ประวัติ Vladimir Putin ตอนที่ 3 : Where’s the Money

การพยายามทำรัฐประหารโดยกลุ่มหัวรุนแรงคอมมิวนิสต์ที่พยายามรักษาอำนาจของสหภาพโซเวียตได้พังทลายลงด้วยความล้มเหลว

การเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาเพียงแค่ 4 วันสั้น ๆ นั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง Boris Yeltsin ผู้นำรัสเซียที่สนับสนุนประชาธิปไตยได้ลงนามในพระราชกฤษฎีกา ถ่ายทอดสด ระงับบทบาทของพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียต และยุติการปกครองนานหลายทศวรรษของพวกเขา

Yeltsin โทษพรรคคอมมิวนิสต์ว่าควรได้รับโทษฐานก่อรัฐประหารโดยผิดกฎหมาย Yeltsin จึงสั่งให้ปิดสำนักงานใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาไปทั่วรัสเซียของคณะกรรมการกลางของพรรคที่จตุรัสเก่าของมอสโกในทันที

ความลับของอาณาจักรการเงินอันกว้างใหญ่ไพศาลของสหภาพโซเวียตถูกจัดเก็บไว้ในห้องต่างๆ หลายร้อยห้อง เครือข่ายที่ครอบคลุมอาคาร โรงแรม และสถานพยาบาลหลายพันแห่ง เช่นเดียวกับบัญชีธนาคารของพรรคและบริษัทต่างชาตินับร้อยนับพันที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นกิจการร่วมค้าในช่วงที่ระบอบการปกครองกำลังเรืองอำนาจ

การดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ในต่างประเทศ และของพรรคการเมืองพันธมิตร ได้รับการสนับสนุนทางการเงินให้เป็นเครื่องมือในการต่อสู้ของโซเวียตเพื่อถ่วงดุลอำนาจกับตะวันตก

และนี่คืออาณาจักรที่ถูกดูแลโดย Nikolai Kruchina , Georgy Pavlov และ Dmitry Lissovolik ที่ Kruchina บริหารงานในฐานะหัวหน้าแผนกทรัพย์สินของพรรคคอมมิวนิสต์ตั้งแต่ปี 1983

โดย Pavlov และ Lissovolik เสียชีวิตอย่างปริศนาในหนึ่งเดือนถัดมาหลังการล่มสลายของพรรคคอมมิวนิสต์ ทั้งสองถูกระบุว่าได้ทำการฆ่าตัวตายที่บ้านพักของตนเอง

สิ่งที่เชื่อมโยงกันของชายทั้งสามคือ ความรู้ที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับระบบการเงินที่เป็นความลับของพรรคคอมมิวนิสต์ ในขณะที่ KGB กำลังเตรียมการสำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจแบบตลาดภายใต้การปฏิรูป perestroika ของ Gorbachev

แผนกทรัพย์สินที่ Kruchina และ Pavlov ดูแลนั้นเข้าใจกันว่ามีทรัพย์สินอยู่ที่ประมาณ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ผู้ปกครองคนใหม่ของรัสเซียอย่าง Yeltsin รู้สึกงุนงงเมื่อพบว่ากองทุนของพรรคที่เหลืออยู่จริงนั้นแทบจะว่างเปล่า

มีข่าวลือมากมายว่า Kruchina ได้ทำการโอนเงินรูเบิลและสกุลเงินอื่น ๆ หลายพันล้านรูเบิลผ่านกองทุนการร่วมทุนจากต่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นอย่างรวดเร็วในปีสุดท้ายของพรรคคอมมิวนิสต์ก่อนล่มสลาย

แต่เจ้าหน้าที่อัยการก็ได้ทำการขุดคุ้ยเอกสารจนพบหลักฐานของเงินที่รั่วไหลมากมายที่เกิดขึ้นก่อนการล่มสลายของพรรคคอมมิวนิสต์ ที่มีการติดต่อกับทั้งนายธนาคารในอิตาลี รวมถึงเครือข่ายบริษัทยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ มากมายที่ทำงานร่วมกับสหภาพโซเวียต

บริษัทเหล่านั้นรวมถึงยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยุโรป ไมว่าจะเป็น Fiat , Merloni , Olivetti , Siemens และ Thyssen บริษัทเหล่านี้ได้จัดหาสินค้าทางการทหารภายใต้การแอบอิงว่าเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งเบื้องหลังนั้นบริษัทเหล่านี้ได้ผลิตยุทโธปกรณ์ทางการทหารแบบจริงจังมาก ๆ

แม้จะมีการพยายามสอบสวนถึงเส้นทางการเงิน โดยมีการจ้างบริษัทจากต่างชาติเข้ามาร่วมสืบสวนสอบสวน แต่ดูเหมือนจะไม่มีความคืบหน้าเพราะไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ของรัสเซียเอง

หน่วยสืบราชการลับต่างประเทศของ KGB ซึ่งอยู่เบื้องหลังหลากหลายโครงการที่เกิดขึ้นในยุคคอมมิวนิสต์ ได้ถือกุญแจลับแห่งความมั่งคั่งที่ซ่อนอยู่ ซึ่งในท้ายที่สุด เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลาย ทุกอย่างเหมือนดูหยุดลง แต่สายลับ KGB เหล่านี้รู้ว่าเงินอยู่ที่ไหน

และ ในคืนสุดท้ายของ Kruchina ก่อนตายนั้นมีเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ เกิดขึ้นเมื่อเริ่มมีการโอนความมั่งคั่งของพรรคคอมมิวนิสต์ที่ถูกโอนไปยังชนชั้นสูงองค์กรใหม่ และแน่นอนว่าส่วนหนึ่งมันตกเป็นของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของ KGB นั่นเอง

Kruchina รู้ตัวดีว่ากำลังต่อสู้กับความสิ้นหวังที่ว่าต่อจากนี้คนที่จัดการกองทุนจะไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอีกต่อไป เขาอาจจะถูกฆ่าโดยกลุ่มคนเหล่านี้ เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่มีวันบอกเรื่องนี้ได้ เขาจึงตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย

ซึ่งเรื่องราวของอัยการที่ค้นหาเงินที่หายไปนั้นถูกลืมไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางความโกลาหลของการล่มสลาย แต่สิ่งที่อัยการพบในตอนนั้นคือพิมพ์เขียวสำหรับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง

ไม่ว่าจะเป็นแผนการลักลอบนำเข้า บริษัทที่เป็นมิตร และผู้รับฝากทรัพย์สินที่สามารถไว้ใจได้ กลายเป็นแบบจำลองของระบอบการปกครองของ Putin ซึ่งระบอบใหม่นี้กำลังสร้างตัวขึ้นมาอย่างช้า ๆ

ต้องบอกว่าเศรษฐกิจของสหภาพโซเวียตเริ่มที่จะขาดแคลนทรัพยากรเนื่องจากในยุคคอมมิวนิสต์มีการผลักดันให้ผลิตเครื่องมือทางการทหารเพื่อแข่งขันกับโลกตะวันตกโดยแลกกับสิ่งอื่น ๆ

ในทางทฤษฎีแล้วนั้น รัฐคอมมิวนิสต์เดิมประสบความสำเร็จในการให้คำมั่นว่าจะให้การศึกษาและการรักษาพยาบาลกับคนงานทุกคนในประเทศโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ

แต่ในทางปฏิบัติ เศรษฐกิจที่วางแผนไว้ไม่ได้ผล ในทางกลับกัน กลับมีระบบที่เสียหายซึ่งประชาชนทั่วไปที่รัฐคอมมิวนิสต์ควรจะปกป้องกลับกลายเป็นคนที่แทบจะไม่มีอันจะกิน

รัฐคอมมิวนิสต์สามารถเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติมากมาย แต่ก็ล้มเหลวในการพัฒนาอุตสาหกรรมเพื่อผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่แข่งขันได้

ในทางกลับกันรัฐบาลได้มอบโควต้าการผลิตให้กับแต่ละองค์กร ควบคุมรายได้ทั้งหมดและกำหนดราคาที่คงที่สำหรับทุกสิ่ง ไม่มีแรงจูงใจให้เกิดการแข่งขันและระบบดังกล่าวก็ไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคตกต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ

ด้วยเหตุนี้มันส่งผลให้เกิดการขาดแคลนทุกอย่างตั้งแต่ขนมปัง ไส้กรอก และอาหารอื่น ๆ ไปจนถึง รถยนต์ โทรทัศน์ ตู้เย็น หรือแม้แต่อพาร์ทเมนท์

อำนาจที่มากล้นเกินไปของระบบราชการของสหภาพโซเวียตได้สร้างการทุจริตอย่างลึกซึ้งในระบบ ในขณะที่ภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ ตลาดมืดกลับเจริญรุ่งเรือง

และนั่นเองที่กลายเป็นว่าเหล่าสมาชิกหน่วยข่าวกรองต่างประเทศนั้นมองเห็นจุดอ่อนของโครงสร้างเดิมเหล่านี้ที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง พวกเขาเป็นคนที่สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลกและมองเห็นว่าเศรษฐกิจตลาดดำเนินการอย่างไรในโลกตะวันตก ซึ่งระบบสังคมนิยมล้มเหลวในการติดตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของโลกตะวันตกโดยสิ้นเชิง

ซึ่งในขณะที่ Putin อยู่ในเดรสเดน กลุ่มหัวก้าวหน้าของ KGB ในมอสโกก็เริ่มขั้นตอนที่สองของการทดสอบตลาด พวกเขาเริ่มปลูกฝังและสร้างผู้ประกอบการของตนเองจากกลุ่มเยาวชนคอมมิวนิสต์รุ่นใหม่ (Komsomol )

แม้ว่าในเดือนตุลาคม 1991 Yeltsin ได้ลงนามในคำสั่งให้ยกเลิก KGB และแบ่งแยกองค์กรออกเป็นสี่องค์กรย่อยภายในประเทศ และได้แต่งตั้ง Vadim Bakatin ให้เป็นหัวหน้าองค์กรคนใหม่

แต่ Bakatin เป็นคนนอกที่ไม่มีประสบการณ์ เขาเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยในช่วงเวลาสั้น ๆ ในช่วงปีสุดท้ายของระบอบการปกครองของโซเวียต ซึ่งเขาก็ไม่สามารถที่จะควบคุม KGB ที่แท้จริงได้เลย

แม้บริการหน่วยข่าวกรองต่างประเทศที่ทรงพลังจะถูกกเปลี่ยนชื่อเป็น SVR ถึงขั้นที่ว่าเจ้าหน้าที่หลายหมื่นคนจะลาออกจากราชการ แต่ส่วนหนึ่งของระบบก็ลงไปอยู่ใต้ดินแทน เช่นเดียวกับที่ Putin ทำกับ Sobchak พวกเขาเข้าไปอยู่ในเงามืด

สุดท้ายมันแทบไม่ได้กำจัดอะไรเลยจริง ๆ พวกเขาแค่เปลี่ยนป้ายชื่อ แต่ข้างในไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยจริง ๆ แม้งบประมาณของ SVR จะถูกลดลงไปมาก แต่ในไม่ช้ามันก็มีแหล่งเงินทุนที่ไม่เป็นทางการที่เป็นปริศนาเข้ามาสวมแทน

แม้ว่ารัฐบาลรัสเซียกำลังดิ้นรนอยู่ในความโกลาหลของการล่มสลายของสหภาพโซเวียตเพื่อจ่ายเงินบำนาญและค่าจ้างของครู แพทย์ และเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่น ๆ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ Yegor Gaidar ยังคงหาเงินทุนเพื่อรักษาด่านยุทธศาสตร์สำหรับข่าวกรองต่างประเทศ

Yegor Gaidar นายกรัฐมันตรีของรัสเซียในยุคของ Yeltsin (CR:Novinite.com)
Yegor Gaidar นายกรัฐมันตรีของรัสเซียในยุคของ Yeltsin (CR:Novinite.com)

หนึ่งในการจ่ายเงินดังกล่าวคือ การจ่ายเงินจำนวน 200 ล้านดอลลาร์ในปี 1992 ให้กับระบอบการปกครองของฟิเดล คาสโตรในคิวบาสำหรับหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซียเพื่อใช้เป็นสถานีดักฟังข้อมูลในสหรัฐอเมริกาต่อไป

ในช่วงครึ่งแรกของยุค 90 KGB ยังคงเป็นกำลังสำคัญอยู่เบื้องหลัง ผู้ปฏิบัติงานยังมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง เป็นที่ปรึกษาด้านการค้าหรือมีความสัมพันธ์กับรัฐบาล หรือเป็นหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ภาคน้ำมันส่วนใหญ่ก็ยังคงอยู่ในมือของรัฐ

เมื่อรัฐบาลของ Yeltsin ประกาศปล่อยราคาสินค้าอุปโภคบริโภคให้เป็นไปตามกลไกตลาดในวันที่ 1 มกราคม 1992 ซึ่งยกเลิกการควบคุมราคาของสินค้าที่สหภาพโซเวียตทำมานานหลายทศวรรษ

นั่นทำให้เกิดบรรดามหาเศรษฐีรุ่นใหม่ขึ้นมามากมาย ในขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่และรัฐบาลกำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอด การยกเลิกการควบคุมราคาสินค้าทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรง เกิดภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรง เนื่องจากซัพพลายเออร์และผู้ผลิตพยายามดิ้นรนเพื่อเอาชนะปัญหาการขาดแคลนที่สร้างขึ้นมาเป็นเวลานานในเศรษฐกิจของสหภาพโซเวียต

มหาเศรษฐียังได้รับประโยชน์เต็ม ๆ จากการปฏิรูปตลาดครั้งต่อไป โดยนายกรัฐมนตรี Gaidar นั่นก็คือการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเฉพาะผู้ที่มีเงินทุนจะมีสิทธิ์ในการเข้าร่วมในการแปรรูปครั้งใหญ่นี้ ซึ่งก็คือกลุ่มชนชั้นนำที่ได้ควบคุมกระแสเงินสดขององค์กรส่วนใหญ่ภายใต้การปฏิรูป perestroika ของ Gorbachev ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจหนุ่มจากเยาวชนคอมมิวนิสต์ , นักธุรกิจในตลาดมืด , องค์กรอาชญกรรม กลุ่ม KGB และเหล่าผู้อำนวยการของรัฐ

จุดเปลี่ยนที่แท้จริงเมื่อการควบคุมเศรษฐกิจดูเหมือนจะโอนไปอยู่ในมือของมหาเศรษฐีหน้าใหม่ คือในช่วงกลางปี 1995 รัสเซียกำลังเข้าสู่ช่วงปีสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกในยุคหลังโซเวียต ซึ่งสถานการณ์ในตอนนั้นเงินทุนของรัฐบาลเริ่มร่อยหรอ

Vladimir Potanin ลูกชายที่พูดจาอย่างคล่องแคล่วของนักการทูตอาวุโสของสหภาพโซเวียต ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในนายธนาคารคนใหม่ที่สำคัญของประเทศได้คิดค้นสิ่งที่ดูเหมือนเป็นแผนการที่แยบยล

เขาเสนอช่วยรัฐบาล Yeltsin ด้วยการให้กู้ยืมเงินจำนวนหนึ่ง โดยมีหลักประกันคือ บรรดามหาเศรษฐีจะเลือกถือหุ้นในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจำนวนหนึ่ง พวกเขาจะจัดการวิสาหกิจ และสามารถขายหุ้นออกได้หากรัฐบาลไม่สามารถชำระเงินกู้คืนได้

ซึ่งเหล่านักธุรกิจรุ่นเยาว์มีเพื่อนที่มีอำนาจในรัฐบาลของ Yeltsin นั่นก็คือ Anatoly Chubais รองนายกรัฐมนตรีผมสีแดงและเป็นคู่หูที่ใกล้ชิดของนายกรัฐมนตรี Gaidar เป็นหนึ่งในทีมงานคนสำคัญในโครงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจมาก่อน

นั่นทำให้เหล่าผู้ประกอบการรุ่นเยาว์สามารถเอาชนะกลุ่ม KGB ซึ่งกองกำลังที่รวมกันของ KGB และอดีตกรรมการในยุคโซเวียตสามารถเอาชนะการประมูลเพื่อถือหุ้นในบริษัทน้ำมันได้เพียงสองแห่งเท่านั้น นั่นคือ 5% ของบริษัทน้ำมันชื่อ Lukoil และ 40% ของ Surgutneftegaz และส่วนใหญ่ผู้ชนะคือนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มีสายสัมพันธ์กับ Chubais

นั่นทำให้อุตสาหกรรมที่เหลือส่วนใหญ่ตกอยู่ในมือนายธนาคารรุ่นเยาว์เหล่านี้ Potanin ได้ครอบครองสิ่งที่เขาอยากได้มานาน ซึ่งรวมถึง Norilsk Nickel ผู้ผลิตนิกเกิลและแพลตตินั่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยการให้เงินกู้กับรัฐเพียงแค่ 170 ล้านดอลลาร์เพียงเท่านั้น

รวมถึงพันธมิตรคนอื่น ๆ ของ Patanin ที่ได้ Yukos ผู้ผลิตน้ำมันในไซบีเรียตะวันตกซึ่งควบคุมแหล่งน้ำมันสำรองที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซียมานานแล้ว โดยให้รัฐกู้ยืมเงิน 159 ล้านดอลลาร์สำหรับหุ้น 45% จากนั้นจ่ายเงินลงทุนเพิ่มอีก 150 ล้านดอลลาร์ เพื่อขอหุ้นเพิ่มอีก 33% ส่วน Sibneft บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อีกรายตกเป็นของ Boris Berezovsky ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในรัสเซีย โดยจ่ายเงินเพียงแค่ 100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าถูกมาก ๆ

Vladimir Potanin หนึ่งในนายธนาคารคนใหม่ที่สำคัญของประเทศในยุคนั้น (CR:Business Insider)
Vladimir Potanin หนึ่งในนายธนาคารคนใหม่ที่สำคัญของประเทศในยุคนั้น (CR:Business Insider)

นายธนาคารรุ่นเยาว์เหล่านี้อายุยังไม่ถึงสามสิบปี แต่ด้วยความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัฐนั่นเองที่ทำให้ในไม่ช้า Berezovsky ได้ออกมากล่าวว่า กลุ่มนายธนาคารเจ็ดนายได้ควบคุมเศรษฐกิจของประเทศร้อยละ 50 พวกเขาสามารถสร้างอาณาจักรของอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่แห่งใหม่ที่ภายในระยะเวลาอีกไม่กี่ปีจะมีมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์

การปล่อยเงินกู้จากนายทุนธนาคารครั้งใหญ่นี้แลกกับบริษัทในอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของประเทศรัสเซียซึ่งได้กลายเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการควบคุมเศรษฐกิจ เป็นช่วงเวลาที่เหล่าผู้ประกอบการเปลี่ยนจากแค่นายธนาคารมาเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

แต่ในมุมกลับกันฝั่งของ KGB มันคือความพ่ายแพ้ที่พวกเขาไม่มีวันให้อภัย แม้ในเงามืด เหล่า KGB ยังคงสามารถควบคุมกระแสเงินสดส่วนใหญ่ผ่านความมั่งคั่งจากน้ำมันของประเทศได้ แต่ตอนนี้พวกเขาถูกหลอก และถูกกลุ่มเด็กรุ่นใหม่แซงหน้า กระแสเงินสด เครื่องผลิตเงินส่วนใหญ่ถูกพรากไปจากมือของพวกเขาเสียแล้ว

แต่มหาเศรษฐีในระเบียบใหม่ของรัสเซียต่างวิตกกับความมั่งคั่งใหม่ของพวกเขา พวกเขากลายเป็นผู้มีอำนาจอย่างรวดเร็วซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อรัฐบาลของ Yeltsin ที่อ่อนแอลงเรื่อย ๆ เหล่า KGB เก่าซึ่งเคยรับราชการในรัฐบาลถูกขับออกจากตำแหน่งเป็นจำนวนมาก

Potanin รับตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีของ Yeltsin ในขณะที่ Berezovsky ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคง Chubais เป็นเสนาธิการของ Yeltsin ดูเหมือนว่าตอนนี้ประเทศจะเป็นของพวกเขา และอิทธิพลของ KGB กำลังเริ่มถดถอย

แต่นั่นคือที่เฉพาะที่ศูนย์กลางอำนาจในเมืองหลวงอย่างมอสโก เหล่ามหาเศรษฐีหน้าใหม่ หลงระเริงกับอำนาจที่ได้มาแสนง่ายดาย พวกเขาไม่ได้สังเกตว่าบริเวณใกล้เคียงในเมืองเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก สิ่งต่าง ๆ กำลังดำเนินการในทางตรงกันข้ามที่นั่น

การแยกตัวออกจากความรุ่งโรจน์ของเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูของมอสโก ทำให้กองกำลังของ KGB ได้ถอยทัพมาคุมเมืองเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในเมืองที่เศรษฐกิจเริ่มแข็งแกร่งขึ้น แต่เต็มไปด้วยความมืดมน ในการแย่งชิงทรัพยากรของชาติอย่างรุนแรง และที่สำคัญ ชายที่ชื่อ Vladimir Putin กำลังสะสมอำนาจแบบเงียบ ๆ ในเมืองทางตอนเหนือแห่งนี้และเตรียมพร้อมที่ก้าวขึ้นมาท้าทายศูนย์กลางอำนาจที่มอสโกอีกครั้ง

–> อ่านตอนที่ 4 : Submariner, Soldier, Trader and Spy

ย้อนไปอ่านตั้งแต่ตอนแรก & Credit แหล่งข้อมูลบทความ


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube