที่เบงกาลูรู
หลังจากที่พวกเขาก่อตั้ง Flipkart ในปี 2007 พวกเขาได้จ้างศิษย์เก่า IIT จำนวนมาก พนักงานรุ่นแรกคนหนึ่งชื่อ Sujeet Kumar อาศัยอยู่ในอาคารหอพักเดียวกันกับ Sachin Bansal ซึ่งวันหนึ่ง Bansal โทรหา Kumar ว่าต้องการเข้าร่วมสตาร์ทอัพร้านขายหนังสือออนไลน์หรือไม่ และท้ายที่สุด Kumar ได้กลายมาเป็นประธานฝ่ายปฏิบัติการของ Flipkart
ในทางกลับกัน Kumar ได้ใช้เครือข่าย IIT Delhi ของเขาเพื่อรับสมัครพนักงานของ Flipkart เพิ่มเติม
“Connection ใน IIT ช่วยให้เราเชื่อมต่อกับผู้คนที่เหมาะสม และยังช่วยประหยัดเวลา” Kumar กล่าว “คนสำคัญกลุ่มแรก ๆ ของ Flipkart ล้วนแล้วแต่มาจาก IIT แทบจะทั้งสิ้น”
สำหรับผู้ก่อตั้ง Flipkart ภูมิหลังด้าน IIT ของพวกเขายังช่วยให้ได้รับเงินทุนในช่วงต้นอีกด้วย Abhishek Goyal บัณฑิตจาก IIT Kanpur เป็นพนักงานที่บริษัท VC Accel
ในปี 2008 เมื่อเขาเริ่มได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ Flipkart ในงานปาร์ตี้ที่เบงกาลูรู “ผมได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพวกเขาจากอดีตเพื่อนร่วมงานของผมที่ Amazon ว่า คู่หูที่จบการศึกษาจาก IIT Delhi สองคนนี้กำลังสร้าง Amazon สำหรับตลาดอินเดีย” Goyal กล่าว
Goyal พบกับ Bansal และรู้สึกประทับใจ ด้วยภูมิหลังที่ IIT ช่วยให้เขาตัดสินใจลงทุนได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ซึ่งไม่กี่เดือนถัดมา Accel ได้ทำการลงทุนให้กับ Flipkart 800,000 ดอลลาร์ในช่วงเริ่มต้น
อิทธิพลที่ขยายไปทั่วโลก
IIT มีชื่อเสียงอย่างมากในอินเดีย แต่อิทธิพลสถาบันแห่งนี้ก็เริ่มได้ขยายไปทั่วโลก โดยในช่วงทศวรรษที่ 1980 และ 1990 ซึ่งเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีของอินเดียยังไม่ฟื้นตัว ทำให้นักศึกษาระดับปริญญาตรีของ IIT มีเป้าหมายเดียวคือศึกษาต่อในระดับปริญญาโทในสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดใน Silicon Valley ในปัจจุบัน เช่น Sundar Pichai CEO ของ Alphabet และ Arvind Krishna ประธานและ CEO ของ IBM
Pichai เข้าเรียนที่ IIT Kharagpur ซึ่งเขาได้พบกับคอมพิวเตอร์เป็นครั้งแรก “ผมจำได้ว่ากระโดดขึ้นรถไฟที่แออัดในเจนไนและเดินทาง 24 ชั่วโมงเพื่อไปเรียน” Pichai กล่าวในงาน Global Entrepreneurship Summit ในปี 2016 ที่แคลิฟอร์เนีย “โอกาสนั้นได้เปลี่ยนชีวิตของผมไปอย่างสิ้นเชิง”
ยังมีศิษย์เก่าอีกหลายคนจาก IIT ที่ได้บริหารหรือมีส่วนร่วมในการสร้างธุรกิจระดับโลกเช่น Narayana Murthy ผู้ก่อตั้ง Infosys ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ระดับโลก , Parag Agrawal ศิษย์เก่าของ IIT Bombay อดีต CEO ของ Twitter
Rakesh Gangwal เป็นนักธุรกิจมหาเศรษฐีและผู้ร่วมก่อตั้งสายการบิน IndiGo และเคยเป็นอดีตซีอีโอและประธานของ US Airways Group ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2003 ถึงเดือนสิงหาคม 2007 Gangwal เป็นประธาน ประธานและซีอีโอของ Worldspan Technologies ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีการเดินทางและบริการข้อมูล
หรือในสายเทคโนโลยีทางการแพทย์ Rakesh K. Jain ศาสตราจารย์ สาขาชีววิทยาเนื้องอกที่โรงพยาบาล Massachusetts General Hospital (MGH) ในโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด และผู้อำนวยการ EL Steele Laboratories for Tumor Biology ที่ MGH ในปี 2015 Jain ได้รับปริญญาเอกกิตติมศักดิ์จาก Duke University, KU Leuven ประเทศเบลเยียม และ IIT-Kanpur ในปี 2013 เขาได้รับรางวัล National Medal of Science เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกในด้านสภาพแวดล้อมจุลภาคของเนื้องอก และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากการค้นพบน้ำเชื้อของเขาในด้านชีววิทยาของเนื้องอก การนำส่งยา การถ่ายภาพในร่างกาย และวิศวกรรมชีวภาพ
ด้านมืดของ IIT
มีด้านมืดในเครือข่ายของ IIT ไม่ใช่ทุกคนที่รู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของคลับพิเศษแห่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนจากชนกลุ่มน้อยที่พวกเขารู้สึกเหมือนเป็นคนนอก
นอกจากนี้นักเรียนบางคนยังประสบปัญหาในการรับมือแรงกดดันด้านวิชาการทั้งการเข้าเรียนใน IIT และงาน assignment ต่าง ๆ ที่เครียดยิ่งกว่าเมื่อได้ลงทะเบียนเรียนไปแล้ว
สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนที่สุดในวิกฤตการฆ่าตัวตายของ IIT ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานักศึกษา 33 คนเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย ซึ่งมีหลายกรณีที่มีความเชื่อมโยงกับการเลือกปฏิบัติทางวรรณะ
ในอินเดีย สถาบันที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลเช่น IIT ได้จัดสรรโควต้าจำนวนหนึ่งให้กับผู้ที่มาจากวรรณะที่ถูกกดขี่ในอดีต ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยตรงตามโควต้าที่แท้จริงสักเท่าไหร่
นักเรียนจากชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ต้องเผชิญกับการเลือกปฏิบัติเนื่องจากการรับเข้าเรียนผ่านระบบนี้ การศึกษาหนึ่งในเจ็ดวิทยาเขต IIT ระหว่างปี 2016-2021 พบว่า มากกว่า 60% ของนักเรียนที่ลาออกไปกลางคันมาจากปัญหาเรื่องวรรณะที่ถูกกดขี่
ผู้หญิงก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน มีบทบาทต่ำกว่ามาตรฐานเป็นอย่างมากใน IIT โดย Anu Acharya ผู้ก่อตั้ง Mapmygenome บริษัทที่ทำธุรกิจในการทดสอบ DNA จำได้ว่ามีผู้หญิงเพียง 10 คน ในชั้นเรียนปีแรกซึ่งมีนักเรียนทั้งหมดประมาณ 400 คน โดยที่ IIT Kharagpur ในปี 1990 บางชั้นเรียนเธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้น
Shruti CEO ของ ApnaKlub สตาร์ทอัพด้านค้าส่ง เข้าเรียนที่ IIT Delhi ในปี 2008 และกล่าวว่าเธอเป็นหนึ่งในผู้หญิงประมาณ 80 คนในชั้นปีที่สามที่มีนักเรียน 500 คน และเธอรู้สึกได้ถึงแนวคิดเหยียดผู้หญิงของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีนิตยสารสำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ซึ่งแนะนำนักศึกษาใหม่เกี่ยวกับ ศัพท์สแลงของ IIT Delhi มีอย่างหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ “มีผู้ชายในมหาวิทยาลัย และมีกลุ่มที่ไม่ใช่ผู้ชาย (เพศที่สาม) ในมหาวิทยาลัย แต่ไม่ใช่พวกเด็กผู้หญิง”
ทั้ง Shruti และ Acharya ต่างชี้ให้เห็นว่าความไม่สมดุลทางเพศของ IIT ดีขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นให้เด็กผู้หญิงจำนวนมากขึ้นจินตนาการถึงอนาคตของอาชีพในสายวิศวกรรม ในปี 2018 สภา IIT ของรัฐบาลอินเดีย ได้กำหนดโควต้าสำหรับผู้สมัครหญิง ผลคือ 20% ของนักเรียน IIT ปีแรกในปี 2022 เป็นผู้หญิง ซึ่งเทียบกับเพียงแค่ 9% ในปี 2017
บทสรุป
ส่วนตัวมองว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ ไม่ใช่เพียงแค่เฉพาะสถาบันแห่งนี้เพียงเท่านั้น แต่หากใครที่ทำงานสายเทคโนโลยีและได้ร่วมงานกับคนสายเทคจากอินเดียจะพบว่าพวกเขามี process การคิดกระบวนการต่าง ๆ ในธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
มันเหมือนเป็น special DNA พิเศษที่ฝังตัวอยู่ในชาวอินเดีย ซึ่งแน่นอนว่าสถานบันการศึกษาอย่าง IIT ก็ช่วยยกระดับให้พวกเขาสามารถก้าวขึ้นสู่ระดับโลก และสร้างผลงานเป็นประจักษ์อย่างที่เราได้เห็นกันในทุกวันนี้นั่นเองครับผม
References :
https://restofworld.org/2023/iit-graduates-dominate-tech
https://www.indiatimes.com/technology/news/indian-origin-arvind-krishna-from-iit-kanpur-named-ceo-of-ibm-will-replace-ginni-rometty-505401.html
https://energy.economictimes.indiatimes.com/news/renewable/from-narayana-murthy-to-arvind-krishna-iit-kanpur-shines-on-global-map/88113831
https://en.wikipedia.org/wiki/Indian_Institutes_of_Technology