ต้องบอกว่ายุคต่อไปคำว่า digital disruption อาจจะกลายเป็นคำล้าสมัยไป เมื่อมีการเกิดขึ้นของโลกเสมือนใหม่อย่างโลก metaverse ที่ facebook กำลังทุ่มเททุกสรรพกำลังพาบริษัทไปในทิศทางดังกล่าว ซึ่งแน่นอนก่อนหน้านี้ facebook เองก็ได้ทำการ disrupt ธุรกิจหลากหลายทั้งสื่อต่าง ๆ ที่ถูกพายุ digital โหม disrupt ทำให้โลกของสื่อยุคเก่าต้องสั่นสะเทือนพนักงานตกงานไปมากมาย
การเปลี่ยนแปลงครั้้งใหญ่นี้ ผมว่าไม่ใช่น่าเรื่องแปลกใจ เพราะ facebook เองกำลังถูกท้าทาย รวมถึงปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้าพวกเขาอย่างมากมาย ที่กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในสังคม ทั้งปัญหา fake news , การเป็นสถานที่ toxic ของ facebook เอง หรือปัญหากับกลุ่มวัยรุ่นของแพลตฟอร์มอย่าง instagram
ถึงเวลาที่ facebook ต้อง disrupt ตัวเองก่อน
ต้อบอกว่าปัญหาต่าง ๆ ที่กำลังรุมเร้านั้น คงไม่ใช่เหตุผลเดียว facebook จะลงทุนยกเครื่องบริษัทครั้งใหม่กับ metaverse ในครั้งนี้
แม้ดูตัวเลขเรื่องรายได้จะมีความมั่นคง จากผลประกอบการครั้งล่าสุด ที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดความร้อนแรงแต่อย่างใด แต่ ดูเหมือนสถานการณ์ในตอนนี้ facebook ต้องยอมรับความจริงที่ว่าพวกเขาเจอคู่แข่งแบบจริง ๆ จัง ๆ เป็นครั้งแรกนั่นก็คือ TikTok
คนรุ่นใหม่ตอนนี้แทบจะหนีออกจาแพลตฟอร์ม facebook เพราะมันไม่มีความ cool เหมือนในอดีตอีกต่อไป จะเห็นได้ว่า Tiktok กลายเป็นแพลตฟอร์มน้องใหม่ที่สามารถดึงดูดกลุ่มวัยรุ่นได้ดีมาก ๆ
และแน่นอน เหมือนตอนที่ facebook แจ้งเกิดจากกลุ่มวัยรุ่น ผู้คนในกลุ่มอื่น ๆ จะตามมาเอง ซึ่งตอนนี้มันเริ่มเกิดเหตุการณ์นั้นแล้วกับ Tiktok ตัวอย่างใกล้ตัวง่ายๆ คุณแม่ผมอายุ 60+ ตอนนี้เสพติด Tiktok ยิ่งกว่าอะไรดี เห็นได้ชัดว่าวัยรุ่นเป็นกลุ่มหลักที่จะผลักดันกลุ่มอื่นในช่วงวัยอื่น ๆ ให้เข้ามาใช้งานแพลตฟอร์มนั่นเอง
อีกเรื่องที่สำคัญ ความ cool ในการได้ร่วมงานกับ facebook นั้นคงจะเริ่มหมดมนต์ขลังลงไป ซึ่งเป็นเรื่องปรกติที่บริษัทที่เริ่มมีขนาดใหญ่มากขึ้นมักจะพบปัญหานี้ Microsoft , Google เอง ก็เคยเจอมาก่อน ต้องปรับภาพลักษณ์กันใหม่ ดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาทำงาน ซึ่ง facebook ก็คงมองถึงจุดนี้เหมือนกันในการรีแบรนด์ตัวเองครั้งใหญ่ครั้งนี้ให้กลายเป็น Meta
รวมถึงมันคงไม่มีอะไรที่เหมาะสมกว่านี้อีกแล้วที่ facebook ถึงเวลาที่จะต้อง disrupt ตัวเอง เพราะด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ทั้ง AR , VR รวมถึงเทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอย่าง 5G ที่พร้อมเริ่มเข้าสู่ตลาด mass ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่ facebook จะต้องรีบเปิดตัว metaverse แพลตฟอร์มของตัวเองในตอนนี้
Metaverse disruption ที่จะกลายเป็นคลื่น disrupt ลูกใหม่
หากใครยังจำกันได้ว่ากระแส digital disruption นั้นเริ่มมีความรุนแรงตั้งแต่การถือกำเนิดขึ้นของ facebook นั่นเอง ที่ได้ทำลายล้างหลาย ๆ ธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจด้านสื่อให้ถึงขั้นล้มละลายกันได้เลยทีเดียว
เช่นกันผมมองว่า การเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมของโลก metaverse ในรอบนี้ หลังจากที่เราได้ฟัง concept เรื่องราวในโลกเสมือนมาอย่างยาวนาน แต่ยังไม่มีใครที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะผลักดันมันเข้าสู่ตลาด mass เหมือนที่ facebook กำลังจะทำได้
เรียกได้ว่าเป็นการ disrupt ตัวเองแบบเต็มตัว หาก facebook ผลักดัน metaverse จริง ๆ จัง ๆ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดมันคือเวลาของผู้ใช้งาน ที่ทุกแพลตฟอร์มต่างแย่งชิง eyeball และ เวลาของผู้ใช้งาน ที่ตอนนี้เรียกได้ว่าแย่งชิงกันอย่างดุเดือดจากทุกแพลตฟอร์ม
metaverse จะไม่ใช่แค่แย่งชิงเรื่อง eyeball จากสื่อดั้งเดิมอีกต่อไป ทั้งสื่อ out of home media , ทีวี , วิทยุ , เนื้อหาคอนเทนต์ออนไลน์ต่าง ๆ หรือ บริการสตรีมมิ่งชื่อดังต่างๆ ทั้ง netflix , disneyplus หรือ แม้กระทั่ง youtube เอง
เพราะ metaverse กำลังสร้าง full experience แบบสมจริง หากวิเคราะห์กันง่าย ๆ มันคือการ disrupt ธุรกิจที่ทำ digital disruption มาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น ecommerce , steaming , social media , game เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุุรกิจที่ต้องมีการแย่งชิงเวลาของผู้ใช้งาน
ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้จะมีการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ในโลกของ metaverse ประสบการณ์ช็อปปิ้งออนไลน์ ก็จะถูกย้ายไปในรูปแบบ VR เสมือนจริงมากขึ้น ได้เลือกช็อปแบบสมจริงกันมากขึ้น เกมเองข่าวล่าสุดเกมชื่อดังอย่าง GTA ก็เตรียมพัฒนาบน metaverse ของ facebook แล้วเช่นกัน
เมื่อเวลามีจำกัด เพราะฉะนั้น คนก็จะย้ายถ่ายเทจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ ทั้ง social media หรือ บริการอย่าง steaming ต่าง ๆ ที่ดึงเวลาและสร้างรายได้จากเวลาของผู้ใช้งาน ก็อาจจะได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ เช่นเดียวกัน
รวมถึงบริการที่เป็น physical ทั้งการออกกำลังกาย fitness หรือแม้กระทั่ง ประสบการณ์ในการดูภาพยนต์ ก็จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เรียกได้ว่า ผลกระทบต่อหลากหลายธุรกิจมาก ๆ หากไม่ปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลงก็อาจจะถึงคราล่มสลาย ๆ ได้เหมือนในยุค digital disruption นั่นเอง
บทสรุป
ผมยังเชื่อว่าสุดท้าย metaverse คงไม่สามารถมีได้หลากหลายแพลตฟอร์มได้ และผู้ชนะคงเป็นคนที่มีความพร้อมในทุก ๆ ด้านที่จะเข้าสู่โลก metaverse จริง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าคนที่พร้อมกว่าใครนั่นก็คือ facebook นั่นเอง
พวกเขาลงทุนไปมหาศาลในการวิจัยและพัฒนาทั้งในเรื่อง hardware เองอย่าง oculus หรือแว่น rayban stories ที่จะเข้ามามีบทบาทกับโลก metaverse อย่างแน่นอน
ที่สำคัญฐานผู้ใช้งานเก่าที่มีมหาศาล ทำให้ไม่น่าเป็นเรื่องยากสำหรับ facebook เองที่จะทำให้พวกเขาเอาชนะในโลกของ metaverse ได้
ส่วนตัวผมก็เชื่อว่า นี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงภาพลบครั้งใหญ่ของ facebook เอง รวมถึงผู้ก่อตั้งอย่าง mark zuckerberg ได้อีกครั้งหนึ่ง และหวังว่าคงไม่เกิดปัญหาเดิม ๆ เหมือนที่เกิดกับแพลตฟอร์ม facebook อีก
ผมก็ยังเชื่อว่า Mark Zuckerberg เองคงทำมันได้สำเร็จอีกครั้ง เหมือนที่เขาสามารถทำได้กับ facebook แต่ครั้งนี้มันจะเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่แบบที่หลาย ๆ คนอาจจะคิดไม่ถึง และจะส่งผลกระทบต่อหลากหลายธุรกิจอย่างที่ไม่คาดคิด และแน่นอนว่ามันก็จะเปิดโอกาสให้กับธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นอีกมากมายมหาศาลในโลกเสมือนใหม่แห่งนี้นั่นเองครับผม