หลังจากได้อานจดหมายที่เกิดจากการส่งผิดพลาดของ บิฌาน แจ๊คก็ได้มีการติดต่อไปยัง บิฌาน และได้ข้อสรุปว่า จะมีโอกาสให้แจ๊คอีกแค่ 3 เดือนเท่านั้น ในการปรับปรุงการบริหารบริษัท
ณ ตอนนี้ แจ๊ค กำลังเข้าสู่โหมด วิตกจริต และเริ่มเรียกประชุมผู้นำของ twitter เพื่อประกาศแผนการรบของเขา
ซึ่งตอนนี้ ต้องยอมรับว่่า แจ๊ค นั้นยังขาดภาวะของการเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง และถึงแม้จะยังไม่สามารถแก้ปัญหาใหญ่อย่าง ปัญหา site ล่มได้ในเร็ววันนี้ แต่เขาก็คิด แผนการที่ยิ่งใหญ่กว่า คือ twitter ต้องอยู่แถวหน้าในการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2008 ที่กำลังจะเกิดขึ้น และมันจะเข้าสู่กระแสหลักได้อย่างแน่นอน
แต่ แผนการดังกล่าวของแจ๊คนั้น แทบจะไม่มีใครจะสนับสนุน ทั้ง บิฌาน เอฟ และ เฟร็ด ต่างคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะ ปัญหาใหญ่จริง ๆ ของบริษัทตอนนี้คือ site ที่ล่มแทบจะทุกวันต่างหาก
และอีกปัญหาใหญ่ที่ใหญ่มาก ๆ ที่กำลังจะมาฆ่าแจ๊ค ลงจากตำแหน่งก็คือ เมื่อทางบอร์ด ได้รับรู้จากทางวิศวกร ว่า ตอนนี้ twiiter นั้น ไม่ได้มีระบบ Backup แต่อย่างใด
ซึ่งหมายความว่า หากระบบใด ๆ เกิดเสียหายแล้วไม่สามารถกู้กลับมาได้ ทุกอย่างที่ทำมาจะหายไปหมดสิ้น ทั้ง ข้อมูล user , รายการ tweet รวมถึง ข้อมูลต่าง ๆ ที่มีอยู่ในระบบจะหายไปทั้งหมด ซึ่งมันไม่มี Backup Plan ใด ๆ เลยสำหรับ Twitter ในตอนนี้ และ แจ๊ค ก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ซึ่งถือเป็นความผิดพลาดใหญ่หลวงมากในฐานะ CEO ของ Twitter
และนี่คงเป็นฟางเส้น สุดท้าย ของบอร์ด บริหาร รวมถึง เอฟ เองที่รอให้แจ๊ค ทำพลาดเท่านั้น
และสุดท้าย แจ๊ค ก็พลาดจริง ๆ เรื่องใหญ่ ๆ แบบนี้ ไม่น่าจะหลุดสายตาของคนระดับแจ๊คไปได้ มันเป็นเรื่องใหญ่มาก ๆ กับบริการที่มีคนใช้กว่าล้านคนแบบนี้ ที่ไม่มี Backup Plan ใด ๆ เลย
สุดท้าย ก็มี email จาก บิฌาน และ เฟร็ด ที่ส่งหาแจ็ค เพื่อคุยอะไรบางอย่าง โดยเป็นการนัดรับประธานอาหารในเช้าวันพุธก่อนประชุมบอร์ด
ซึ่งแจ๊คก็เกิดความกังวลขึ้นมาทันที แน่นอน มันไม่ใช่สัญญาณที่ดีอย่างแน่นอน กับการนัดคุยอะไรแบบนี้ ในเวลาเช้าวันพุธ ซึ่งไม่เป็นเรื่องปรกติ ด้วยความกังวล เขาจึงได้ email ไปถามเอฟว่ารู้เรื่องราวอะไรหรือไม่ ในการนัดประชุมครั้งนี้
แน่นอน ตอนนี้ เอฟได้หายตัวไปแล้ว เอฟไม่ได้เข้า office เลย และไม่ได้ตอบเมล์กลับหาแจ๊ค เพราะตอนนี้เขาเป็นตัวละครหลัก ในการวางแผนที่จะนำแจ๊ค ลงจากตำแหน่งนั่นเอง
หน้าที่ของเอฟ คือ ไปแจ้งให้เหล่าพนักงาน ทราบว่าเขาจะเข้ามาเป็น CEO แทน และโดยเฉพาะการแจ้งกับ บิซ ที่ตอนนี้ถือว่าเป็นคนสำคัญของบริษัทไปแล้ว เพราะเป็นคนที่คอยต้อนรับเหล่า เซเลบริตี้ ที่ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของ twitter เนื่องจากเขาเป็นคนอารมณ์ดี และเข้ากับคนง่าย ทำให้เป็นคนหลักในการดูแลเรื่องการประชาสัมพันธ์ของ Twitter ไปยังสื่อต่างๆ
และ บิซ นั้น ก็ไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับการที่จะไล่แจ๊คออก ถึงแม้จะไม่ชอบสไตล์การบริหารของแจ๊ค ก็ตาม แต่ยังไง แจ๊ค ก็เป็น ผู้ร่วมก่อตั้ง ซึ่งการไล่ผู้ร่วมก่อตั้งออก มันคงไม่เป็นผลดีต่อ twitter อย่างแน่นอน
ทั้ง เอฟ , บิฌาน และเฟร็ด ได้วางแผนการทั้งหมดไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะแยกให้เอฟเรียกเหล่าพนักงานสำคัญ ๆ มาที่บ้านของเอฟ เพื่อแจ้งการตัดสินใจดังกล่าว ส่วนตัว บิฌาน และ เฟร็ด นั้นจะเป็นคนคุยกับ แจ๊คเอง
และแล้ว วันพุธก็มาถึง วันชี้ชะตาของ แจ๊ค และเป็นการไล่ออก ที่มีการวางแผนมาอย่างดีแล้ว
“เราจะให้เอฟเป็น CEO”
“เราจะให้คุณเป็นประธานแค่ในนาม และได้นั่งในบอร์ดโดยไม่มีอำนาจออกเสียง เรามีเอกสารให้คุณและคำแนะนำเรื่องทนาย” เฟร็ด กล่าวกับแจ๊ค
มันเหมือน เฟร็ด ได้ปล่อย กิโยติน ลงบนคอของ แจ๊ค เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งความหมายมันก็คือ ตอนนี้ แจ๊ค แทบจะกลายเป็นแค่สัญลักษณ์ของ twitter เท่านั้น ไม่สามารถตัดสินใจอะไรเกี่ยวกับ twitter ได้อีกเลย ไร้สิทธิ์ ไร้เสียง ไม่มีอำนาจใด ๆ ใน twitter สิ่งที่เขาสร้างมาด้วยมืออีกต่อไป มันจบลงแล้วจริง ๆ สำหรับแจ๊ค
เกือบจะเวลาเดียวกับ ที่บ้านของเอฟ เอฟได้พูดจากบทที่ได้ตระเตรียมกันไว้แล้วในแนวทางเดียวกัน กับเหล่าผู้บริหาร twitter ที่เขานัดมาที่บ้าน
“บอร์ดคุยกันแล้ว นี่เป็นการตัดสินใจครั้งสุดท้าย แจ๊คได้ออกจากทีมแล้ว พวกเขาอยากให้ผมเป็น CEO และแจ๊คจะกลายเป็นประธาน”
เอฟ กล่าว กับเหล่าผู้บริหาร twitter และทุกคนมองกลับมาด้วยอาการช็อก และ แน่นอน บิซ ไม่พอใจกับการตัดสินใจครั้ง แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ และมองว่ามันคือการรัฐประหารแจ๊คชัด ๆ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ตอนนี้ แจ๊ค แค้นแบบสุด ๆ twitter ที่เขาสร้างมากับมือ กำลังจะถูกแย่งชิงไป และที่สำคัญคือ มันยังไม่ถึงเวลาที่ แจ๊ค จะได้รับสิทธิ์หุ้นที่เอฟ ได้แบ่งไว้ให้ตอนแรกอีกต่างหาก เพราะแจ๊คเป็นพนักงานเต็มเวลามาแค่เพียง 2 ปีเท่านั้น แม้แจ๊คจะทุ่มเทให้กับ twitter มากกว่าใครเพื่อน แต่ตอนนี้ มันไม่ใช่บริษัทของเขาอีกต่อไป มันจบลงแล้ว
ตอนนี้ มันไม่มีอะไรแย่กว่านี้สำหรับแจ๊คอีกต่อไปแล้ว เค้าเริ่มทำอะไรไม่ถูก เขาเดินออกมาจาก office ที่ ๆ เค้าเคยเป็น CEO เดินออกมาไกล เพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีใครอยู่ในระยะ ที่จะได้ยิน แล้วเขาก็เปิดสมุดรายชื่อบนโทรศัพท์ เลื่อนลงผ่านชื่อไปที่ตัวอักษร J แล้วก็ผ่าน K จากนั้นก็ L และในที่สุดก็ถึงหมายเลขที่เขากำลังมองหา คือ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก CEO ของ facebook และกดโทรไปยังหมายเลข ที่มีชื่อของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ติดอยู่
สงครามภายใน twitter ได้เกิดขึ้นเต็มตัวแล้ว แจ๊คจะทำอย่างไรต่อ แล้ว มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก มาเกี่ยวอะไรกับ twitter ด้วยล่ะ? faebook เป็นคู่แข่งกับ twitter อยู่ไม่ใช่หรือ? แล้วเอฟจะพา twitter ไปในทิศทางไหนต่อ โปรดติดตามตอนต่อไป
–> อ่านตอนที่ 8 : Square
<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 :The Beginning *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***
Credit แหล่งข้อมูลบทความ
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
Fanpage : facebook.com/tharadhol.blog
Blockdit : blockdit.com/tharadhol.blog
Twitter : twitter.com/tharadhol
Instragram : instragram.com/tharadhol