Social Media กับภัยอันตรายต่ออารยธรรมของมนุษยชาติ

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าอารยธรรมของมนุษยชาตินั้นสามารถอยู่รอดได้จากสงคราม หรือ โรคระบาดครั้งใหญ่ แต่ไม่ใช่กับสื่อสังคมออนไลน์ ?

มันเป็นคำถามที่น่าสนใจ ที่ทำให้เกิดบทความซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences และถูกเขียนโดยทีมนักวิจัยที่มีความหลากหลาย และ มีความโดดเด่นในวิทยาศาสตร์หลาย ๆ แขนง ไม่ว่าจะเป็น ชีววิทยา จิตวิทยา ประสาทวิทยาภูมิอากาศ ไปจนถึงปรัชญา

มันเป็นการแสดงให้เห็นถึงหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่กำลังบ่งชี้ให้เห็นความเข้าใจถึงวิธีการการแพร่กระจายข้อมูลผิด ๆ ทางโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในเครือข่าย Social Media

โดย Joe Bak-Coleman นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน หนึ่งในผู้ร่วมเขียนบทความ และเพื่อนร่วมงานของเขาได้ชี้ให้เห็นตัวอย่างหลาย ๆ ด้าน ที่พวกเขากล่าวว่า Social Media ได้เป็นตัวขัดขวางที่สำคัญของข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลด้านสุขภาพ สภาพภูมิอากาศ และหัวข้อซีเรียสต่าง ๆ มากมาย

ซึ่งบทความในงานวิจัยนั้นให้เหตุผลว่า การขาดความเข้าใจของมนุษย์เราเกี่ยวกับผลกระทบเชิงพฤติกรรมโดยรวมของเทคโนโลยีใหม่นั้น เป็นอันตรายต่ออารยธรรมของมนุษย์เราไม่ว่าจะเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย หรือ แม้กระทั่งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์

ตัวอย่างที่น่าสนใจที่ส่งผลกระทบอย่างชัดเจน คือ เรื่องการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 มีการให้ข้อมูลผิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย หรือ การฉีดวัคซีน ทำให้เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการระบาดในช่วงแรก ๆ ที่ผู้คนในโลกตะวันตกแทบจะไม่เชื่อในเรื่องของหน้ากากอนามัย

หรือการฉีดวัคซีน ก็มีข้อมูลบิดเบือนจำนวนมากอยู่บนโลก Social Media เหล่านี้ ที่ทำให้คนต่างขยาดในเรื่องการฉีดวัคซีน และยังปล่อยให้พวกเขาเหล่านี้เข้าใจแบบผิด ๆ และไม่มีการตรวจสอบข้อมูลใด ๆ อีกด้วย

หรืออีกตัวอย่างหนึ่งที่ Joe Bak-Coleman ได้ยกมากล่าวว่า มีบทความวิจัยหนึ่งที่ทำผลงานทดสอบออกมาได้ไม่ดี แต่ในบทความวิจัยดังกล่าวแนะนำว่า Hydroxychloroquine อาจจะเป็นยารักษาโควิด และข้อมูลได้ถูกแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วผ่านเครือข่าย Social Media

Hydroxychloroquine อาจจะเป็นยารักษาโควิด และข้อมูลได้ถูกแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วผ่านเครือข่าย Social Media (CR:bbc.com)
Hydroxychloroquine อาจจะเป็นยารักษาโควิด และข้อมูลได้ถูกแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วผ่านเครือข่าย Social Media (CR:bbc.com)

และในไม่กี่วัน ก็มีผู้นำระดับโลกได้ส่งเสริมตัวยาดังกล่าว และผู้คนต่างดิ้นรนเพื่อให้ได้ยา ทำให้ยาตัวนี้ขาดตลาด นั่นทำให้ ไม่มียาสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ยาตัวนี้จริง ๆ ในการรักษาโรคอื่น ๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามันเป็นปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงมาก ๆ ซึ่งมาจากการแพร่กระจายข้อมูลผิด ๆ ในโลก Social Media

หรือแม้กระทั่งในเรื่องการเมือง ที่ Social Media ได้นำไปสู่การบิดเบือนข้อมูลอย่างกว้างขวาง แม้กระทั่งในสหรัฐอเมริกาเอง ที่มันสามารถผลักดันให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองครั้งใหญ่ ที่เกิดขึ้นกับรัฐสภาสหรัฐอเมริกา ที่แทบจะไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของอเมริกาเลยด้วยซ้ำ

มันเป็นการแพร่กระจายยิ่งกว่าไวรัส ด้วยความเร็วที่ไม่เคยมีมาก่อนของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ในระบบนิเวศข้อมูลของโลก Social Media ต่างๆ

แม้เมื่อมองในมุมบวก ด้วยความเป็นประชาธิปไตยของข้อมูลที่เครือข่ายเหล่านี้อยากให้มันเป็นนั้น จะช่วยเหลือโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชุมชนชายขอบและด้อยโอกาส ซึ่งช่วยให้พวกเขาเหล่านี้ มีสิทธิ์มีเสียงในสังคมโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่เยี่ยมยอดมาก ๆ ก็ตาม

แต่ในเวลาเดียวกัน มันก็ได้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ เช่น การฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุชาวมุสลิมโรฮิงญา และ การจลาจลที่รัฐสภาของอเมริกา มันก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน

พลังของ Social Media ที่นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงยา (CR:aa.com.tr)
พลังของ Social Media ที่นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงยา (CR:aa.com.tr)

นักวิจัยได้กล่าวว่า มนุษย์เราอาจเห็นผลลัพธ์ที่รุนแรงกว่านี้ ซึ่งอาจจะเป็นความไม่ตั้งใจของเทคโนโลยี ที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง โรคภัยไข้เจ็บ ความสุดโต่ง ความอดอยาก การเหยียดเชื้อชาติ และ สงคราม เป็นต้น

มันเป็นความท้าทายมาก ๆ กับสิ่งที่มนุษย์เรากำลังเผชิญอยู่ นั่นคือ ตอนนี้ เราแทบจะไม่มีข้อมูลเลย ว่า ผู้คนได้รับข้อมูลที่ผิดในระดับใด และมากน้อยเพียงใด เพราะ แม้กระทั่ง เจ้าของแพล็ตฟอร์มเองนั้นยังไม่ทราบถึงข้อมูลดังกล่าวได้

และมันกำลังส่งผล และมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมออนไลน์ของมนุษย์ ไปสู่พฤติกรรมออฟไลน์ของมนุษย์ที่จะส่งผลตามมาในระดับใด แม้ บริษัท Social Media รายใหญ่ส่วนใหญ่นั้น จะทำงานร่วมกับนักวิชาการที่ศึกษาผลกระทบต่อแพล็ตฟอร์มที่มีต่อสังคม แต่บริษัทก็ได้จำกัดและควบคุมจำนวนข้อมูลที่นักวิจัยสามารถใช้ได้

มันมีเรื่องกังวลมากมาย ในระดับปัจเจกบุคคล ที่เครือข่าย Social Media เหล่านี้กำลังสร้าง Impact ต่อโดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ ตัวอย่างเช่น วิธีที่ Instragram มีโครงสร้างเพื่อให้ได้รับ Like จากเรื่องของความสมบูรณ์แบบและมีการแสดงเรือนร่างของเด็กมากขึ้น

ต้องบอกว่าสถานการณ์ในตอนนี้ มีการพูดคุยในประเด็นนี้น้อยนัก เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างขนาดใหญ่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับสังคมมนุษย์ เหล่านักวิจัยได้กล่าวปิดท้ายว่า พวกเราอยากให้ผู้คนมองถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างขนาดใหญ่ ที่เทคโนโลยีเหล่านี้กำลังขับเคลื่อนสังคมมนุษย์ไปในทิศทางใด

เพราะฉะนั้น เมื่อเราอยู่ในแพลตฟอร์มเหล่านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจะต้องตั้งสติ และพินิจพิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ ให้มากขึ้นกว่าเดิม รับฟังความเห็นที่หลากหลายขึ้น แม้จะขัดใจเรามากมายขนาดไหน (ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากมาก ๆ ) ในการเสพสื่อจากโลก Social Media Platform เหล่านี้นั่นเองครับผม

References : https://futurism.com/the-byte/scientists-social-media-civilization
https://www.pnas.org/content/118/27/e2025764118
https://www.vox.com/recode/2021/6/26/22550981/carl-bergstrom-joe-bak-coleman-biologists-ecologists-social-media-risk-humanity-research-academics


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube