Worldcoin กับการแก้ปัญหาแยกแยะมนุษย์และเครื่องจักรด้วยการสแกนม่านตา

ลองจินตนาการว่าในอนาคตเราอาจจะไม่สามารถแยกแยะระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรหรือ AI ได้ การเปิดตัว ChatGPT ของ OpenAI เมื่อปีที่แล้ว ทำให้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดังกล่าวขึ้นสู่จุดสูงสุด และดูเหมือนว่ามีผู้เชี่ยวชาญหลายคนจะกังวลกับความปลอดภัยของมัน

ที่น่าสนใจก็คือ ผู้ก่อตั้ง OpenAI อย่าง Sam Altman มีแผนการที่ทะเยอทะยานมากกว่าแค่ AI เพราะเขากำลังปั้นโปรเจกต์ใหม่ที่มีชื่อว่า “Worldcoin”

โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสร้าง “World ID” แบบดิจิทัลโดยใช้เทคโนโลยีการสแกนดวงตา ซึ่ง Altmanได้กล่าวว่า การใช้ ID ผ่านม่านตา สามารถใช้เพื่อเข้าถึงบริการและแยกแยะความแตกต่างระหว่างมนุษย์และ AI

Altman ได้พัฒนาสิ่งที่เรียกว่า “Orb” ลูกแก้วทรงกลมแวววาวที่ใช้ในการสแกนดวงตาของสมาชิกใหม่ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ได้รับ “World ID” ซึ่งเป็นบันทึกที่พิสูจน์ว่าบุคคลที่ลงทะเบียนเป็นมนุษย์ไม่ใช่ AI

การรุกล้ำความเป็นส่วนตัวที่น่ากังวล

นับตั้งแต่การเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการเมื่อหลายปีก่อน โครงการ Worldcoin ก็ได้ถูกวิจารณ์เกี่ยวกับการใช้ข้อมูลไบโอเมตริกซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ รวมถึงการรวบรวม จัดเก็บ และใช้ข้อมูลดังกล่าว

Altman กล่าวว่า เขาหวังว่าจะมีผู้ใช้ 2 พันล้านคนลงทะเบียนกับ Worldcoin ซึ่งในตอนนี้แพลตฟอร์มได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งจะพร้อมใช้งานใน 35 เมือง 20 ประเทศ รวมถึงโทเค็น Worldcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลบนบล็อกเชนที่สามารถใช้ได้เมื่อผู้ใช้พิสูจน์ตัวตนแล้ว

Worldcoin ได้ทวีต ภาพถ่ายของวัตถุกับฉากหลังของเมืองใหญ่ เป็นรูปของ Orb วัตถุทรงกลมปริศนาที่สร้างความฉงนให้กับผู้ที่มองเห็นมัน

ในลิสบอนกับฉากหลังทิวทัศน์อันสวยงามของหอคอยเบเล็ม ส่วนในสิงคโปร์ มันก็ตั้งโดดเด่นสะดุดตาพร้อมกับฉากหลังของ Marina Bay Sands ในไมอามี Orb ที่ขนาบข้างด้วยต้นปาล์ม และอีกลูกที่สะท้อนท้องฟ้าในโตเกียว ซึ่งทำให้มันกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ทันที

Orb กับฉากหลังของ Marina Bay Sands (CR:Business Insider)
Orb กับฉากหลังของ Marina Bay Sands (CR:Business Insider)

อย่างไรก็ดี Worldcoin ก็เผชิญกับปัญหาจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ จากวิกฤติความเชื่อมั่นที่ได้เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาจากการล่มสลายของทั้ง FTX และ Celsius ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลออกมาตรการบังคับเพื่อปราบปรามโครงการ crypto ที่เน้นไปที่การเก็งกำไร

นั่นทำให้โทเค็น Worldcoin จะไม่สามารถใช้งานได้ในสหรัฐฯ แต่ Altman ก็ได้กล่าวกับ Financial Times ว่า “ผมจะบอกว่ามีประชากรโลก 95% ที่ไม่ได้อยู่ในสหรัฐฯ เราไม่ได้สนใจตลาดสหรัฐอเมริกามากนัก”

ซึ่งแม้จะมีอุปสรรคด้านกฎระเบียบ นักลงทุนก็ได้เทเงินประมาณ 250 ล้านดอลลาร์ เข้าสู่ Worldcoin รวมถึงกลุ่มทุน Andreessen Horowitz และ Khosla Ventures

บทสรุป

Worldcoin ดูเหมือนจะคาดการณ์ถึงคำวิจารณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว จึงได้ออกมาประกาศว่า ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนตัวใด ๆ หากไม่ต้องการ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับไบโอเมตริกซ์ภายในดวงตาของผู้ใช้

แม้จะมีความกังวล แต่ก็มีผู้คนกว่าสองล้านคนได้ลงทะเบียนเพื่อใช้งานแล้ว Worldcoin นั้นมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการจัดการความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจจากเทคโนโลยี AI และจะแจกโทเค็นดิจิทัลให้กับผู้คนหลายพันล้านคนแบบฟรี ๆ

มันก็ยังไม่ชัดเจนว่าเทคโนโลยีแบบนี้จะสามารถแก้ปัญหาเชิงระบบที่มีความซับซ้อนได้หรือไม่ แต่ตอนนี้เจ้าลูกทรงกลมประหลาดได้ปรากฎต่อหน้าผู้คนไปทั่วโลกแล้ว

โลกเรามาถึงจุดนี้แล้วจริง ๆ หรือ ลองจินตนาการถึงการจ้องมองไปยังลูกทรงกลมนี้ ในขณะที่ “Orb” กำลังยืนยืนความเป็นมนุษย์ของคุณ ต้องบอกว่ามันคงเป็นเรื่องที่พิลึกสิ้นดี …

References :
https://www.forbes.com/sites/roberthart/2023/07/24/what-is-worldcoin-heres-what-to-know-about-the-eyeball-scanning-crypto-project-launched-by-openais-sam-altman/?sh=3cdde45e5c4b
https://www.ft.com/content/b7a867f4-2462-4d1b-a805-b821bf0804f6
https://www.businessinsider.com/sam-altman-worldcoin-orb-photos-2023-7
https://siamblockchain.com/2023/07/28/chatgpt-creator-sam-altman-shows-video-of-people-registering-for-worldcoin-iris-scans/

https://www.theblock.co/post/210014/sam-altman-worldcoin-fundraise