Geek China EP31 : Baidu’s All In AI

• Baidu ประกาศกร้าวว่าจะเป็นผู้บุกเบิกในด้าน Artificial Intelligence (AI) โดยในวันที่ 16 พฤษภา 2014 ไป่ตู้ได้ประกาศแต่งตั้งแม่ทัพเพื่อนำศึกสรภูมิครั้งนี้ นั่นคือ Andrew Ng เพื่อดำรงตำแหน่ง Chief Scientist ของ Baidu เขาผู้นี้ก็จะนำ Baidu Research ที่มีห้องปฏิบัติการทดลอง R&D ทั้งในปักกิ่งและ Silicon Valley 3 research labs อยู่ภายใต้สถาบัน Baidu Research ได้แก่ the Silicon Valley AI Lab, the Beijing Deep Learning Lab และ the Beijing Big Data Lab.

• Baidu เริ่มลงทุนใน AI ก่อนคู่แข่งคนอื่น นอกจากนี้ ก็ยัง recruit top talents ในเงินเดือนที่สูงมากจากทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้นปัจจัยที่ทำให้เขาได้เปรียบในการแข่งขันต่อการปฏิวัติ AI คือ algorithms computing และ data.

• Andrew กล่าวว่า Badu จึงเป็นบริษัทระดับโลกแค่ไม่กี่บริษัทที่สามารถเข้าถึงจำนวนข้อมูลมหาศาลขนาดนี้ได้ และตอนนี้ผู้นำ AI กำลัง shift ไปสู่ high-performance computing และ Baidu ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทของโลกที่จะสร้าง processor สำหรับ deep learning

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3plG2mI

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
http://bit.ly/2kxHtQ3

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/2m0PTzR

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/OwOUvgzwKFE

ถ้า Facebook & Google มีบริการแบบจ่ายเงินและไม่มีโฆษณา คุณเต็มใจที่จะจ่ายเงินเพื่อใช้บริการหรือไม่?

บทความวันนี้ ไปได้อ่านข้อมูลที่น่าสนใจเรื่องนึงจากกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ SEO (Search Engine Optimization) ซึ่งมีรายงานว่าทาง Google นั้นได้มีการทำการ Survey ว่าหาก Google มีการแสดงผลแบบไม่มีโฆษณา คุณจะสนใจที่จะจ่ายเงินเพื่อใช้บริการหรือไม่

ก็ถือว่าเป็นคำถามที่น่าสนใจนะครับ ว่าบริการแบบนี้ ที่ไม่ใช่บริการที่เน้นไปทางด้านความบันเทิงอย่าง Netflix , disney+ , Youtube , Spotify หรือ Apple Music ที่เราจะน่าจะยอมจ่ายเงินกันเป็นเรื่องปรกติ

แต่บริการที่ไม่ใช่เรื่องความบันเทิง แต่เป็นบริการค้นหาข้อมูลอย่าง Google หรือ บริการด้านเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่าง Facebook คุณพร้อมที่จะยอมจ่ายเงินกับมันหรือไม่

เครื่องจักรผลิตเงินออนไลน์

ผมมองว่ามันมีเพียงไม่กี่บริการ ที่สามารถสร้างแพลตฟอร์มของตัวเองให้กลายเป็นเครื่องจักรผลิตเงินแบบที่ Google หรือ Facebook ทำได้สำเร็จ เพราะผู้ใช้งานแต่ละคนนั้น สามารถสร้างรายได้ให้กับพวกเขาเป็นจำนวนเงินมหาศาล

เพราะพวกเขาไม่ได้ให้บริการฟรีแต่อย่างใด มันแลกกับข้อมูลต่าง ๆ มากมายของเรา แทบจะทุกก้าวย่างบนโลกออนไลน์ พวกเขาเก็บข้อมูลแบบละเอียดสุด ๆ

เริ่มตั้งแต่ เรื่องของ location เรียกได้ว่าเก็บรายละเอียดกันทุกฝีก้าวหากใครเคยดู activitiy ของตัวเราเองบน google maps คุณจะทึ่งกับสิ่งที่เห็นมาก เพราะทุกข้อมูลของเรา google รู้หมด ไปที่ไหน ใช้เวลาแค่ไหน ใกล้สถานที่ใด และยิ่งพฤติกรรมการค้นหาของเรา ก็ยิ่งทำให้ google รู้ลึกรู้จิง ว่าในช่วงเวลานั้น กำลังเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเรา

หรือ Facebook เองก็แทบจะไม่ต้องพูดถึง เพราะ ทุกพฤติกรรมบนโลกออนไลน์ เราแทบจะโพสต์ลงไปบนแพลตฟอร์มของ Facebook แทบจะทั้งสิ้น ทั้ง instagram หรือ Messenger เอง เรียกได้ว่ามีข้อมูลเกี่ยวข้องกับเรามากมายที่พร้อมจะไปสนับสนุนแพลตฟอร์มการโฆษณาของพวกเขา

นั่นเองที่ทำให้ เหล่านักการตลาด นักโฆษณา หรือ เจ้าของผลิตภัณฑ์ เสพติดในการลงโฆษณากับแพลตฟอร์มเหล่านี้ เพราะมันมีความแม่นยำสูงกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ เป็นอย่างมาก เม็ดเงินทุกบาททุกสตางค์ เราสามารถ Tracking พฤติกรรมของลูกค้าหรือผลลัพธ์ได้หมด ที่สื่ออย่างอื่นไม่สามารถทำได้ แม้กระทั่งสื่อ mass ในอดีตอย่าง ทีวี วิทยุ หรือ หนังสือพิมพ์ก็ตามที

แล้วพวกเขาจะยอมให้ลูกค้าจ่ายเงินแบบไม่มีโฆษณาจริง ๆ หรือ?

ก็ต้องบอกว่ามันเป็นคำถามที่น่าสนใจจริง ๆ นะครับ ว่าสิ่งที่ Google Survey ออกมา หรือ แม้กระทั่ง Facebook เอง ก็เคยมีกระแสข่าวมาก่อนหน้านี้ ในเรื่องการจ่ายเงินเพื่อไม่ให้มีโฆษณา พวกเขาคิดจะทำจริง ๆ จัง ๆ กันหรือไม่

ตัวอย่าง Survey ของ Google ในเรื่องดังกล่าว
ตัวอย่าง Survey ของ Google ในเรื่องดังกล่าว

ส่วนตัวผมมองว่า เป็นสิ่งที่เกิดได้ยากมาก ๆ เพราะเป็นแหล่งผลิตเงินหลักของพวกเขาเลย สำหรับข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ของผู้บริโภคที่พวกเขาได้เก็บข้อมูลไป ซึ่งมันสามารถสร้างรายได้ต่อผู้ใช้งานมากกว่าการให้บริการแบบ Subscription Model เหมือนกับบริการด้านความบันเทิงอย่าง Netflix , Youtube หรือ Spotify เป็นอย่างมาก

ผมยกตัวอย่างเคสที่น่าสนใจ ที่ได้ความรู้มาจากสารคดีของ Netflix : Billion Dollar Code ที่มีการกล่าวถึงบริการอย่าง Google Earth ที่แทบจะไม่เคยทำเงินให้ Google เลย เพราะเป็นบริการที่ฟรี ทุกคนใช้งานได้แบบฟรี ๆ แถมยังไม่มีโฆษณาอีกด้วย

แต่หารู้ไม่ว่า พฤติกรรมต่าง ๆ ที่ลูกค้าเข้าไปใช้งาน Google Earth นั้นถูกนำไปประมวลผลให้กับเครือข่ายการโฆษณาของ Google นั่นเอง ซึ่งสุดท้ายมันสามารถคำนวนออกมาเป็นตัวเลขได้เลยว่า Google Earth สามารถทำเงินจากผู้ใช้งานที่เข้าไปใช้แต่ละครั้งเท่าไหร่ ซึ่งรวม ๆ ตัวเลขออกมาน่าสนใจมาก ที่สามารถทำเงินได้มากกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว

ผมมองว่า มันคงไม่น่าจะเกิดขึ้นจริงอย่างแน่นอน กับการที่บริการอย่าง Google หรือ Facebook ที่จะยอมให้เราจ่ายเงินเพื่อใช้งานบริการของพวกเขา และไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัวและโฆษณา แล้วคุณล่ะ มีความคิดเห็นอย่างไร หาก Google หรือ Facebook สามารถจ่ายเงินเพื่อใช้งาน และไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัวรวมถึงโฆษณาให้รกสายตา คุณจะยอมจ่ายเงินเพื่อบริการเหล่านี้หรือไม่?

Credit Image : https://www.rankhigher.in/google-adwords-vs-facebook-ads-which-one-works-best/

Geek Book EP5 : An Ugly Truth ความจริงที่น่ารังเกียจ กับการต่อสู้เพื่อครอบงำโลกของ Mark Zuckerberg

หลายปีที่ผ่านมา Facebook ได้ใช้กลยุทธ์ “buy-or-bury” ที่ไร้ความปราณีเพื่อฆ่าคู่แข่ง ผลที่ได้คือการสร้างการผูกขาดอันทรงพลังที่สร้างความเสียหายในวงกว้าง มันละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้และกระตุ้นการแพร่ระบาดของเนื้อหาที่เป็นพิษและเป็นอันตราย ต่อผู้คนกว่าสามพันล้านคน 

“ด้วยการใช้ข้อมูลและเงินจำนวนมหาศาล Facebook ได้บีบหรือขัดขวางสิ่งที่บริษัทมองว่าเป็นภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น พวกเขาลดตัวเลือกสำหรับผู้บริโภค พวกเขายับยั้งนวัตกรรม และพวกเขาลดการปกป้องความเป็นส่วนตัวสำหรับชาวอเมริกันหลายล้านคน” คำกล่าวจากเนื้อหาส่วนหนึ่งของหนังสือ An Ugly Truth โดย เลติเทีย เจมส์ อัยการสูงสุดแห่งรัฐนิวยอร์ก

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3AVvmNN

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
http://bit.ly/2kxHtQ3

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/2m0PTzR

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/iuQVSnZyCuE

สนใจสั่งซื้อหนังสือได้ที่ :
Asia Book -> https://bit.ly/3AV7oSW