1% ของเราไม่เท่ากัน กับการปรับค่าธรรมเนียมครั้งใหม่ของ Shopee ที่สั่นสะเทือนวงการ Ecommerce ไทย

ต้องเรียกได้ว่าเป็นประกาศครั้งใหม่ที่สั่นสะเทือนวงการค้าขายออนไลน์บนแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง Shopee เลยทีเดียวนะครับ สำหรับการการประกาศเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียมอีกครั้ง

แม้ตัวเลขเฉลี่ยมันจะเป็นตัวเลขเพียงเล็กน้อยที่ราว ๆ 1% เพียงเท่านั้น แต่การปรับครั้งนี้ ถือว่าส่งผลกระทบต่อพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอยู่ในแพลตฟอร์มพอสมควรเลยทีเดียว

ต้องเข้าใจก่อนว่า Shopee นั้นกลุ่มลูกค้า ค่อนข้างที่จะแตกต่างจาก Lazada อย่างชัดเจน ใครเข้ามา Shopee แน่นอนว่าต้องการสินค้าถูกที่สุดเป็นส่วนใหญ่ เพราะระบบได้ออกแบบแพลตฟอร์มมาให้เป็นแบบนี้

ทั้งเรื่อง User Experience ที่มีการเปรียบเทียบราคาอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนลูกค้าตัดสินใจที่จะจ่ายเงิน ยังมีสินค้ามาให้เปรียบเทียบอยู่เสมอ ทำให้เป็นแพลตฟอร์มที่มีโอกาสสูงที่ใครถูกกว่า ก็มักจะมีโอกาสขายได้มากกว่า

เอาจริง ๆ ตรงนี้ค่อนข้างต่างจาก Lazada ที่จะไม่ค่อยเห็นการเปรียบเทียบราคาในทุก ๆ ขั้นตอนของการซื้อแบบ Shopee ทำให้ผมมองว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของ Shopee มักจะเน้นที่ของถูกที่สุดเป็นหลัก

1% ที่สูญหาย กับพ่อค้าคนกลางที่อยู่ยากยิ่งขึ้น

กลยุทธ์ของ Shoppee มักจะพยายามให้เราเข้าร่วมแคมเปญต่าง ๆ และลดราคาสินค้าให้ถูกลงมากที่สุด โดยเฉพาะเหล่าสินค้า Flash Sale ที่ลดราคากันหั่นแหลกมาก ๆ จนแทบจะไม่เหลือกำไรกันด้วยซ้ำ

ยิ่งเหล่าพ่อค้าคนกลาง ที่มีสินค้าเหมือน ๆ กัน และไม่ใช่ผู้ผลิตที่แท้จริงนั้นก็ยิ่งทำให้อยู่ได้ยากลำบากมากยิ่งขึ้น เพราะ 1% นั้นอาจจะเป็นตัวเลขกำไรของพวกเขาเลยด้วยซ้ำ เมื่อค่าธรรมเนียม หรือ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นแบบนี้ ก็มีโอกาสที่ทำให้พวกเขาต้องถอดใจออกจากแพลตฟอร์มไปได้เลย

และการเพิ่มขึ้น 1% มันก็เป็นสัญญาณชัดเจนว่า ในอนาคต อะไรก็เกิดขึ้นได้ อาจจะขึ้นไปถึง 5% 10% ก็ได้ใครจะไปรู้ ซึ่งคล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแพลตฟอร์ม Ecommerce ของจีน

เราจะเห็นได้ว่าพวกเขามีการสร้าง Ecosystem ที่ทำการชักจูงพฤติกรรมผู้บริโภคโดยใช้เงินทุนมหาศาลในการ ลด แลก แจก แถม แจกโปรโมชั่นกันอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งเป็นเงินที่ระดมทุนมาแทบจะทั้งสิ้น ซึ่งเห็นได้จากตัวเลขการขาดทุนมหาศาลมาหลายปีแล้วของแพลตฟอร์มต่าง ๆ เหล่านี้

เพราะฉะนั้น สิ่งที่พ่อค้าแม่ค้า โดยเฉพาะเหล่าพ่อค้าคนกลางทั้งหลาย ควรทำกับแพลตฟอร์มเหล่านี้ คือ รีบโกยมาให้มากที่สุด ให้เร็วที่สุด และควรหาทางเลือกสำรองไว้ ที่เราสามารถ control ทุกอย่างได้บ้าง ตัวอย่างเช่น การสร้างเว๊บไซต์ของตัวเองขึ้นมาแทน เพราะยังไงหากเป็นบ้านของตัวเองก็ไม่มีใครสามารถมาเปลี่ยนอะไรเราได้อยู่แล้ว

แล้วเปลี่ยนมุมมองกับพวกแพลตฟอร์ม ต่าง ๆ เหล่านี้ ที่เรากำลังพึ่งพานั้นเป็นเพียงช่องทางหนึ่งในการขายเพียงเท่านั้น อย่ามองเป็นช่องทางทำรายได้หลักเด็ดขาด เพราะวันนึงเค้าจะเปลี่ยนนโยบายอะไรก็ได้ เราไม่สามารถที่จะ control อะไรได้เลย

ตัวอย่างมีให้เห็นมากมายแล้วที่อยู่ดี ๆ ก็เปลี่ยน policy ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งสุดท้ายเราก็อยู่ไม่ได้ อย่างเช่นในแพลตฟอร์ม ใหญ่ ๆ หลายแห่งที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ ซึ่งตอนนี้สัญญาณมันก็เริ่มชัดเจนแล้วว่า มันถึงเวลาที่พวกเขาต้องกอบโกยเงินกลับ หลังจากที่ได้ถลุงเงินไปจำนวนมหาศาลเป็นเวลานานมากแล้วนั่นเองครับผม

References : https://shopee.co.th/m/transaction-fee
https://www.retailnews.asia/tag/malaysia/page/2/