ประวัติ Vladimir Putin ตอนที่ 5 : The Art of War

สำหรับมอสโก ในฤดูของปี 1999 มันได้เกิดความเงียบสงัดขึ้นที่เครมลิน สำนักงานที่ครั้งหนึ่งเคยเต็มไปด้วยผู้คนที่มายื่นคำร้องในเรื่องราวต่าง ๆ นา ๆ บัดนี้กลับว่างเปล่า “มันเหมือนกับอยู่ในสุสาน” Sergi Pugachev นายธนาคารของเครมลินที่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของเสนาธิการเครมลินกล่าว “มันเหมือนกับบริษัทที่ล้มละลาย ทันใดนั้นทุกคนก็หายสาปสูญ”

สำหรับ Pugachev และสมาชิกคนอื่น ๆ ของคนวงในของ Yeltsin ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในนาม ‘Family’ ซึ่งเป็นผู้พักอาศัยที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่คนในเครมลิน

มันเป็นความจริงใหม่ที่เริ่มตึงเครียดขึ้นอย่างชัดเจน Yeltsin เข้าและออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่เดือนตุลาคม และนอกกำแพงเครมลิน ดูเหมือนว่ากำลังมีการเตรียมการรัฐปรหาร

รากฐานของการปกครองของ Yeltsin กำลังจะถูกรื้อถอน ซึ่งเป็นผลมาจากการลดค่าเงินรูเบิลในหน้าร้อนที่ผ่านมา และการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลจำนวน 40,000 ล้านดอลลาร์

ธนาคารของผู้มีอำนาจหลายแห่งได้พังทลายลงในช่วงวิกฤตินี้ เงินออมของประชาชนทั่วไปก็แทบจะสูญสิ้น รัฐสภาซึ่งยังคงถูกคอมมิวนิสต์ครอบงำอยู่นั้น อยู่ในความโกลาหล

Yeltsin ถูกบังคับให้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนของ KGB Yevgeny Primakov อดีตสายลับที่อยู่ในหน่วยข่าวกรองต่างประเทศและเป็นเหมือนยามของเครือข่าย KGB มานานแล้ว

สมาชิกขององครักษ์เก่าของคอมมิวนิสต์ได้ควบคุมรัฐบาล เรื่องราวอื้อฉาวทางการเงินต่าง ๆ มุ่งเป้าไปที่ความตะกละของฝ่ายตรงข้ามในกลุ่มของ Yeltsin เริ่มถูกขุดคุ้ยอย่างหนัก

Yevgeny Primakov ที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหวังล้ม Yeltsin (CR:Wikipedia)
Yevgeny Primakov ที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหวังล้ม Yeltsin (CR:Wikipedia)

การสอบสวนที่คุกคามไปยังตัว Yeltsin โดยตรงเริ่มดำเนินการ หนึ่งคือกรณีของบริษัทที่ชื่อ Mabetex ซึ่งเป็นบริษัทที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักตั้งอยู่ในเมืองลูกาโนในแถบเทือกเขาแอลป์ของสวิตเซอร์แลนด์ ใกล้ชายแดนอิตาลี

ตลอดช่วงทศวรรษที่ 1990 บริษัทแห่งนี้ได้สัญญามูลค่าหลายพันล้านในการบูรณะเครมลิน ทำเนียบขาวของรัสเซีย และโครงการอันทรงเกียรติอื่น ๆ อีกมากมาย

กลุ่มนายธนาคารทั้ง 7 ที่เป็นพันธมิตรที่สำคัญของ Yeltsin เอง พวกเขาก็แทบไม่สนใจความสำเร็จในระบอบประชาธิปไตยของ Yeltsin

ในมุมมองของพวกเขา Yeltsin เป็นคนติดเหล้าที่ไม่สามารถที่จะเป็นผู้นำประเทศได้ รวมถึงกลุ่มพันธมิตรบางคนที่ได้รับอำนาจไปใช้อย่างไร้ค่าและทำบางสิ่งบางอย่างที่มันผิดกฎหมาย และกำลังจะนำประเทศไปสู่การล่มสลายอีกครั้ง

และศูนย์กลางของเรื่องราวทั้งหมดคือ Sergei Pugachev นายธนาคารเครมลินที่จะหนีไปลอนดอนและปารีสในเวลาต่อมา เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงและเป็นคนสำคัญในข้อตกลงลับ ๆ มากมายที่เกิดขึ้นในเครมลิน

ธนาคารที่เขาร่วมก่อตั้งคือ Mezhprombank ซึ่งเป็นเจ้าหนี้หลักของแผนกทรัพย์สินที่เครมลิน

ในสมัยนั้นแผนกทรัพย์สินเป็นอาณาจักรที่แผ่ขยายออกไป ควบคุมทรัพย์สินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่รัฐเก็บไว้หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต

ตลอดเวลา Pugachev ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Behdjet Pacolli เจ้าของ Mabetex เขาดูแลโครงการฟื้นฟูเครมลินทั้งหมดเป็นการส่วนตัว นับตั้งแต่การลงนามในสัญญาไปจนถึงการปรับปรุงสิ่งก่อสร้างต่างๆ ทั้งหมด

จากจุดเริ่มต้นมันเป็นการดำเนินการที่ฟุ่มเฟือยแบบสุด ๆ แม้ว่าเขาจะยืนยันว่าเขาพยายามทำให้แน่ใจว่าเครมลินได้ราคาที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม

จากต้นไม้ 23 ชนิดถูกนำมาใช้เพื่อสร้างลวดลายอันวิจิตรของพื้นพระราชวังเครมลิน มีการซื้อทองคำบริสุทธิ์มากกว่า 50 กิโลกรัมเพื่อประดับห้องโถง และผ้าไหมที่ดีที่สุด 662 ตารางเมตรสำหรับปูผนัง

เครมลินจะถูกเปลี่ยนเป็นความรุ่งโรจน์ในยุคซาร์หลังจากทศวรรษของการปกครองของคอมมิวนิสต์ซึ่งสมบัติทั้งหมดของยุคก่อนการปฏิวัติ ทั้งพื้นโมเสก เครื่องประดับล้ำค่า กระจกสีทองและโคมไฟระย้า ถูกนำออกไปและแทนที่ด้วยการตกแต่งที่เรียบง่ายที่สุด

มันเป็นงบประมาณการก่อสร้างที่สูงมาก ซึ่งกว่า 700 ล้านดอลลาร์ เป็นส่วนหนึ่งของเงินที่รัสเซียได้รับเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ รวมถึง Yeltsin ได้ลงนามสำหรับกู้เงินต่างประเทศอีกจำนวน 300 ล้านดอลลาร์ และมีการอนุมัติจากรัฐบาลเพิ่มอีก 492 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการฟื้นฟูเครมลิน

นั่นเองเมื่อเริ่มมีการสอบสวนเรื่องดังกล่าว ที่นำโดยอัยการ Yury Skuratov เป็นเวลาที่ Pugachev ต้องเริ่มเดินเกมใหม่ ตอนนั้นเองที่ Pugachev และตระกูล Yeltsin เริ่มเดินเกมเพื่อความอยู่รอดของพวกเขาที่จะช่วยผลักดันให้ Vladimir Putin สู่อำนาจ

มันเป็นทางเลือกสุดท้ายของพวกเขา หาก Primakov อดีต KGB ขึ้นสู่อำนาจจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อเสรีภาพของ Yeltsin เขาได้กลิ่นตุ ๆ ของเรื่องทุจริตทันทีที่ Primakov และทีมของเขาได้เข้ามามีอำนาจในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

Yeltsin ที่ต้องเข้าและออกโรงพยาบาลเป็นเวลาหลายเดือน ทำให้เขาดูอ่อนแอลงไปเมื่อเทียบกับ Primakov ซึ่งถูกมองว่ากำลังเข้ามาโค่นล้มเขา

แต่ในเดือนเมษายน Yeltsin ได้รวบรวมกำลังพลเพื่อประลองครั้งสุดท้าย Yeltsin มีสัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดเหมือนสัตว์ป่าและเก่งในเรื่องกลอุบายทางการเมืองเป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจว่าถึงเวลาต้องลงมือแล้ว

เขาเรียก Primakov ไปที่เครมลินและบอกว่าเขาถูกไล่ออก เขาจะถูกแทนที่ด้วย Sergei Stepashin รัฐมนตรีมหาดไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับ Yeltsin ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของขบวนการประชาธิปไตยและเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าคนแรกสุดของ FSB

แม้ว่าสื่อจะคาดการณ์มานานแล้วว่า Yeltsin จะทำการเคลื่อนไหวในรูปแบบดังกล่าว แต่ก็ยังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น Yeltsin รอจนถึงวินาทีสุดท้ายแล้วจัดการเผด็จศึก Primakov

ทางสภา Duma (สภาผู้แทนราษฎร) ไม่คิดว่า Yeltsin จะกล้าทำสิ่งนี้ สิ่งที่เหมือนเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะเป็นการทำให้สภา Duma ต่อต้านเขามากยิ่งขึ้นเนื่องจากส่วนใหญ่ควบคุมโดยอดีตกลุ่มคอมมิวนิสต์

แต่ต้องบอกว่าในความจริง มันตรงกันข้าม มันเป็นการแสดงความแข็งแกร่งทั้งหมดของ Yeltsin เขาทำลายกองกำลังอันทรงพลังของ Primakov อย่างสงบ และดูเหมือน สภา Duma รู้สึกกลัวกับท่าทีที่แข็งกร้าวของ Yeltsin ในครั้งนี้ นั่นทำให้แผน A ของ KGB ล้มเหลวทันที

Pugachev เองนั้นเดินหน้าหาคนที่เหมาะสมมานานแล้ว ผู้ชายที่เขาเชื่อว่าเป็นคู่หูที่ปลอดภัยที่สุด และมีความจงรักภักดีที่สุด เขาสนับสนุน Vladimir Putin ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นว่า Putin ควรจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง

Pugachev พบกับ Putin ครั้งแรกในเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กช่วงสั้น ๆ ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 และได้รู้จักกันดีขึ้นเมื่อ Putin ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองผู้ว่าการในแผนกทรัพย์สินที่เครมลิน ซึ่งที่่นั่นเขาทำงานร่วมกันแทบจะทุกวัน

Mezhprombank ของ Pugachev มีส่วนร่วมในการระดมทุนสำหรับแผนกอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศที่ Putin เป็นหัวหน้า จากสำนักงานเล็ก ๆ ของเขาที่จตุรัสเก่า Putin ได้รับมอบหมายให้สืบสวนการถือครองสินทรัพย์ในต่างประเทศจำนวนมากที่รัสเซียได้รับสืบทอดมาจากการล่มสายของสหภาพโซเวียต

มีทั้งอาคารอันโอ่อ่าของสำนักงานตัวแทนการค้าพิเศษ มีสถานทูตและฐานทัพยุทธศาสตร์ คลังอาวุธ และเซฟเฮาส์ลับของ KGB

การถือครองเหล่านี้จำนวนมากถูกปล้นในช่วงความสับสนวุ่นวายของการล่มสลายโดย KGB และกลุ่มอาชญากร มันควรอยู่ในงบดุลของกระทรวงการต่างประเทศ แต่ไม่เคยมีการทำบัญชี งานของ Putin คือนำทรัพย์สินเหล่านี้กลับมาให้หมด

ทั้ง Pugachev และ Putin อยู่ใกล้ชิดกัน ครั้งแรกในฐานะหัวหน้าแผนกควบคุมทรัพย์สิน จากนั้นเมื่อ Putin ขึ้นเป็นหัวหน้าของ FSB Pugachev กล่าวตลอดเวลาว่า Putin เป็นลูกบุญธรรมของเขา เสน่ห์ของเขาคือ Putin อยู่ในฐานะคนที่เขาสามารถสั่งได้ ‘

“เขาชื่อฟังเหมือนสุนัข” Pugachev กล่าว

Sergi Pugachev ผู้ปลุกปั้น Putin ขึ้นสู่อำนาจสูงสุด (CR:Hello Magazine)
Sergi Pugachev ผู้ปลุกปั้น Putin ขึ้นสู่อำนาจสูงสุด (CR:Hello Magazine)

ด้วยความที่การสอบสวนเรื่อง Mabetex กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ มันได้กลายเป็นความเร่งรีบของครอบครัว Yeltsin เองในการปกป้องกลุ่มอำนาจของตัวเองให้ได้เร็วที่สุด

นั่นคือเหตุของการผงาดขึ้นมาของ Putin เหนือตัวเลือกอื่นใดที่ Yeltsin มีอยู่ พวกเขาต้องการผู้ชายที่แข็งแกร่งเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขา และพวกเขาต้องสามารถต่อรองได้

ตอนแรก Yeltsin ก็ยังลังเลใจ แต่ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม กลุ่มกบฎเชเชนเริ่มโจมตีด้วยอาวุธที่ชายแดนของดาเกสถาน พื้นที่ภูเขาที่อยู่ติดกับสาธารณะรัฐเชเชนที่กำลังแตกแยก ทำให้ Yeltsin ต้องรีบตัดสินใจ

เมื่อ Yeltsin ได้ประกาศในท้ายที่สุด ประเทศชาติก็ตกตะลึงกับตัวตนของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของพวกเขา Putin เป็นข้าราชการที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก เป็นคนสีเทาที่ไม่ค่อยปรากฎในข่าว

สำนักข่าวต่างประเทศพยายามรวบรวมชีวประวัติของเขา สิ่งที่ทำให้คนในชาติตกใจที่สุดคือการที่ Yeltsin เปิดเผยชื่อเขาอย่างเป็นทางการว่าเป็นคนที่เขาหวังว่าจะประสบความสำเร็จในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากเขา

Yeltsin ได้ประกาศในการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ โดยประกาศว่า

“ผมตัดสินใจตั้งบุคคลในความคิดของผมที่จะสามารถรวมรัสเซียกลับมาเป็นหนึ่งเดียว เขา (Putin) มีกองกำลังทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าการปฏิรูปรัสเซียจะดำเนินต่อไป เขาจะสามารถรวมกลุ่มคนที่อยู่รอบตัวเขาซึ่งมีหน้าที่ในการรื้อฟื้นรัสเซียให้เป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 21 บุคคลนี้เคยเป็นเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคง ผู้อำนวยการ Federal Security Service (FSB)”

นันทำให้ Putin ประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดในหน้าที่การงานของเขา รัฐสภารัสเซียต่างตกตะลึง Putin ที่ดูเหมือนเด็กอ่อนด้อยในตอนนั้นเมื่อเทียบกับ Primakov

ดูเหมือนสิ่งที่ Pugachev มองเห็นว่า Putin ดูมีความจงรักภักดีและเชื่อฟังง่าย เปรียบเสมือนสุนัขรับใช้ แต่สิ่งที่ Pugachev ไม่รู้ก็คือ Putin เคยทำงานอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มที่พยายามล้มล้างระบบ Yeltsin

Pugachev แทบจะไม่รูัตัวว่า อดีตเจ้าหน้าที่ KGB อยู่เบื้องหลังการรั่วไหลของบัญชี Mabetex ที่กำลังไล่ล่า Yeltsin อยู่ โดยเชื่อมโยงกับหน่วยงานระดับบนสุดของแผนก black-ops ในตำนานของ KGB ที่ได้ช่วย Putin ในการจัดตั้ง
โครงการแลกเปลี่ยนน้ำมันสำหรับอาหารในเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก

Pugachev ไม่รู้ว่า Putin เล่นเกมการเมืองทุกด้านมาโดยตลอด Pugachev คงไม่รู้เสียแล้วว่า Putin คือ แผน B ของ KGB หลังจากแผนการผลักดัน Primakov ล้มเหลว

Pugachev มักอ้างว่าเขาคิดว่า Putin เป็นคนที่เขาสามารถควบคุมได้ เขาแทบจะไม่รู้ตัวมาก่อนเลยว่า Putin กำลังเล่นบทสองหน้าและหลอกลวงพวกเขา

“สงครามอยู่บนพื้นฐานของการหลอกลวง และนี่คือกลยุทธของซุนวู” จากหนังสือ Art of War

มันคือการเรียนรู้จากศาสตร์การรบแบบจีนโบราณ ซึ่งดูเหมือนว่า Putin จะเรียนรู้บทเรียนนี้ได้อย่างถ่องแท้ จากการผงาดขึ้นมากุมอำนาจได้สำเร็จในครั้งนี้นั่นเอง

–> อ่านตอนที่ 6 : The Inner Circle

ย้อนไปอ่านตั้งแต่ตอนแรก & Credit แหล่งข้อมูลบทความ


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube