การมีอำนาจเหนือเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI นั้น ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของหลาย ๆ บริษัท โดยเฉพาะกลุ่มบริษัท Big Tech ในซิลิกอน วัลเลย์ ที่กำลังเจอกับความท้าทายครั้งใหญ่ของการปฏิวัติเทคโนโลยีดังกล่าวนี้
Microsoft ลูกพี่ใหญ่แห่งซิลิกอน วัลเลย์ ผู้ที่กรำศึกมายาวนานอย่างต่อเนื่อง สู้ในเทคโนโลยีที่พร้อมที่จะพาบริษัทของพวกเขาพุ่งทะยานไปข้างหน้า ดูเหมือนจะเดิมพันครั้งใหญ่กับเทคโนโลยีของ OpenAI อย่าง ChatGPT
พวกเขาได้อัด ChatGPT เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายไล่ตั้งแต่ Bing ,Teams , Word , Excel เรียกได้ว่าแทบจะทุกผลิตภัณฑ์ของ Microsoft จะมี ChatGPT เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเสมอ
Google ที่ไม่เคยออกศึกใหญ่มาอย่างยาวนาน หลังจากสามารถสร้างเครื่องจักรทำเงินได้จากบริการอย่าง Search Engine ที่เรียกได้ว่ากินส่วนแบ่งการตลาดได้แบบเบ็ดเสร็จ ไม่มีคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับพวกเขามานานมากแล้ว
พวกเขาสามารถนำเงินมหาศาลไปลงทุนในนวัตกรรมใหม่ๆ ได้มากมาย เพราะเงินที่หามาได้ง่ายมาก ๆ ทุกคลิกของผู้คนที่ใช้มัน สามารถสร้างเงิน passive income ให้กับพวกเขาได้อย่างมหาศาล
แต่การเกิดขึ้นของ ChatGPT โดยเฉพาะใน GPT-4 นั้น เรียกได้ว่า Google ต้องกลับมาจัดทัพเพื่อสู้ศึกใหม่อีกครั้ง เหล่ากองทหารที่อยู่กินกันอย่างสบายๆ ของ Google มาอย่างยาวนานแทบจะไม่เคยออกรบนั้น เป็นคำถามที่น่าสนใจว่า เมื่อพวกเขาต้องออกรบในศึกใหญ่จริง ๆ จัง ๆ ครั้งนี้ พวกเขาจะรอดหรือไม่ โดยมีผู้นำที่เป็นแม่ทัพและกำลังถูกตั้งคำถามอย่าง Sundar Pichai คอยนำทัพ
มันต่างกันมากนะครับ Microsoft สู้ในทุกศึก ไล่ตั้งแต่ ระบบปฏิบัติการ , Search Engine , Social Media , Smartphone เรียกได้ว่า Microsoft นั้นเจนจันในสนามรบเป็นอย่างมาก แม้จะเสียเลือดไปมากมายมหาศาลเช่นเดียวกัน แต่พวกเขาก็สู้ในทุกศึก ที่ต่างจาก Google แทบไม่มีศึกไหนที่พวกเขาชนะได้เลยยกเว้น Search Engine หัวใจหลักของพวกเขา
Google ซื้อ Motorola มาทิ้ง เก็บไว้แค่เฉพาะสิทธิบัตร ไม่คิดลุยจริงจังกับ smartphone หรือ Google Plus ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าที่จะต่อกรกับ Facebook หรือ Nest ที่ได้ไปซื้อจาก Tony Fadell สุดท้ายตัว Fadell เองก็ออกมาแฉในหนังสือถึงนวัตกรรมแบบลูกคนรวยของ Google ที่ไม่เคยเหนื่อยยากลำบากเพราะหาเงินมาได้ง่ายจนเกินไป
ไม่ใช่เพียงแค่ Microsoft และ Google เท่านั้น เพราะตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นคล้าย ๆ กันในบริษัท Big Tech อื่น ๆ ไล่ตั้งแต่ Amazon ยักษ์ใหญ่ด้าน ecommerce และ cloud computing ที่ได้มีการร่วมมือกับ Hugging Face ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้าน AI อีกราย ส่วน Apple ก็กำลังทดสอบการใช้ AI ใหม่ในโมเดลต่าง ๆ ของธุรกิจ รวมถึงใน Siri
ที่น่าสนใจคือ Meta ที่พลิกตัว 360 องศาจากความเพ้อฝันในโลก Metaverse ของ Mark Zuckerberg ตอนนี้ เหมือนจะตื่นจากความจริงว่าเทคโนโลยีแห่งอนาคตคืออะไรกันแน่ เมื่อ Mark สั่งลุยเต็มที่กับ AI เพื่อไม่ให้ตกขบวน
เรียกได้ว่า ยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีทั้งหลายนั้นมีทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล พลังในการประมวลผล หรือฐานผู้ใช้งานหลายพันล้านคน
เพื่อการเติบโตในยุค AI โดยไม่ตกขบวน และต้องมีอำนาจเหนือเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ไว้ แน่นอนว่าพวกเขาคงไม่อยากประสบชะตากรรมเดียวกับ Kodak หรือ Blackberry , Nokia ที่พลาดการเปลี่ยนแปลงไปสู่เทคโนโลยีใหม่ และสุดท้ายก็ไปไม่รอดแม้จะเป็นผู้นำมาก่อนก็ตามที
ความคลั่งไคล้ของ AI จึงเต็มไปด้วยบริษัทที่ทรงพลังที่สุดของวงการเทคโนโลยี บางรายก็เริ่มเห็นผลแล้วทำให้ธุรกิจของพวกเขามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น Microsoft ซึ่งใช้ AI เพื่อทำให้ 70-80% ของการอนุมัติใบแจ้งหนี้กว่า 90 ล้านฉบับเป็นไปโดยอัตโนมัติ
เกือบสี่เดือนหลังจากที่ ChatGPT ปรากฎโฉมขึ้นบนโลก Microsoft และ Google ได้เปิดตัว Bing , Bard โฉมใหม่ Meta ได้เสนอเครื่องมือที่สร้างแคมเปญโฆษณาโดยอัตโนมัติตามวัตถุประสงค์ของผู้ลงโฆษณา
Microsoft กำลังทำให้เทคโนโลยีของ OpenAI พร้อมใช้งานสำหรับลูกค้าของแพลตฟอร์ม Cloud Azure ฝั่ง Amazon ด้วยความร่วมมือกับบริษัทอย่าง Cohere และ Anthropic ผู้ใช้ AWS จึงสามารถเข้าถึงโมเดลภาษาขนาดใหญ่ได้มากกว่า 300 แบบ
แน่นอนว่ายักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีคงไม่พอใจแน่หากมีสตาร์ทอัพหน้าใหม่มาช่วงชิงตลาดนี้ของพวกเขาไป พวกเขาได้เปรียบด้วยทรัพยากรจำนวนมหาศาลที่พวกเขาเตรียมทุ่มสรรพกำลังทั้งหมดเดิมพันกับเทคโนโลยี AI ใหม่นี้
พวกเขาไม่เพียงแต่ต้องการมีส่วนร่วม และไม่ตกขบวนรถนี้เท่านั้น แต่ต้องการที่จะมีอำนาจเหนือมัน ไม่ว่าพวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติ AI มันได้เริ่มต้นขึ้นแล้วนั่นเองครับผม
References :
https://www.economist.com/business/2023/03/26/big-tech-and-the-pursuit-of-ai-dominance
https://www.enterprisetimes.co.uk/2023/02/24/the-hype-around-chatgpt-has-started-the-race-for-ai-dominance/
https://www.nytimes.com/2023/02/03/technology/chatgpt-openai-artificial-intelligence.html