“น้ำดื่มสิงห์” เปิดเกมรุกปี 65 ส่งแคมเปญ“เลือกความสดชื่นที่ใช่…เลือกน้ำดื่มสิงห์”สื่อสารจุดแข็งแบรนด์ผ่านพรีเซ็นเตอร์ “ณเดชน์ คูกิมิยะ”ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด

“น้ำดื่มสิงห์” เปิดตัวแคมเปญ “เลือกความสดชื่นที่ใช่…เลือกน้ำดื่มสิงห์” ตอกย้ำภาพผู้นำตลาดที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคทั้งในเรื่องคุณภาพและมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการยอมรับระดับโลก รวมทั้งการพัฒนารอบด้านตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
โดยยังคงมีพรีเซ็นเตอร์คนดังอย่าง “ณเดชน์ คูกิมิยะ”ที่จะมาร่วมสื่อสารผ่านการตลาดแบบ 360 องศา

นายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล Chief Marketing Officer – Brand บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ตลอดทั้งปี 2565 บริษัทฯ
ได้วางกลยุทธ์การทำตลาดน้ำดื่มสิงห์ โดยยังคงให้ความสำคัญและใส่ใจในด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่มีความสะอาดและปลอดภัยสูงสุดตลอดกระบวนการผลิตด้วยระบบปิด และ Smart Micro Filter เทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของน้ำดื่มสิงห์

รวมถึงเน้นการ ตอบโจทย์ความต้องของผู้บริโภคที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม
ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี

ซึ่งการทำตลาดน้ำดื่มสิงห์ในปีนี้แบรนด์ยังคงใช้นักแสดงชายแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ต่อเนื่อง
ทำหน้าที่ช่วยสื่อสารสร้างการรับรู้แบรนด์ ทั้งในเรื่องของคุณภาพและเทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะ Smart Micro Filter

ตลอดจนกิจกรรมทางการตลาดที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและกิจกรรมด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมที่จะจัดขึ้นตลอดทั้งปี กระจายไปในทุกภูมิภาค

ที่ผ่านมา น้ำดื่มสิงห์ตอกย้ำและรักษาการเป็นผู้นำตลาดไว้อย่างเหนียวแน่น ทั้งการดึงคาแร็กเตอร์ การ์ตูนระดับโลกที่เป็นขวัญใจทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งโดราเอมอน รวมถึงการผนึกดิสนีย์ นำคาแร็กเตอร์ การ์ตูนดัง อาทิ มิคกี้ เมาส์ , โฟรเซ่น ฯลฯ มาอยู่บนฉลาก
และการพัฒนาระบบการบริหารจัดการความ สัมพันธ์ลูกค้า (CRM:Customer Relationship Management) ผ่าน ‘Singha Rewards’
เพื่อมอบสิทธิประโยชน์คืนกำไรให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จาก Infosearch สถาบันวิจัยตลาดชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา ทำการสำรวจน้ำดื่มบรรจุขวดแบรนด์แรกที่ผู้บริโภคนึกถึงหรือ Top-of-mind Brand ในช่วงปี 2555-2564 หรือตลอดระยะเวลา 10 ปี ภาพรวม “น้ำดื่มสิงห์” สามารถครองความเป็นหนึ่งในใจผู้บริโภคชาวไทยอย่างแข็งแกร่ง

นอกจากนี้ ด้านความจงรักภักดีต่อแบรนด์(Brand Loyalty) น้ำดื่มสิงห์ยังคงเป็นที่ 1 อย่างยาวนานนับสิบปีเช่นกัน
รวมถึงการเป็นแบรนด์น้ำดื่มที่ผู้บริโภคชื่นชอบมากสุด(Brand Preference) โดยทั้งหมดได้รับการันตีจากเวทีต่างๆ เช่น No.1 Brand
in Thailand และ Thailand’s Most Admired Brand เป็นต้น โดยปัจจุบันน้ำดื่มสิงห์ยังครองการเป็น “ผู้นำ” ตลาดน้ำดื่มด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1

Geek Talk EP21 : Cyber ​​Hell กับการเปิดเผยความสยองขวัญที่ยืนยันว่าอินเทอร์เน็ตเป็นสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดในโลก

ในปี 2020 ข่าวอาชญากรรมที่ร้ายแรงได้เขย่าเกาหลีใต้ อาชญากรรมกับเหยื่อหลายร้อยราย ผู้กระทำผิดที่หลบอยู่ในมุมมืด และผลกระทบที่เลวร้าย นี่เป็นกรณีที่ไม่ปกติอย่างยิ่ง: เกิดขึ้นเฉพาะทางออนไลน์เท่านั้น กำกับโดย Choi Jin-seong ภาพยนตร์สารคดีอาชญากรรมเรื่องล่าสุดจาก Netflix เรื่อง Cyber ​​Hell: Exposing an Internet Horror เล่าเรื่องเหตุการณ์จริงเหล่านี้และการสืบสวนที่น่าสยดสยองที่ตามมา

ความสยองขวัญทางอินเทอร์เน็ตเริ่มต้นขึ้นใน “ห้อง N” ซึ่งเป็นพื้นที่แชทส่วนตัวบนแอปส่งข้อความ Telegram บุคคลลึกลับที่เรียกว่า “Baksa” ใช้ Nth Room เพื่อฟิชชิ่งข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเป็นส่วนใหญ่ หลอกล่อพวกเขาแล้วแบล็กเมล์ให้แบ่งปันเนื้อหาทางเพศที่โจ่งแจ้ง ซึ่งสมาชิกนิรนามคนอื่นๆ จะซื้อโดยใช้สกุลเงินดิจิทัล

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3sMI7c2

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/3yQ686b

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/3wv0m8q

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/3PrZgSl

🎧 ฟังผ่าน Youtube : 
https://youtu.be/9Gw0w2UauFQ

Geek Daily EP121 : ฟองสบู่ทางด้านเทคโนโลยีกำลังจะระเบิดขึ้นอีกครั้ง จริงหรือไม่?

ในทุกวันนี้เราเริ่มได้รับสัญญาณฟองสบู่ที่กำลังแตกกระจายไปทั่วหุ้นเทคโนโลยี การเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป ( IPO ) การประเมินมูลค่าการเริ่มต้นธุรกิจ และแม้แต่สกุลเงินดิจิทัล สินทรัพย์ทั้งหมดที่ไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและได้พุ่งดิ่งลงมายังพื้น เป็นการยากที่จะบอกว่าพวกมันจะระเบิดดังแค่ไหน หากเกิดขึ้นจริง

การลดลงของหุ้นเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุด ndxt ซึ่งเป็นดัชนีของบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด 100 แห่งในตลาด Nasdaq ลดลงหนึ่งในสามนับตั้งแต่จุดสูงสุดในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน บริษัทในดัชนีนี้สูญเสียมูลค่าตลาดรวมกันถึง 2.8 ล้านล้านเหรียญ

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3LoKxnJ

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/3Ls4MRJ

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/3lkbAGj

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/3Ls472G

🎧 ฟังผ่าน Youtube : 
https://youtu.be/7z7fxjEd6ZQ

Credit Image : https://money.com/stock-market-signs-tech-bubble-crash/

ทางรอดยกระดับประเทศ ถ้าอยากพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็ว ก็ต้องทำงานหนักกว่าใคร

เป็นบทสัมภาษณ์ที่น่าสนใจนะครับ ที่ Elon Musk ได้ให้สัมภาษณ์ไว้กับ Financial times ว่าเขาคิดว่าประเทศจีนน่าจะผลิตบริษัทที่แข็งแกร่งออกมาได้มากกว่านี้ โดยชี้ว่าวัฒนธรรมการทำงานหนักของจีนคือเหตุผลสำคัญ

“มีสุดยอดหัวกะทิที่ทุ่มเททำานหนักจำนวนมากในประเทศจีน” เขาได้ระบุว่า “แรงงานในจีนไม่ใช่แค่พร้อมที่จะโหมงานถึงเที่ยงคืนเท่านั้น แต่ต่อให้เป็นตี 3 พวกเขาก็ทำได้ ไม่เหมือนคนอเมริกันที่มักจะหาทางหลีกเลี่ยงงาน”

เรียกได้ว่า รูปแบบการทำงานของคนจีน เข้ากับสไตล์การทำงานส่วนตัวของ Elon Musk อยู่แล้วนะครับ ที่เรียกได้ว่าเป็นผู้ประกอบการที่ทำงานหนักมากที่สุดคนหนึ่งเลยก็ว่าได้

จีนกับการพัฒนาประเทศแบบสายฟ้าแลบ

ไม่ต้องสงสัยเลยกับการพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วของประเทศจีน ซึ่งแน่นอนว่ามีหลากหลายปัจจัยที่ทำให้ประเทศจีนสามารถพัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็วอย่างที่เราได้เห็นกันในวันนี้

ทั้งการเมืองที่มีเสถียรภาพ การควบรวมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ ด้วยระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์กึ่งทุนนิยมที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เป้าหมายในการพัฒนาในเรื่องต่าง ๆ ของประเทศมันต่อเนื่อง รวดเร็ว และ มีประสิทธิภาพสูง แต่ต้องแลกกับสิทธิเสรีภาพที่จำกัดของประชาชนชาวจีน

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ ที่สะท้อนจากข่าวมากมายเกี่ยวกับการทำงานหนักในประเทศจีน ก็คือ ความโหดในการทำงานอย่างที่ Musk ได้กล่าวมา

ถ้าใครเคยได้ดูสารคดีอย่าง American Factory มันฉายภาพให้เห็นอย่างชัดเจนมาก ๆ ว่าทำไม จีนจะแซงอเมริกาได้ในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน แม้ในสารคดีจะฉายภาพงานที่เป็นงานโรงงานต้องใช้แรงงานเป็นหลัก แต่มันก็สะท้อนให้เห็นทัศนคติที่ชัดเจนมาก ๆ ของแรงงานจีน ซึ่งแม้กระทั่งในบริษัทเทคโนโลยีระดับสูง พวกพนักงานหัวกะทิที่เก่งกาจ พวกเขาก็ใช้ทัศนคติเดียวกันในการทำงาน

ตอนนี้เรียกได้ว่าจีนพัฒนาเทคโนโลยี ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ตรงไหนมีจุดอ่อนพวกเขาก็รีบเร่งการพัฒนา ดูอย่างรถไฟความเร็วสูง จากที่แทบไม่มีองค์ความรู้ในเรื่องนี้ ตอนนี้พวกเขากลายเป็นอันดับหนึ่งในการพัฒนารถไฟความเร็วสูงไปเป็นที่เรียบร้อย

หรือแม้กระทั่งเรื่องชิปคอมพิวเตอร์ ที่เป็นจุดอ่อนของพวกเขาอย่างชัดเจน ผมว่าก็ไม่แน่เหมือนกัน ว่าถ้าหากพวกเขาเอาจริง ทุ่มเททรัพยากรลงไป ด้วยทรัพยากรคนที่ยอดอัจฉริยะที่มีจำนวนมหาศาล อีกไม่นานพวกเขาอาจจะมีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำแซงประเทศที่เป็นเจ้าตำหรับอย่างไต้หวัน หรือ อเมริกาก็เป็นได้

เราได้เห็นการพัฒนาทีน่าสนใจจากหลาย ๆ ประเทศ ที่จะยกระดับประเทศด้วยความรวดเร็ว ปัจจัยหนึ่งแน่นอนว่าคือการทำงานหนักกว่าใคร

ประเทศอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน หรือ แม้กระทั่งเพื่อนบ้านที่กำลังมาแรงอย่าง เวียดนาม จะเห็นได้ว่า พวกเขามีความทะเยอทะยานสูงมาก ๆ และมีวัฒนธรรมการทำงานหนักคล้าย ๆ กัน

ประเทศไทยเราเองจากจุดเด่นในเรื่องการท่องเที่ยว และ บริการ พอเจอกับโรคระบาดอย่าง COVID-19 กลับทำให้กลายเป็นจุดด้อยเสียอย่างงั้น

บทสรุป

ถึงมันจะเป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับคนทำงาน แต่การที่จะสปีดการพัฒนาประเทศ มันเป็นทางเลือกไม่กี่ทางที่จะยกระดับการพัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็ว ประเทศอย่าง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นเอย ก็เคยทำอย่างงี้มาก่อน ในการวิ่งฉีกหนีคู่แข่ง ซึ่งจะเห็นได้ว่าแม้กระทั่งปัจจุบันพวกเขาก็ยังทำงานหนักกันอยู่

แต่เนื่องจากว่าจำนวนประชากรของจีนมันเยอะมากๆ พลังมันเลยสูงมากก ลองจินตนาการจีนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว กับตอนนี้เหมือนกลายเป็นคนละประเทศไปแล้ว แล้วคุณลองจินตนาการถึงประเทศจีนในอีก 10 ปีข้างหน้าว่าจะเกิดไรขึ้น

Credit Image : https://futurism.com/the-byte/people-in-china-absolutely-love-elon-musk

Geek Monday EP131 : วิธีแปลกๆ ที่บริษัทต่างๆ รับมือกับเงินเฟ้อโดยที่ผู้บริโภคแทบจะไม่รู้ตัว

สงคราม วิกฤตสินค้าโภคภัณฑ์ การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน และแรงงาน การขาดแคลน ในผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทยักษ์ใหญ่ ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงมีนาคม บริษัทเกือบสามในสี่ใน s&p 500 กล่าวถึงอัตราเงินเฟ้อในรายงานผลประกอบการบริษัท

ในประเทศร่ำรวย ราคาผู้ผลิตพุ่งขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 40 ปี Thierry Piéton หัวหน้าฝ่ายการเงินของ Renault กล่าวว่าในขั้นต้นผู้ผลิตรถยนต์ของฝรั่งเศสคาดการณ์ว่าต้นทุนวัตถุดิบจะเพิ่มขึ้นสองเท่าในปีนี้ Elon Musk กล่าวว่าซัพพลายเออร์ของ Tesla ขอให้เพิ่มราคาชิ้นส่วนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 20-30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลานี้ของปีที่แล้ว บางคนพูดถึงการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการส่งตู้คอนเทนเนอร์ระหว่างยุโรปและเอเชียที่สูงขึ้นถึง 5 เท่า การขาดแคลนคนขับรถบรรทุกในอเมริกา และการแย่งชิงทุกอย่างตั้งแต่น้ำเชื่อม ข้าวโพด ไปจนถึงเมล็ดกาแฟและลิเธียม

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3NiEsKS

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/3wfA3Tp

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/3yECJeV

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/3l8R9fz

🎧 ฟังผ่าน Youtube : 
https://youtu.be/lLzNWjTzMIw

Credit Image : economist.com