Sundar Pichai ชายผู้เปลี่ยนเงินทุนก้อนสุดท้ายของครอบครัว สู่จุดสูงสุดในตำแหน่งซีอีโอของ Alphabet

Sundar Pichai ได้มาถึงจุดสูงสุดในชีวิตที่ใครๆ ก็ฝันถึง และนี่คือวิธีที่ Pichai เปลี่ยนจากเด็กชายชาวทมิฬที่รักในเทคโนโลยีและวิศวกรรมมาเป็นผู้นำของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Alphabet

Sundar Pichai เกิดเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ปี 1972 ที่เมืองมทุไร Pichai มาจากตระกูลทมิฬชนชั้นกลาง Regunatha Pichai บิดาของเขาทำงานเป็นวิศวกรไฟฟ้าให้กับ GEC และบริหารจัดการโรงงานที่ผลิตชิ้นส่วนไฟฟ้า 

แม่ของเขาเคยเป็นนักชวเลข (วิธีการเขียนข้อความอย่างย่อด้วยสัญลักษณ์ เพื่อเพิ่มความเร็วในการเขียนหรือการจดบันทึก) ก่อนที่จะให้กำเนิด Pichai และน้องชายของเขา 

บ้าน Pichai ในวัยเยาว์เป็นอพาร์ตเมนต์สองห้อง เช่นเดียวกับครอบครัวชนชั้นกลางชาวอินเดียในยุค 80 แม้แต่การซื้อสกู๊ตเตอร์ให้ พ่อของ Pichai ต้องรอเก็บเงินถึงสามปีกว่าจะหามาให้ลูกชายสุดที่รักของเขาได้

Pichai รักเทคโนโลยีตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

ในช่วงต้นของ Pichai เข้าใจว่าเทคโนโลยีสามารถทำให้ประหยัดเวลาได้มาก  เมื่อแม่ของเขาป่วยครั้งหนึ่ง เขาต้องเดินทางไปในที่ไกลแสนไกลเพื่อไปเก็บรายงานเลือดให้เธอ เขาใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงกว่าจะไปถึงที่นั่น

และเขาต้องรอที่ศูนย์เป็นเวลาหลายชั่วโมง สิ่งนี้ทำให้เขารำคาญและเมื่อครอบครัวซื้อโทรศัพท์แบบหมุนเครื่องแรก เขาเห็นคุณค่าของโทรศัพท์รุ่นนี้มาก เนื่องจากการโทรศัพท์เพียงครั้งเดียวเขาจะรู้ว่ารายงานจะมาถึงเมื่อใด

นักเรียนดีเด่น

ครอบครัวของเขาตระหนักถึงทักษะของเขาในการจดจำสิ่งต่างๆ มากมายตั้งแต่เนิ่นๆ ตอนเป็นเด็ก Pichai จะเซอร์ไพรส์ทุกคนด้วยการจำหมายเลขโทรศัพท์ต่างๆ ได้อยู่เสมอ

เขาเก่งในการศึกษาที่โรงเรียนของเขา Jawahar Vidyalaya ในเมืองเจนไน และสามารถสอบเข้าเรียนได้ที่ Indian Institute of Technology ใน Kharagpur ซึ่งทำให้เขาเรียนจบในสาขาวิศวกรรมโลหการ

ในระหว่างหลักสูตร เขาได้รับทุนการศึกษาเพื่อศึกษาวัสดุศาสตร์และฟิสิกส์เซมิคอนดักเตอร์เมื่อ Pichai เรียนที่ IIT- Kharagpur อาจารย์ของเขาอธิบายว่าเขา “ฉลาดที่สุดในกลุ่ม”

ฉายแววอัจฉริยะตั้งแต่เรียนที่ เรียนที่ IIT- Kharagpur (CR:Indiatimes)
ฉายแววอัจฉริยะตั้งแต่เรียนที่ เรียนที่ IIT- Kharagpur (CR:Indiatimes)

และด้วยเหตุนี้เขาจึงได้รับทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เมื่อ Pichai ได้รับทุนการศึกษาที่สแตนฟอร์ด พ่อของเขาได้ถอนเงินแทบจะทั้งหมดออกจากเงินออมของครอบครัวเพื่อส่งเขาไปสหรัฐอเมริกา

“เขาทำงานด้านอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงเวลาที่ไม่มีหลักสูตรแยกต่างหากเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์ในหลักสูตรของเรา วิทยานิพนธ์ของเขาเกี่ยวข้องกับการฝังโมเลกุลขององค์ประกอบอื่นๆ ในซิลิคอนเวเฟอร์เพื่อเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของมัน ชัดเจนมากตั้งแต่เริ่มแรกว่าเขามีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และวัสดุ” ศาสตราจารย์ Sanat Kumar Roy อาจารย์ของ Pichai กล่าว

Sundar Pichai ได้พบกับภรรยาของเขา Anjali Pichai ที่ IIT ทั้งคู่มีลูกสองคนและปัจจุบันอาศัยอยู่ในบริเวณอ่าวซานฟรานซิสโก

หลังจากเรียนจบปริญญาโทจากสแตนฟอร์ด เขาได้วางแผนที่จะเรียนปริญญาเอกที่สแตนฟอร์ด อย่างไรก็ตาม เขาลาออกและเข้าร่วมงานกับบริษัท Applied Materials ในตำแหน่งวิศวกรและผู้จัดการผลิตภัณฑ์ ก่อนที่จะลาออกและเข้าเรียน MBA ที่ Wharton School of the University of Pennsylvania ในปี 2002 ซึ่งหลังจากเรียนจบด้านบริหารธุรกิจมาไม่นาน Sundar ก็เข้ามาทำงานเป็นที่ปรึกษาในบริษัทชื่อดังอย่าง McKinsey

การเดินทางกับ Google เริ่มต้นขึ้น

Pichai เข้ารับการสัมภาษณ์ที่ Googleplex ในวันเมษาหน้าโง่ ปี 2004 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ Google ได้ปล่อย Gmail ออกไป ซึ่งทุกคนรวมถึง Pichai ในตอนแรกต่างก็คิดว่าบริการฟรีอีเมล์ตัวนี้ น่าจะเป็นหนึ่งในการเล่นแผลง ๆ ของ Google และการเริ่มงานครั้งแรกของ Pichai กับ Google คือ การเข้าไปทำ Google’s search toolbar

Product ที่ Pichai ทำอยู่ด้วยนั้นเริ่มมีความสำคัญมากขึ้น จนกระทั้ง Microsoft ปล่อยระเบิดลงมาใส่ Google โดยการให้บริการค้นหาของตัวเองที่ชื่อว่า Bing ถูกติดตั้งบน Internet Explorer แบบ Default

Pichai มีบทบาทสำคัญต่อเหตุการณนี้ โดยเขาได้โน้มน้าวให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ทั้งหลายทำการ preinstall ตัว Toolbar บนเครื่องคอมของพวกเขา เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

นอกจากนี้ เขายังทำงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่สำคัญอื่นๆ เช่น Google Gears, Gadgets, Google Pack ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่มีให้บริการแล้ว

“สิ่งที่ดึงดูดใจผมให้มาที่ Google โดยทั่วไปคือที่นี่มีพลังงานที่ยอดเยี่ยม ผมเคยรู้สึกประทับใจกับความจริงที่ว่าการค้นหาของ Google ทำงานเหมือนเดิมตราบใดที่คุณสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ที่มีการเชื่อมต่อได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กในชนบทที่ไหนก็ตาม หรือเป็นศาสตราจารย์ที่สแตนฟอร์ดหรือฮาร์วาร์ด ผมต้องการให้ Google มุ่งมั่นที่จะทำเช่นนั้น ไม่ใช่แค่สร้างเทคโนโลยีสำหรับบางกลุ่มเท่านั้น สำหรับผม การขับเคลื่อนเทคโนโลยีเป็นพลังที่เท่าเทียมกัน เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกๆ คนทั่วโลก” Pichai กล่าว

The Chrome Days

จากนั้นจุดเปลี่ยนในอาชีพของ Pichai และเส้นทางการเติบโตที่ Google ก็มาถึง Pichai เกิดความคิดที่จะพัฒนาบราวเซอร์ของ google เอง 

ด้าน Larry Page เเละ  Sergey Brin ผู้ก่อตั้งเเละผู้บริหารระดับสูงของ Google ชอบไอเดียของโครงการสร้างบราวเซอร์ใหม่นี้อย่างมาก เเต่ก็มีผู้บริหารบางคนที่ออกมาคัดค้าน เนื่องด้วยเห็นว่าโครงการพัฒนาบราวเซอร์จะเป็นโครงการที่ฟุ่มเฟือยเเละเเพง เกินไป 

แต่ความอุตสาหะและความศรัทธาในผลิตภัณฑ์ของเขาทำให้ผู้ร่วมก่อตั้ง Google, Larry Page และ Sergey Brin เชื่อมั่น และสุดท้ายเขาก็ได้เปิดตัวเบราว์เซอร์ของ Google สำเร็จในปี 2008

Google Chrome กับผลงานแจ้งเกิดของ Pichai (CR:Techglimpse)
Google Chrome กับผลงานแจ้งเกิดของ Pichai (CR:Techglimpse)

ผลิตภัณฑ์นี้เปลี่ยนวิธีการทำงานของโลกและทำให้ Pichai กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับสากล จนถึงปัจจุบัน Chrome เป็นเบราว์เซอร์อันดับหนึ่งของโลก เหนือกว่า Internet Explorer และ Firefox

Chrome ทำเงินได้อย่างมหาศาล เเละประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีส่วนเเบ่งการตลาดทั่วโลกถึง 63 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Google ยึดพื้นที่ search engine ได้สำเร็จ

Pichai ผลักดัน Chrome เพราะเชื่อว่าสุดท้ายแล้ว Microsoft ต้องหาทางเบียด Google Toolbar ออกไปจาก IE แน่นอน เรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของ Pichai ที่เตะตาผู้บริหารทันที

ถึงเวลาเปลี่ยน Android

ในปี 2012 Pichai ได้รับการโปรโมตตำแหน่งที่สูงขึ้น และอีกหนึ่งปีต่อมาเขาก็เข้ามาดูแลระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์หลักของ Google ในขณะนั้น

ผลงานที่สำคัญอีกประการหนึ่งจาก Pichai คือ Android One สมาร์ทโฟนราคาประหยัด นอกจากนี้ เขายังรับผิดชอบด้านการค้นหา แผนที่ การวิจัย Google+, Android, Chrome, โครงสร้างพื้นฐาน, การค้าและโฆษณา และ Google Apps

ภายใต้การดูแลของ Pichai Android ได้ยึดตำแหน่งเป็นระบบปฏิบัติการชั้นนำของโลก และยังสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับจุดอ่อนต่างๆ ในสถาปัตยกรรมของ Android จากมุมมองด้านความปลอดภัยและการรวมเข้ากับบริการอย่าง Google Assistant เป็นต้น

นอกจากนี้เขายังมีบทบาทสำคัญในการซื้อกิจการ Nest มูลค่า 3.2 พันล้านดอลลาร์ของ Google ในปี 2014 และในปี 2015 เขาก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็น CEO ของ Google

“Pichai นำความอ่อนน้อมถ่อมตนและความหลงใหลในเทคโนโลยีมาสู่ผู้ใช้ พันธมิตร และพนักงานของเราทุกวัน เขาทำงานอย่างใกล้ชิดกับเรามาเป็นเวลา 15 ปี ผ่านการก่อตั้ง Alphabet ในฐานะ CEO ของ Google และเป็นสมาชิกคณะกรรมการ Alphabet Board เขาแบ่งปันความมั่นใจของเราในคุณค่าของโครงสร้าง Alphabet และความสามารถที่ทำให้เราจัดการกับความท้าทายครั้งใหญ่ผ่านเทคโนโลยี ไม่มีใครที่เราพึ่งพาได้มากกว่านี้ตั้งแต่ก่อตั้ง Alphabet ขึ้น และไม่มีบุคคลใดที่ดีไปกว่านี้แล้วที่จะนำ Google และ Alphabet ไปสู่อนาคต” จากคำแถลงในจดหมายที่ส่งถึงเหล่าพนักงาน โดยสองผู้ก่อตั้ง Google, Page และ Brin

ต้องบอกว่า เรื่องราวของ Pichai เป็นแรงบันดาลใจให้กับหลาย ๆ คนที่กำลังดิ้นรนเพื่อก้าวจากจุดที่ต่ำสุดในชีวิตขึ้นมาสู่จุดสูงสุดในชีวิตได้ด้วยความรู้และความสามารถอย่างที่ Pichai สามารถทำได้สำเร็จ เขาเป็นทั้งลูกชาย พ่อ สามี และตอนนี้เป็นมหาเศรษฐี มีเรื่องให้เรียนรู้มากมายจากเรื่องราวของเขา

แต่ต้องบอกว่าบทเรียนหลักสำคัญที่ Pichai ยึดถือมาตลอด และ ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้อย่างที่เราได้เห็นกันในทุกวันนี้ ซึ่งเขาได้เคยกล่าวถึงบทเรียนชีวิตที่น่าสนใจของเขาไว้ว่า

“ความล้มเหลวมีข้อดี ถ้าคุณพยายามดึงบทเรียนอันมีค่าจากความล้มเหลวเหล่านั้นมาปรับใช้ หากคุณเรียนรู้จากความล้มเหลว มันไม่ใช่ความพ่ายแพ้ แต่มันจะเป็นประสบการณ์ในการเรียนรู้ของคุณในอนาคต” Sundar Pichai

References : https://www.indiatoday.in/technology/features/story/the-rise-and-rise-of-sundar-pichai-from-c-grade-at-iit-kharagpur-to-ceo-of-alphabet-and-google-1625006-2019-12-04
https://inc42.com/buzz/sundar-pichai-rises-to-alphabet-ceo-from-true-blue-tamil-boy-to-google-founders-favourite/
https://www.finnovationz.com/blog/sundar-pichai-life-story-a-man-bringing-revolutionary-changes
https://www.sentangsedtee.com/big-idea/article_623
https://startitup.in.th/the-incredible-life-of-sundar-pichai-from-poor-kid-to-ceo-of-google/

Geek Daily EP88 : จากบริษัทเทคโนโลยีสู่การศึกษา กับการปราบปรามที่ไม่มีที่สิ้นสุดของรัฐบาลจีน

ต้องบอกว่าการเข้ามาจัดระเบียบใหม่ครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งคำเตือนที่สำคัญสำหรับนักลงทุนทั่วโลก ที่มองว่าผลตอบแทนสูงจากการลงทุนใน China Inc อาจทำให้ขาดทุนมหาศาลได้ในชั่วข้ามคืน

บริษัทใดๆ ที่ต้องการดำเนินการในประเทศจีนควรคิดถึงความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบของจีนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุด

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3iSxbnI

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
http://bit.ly/2kxHtQ3

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/2m0PTzR

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/VKOzrEZsUVM

References Image : https://qz.com/