ต้องบอกว่า Albert Einstein, Steve Jobs และ Elon Musk มีอะไรที่เหมือนกันค่อนข้างมาก ตามการวิเคราะห์ของศาสตราจารย์ Melissa Schilling จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กในหนังสือของเธอที่ชื่อ “Quirky”
“สุดยอดนักประดิษฐ์เหล่านี้ทำงานในสาขาที่แตกต่างกันและในเวลาที่ต่างกัน แต่ก็มีความคล้ายคลึงกันบางอย่าง” Schilling กล่าว
“แม้ว่าพวกเขาจะมีลักษณะบางอย่างที่เราไม่สามารถเลียนแบบได้ แต่ก็มีลักษณะอื่นๆ ที่เราสามารถใช้ประโยชน์จากพวกเขาได้ เช่น การสร้างเป้าหมายที่มีความทะเยอทะยาน สร้างการรับรู้ในขีดความสามารถของตนเอง และการใช้เวลาตามลำพังเพื่อฝึกฝนความคิดที่เป็นอิสระของของตนเอง”
ในหนังสือ “Quirky” Schilling ได้วิเคราะห์ชีวิตของ Einstein , Musk และ Jobs รวมถึงคนอื่นๆ เพื่อพิจารณาว่าพวกเขาแต่ละคนค้นพบสิ่งที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของมนุษย์เราได้อย่างไร
“การศึกษาบุคคลสำคัญอย่างลึกซึ้งเหล่านี้แสดงให้เราเห็นว่ามีวิธีต่างๆ ที่เราสามารถบ่มเพาะศักยภาพด้านนวัตกรรมที่ก้าวล้ำในตัวเราทุกคนได้” Schilling กล่าว ซึ่งงานวิจัยของเขามุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมและกลยุทธ์ในอุตสาหกรรมไฮเทค
ในฐานะนักประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ต่อไปนี้คือคุณลักษณะสามอย่างที่ Einstein , Musk และ Jobs มีเหมือนกัน ตามการวิเคราะห์ของ Schilling
พวกเขาพึ่งตนเองได้
Einstein , Musk และ Jobs ต่างแยกตัวออกจากสังคม หรือไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคม Schilling กล่าว
เมื่อตอนเป็นเด็ก Musk ตัวเล็กที่สุดในชั้นเรียน เป็น ”เด็กเนิร์ด” ที่มักถูกรังแกอยู่เสมอ
Schilling ชี้ให้เห็นว่าเนื่องจากครอบครัวของเขาย้ายที่อยู่บ่อยมาก Musk จึงไปโรงเรียนที่แตกต่างกันถึง 7 แห่งตั้งแต่เติบโตมา จึงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเพื่อน ๆ เหมือนเด็กคนอื่น ๆ
Schilling กล่าวว่า “Musk ตอบสนองต่อความรู้สึกนี้ด้วยการหนีไปอ่านหนังสือและเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ในที่สุดเขาก็เขียนและขายวิดีโอเกมเกมแรกเมื่ออายุได้ 12 ปี” Schilling กล่าว
สำหรับ Jobs นั้น Schilling กล่าวว่าบุคลิกที่เอาแต่ใจและค่อนข้างแข็งกร้าวของเขาทำให้เขารักษามิตรภาพกับคนที่มีความใกล้ชิดกับเขาได้ยาก
Chrisann Brennan แฟนคนแรกของ Jobs และเป็นแม่ของลูกคนแรกของเขากล่าวว่าแม้แต่ในโรงเรียนมัธยม Jobs ก็ยังแทบจะไม่สุงสิงกับใคร เขามีส่วนผสมผสานระหว่างความอัจฉริยะ ความจริงใจ และความเป็นคนอารมณ์ร้อน”
Einstein พูดอย่างชัดเจนว่าการเป็นตัวของตัวเองทำให้เขาไม่ยอมก้มหัวให้กับแนวคิดทางด้านวิชาการแบบเดิม ๆ
“นี่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขาสามารถละทิ้งแนวคิดแบบนิวตันที่ขัดขวางความก้าวหน้าของนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ และทำให้เขาสามารถคิดทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นการปฏิวัติจริงๆ ในยุคของเขา” Schilling กล่าว
ดังที่ Schilling ชี้ให้เห็น Einstein เคยกล่าวไว้ว่า : ”ความรู้สึกอย่างแรงกล้าในความยุติธรรมทางสังคมและความรับผิดชอบต่อสังคมของฉันขัดแย้งกับเสรีภาพที่เด่นชัดของฉันเสมอจากความจำเป็นในการที่ต้องมีการปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วฉันได้สร้างเส้นทางเดินชีวิตของตัวฉันเอง”
ในที่สุด Schilling กล่าวว่านั่นทำให้พวกเขาเป็นนักคิดที่สามารถท้าทายสภาพที่เป็นอยู่
“เพราะพวกเขารู้สึกว่าตัวเองแตกต่างและแปลกแยกจากสังคมรอบข้าง พวกเขาจึงไม่ปฏิบัติตามกฎเหมือนคนอื่น ๆ ซึ่งทำให้พวกเขาพัฒนาความคิดที่กล้าได้กล้าเสียแม้ต้องเผชิญกับคำวิจารณ์มากมายเพียงใดก็ตาม” เธอกล่าว “สิ่งนี้เน้นให้เห็นคุณค่าของการใช้เวลาตามลำพัง ทั้งการอ่าน เขียน และคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เราพบว่าน่าสนใจอย่างแท้จริง”
พวกเขาเป็นนักอุดมคติ
Einstein , Musk และ Jobs แสดงความเป็นอุดมคติในอาชีพของพวกเขา Schilling กล่าว
“Jobs ต้องการปฏิวัติวิธีคิดของเราด้วยคอมพิวเตอร์ Einstein ต้องการค้นหาความจริงง่ายๆ เกี่ยวกับวิธีการทำงานของจักรวาล และ Musk ต้องการช่วยเผ่าพันธุ์ของเราด้วยการเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและสร้างอาณานิคมบนดาวอังคาร” เธอกล่าว
เมื่อผู้คนมีแรงจูงใจอย่างแท้จริงที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง พวกเขาจะทำงานหนักขึ้นและนานขึ้น และจะยึดมั่นในเป้าหมายเมื่อต้องเผชิญกับคำวิจารณ์ Schilling อธิบาย
พวกเขายังต้องพึ่งพาคนฉลาดอื่นๆ เพื่อที่จะสามารถดำเนินการตามความคิดของพวกเขาให้สำเร็จ ซึ่งในกรณีของพวกเขาเหล่านี้การเข้าถึงความเชี่ยวชาญหรือทรัพยากรทางปัญญามีความสำคัญต่อพวกเขามากกว่าการเข้าถึงทรัพยากรทางด้านการเงิน
Schilling กล่าวว่า “การทำตามเป้าหมายที่พวกเขามองว่าเป็นสิ่งที่สูงส่งและสำคัญนั้นทำให้พวกเขามีแรงจูงใจและความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า และเป็นรูปแบบหนึ่งของเกราะป้องกันจากคำวิจารณ์และความล้มเหลว” Schilling กล่าว “เราทุกคนสามารถได้รับประโยชน์จากการปลูกฝังความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ เป้าหมายที่ใหญ่พอที่จะขยายวิสัยทัศน์ของเราออกไปให้ไกลกว่าสิ่งที่คนอื่น ๆ มองเห็น และมีความสำคัญมากพอที่มันจะกระตุ้นความพยายามอันแน่วแน่ของเรา”
พวกเขาไม่ใช่นักเรียนระดับเทพ
“ผู้ชายเหล่านี้แต่ละคนไม่ค่อยชอบโครงสร้างการศึกษาในระบบแบบเดิม ๆ ” Schilling กล่าว
แม้ว่า Einstein จะมีพรสวรรค์อย่างลึกซึ้งในวิชาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ แต่ความก้าวร้าวของเขาก็ได้สร้างความขัดแย้งกับครูของเขาเช่นเดียวกัน เขามักจะขาดเรียนหรือมาสาย และแม้แต่ตอนที่อยู่ในชั้นเรียน ครูของเขามองว่าเขาเป็นคนดื้อรั้น ต่อมาครูเหล่านั้นก็ทำให้ Einstein ได้รับตำแหน่งทางวิชาการได้ยาก
Schilling ระบุว่า Jobs ตอนเรียนในชั้นเกรด 4 เขามีความสามารถที่จะสอบได้ที่ระดับชั้นเกรด 10 แม้ว่าเขาจะลาออกจาก Reed College แต่เขาก็อยู่ในมหาวิทยาลัยเพื่อเข้าเรียนในชั้นเรียนที่เขาเลือกเอง ภายหลังเขากล่าวว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา เพราะมันทำให้เขาได้ศึกษาสิ่งต่าง ๆ ที่เขาพบว่าน่าสนใจอย่างแท้จริง
ในขณะเดียวกัน Musk เรียนได้เกรดที่ดีมาก ๆ ในคลาสเรียนที่เขาสนใจ เมื่อมาถึงคลาสเรียนที่เขาไม่สนใจเขาก็มักจะประสบกับปัญหาทันที Musk ตั้งข้อสังเกตว่าในมหาวิทยาลัยเขาไม่ค่อยเข้าชั้นเรียนและมุ่งไปที่การสอบเพื่อให้ผ่านในวิชาต่าง ๆ แทน
Musk เริ่มเรียนวิชาฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยควีนส์ในแคนาดา หลังจากนั้นสองปีก็ย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย และได้รับปริญญาตรีใบที่สองในสาขาเศรษฐศาสตร์ที่วอร์ตันสคูล เขาเข้าเรียนที่สแตนฟอร์ดเพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกในสาขาฟิสิกส์ประยุกต์แต่ลาออกเพื่อก่อตั้งบริษัทกับพี่ชายของเขา
แม้ว่าชายเหล่านี้แต่ละคนจะพบว่าโครงสร้างของการศึกษาในระบบเป็นข้อจำกัด แต่ Schilling กล่าวว่า เราไม่ควรสรุปว่าการศึกษาไม่สำคัญสำหรับพวกเขา
“ความหมายประการหนึ่งสำหรับพวกเราทุกคน ไม่ว่าเราจะลงทุนในการศึกษาของระบบปรกติหรือไม่ก็ตาม เราควรมองหาหัวข้อที่เราพบว่าน่าสนใจและมีความสำคัญ และศึกษาอย่างเข้มข้นในแง่มุมของเราเอง” Schilling กล่าว “หัวข้อที่เราศึกษาด้วยตัวเองเป็นพื้นที่ที่เรามีแนวโน้มที่จะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ได้ในอนาคต”
ยอดอัจฉริยะในทุกวงการมักมีความพิเศษที่แตกต่างจากคนอื่นๆ เสมอ
ตัดมาที่ภาพของนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่อย่าง Cristiano Ronaldo ที่ถือได้ว่าเขาเป็นหนึ่งใน icon ของวงการฟุตบอล ซึ่งจากบทความข้างต้น เราจะเห็นอะไรบางอย่างของ Ronaldo ที่มีความคล้ายคลึงกัน เช่น ใน ข้อที่ 1 และ 2
Ronaldo ก็แทบไม่ต่างจาก Albert Einstein, Steve Jobs และ Elon Musk ในสาขาของตัวเองคือเรื่องฟุตบอล Ronaldo มีแนวคิดพึ่งพาตนเอง ปลีกแยกออกจากสังคม เพราะเขาต้องการสร้างสิ่งที่แตกต่าง หรือแม้กระทั่ง เรื่องการเป็นนักอุดมคติอย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้
โลกเราบางครั้งมันก็ไม่ได้เป็นโลกที่สวยงาม คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ มักจะมีนิสัยบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน เช่น ความมีอีโก้ ในตัวเองสูง หรือ ใครหลายๆ คนอาจจะร่วมงานกับพวกเขาได้ยากมาก ๆ เพราะพวกเขามีเป้าหมายที่สูงส่งและมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า
แต่สิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่สร้างความแตกต่างให้พวกเขามีเหนือคนทั่วไป และสร้างประวัติศาสตร์ได้สำเร็จในยุคของพวกเขานั่นเองครับผม
References :
https://www.cnbc.com/2018/03/12/3-traits-elon-musk-albert-einstein-and-steve-jobs-have-in-common.html
https://paulkeijzer.com/2022/01/18/breakthrough-innovators-einstein-jobs-and-elon-musk-three-traits/
หนังสือ Quirky: The Remarkable Story of the Traits, Foibles, and Genius of Breakthrough Innovators Who Changed the World โดย Melissa A Schilling
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA
Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ
Geek Forever’s Podcast
“Open Your World With Technology“
AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning
Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ