Geek Story EP108 : Rachel Lim ลาออกจากมหาลัย ยืมเงินก้อนสุดท้ายของแม่ เพื่อสร้างอาณาจักรแฟชั่นร้อยล้าน

การเริ่มต้นธุรกิจเป็นเรื่องที่เสี่ยงสำหรับทุกคนเสมอ แต่เมื่อ Rachel Lim ออกเดินทางเพื่อพลิกโฉมอุตสาหกรรมค้าปลีก การเดิมพันชีวิตของเธอก็มากเป็นพิเศษ เพราะเงินออมทั้งชีวิตของแม่ของเธอกำลังถูกนำมาเดิมพันกับธุรกิจ

เด็กหญิงอายุ 21 ปีต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ในการลาออกจากวิทยาลัยก่อนเวลา เพื่อไล่ตามความฝันของเธอ และไม่มีเงินเป็นของตัวเองเธอจึงหันไปหาคน ๆ เดียวที่เธอทำได้ นั่นก็คือ แม่ของเธอ

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3x6DMA0

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
http://bit.ly/2kxHtQ3

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/2m0PTzR

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/F_CIo_3wKNE

เรื่องราวความสำเร็จของ Sheryl Sandberg หญิงแกร่งทรงอิทธิพลที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงในโลกไอที

Sheryl Sandberg ทำงานที่ธนาคารโลกและที่กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ก่อนที่จะย้ายไปทำงานที่ซิลิคอน วัลเลย์เพื่อทำงานให้กับ Google ในปี 2001 ที่ในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งได้เพียงแค่ 3 ปี

เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจากฮาร์วาร์ด และติดอันดับในนิตยสารฟอร์จูนในฐานะผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลในด้านธุรกิจ 

เธอเป็นผู้สนับสนุนผู้หญิงในตำแหน่งผู้นำและเป็นผู้แต่งหนังสือ “Lean In” ซึ่งเป็นหนังสือที่เขียนขึ้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงประสบความสำเร็จในการเติบโตทั้งส่วนบุคคลและในเส้นทางอาชีพ 

เธอเป็นแม่ของลูกสองคน เธอแต่งงานกับ David Goldberg อดีต CEO ของ Survey Monkey ซึ่งเสียชีวิตในปี 2015

โดยในปี 2017 เธอร่วมเขียนหนังสือ “Option B” เกี่ยวกับความเศร้าโศกต่อสามีผู้ล่วงลับของเธอกับเพื่อนและนักจิตวิทยาชื่อดังอย่าง Adam Grant 

ชีวิตในวัยเด็กและการศึกษา

Sheryl Sandberg เกิดในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นลูกคนโตในลูกสามคนของ Joel Sandberg จักษุแพทย์ และ Adele Sandberg 

ครอบครัว Sandberg ย้ายไป North Miami Beach, Florida เมื่อเธออายุได้ 2 ขวบ เมื่อเป็นเด็ก เธอมีแม่และยายเป็นแบบอย่างของผู้หญิงที่ทำให้ครอบครัวมีความสมดุลระหว่างเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว 

เธอเป็นนักเรียนชั้นนำที่โรงเรียนมัธยม North Miami Beach Senior และสำเร็จการศึกษาด้วยเกรดเฉลี่ย 4.6 

ในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นใน Miami Sandberg เป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งใน “สาวฉลาด” เธอได้รับเลือกจากเพื่อน ๆ ของเธอให้เป็นบุคคลที่มีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จมากที่สุดในรุ่น

เธอเป็นสมาชิกของสมาคมเกียรติยศแห่งชาติและเป็นครูสอนแอโรบิกก่อนจะลงทะเบียนเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเพื่อศึกษาระดับปริญญาตรี

เรื่องราวความสำเร็จ

เส้นทางสู่การเป็น ผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของ Sheryl Sandberg  นั้นไม่ธรรมดา เธอเรียนด้านเศรษฐศาสตร์ และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่ฮาร์วาร์ด ที่นั่นเธอได้ Larry Summers เป็นที่ปรึกษาในวิทยานิพนธ์ของเธอ

เธอยังเป็นผู้รับรางวัล John H. Williams Prize สำหรับนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์อีกด้วย

เส้นทางอาชีพของเธอสู่ผู้บริหารอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นนำเริ่มต้นที่ World Bank ซึ่งเธอทำงานให้กับหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ Summers ในตำแหน่งผู้ช่วยนักวิจัย

ก่อนที่เธอจะกลับไปฮาร์วาร์ดเพื่อศึกษาต่อในระดับชั้นปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ โดยในช่วงแรก ๆ ของเธอที่  World Bank บางครั้งเธอก็หารายได้เสริมด้วยการเปิดสอนคลาสแอโรบิก 

หลังจากที่ Sandberg ได้รับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ เธอก็มาช่วยงาน Summers ในตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่แผนกธนารักษ์ของสหรัฐฯ ซึ่งในขณะนั้น Summers ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองเลขาธิการระหว่างการบริหารของประธานาธิบดี Bill Clinton

เธอก็มาช่วยงาน Larry Summers ที่รับตำแหน่งใหญ่ในรัฐบาลของประธานาธิบดี Clinton (CR:Fortune)
เธอก็มาช่วยงาน Larry Summers ที่รับตำแหน่งใหญ่ในรัฐบาลของประธานาธิบดี Clinton (CR:Fortune)

เมื่อ Summers เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง Sandberg ยังคงทำงานเคียงข้างเขาจนถึงปี 2001

ในปี 2001 Sandberg ย้ายไปแคลิฟอร์เนียเพื่อเป็นรองประธานฝ่ายขายและปฏิบัติการออนไลน์ทั่วโลกที่ Google ซึ่งเพิ่งก่อตั้งบริษัทมาได้เพียงแค่ 3 ปี

ความรับผิดชอบของ Sandberg ที่ Google แม้จะเป็นบริษัทที่เพิ่งจะตั้งไข่ แต่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเธอได้รับผิดชอบให้มาดูแลเรื่องการขายโฆษณาและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของ Google ตั้งแต่ยุคแรก ๆ

เธอทำงานที่ Google จนถึงปี 2008 และได้รับการยกย่องในฐานะผู้บริหารชั้นแนวหน้าในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี 

ในปี 2008 Sandberg เข้าร่วมงานกับ Facebook ในตำแหน่ง COO ในขณะนั้น Facebook ก็กำลังดิ้นรน  กำลังอยู่ในช่วงเติบโตเช่นเดียวกับ Google ตอนที่เธอเริ่มเข้าไปทำงาน โดยในตอนนั้น Facebook มีพนักงานมากกว่า 500 คนแล้ว แต่ยังไม่มีเส้นทางสู่การสร้างผลกำไรที่ชัดเจนนัก 

Facebook ยังประสบความล้มเหลวหลายครั้งในการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ซึ่งรวมถึงการแชร์ข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากพวกเขา

เธอได้เข้ามาบริหารจัดการ การดำเนินธุรกิจของบริษัทโดยมุ่งเน้นในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก ความรับผิดชอบของเธอยังรวมถึงการตลาด การขาย การพัฒนาธุรกิจ และทรัพยากรบุคคล

Sandberg เป็นคนที่มีความสามารถสูง นอกจากนั้น เธอยังมีความสัมพันธ์ที่ราบรื่นและ Mark Zuckerberg ก็ไว้วางใจเธอเป็นอย่างมาก เธออายุมากกว่า Zuckerberg 15 ปี และเป็นคนทำทุกอย่างที่ Mark ไม่ชอบทำ

Mark Zuckerberg ไว้วางใจ Sanberg เป็นอย่างมาก (CR:The Times)
Mark Zuckerberg ไว้วางใจ Sanberg เป็นอย่างมาก (CR:The Times)

นั่นทำให้ Mark สามารถมุ่งความสนใจไปที่สิ่งที่เขาชอบได้ นั่นคือเรื่องของ วิศวกรรม ด้วยความพยายามของเธอ เขาให้พื้นที่ของเธอในการเป็นบุคคลสาธารณะของบริษัทในหลาย ๆ ด้าน

เธอได้ผลักดันให้รูปแบบโฆษณามีความเรียบง่ายขึ้น และได้จัดประชุมทุก 2 สัปดาห์กับผู้บริหารโฆษณาและผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างสมดุลระหว่างประสบการณ์ของผู้ใช้กับความต้องการของนักการตลาด 

ในปี 2012 Sandberg กลายเป็นสมาชิกหญิงคนแรกของคณะกรรมการบริหารของ Facebook 

ในส่วนของค่าตอบแทน Sandberg ได้รับหุ้นทุนใน Facebook ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นมหาเศรษฐีหลังจากมีการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของบริษัทในปี 2012 

ณ เดือนตุลาคม 2020 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเธออยู่ที่ 1.8 พันล้านดอลลาร์  ในปี 2020 เธอได้รับการจัดอันดับที่ 22 ของสตรีผู้มีอิทธิพลสูงสุดของโลกของนิตยสาร Forbes ของอเมริกา

ต้องบอกว่าเรื่องราวการเดินทางของผู้หญิงคนนี้ เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจโดยเฉพาะกับเหล่าหญิงสาว Working Woman เป็นอย่างมาก แม้ตำแหน่งจะเป็นรอง Mark Zuckerberg

แต่งานที่เธอทำจริง ๆ นั้น คงจะพูดไม่เกินเลยนักว่า เธอได้กลายเป็น CEO ที่แท้จริงของ Facebook ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีอิทธิพลสูงที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลกในปัจจุบัน

มีคำพูดนึงจากเธอที่ผมคิดว่าเป็นแรงผลักดันที่สำคัญให้เธอประสบความสำเร็จอย่างที่เราได้เห็นกันในทุกวันนี้

“ไม่มีความเหมาะสมที่สมบูรณ์แบบเมื่อคุณกำลังมองหาสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่จะทำต่อไป คุณต้องใช้โอกาสและสร้างโอกาสที่เหมาะกับคุณมากกว่าสิ่งอื่นใด และความสามารถในการเรียนรู้คือคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้นำ ควรพึงมี.” Sheryl Sandberg

References : https://www.buzzfeednews.com/article/annehelenpetersen/sheryl-sandberg-facebook-lean-in-superwoman-supervillain
https://www.investopedia.com/articles/insights/051416/sheryl-sandbergs-success-story-net-worth-education-top-quotes.asp
https://startuptalky.com/sheryl-sandberg-story/