หนึ่งวันในชีวิตของ Oprah Winfrey พิธีกรสาวใจป้ำที่ได้รับฉายาราชินีแห่งสื่อทั้งปวง

รายการทอล์คโชว์ของ Oprah Winfrey อย่าง The Oprah Winfrey Show ซึ่งออกอากาศจากชิคาโก โดยเป็นการออกอากาศทั่วประเทศเป็นเวลา 25 ปี ตั้งแต่ปี 1986 ถึง 2011 เป็นหนึ่งในรายการทอล์คโชว์ทางทีวีที่มีเรตติ้งสูงสุดตลอดกาล

เธอได้รับการประกาศเกียรติคุณให้เป็น “Queen of All Media (ราชินีแห่งสื่อทั้งปวง)” ชาวแอฟริกันอเมริกันที่ร่ำรวยที่สุดในศตวรรษที่ 20 ครั้งหนึ่งเคยเป็นมหาเศรษฐีผิวสีเพียงคนเดียวในโลก  เธอได้รับการยกย่องให้เป็น 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของนิตยสาร Time ถึง 10 ครั้ง ความสำเร็จของเธอไม่มีวันสิ้นสุด เนื่องจาก Oprah มุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จให้มากขึ้นอยู่เสมอ

เธอยังได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหญิงผู้ใจบุญผิวสีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา แม้ว่าเธอจะเกิดมาในความยากจนก็ตาม

ตอนที่เธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย Oprah ทำรายการวิทยุ และเมื่ออายุได้ 19 ปี เธอก็ได้เป็นผู้ประกาศร่วมของสถานีข่าวภาคค่ำในท้องถิ่น แล้วก็ย้ายไปที่รายการทอล์คโชว์ที่ออกอากาศในท้องถิ่นในชิคาโก จากนั้นจึงเปิดบริษัทโปรดักชันของตัวเองในชื่อ Harpo (Oprah สะกดแบบย้อนกลับ) ตอนนั้นเองที่เธอเริ่มรายการทอล์คโชว์ของตัวเอง ส่วนที่เหลือก็คือประวัติศาสตร์ล้วน ๆ

เธอประสบความสำเร็จมากมาย แน่นอนว่าทุกคนต่างอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอทำทั้งหมดนี้ได้อย่างไร และนี่คือภาพรวมกิจวัตรประจำวันของเธอในแต่ละวัน

ตอนเช้า

Oprah Winfrey ตื่นประมาณ 07.10 น. เธอบอกว่าสถานที่โปรดของเธอในการตื่นนอนแล้วล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติในคฤหาสน์มอนเตซิโต ที่รัฐแคลิฟอร์เนียของเธอเอง ซึ่งเธอเรียกว่า “Promised Land (ดินแดนแห่งพันธสัญญา)”

เวลา 8 โมงเช้าเธอจะลุกขึ้น แปรงฟัน และพาสุนัขทั้ง 5 ตัวออกไปเดินเล่นในสวน หลังจากนั้นเธอจะกลับมาทำเอสเปรสโซแก้วโปรดของเธอ

Promised Land (ดินแดนแห่งพันธสัญญา) คฤหาสน์ของ Oprah (CR:iDesignArch)
Promised Land (ดินแดนแห่งพันธสัญญา) คฤหาสน์ของ Oprah (CR:iDesignArch)

ขณะที่เธอกำลังรอเอสเปรสโซชงอยู่ Oprah จะอ่านการ์ด 5 ใบจากกล่อง 365 Gathered Truths ( กล่องนี้เป็นที่เก็บคำคมเตือนสติดี ๆ ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ)

และในเวลา 08.30 น. เธอนั่งสมาธิประมาณ 20 นาที ถ้าอากาศข้างนอกดี เธอจะนอนบนเก้าอี้สนามหญ้าโดยหลับตา จินตนาการถึงเป้าหมายของเธอสำหรับวันนี้ Oprah สังเกตว่าการเริ่มต้นวันใหม่อย่างช้าๆ ช่วยให้จิตใจของเธอดีขึ้นและมีสมาธิเต็มที่กับวันนั้น ๆ

เวลา 9.00 น. หลังจากทำสมาธิ เธอออกกำลังกายเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง รูทีนการออกกำลังกายของเธอเกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายเบา ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และการวิ่ง ไม่ว่าจะเป็นบนลู่วิ่ง หรืออาจะออกไปวิ่งระยะทาง 2 ไมล์ โดยไม่ต้องออกจากที่พัก เพราะเธออาศัยอยู่บนพื้นที่ 65 เอเคอร์

ช่วงบ่าย

เมื่อถึงเวลาประมาณ 12:30 น. Oprah และ Stedman Graham หุ้นส่วนที่รู้จักกันมานานของเธอ รับประทานอาหารกลางวันที่ทำจากผลผลิตจากสวนของเธอ Oprah บอกว่ามื้อกลางวันเป็นมื้อโปรดของเธอ เธอจึงพยายามเต็มที่กับมัน บ่อยครั้งที่เธอจะชวนเพื่อนๆ เช่น Chrissy Metz และ Jennifer Lawrence มาหาถ้า Stedman ไม่อยู่

Oprah และ Stedman Graham หุ้นส่วนที่รู้จักกันมานานของเธอ (CR:NBC News)
Oprah และ Stedman Graham หุ้นส่วนที่รู้จักกันมานานของเธอ (CR:NBC News)

หลังอาหารกลางวัน เธอดูแลธุรกิจ ซึ่งรวมถึงการจัดการเรื่องการเงิน การตอบอีเมล โทรศัพท์ และพูดคุยกับ Gayle King เพื่อนสนิทของเธอ ซึ่งเป็นบรรณาธิการใหญ่ของนิตยสาร O , Oprah’s

ต่อมาในช่วงบ่าย เธอออกกำลังกายเบาๆ อีกครั้ง จากนั้นจะไปที่โรงน้ำชาของเธอ ซึ่งเธอชอบดื่มชาที่ไม่มีคาเฟอีน

ตอนเย็น

เวลา 18.00 น. Oprah รับประทานอาหารเย็น ถ้า Stedman อยู่ที่นั่น เธอจะทานอาหารเย็นอย่างเป็นทางการ แต่ถ้าเธออยู่คนเดียว เธอมักจะหยิบชามซุปหรือโปรตีนเชคขึ้นมาดื่ม

สำหรับ Oprah ตอนเย็นคือเวลาพบปะกับครอบครัวและผ่อนคลาย ซึ่งจะเน้นไปที่การพักผ่อน มักจะคุยกับครอบครัว ดูหนังดีๆ หรืออ่านหนังสือ เธอสังเกตว่านี่คือช่วงเวลาที่เธอชอบมากที่สุดในแต่ละวัน เพราะมันทำให้เธอมีโอกาสผ่อนคลายและใช้เวลาร่วมกับคนที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอ

หลังจากทานอาหารเสร็จ เธอพาสุนัขไปเดินเล่นและจบวันรอบกองไฟกับคนที่เธอรัก และจิบชาสมุนไพรเล็กน้อย

เมื่อถึงเวลา 21:30 น. เธออาบน้ำก่อนที่จะเข้านอน

เรื่องน่าสนใจอื่น ๆ เกี่ยวกับ Oprah Winfrey

เหตุการณ์ในหน้าประวัติศาสตร์วงการโทรทัศน์คือ Oprah ได้ทำการแจกรถสปอร์ตหรูยี่ห้อ Pontiac รุ่น G6 มูลค่าคันละประมาณ 28,500 เหรียญสหรัฐฯ ให้กับผู้เข้าร่วมรายการ 276 คน ได้รับคนละคัน เป็นการฉลองความสำเร็จในการจัดรายการก้าวขึ้นสู่ปีที่ 19

Oprah ได้ทำการแจกรถสปอร์ตหรูยี่ห้อ Pontiac รุ่น G6 ให้ผู้ร่วมรายการ (CR: USA Today)
Oprah ได้ทำการแจกรถสปอร์ตหรูยี่ห้อ Pontiac รุ่น G6 ให้ผู้ร่วมรายการ (CR: USA Today)

Oprah ใช้เวลามากมายในการดูแลจัดการ “Oprah Book Club” ของเธอ เพื่อช่วยให้ผู้อื่นมีส่วนร่วมกับหนังสือมากขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ  USA Today รายงานว่ายอดขายหนังสือ “Oprah editions” จาก 70 รายชื่อในกลุ่มหนังสือของเธอขายรวมกันได้ประมาณ 55 ล้านเล่ม

คนส่วนใหญ่คิดว่าการอาบน้ำเป็นเรื่องสุขอนามัย ไม่ใช่งานอดิเรก แต่ไม่ใช่กับ Oprah “ฉันชอบสร้างประสบการณ์การอาบน้ำ เจลอาบน้ำ ฟองสบู่ คริสตัล เกลือ นมลาเวนเดอร์” เธอกล่าวกับ Harper’s Bazaar ในปี 2012 และในรายการ The Late Late Show เธอได้เปิดเผยกับพิธีกรรายการ James Corden ว่าเธอจริงจังกับการอาบน้ำมากจนมีอ่างอาบน้ำที่แกะสลักตามรูปร่างของเธอ

Oprah เป็นคนเข้มแข็ง ตรงไปตรงมา และมีความสามารถโน้มน้าวผู้อื่นได้ เธอรับผิดชอบ มุ่งมั่น และเอาแต่ใจ จัดรายการทอล์คโชว์ที่เปิดมาอย่างยาวนาน เปิดตัวเครือข่ายโทรทัศน์ของเธอเอง และเป็นผู้นำในความพยายามเพื่อการกุศลหลายอย่าง

References :
https://finty.com/us/daily-routines/oprah-winfrey/
https://www.wework.com/ideas/professional-development/management-leadership/the-morning-routines-of-successful-people
https://owaves.com/day-plan/day-life-oprah-winfrey-2/
https://grafixfather.com/blog/what-are-oprahs-hobbies/
https://www.yahoo.com/lifestyle/oprah-says-hobby-makes-her-130000979.html
https://stylecaster.com/beauty/beauty/347955/successful-women-hobbies/
https://www.groupworks.com/general/10-famous-people-and-the-hobbies-that-fire-them-up/

“ชาร์กเต้ – ชาร์กจิง” ผนึกกำลังติดปีก “โรโบคลาวด์” บริษัทพัฒนาหุ่นยนต์อุตสาหกรรมคนไทยเติบโตระดับโลก

รายการ “ชาร์กแทงก์ ไทยแลนด์” (Shark Tank Thailand) เวทีที่เปิดโอกาสให้คนไทยมากฝีมือในหลากหลายอุตสาหกรรม มาโชว์ไอเดีย ความรู้ความสามารถ และแผนการดำเนินธุรกิจ โดยผู้ที่ผ่านด่านและเข้าตากรรมการหรือ “ชาร์ก” จะได้รับข้อเสนอเงินลงทุน เพื่อร่วมกันพัฒนาธุรกิจ และต่อยอดแผนงานให้ก้าวสู่เป้าหมายตามที่ได้เสนอไว้

โดยใน Shark Tank Thailand ซีซั่น 3 ที่ผ่านมา จากการนำเสนอของบริษัท โรโบคลาวด์ จำกัด (Robocloud Company Limited) บริษัทคนไทย ผู้สร้างสรรค์ด้านการพัฒนาระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหกรรม (Robotic & Automation System) ได้รับความสนใจร่วมทุน จาก “ชาร์กเต้ ภูริต ภิรมย์ภักดี” และ “ชาร์กจิง ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ”        2 ซีอีโอจากบริษัทชั้นนำของเมืองไทย ล่าสุดได้มีการลงนามในสัญญาความร่วมมือ เพื่อพัฒนา ส่งเสริมคนไทยที่มีศักยภาพ และร่วมกันผลักดันธุรกิจไปสู่การเติบโตในประเทศและระดับสากลต่อไป 

“ชาร์กเต้ ภูริต ภิรมย์ภักดี” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า “จากการได้ทำหน้าที่ “ชาร์ก” ในรายการ Shark Tank Thailand ทำให้มีโอกาสได้พบผู้ประกอบการคนไทยที่มีความสามารถในหลากหลายอุตสาหกรรม ที่มีโมเดลธุรกิจน่าสนใจ แต่ส่วนใหญ่ไม่สามารถเติบโตได้เพราะปัญหาเรื่องเงินทุนและประสบการณ์ในการทำธุรกิจ

ซึ่งการเข้ามาร่วมลงทุนกับโรโบคลาวด์ในครั้งนี้ จะเป็นการร่วมสร้างโอกาส และพัฒนาศักยภาพในการขยายธุรกิจ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม (Robotic & Automation System) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมการผลิต สู่การเป็น Smart Factory ซึ่งเชื่อมั่นว่าจากประสบการณ์ทางด้านการตลาดและการผลิต ที่กลุ่มบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่มี จะสามารถเป็นประโยชน์ในการพัฒนาระบบให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดภาคการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”

จากการเข้ามาสนับสนุนโรโบคลาวด์ บริษัทของคนไทย โดยผู้บริหารเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีทั้ง Passion และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสายงานแมคาทรอนิกส์ (Mechatronics) ซึ่งเป็นสาขาที่ครอบคลุมทั้งด้านเครื่องกล ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และหุ่นยนต์ นำโดย ก้อง-พิฑูรย์ วัฒกภาสน์ โดยเทคโนโลยีของทีมโรโบคลาวด์ ไม่เพียงจะช่วยยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทย แต่ยังสามารถเติบโต และขยายตลาดในต่างประเทศได้ 

“ชาร์กจิง ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองประธานกรรมการอาวุโส บริษัท ไทยซัมมิท           โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด ให้ความเห็นว่า ไทยซัมมิทมุ่งเน้นการใช้ Automation ในกระบวนการการผลิตเป็นหลัก ปัจจุบันกลุ่มไทยซัมมิทเป็นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีจำนวน Robot มากที่สุดบริษัทหนึ่ง การใช้หุ่นยนต์และแขนกลในการผลิตนั้น จะต้องสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องจักรได้อย่างไร้รอยต่อ เพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพและความแม่นยำในการผลิต

รวมถึงลดของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิต ซึ่งทางไทยซัมมิทมีทีมวิศวกรออกแบบและพัฒนาการทำงานด้านที่กล่าวมาเหล่านี้ บริษัทจึงเชื่อมั่นว่านอกจากเงินลงทุนที่สนับสนุนให้แก่ทางโรโบคลาวด์แล้ว ยังสามารถให้การสนับสนุนเรื่องการวิจัยและพัฒนา, การขยายตลาดและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆได้อีกด้วย 

ทางชาร์กจิงเข้าใจดีว่าผู้ประกอบการที่เข้ามาขอเงินลงทุน โดยปกติจะคาดหวังเรื่องของการช่วยเหลือในด้านอื่นจากชาร์กด้วย โดยยิ่งเป็นผู้ประกอบการรายเล็กหรือรายที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ ก็จะยิ่งคาดหวังมาก ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือให้คำแนะนำในด้าน การตลาด การเงิน Know-How เพื่อการพัฒนาสินค้า ดังนั้นในการเลือกลงทุนในแต่ละครั้ง ก็จะสนับสนุนตามความคาดหวังของผู้ประกอบการให้ได้มากที่สุดตามที่คุยกันก่อนการลงทุน ดังเช่นในกรณีของบริษัทโรโบคลาวด์เป็นต้น และขอแสดงความยินดีกับคุณพิฑูรย์ วัฒกภาสน์ และ คุณทิพย์วดี กวีวัฒนกร ที่แสดงศักยภาพและความตั้งใจออกมา และสามารถดึงชาร์กถึงสองท่านมาร่วมลงทุนได้

พิฑูรย์ วัฒกภาสน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โรโบคลาวด์ จำกัด กล่าวว่า บริษัท โรโบคลาวด์ หลังจากได้รับการลงทุนจาก บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด  และ ไทยซัมมิท เรากำลังเติบโตและขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วแบบติดปีก เนื่องจากทางผู้ลงทุนทั้งสองบริษัทเข้ามาช่วยทั้งด้านเทคโนโลยีและธุรกิจ รวมถึงร่วมสร้างนวัตกรรมในอุตสาหกรรมอาหาร/เครื่องดื่ม และชิ้นส่วนยานยนต์ ให้พัฒนายิ่งขึ้น ซึ่งเราพร้อมที่จะเป็นบริษัทชั้นนำในการให้บริการระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ในประเทศและต่างประเทศ โดยเราตั้งเป้าหมายว่านอกจากการเป็นผู้นำการให้บริการแล้ว เราพร้อมที่จะแบ่งปันและเป็นแหล่งเรียนรู้ทั้งภาคการศึกษาและภาคเอกชน โดยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาบุคคลากรของประเทศ

สำหรับ บริษัท โรโบคลาวด์ จำกัด ดำเนินธุรกิจมาเป็นปีที่ 8 ภายใต้ทีมงานวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญด้านแมคาทรอนิกส์ จึงมีความสามารถทั้งการออกแบบและนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาระบบการผลิตให้ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ตามที่ต้องการแบบ Customization ไม่ว่าจะเป็นรับออกแบบและติดตั้งเครื่องจักรอัตโนมัติ รับสร้างระบบหุ่นยนต์ รับสร้างโปรแกรมบริหารจัดการและการผลิต รวมทั้งรับสร้างคลังสินค้าอัตโนมัติ โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ การพัฒนาระบบอัตโนมัติที่ทำให้โรงงานสามารถสั่งงานระบบต่างๆ ให้ทำงานอย่างสมบูรณ์เพียงแค่การกดเพียงปุ่มเดียว หรือ One Touch Manufacturing เพื่อเป็นหนึ่งในผู้นำที่ทำให้ระบบอุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing) ของไทย ก้าวสู่ Digital Transformation ได้ในอนาคต

ไฮเออร์ ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครื่องปรับอากาศ ฉลองยอดจำหน่ายครบ 10 ล้านเครื่อง

ภายในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เครื่องใช้ไฟฟ้า ไฮเออร์ มียอดการเติบโตเกือบ 3 เท่าในประเทศไทย โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 20% และได้ก้าวขึ้นสู่สายการผลิตที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดของบริษัท

ข้อมูลล่าสุดจาก GfK แสดงให้เห็นว่า เครื่องใช้ไฟฟ้า ไฮเออร์ ได้ขึ้นมาอยู่ 3 อันดับแรกของเครื่องใช้ไฟฟ้าหมวดตู้เย็นและเครื่องซักผ้าในตลาดประเทศไทย ขณะที่ขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 1 ของเครื่องปรับอากาศ (ในแง่ของจำนวน) เป็นการตอกย้ำความสำเร็จครั้งใหม่ของไฮเออร์ ที่ยึดมั่นในกลยุทธ์การปรับธุรกิจให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศ หรือ Localization และ กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ระดับไฮเอนด์

ใช้กลยุทธ์ Localization เพื่อส่งเสริมโลกาภิวัตน์

วันที่ 7 กรกฎาคม 2566  ไฮเออร์ ประเทศไทย ได้จัดงานฉลองยอดจำหน่ายเครื่องปรับอากาศครบ 10 ล้านเครื่อง ที่โรงงานอุตสาหกรรมในอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการดำเนินกลยุทธ์ Localization ของไฮเออร์ ในประเทศไทย

โรงงานเครื่องปรับอากาศของ ไฮเออร์ ประเทศไทย เปิดดำเนินกิจการตั้งแต่ปี 2552 โดยมีการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพของสินค้าให้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบันโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศของไฮเออร์ให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการขับเคลื่อนและกลายมาเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้ามากกว่าหลายล้านเครื่องต่อปี ซึ่งได้มีการวิจัยและพัฒนา การผลิตรวมถึงการส่งออก นอกจากนี้ ความสามารถในการผลิตสินค้าของไฮเออร์ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ในช่วงปลายปี 2566 โรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศของไฮเออร์ จะเตรียมดำเนินการส่งมอบเครื่องปรับอากาศแบบแยกชิ้นส่วนจำนวน 500,000 เครื่อง และชิ้นส่วนหน้ากากเครื่องปรับอากาศจำนวน 750,000 เครื่อง เป็นการสร้างสถิติใหม่ที่สูงสุดในการผลิตอีกครั้ง

ในแง่ของการเป็นส่วนสำคัญของศูนย์การผลิตระดับโลก ไฮเออร์ ประเทศไทย ได้ยึดมั่นในการดำเนินการพัฒนาวิวัฒนาการการผลิต เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ โดยเปิดโอกาสให้กระบวนการผลิตทั้งหมดสามารถเชื่อมต่อกันผ่านระบบดิจิทัลได้ และต่อยอดความสามารถในการพัฒนาระบบอัตโนมัติในอุปกรณ์ผลิตอย่างต่อเนื่อง ด้วยระบบสถิติ และ การนำเทคโนโลยีมาผสานกับการผลิตต่าง ๆ ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพแรงงานของผู้ปฏิบัติงาน ลดต้นทุนการผลิตและระดับการใช้พลังงาน รวมถึงลดระยะเวลาในการจัดส่งสินค้า ในขณะเดียวก็สร้างข้อได้เปรียบในด้านการเป็นผู้นำการผลิต

การใช้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ระดับไฮเอนด์เพื่อสร้างความต้องการของผู้ใช้สินค้า

การดำเนินธุรกิจให้เข้ากับพื้นที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปช่วงที่เครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเออร์ เข้าสู่ตลาดประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งได้เผชิญกับแบรนด์ที่อยู่ในตลาดมายาวนานทั้งแบรนด์จากญี่ปุ่นและเกาหลี ความท้าทายในการเจาะตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจึงเกิดขึ้น ไฮเออร์ ยึดมั่นในแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้า พร้อมสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้ด้วยสินค้าและบริการที่แตกต่างจากคู่แข่ง

ประเทศไทยตั้งอยู่ในพื้นที่เขตร้อนชื้น และ มีสภาพอากาศแบบร้อนชื้น โดยอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีอยู่ในช่วง 24 ถึง 30 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 18 องศาเซลเซียสการใช้เครื่องปรับอากาศจึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อการสร้างความเย็นสบายในช่วงอากาศร้อนและลดความชื้นในช่วงฤดูฝน อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมที่ทำให้เชื้อโรคที่เจริญเติบโตได้ง่ายในเครื่องปรับอากาศ จึงทำให้ต้องทำความสะอาดบ่อยครั้ง 80% ของผู้ใช้ต้องจ่ายค่าบริการทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศเป็นประจำ โดยค่าบริการตลอดปีนั้นมากกว่า 5,000 บาท และยังต้องทำการจองล่วงหน้าอีกด้วย เพื่อลดทอนการเกิดปัญหาดังกล่าว  ไฮเออร์ได้มีการวิจัยและพัฒนาจาก 10 ศูนย์วิจัยและพัฒนาทั่วโลกที่มุ่งตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ และประสบความสำเร็จในการเปิดตัวเครื่องปรับอากาศระบบ Self-Cleaning ที่สามารถ ทำความสะอาดด้วยตนเองได้ เพื่อนำความสะดวกสบายและสุขภาพที่ดีมาสู่ผู้ใช้เครื่องปรับอากาศ

ไฮเออร์ ประเทศไทย ไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ให้ได้ตรงจุด ในปัจจุบันเครื่องปรับอากาศ UV Cool Series รุ่นล่าสุดในตลาดมีเทคโนโลยีการฆ่าเชื้อด้วยรังสี UVC Sterilization ที่สามารถกำจัดแบคทีเรียได้ 99.99% และตอบสนองความต้องการอากาศที่ดีต่อสุขภาพของผู้ใช้ ปัจจุบันเทคโนโลยีนี้ผ่านการทดสอบและรับรองโดยองค์กรระดับโลกอย่าง Texel และได้มาถึงผู้ใช้งานคนไทยแล้ว 

การรับรองความปลอดภัยของผู้ใช้โดยหน่วยงานระดับโลก และ ความพึงพอใจของผู้ใช้งานซึ่งเป็นที่ยอมรับในตลาด มีข้อมูลแสดงให้เห็นว่าตั้งแต่ปี 2565 ถึงปัจจุบัน ยอดขายเครื่องปรับอากาศของไฮเออร์ยังคงครองอันดับ 1 ในตลาดมาโดยตลอด (ในแง่ของจำนวน)

นอกจากนี้ ไฮเออร์ ประเทศไทย ยังมีสินค้าตู้เย็นรุ่นมัลติดอร์ที่สามารถทำสมูทตี้เพื่อความสดชื่นได้อย่างรวดเร็วเพื่อควบคุมอุณหภูมิในภูมิภาคต่าง ๆ

การจัดงานฉลองยอดจำหน่ายเครื่องปรับอากาศครบ 10 ล้านเครื่อง ที่โรงงานของไฮเออร์ในประเทศไทย ไม่เพียงเป็นเครื่องยืนยันถึงการไม่หยุดพัฒนาของไฮเออร์สู่การเป็นแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทยที่ได้รับความนิยมมากว่า 20 ปี แล้วเท่านั้น และยังเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของการสร้างแบรนด์ระดับโลกอีกด้วย

สามารถติดตามข่าวสารของไฮเออร์ ได้ที่

Facebook: Haier (TH) Instagram: @haierthailand_official และ Twitter: @ThailandHaier

Geek Book EP36 : Rentier Capitalism ทุนนิยมแบบเช่ากับโครตเหง้าแห่งปัญหาความเหลื่อมล้ำ

‘ทุนนิยมผู้เช่า’ คือการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ประเภทสำคัญๆ ที่หายาก เช่น ที่ดิน ทรัพย์สินทางปัญญา ทรัพยากรธรรมชาติ หรือแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งล้วนมีความสำคัญและครอบงำโดยบริษัทและกลุ่มผู้มั่งคั่งเพียงไม่กี่ราย

หากชนชั้นนำกลุ่มเล็กๆ เป็นเจ้าของเศรษฐกิจในปัจจุบัน คนอื่นๆ ก็มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในการต้องถูกสูบเลือดสูบเนื้อให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ Brett Christophers (ผู้แต่ง) แสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน และไม่มีประเทศใดจะโดดเด่นไปกว่าในสหราชอาณาจักร ที่ซึ่งพบกับปัญหาตามแบบฉบับของระบบทุนนิยมที่ให้เช่ามากกว่าใคร ความไม่เท่าเทียมกันอย่างมากมายรวมกับความซบเซาทางเศรษฐกิจที่ฝังรากลึกปรากฏอยู่เต็มไปหมด และนำประเทศไปสู่จุดวิกฤตของ Brexit อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ด้วยบทเรียนที่ลึกซึ้งสำหรับประเทศอื่น ๆ ที่อยู่ภายใต้การครอบงำของผู้เช่า ตัวอย่างเคสที่เกิดขึ้นในสหราชอาณาจักรของ Christophers ทำให้ไม่เพียงแค่เข้าใจปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจที่เลวร้ายนี้เท่านั้น แต่เป็นบทเรียนสำหรับผู้ที่ต้องการจะเอาชนะมันได้อีกด้วย

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://tinyurl.com/ywub7njm

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/5n6fp5kn

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://tinyurl.com/26uj6j5s

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/mufc5846

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/zdbfxKAOnZ8

Credit Image :
https://www.amazon.com/Rentier-Capitalism-Owns-Economy-Pays/dp/1788739728