ทางรอดยกระดับประเทศ ถ้าอยากพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็ว ก็ต้องทำงานหนักกว่าใคร

เป็นบทสัมภาษณ์ที่น่าสนใจนะครับ ที่ Elon Musk ได้ให้สัมภาษณ์ไว้กับ Financial times ว่าเขาคิดว่าประเทศจีนน่าจะผลิตบริษัทที่แข็งแกร่งออกมาได้มากกว่านี้ โดยชี้ว่าวัฒนธรรมการทำงานหนักของจีนคือเหตุผลสำคัญ

“มีสุดยอดหัวกะทิที่ทุ่มเททำานหนักจำนวนมากในประเทศจีน” เขาได้ระบุว่า “แรงงานในจีนไม่ใช่แค่พร้อมที่จะโหมงานถึงเที่ยงคืนเท่านั้น แต่ต่อให้เป็นตี 3 พวกเขาก็ทำได้ ไม่เหมือนคนอเมริกันที่มักจะหาทางหลีกเลี่ยงงาน”

เรียกได้ว่า รูปแบบการทำงานของคนจีน เข้ากับสไตล์การทำงานส่วนตัวของ Elon Musk อยู่แล้วนะครับ ที่เรียกได้ว่าเป็นผู้ประกอบการที่ทำงานหนักมากที่สุดคนหนึ่งเลยก็ว่าได้

จีนกับการพัฒนาประเทศแบบสายฟ้าแลบ

ไม่ต้องสงสัยเลยกับการพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วของประเทศจีน ซึ่งแน่นอนว่ามีหลากหลายปัจจัยที่ทำให้ประเทศจีนสามารถพัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็วอย่างที่เราได้เห็นกันในวันนี้

ทั้งการเมืองที่มีเสถียรภาพ การควบรวมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ ด้วยระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์กึ่งทุนนิยมที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เป้าหมายในการพัฒนาในเรื่องต่าง ๆ ของประเทศมันต่อเนื่อง รวดเร็ว และ มีประสิทธิภาพสูง แต่ต้องแลกกับสิทธิเสรีภาพที่จำกัดของประชาชนชาวจีน

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ ที่สะท้อนจากข่าวมากมายเกี่ยวกับการทำงานหนักในประเทศจีน ก็คือ ความโหดในการทำงานอย่างที่ Musk ได้กล่าวมา

ถ้าใครเคยได้ดูสารคดีอย่าง American Factory มันฉายภาพให้เห็นอย่างชัดเจนมาก ๆ ว่าทำไม จีนจะแซงอเมริกาได้ในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน แม้ในสารคดีจะฉายภาพงานที่เป็นงานโรงงานต้องใช้แรงงานเป็นหลัก แต่มันก็สะท้อนให้เห็นทัศนคติที่ชัดเจนมาก ๆ ของแรงงานจีน ซึ่งแม้กระทั่งในบริษัทเทคโนโลยีระดับสูง พวกพนักงานหัวกะทิที่เก่งกาจ พวกเขาก็ใช้ทัศนคติเดียวกันในการทำงาน

ตอนนี้เรียกได้ว่าจีนพัฒนาเทคโนโลยี ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ตรงไหนมีจุดอ่อนพวกเขาก็รีบเร่งการพัฒนา ดูอย่างรถไฟความเร็วสูง จากที่แทบไม่มีองค์ความรู้ในเรื่องนี้ ตอนนี้พวกเขากลายเป็นอันดับหนึ่งในการพัฒนารถไฟความเร็วสูงไปเป็นที่เรียบร้อย

หรือแม้กระทั่งเรื่องชิปคอมพิวเตอร์ ที่เป็นจุดอ่อนของพวกเขาอย่างชัดเจน ผมว่าก็ไม่แน่เหมือนกัน ว่าถ้าหากพวกเขาเอาจริง ทุ่มเททรัพยากรลงไป ด้วยทรัพยากรคนที่ยอดอัจฉริยะที่มีจำนวนมหาศาล อีกไม่นานพวกเขาอาจจะมีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำแซงประเทศที่เป็นเจ้าตำหรับอย่างไต้หวัน หรือ อเมริกาก็เป็นได้

เราได้เห็นการพัฒนาทีน่าสนใจจากหลาย ๆ ประเทศ ที่จะยกระดับประเทศด้วยความรวดเร็ว ปัจจัยหนึ่งแน่นอนว่าคือการทำงานหนักกว่าใคร

ประเทศอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน หรือ แม้กระทั่งเพื่อนบ้านที่กำลังมาแรงอย่าง เวียดนาม จะเห็นได้ว่า พวกเขามีความทะเยอทะยานสูงมาก ๆ และมีวัฒนธรรมการทำงานหนักคล้าย ๆ กัน

ประเทศไทยเราเองจากจุดเด่นในเรื่องการท่องเที่ยว และ บริการ พอเจอกับโรคระบาดอย่าง COVID-19 กลับทำให้กลายเป็นจุดด้อยเสียอย่างงั้น

บทสรุป

ถึงมันจะเป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับคนทำงาน แต่การที่จะสปีดการพัฒนาประเทศ มันเป็นทางเลือกไม่กี่ทางที่จะยกระดับการพัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็ว ประเทศอย่าง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นเอย ก็เคยทำอย่างงี้มาก่อน ในการวิ่งฉีกหนีคู่แข่ง ซึ่งจะเห็นได้ว่าแม้กระทั่งปัจจุบันพวกเขาก็ยังทำงานหนักกันอยู่

แต่เนื่องจากว่าจำนวนประชากรของจีนมันเยอะมากๆ พลังมันเลยสูงมากก ลองจินตนาการจีนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว กับตอนนี้เหมือนกลายเป็นคนละประเทศไปแล้ว แล้วคุณลองจินตนาการถึงประเทศจีนในอีก 10 ปีข้างหน้าว่าจะเกิดไรขึ้น

Credit Image : https://futurism.com/the-byte/people-in-china-absolutely-love-elon-musk