ประวัติ Minoru Shirota ผู้ก่อตั้ง ยาคูลท์ สู่ตำนาน …ถามสาวยาคูลท์สิคะ

Minoru Shirota เกิดเมื่อเดือนเมษายน ปี 1899 ในหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ข้างแม่น้ำ Inadani Tenryuu ในพื้นที่ Iida ทางตะวันตกของ Nagano ประเทศญี่ปุ่น 

หมู่บ้าน Inadani ล้อมรอบด้วยพื้นที่เนินเขาสูงตระหง่าน เป็นพื้นที่ที่ยากจนแต่โบราณกาลเพราะไม่สามารถที่จะปลูกข้าวในดินแดนแถบนี้ได้ 

Minoru Shirota เกิดในครอบครัวที่ร่ำรวยในหมู่บ้าน นอกจากจะมีธุรกิจค้าส่งกระดาษและเลี้ยงไหม พ่อของเขายังทำงานที่ธนาคารอีกด้วย 

ด้วยฐานะทางบ้านที่ค่อนข้างดี ทำให้ Shirota มีโอกาสมากกว่าเด็กคนอื่น ๆ ในพื้นที่แถวนั้น โดยได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนประถมในเขต Ryuunooka ที่อยู่ห่างไกลจากหมู่บ้านของเขา

เพื่อน ๆ หลายคนชอบ Shirota มาตั้งแต่เด็ก ๆ เนื่องจากเขาเป็นคนที่มีอารมณ์ขันและความฉลาดของเขา ทำให้ Hashizume Fukuji ซึ่งเป็นครูประจำชั้นของเขา เป็นคนแรกที่เห็นถึงพรสวรรค์ของ Shirota

ในเดือนเมษายน ปี 1913 Shirota เข้าสู่โรงเรียนมัธยมต้น Iida  ซึ่งการเดินทางเพื่อไปโรงเรียน Shirota ต้องเดินเป็นระยะทาง 16 กม. 

Shirota ที่เลือกที่จะเป็นหมอด้วยความหวังจากพ่อของเขา ในเวลานั้น นักเรียนจำนวนมากตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย Ilda High School (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยนาโกย่า)  เลือกที่จะเป็นหมอที่เป็นอาชีพในฝันของเด็กหลาย ๆ คน

แต่ไม่นานหลังจากนั้นก็ได้เกิดสงครามขึ้นในญี่ปุ่น ตั้งแต่เล็ก Shirota ไม่ชอบการต่อสู้ เขาคิดถึงความเงียบสงบและความเป็นอิสระ เขาจึงตัดสินใจมุ่งสู่งเมืองเกียวโตของญี่ปุ่น

ในเดือนเมษายน ปี 1921 Shirota ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเกียวโต เมื่อเขาเริ่มเรียนในสาขาการแพทย์ เขาสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับจุลินทรีย์และศึกษาจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค 

ในเมือง Inadani บ้านเกิดของเขา ที่ซึ่ง Shirota รู้ว่าแถบนั้นเป็นพื้นที่แห้งแล้งไม่สามารถปลูกพืชไร่ได้ ทำให้หลายคนอยู่ในความยากจน เนื่องจากความยากจน เด็ก ๆ จึงไม่ได้รับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ร่างกายจึงอ่อนแอ 

นั่นทำให้เด็กหลายคนเสียชีวิตด้วยโรคบิด ดังนั้น Shirota จึงมุ่งมั่นที่จะหายาที่สามารถขจัดโรคต่างๆ เช่น โรคบิดและไข้รากสาดใหญ่ และยังศึกษาวิธีป้องกันการแพร่กระจายของโรคนี้ด้วย

ในฤดูใบไม้ผลิปี 1925  ในช่วงเวลานั้น การวิจัยของ Shirota มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ในการวิจัยของเขาพบว่าแบคทีเรียเป็นอันตรายเนื่องจากไข้รากสาดใหญ่และโรคบิดที่เข้าสู่ร่างกายอาจทำให้เกิดโรคได้ 

Shirota มุ่งวิจัยเรื่องแบคทีเรีย
Shirota มุ่งวิจัยเรื่องแบคทีเรีย

แต่เขาได้ค้นพบว่า ในกระเพาะอาหารของมนุษย์มีแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ที่ปกป้องสุขภาพและต่อสู้กับแบคทีเรียที่เป็นอันตรายได้  แบคทีเรียแลคโตบาซิลลัสเป็นตัวอย่างของแบคทีเรียที่ดีในกระเพาะอาหารของมนุษย์

จากนั้น Shirota ก็คิดว่าจะมีการสร้างแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัสจากธรรมชาติ จากนั้นจึงนำมาขยายพันธุ์และทำให้สามารถดื่มได้ 

ด้วยวิธีนี้ แบคทีเรียที่เป็นอันตรายสามารถถูกกำจัดและรักษาสุขภาพตามธรรมชาติได้ Shirota ทำการวิจัยเพื่อเสริมสร้างแลคโตบาซิลลัสต่อไปหลังจากนั้น

ในปี 1939 Shirota ได้พบและแต่งงานกับ Yoshie พวกเขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ใน Kamigyoku ในเกียวโต 

ปีต่อมา Shirota ได้รับปริญญาเอกด้านการแพทย์และเริ่มสอนที่มหาวิทยาลัยเกียวโต  ชีวิต Shirota มีความสุขมากเมื่อเขาและ Yoshie ได้ให้กำเนิดลูกชายสองคนคือ Takane และ Mari

หลังจากนั้น Shirota ได้รับจดหมายจากรัฐบาลให้มาช่วยเหลือในการทำสงครามและปกป้องประเทศ Shirota ได้รับมอบหมายให้เป็นแพทย์ทหาร 

จากนั้น ในเดือนกรกฎาคม ปี 1938 เขาต้องข้ามทะเลไปยังประเทศจีน เมื่อได้รับมอบหมายให้สอนเป็นศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยการแพทย์ Harupin ประเทศจีน และเมื่อเกิดสงครามในจีน Shirota ได้กลับมายังญี่ปุ่น

ศูนย์วิจัย Shirota ก่อตั้งขึ้นในเดือนมกราคม ปี 1939 Shirota จึงหยุดสอนหนังสือ มาพัฒนาสินค้ายาคูลท์อย่างจริงจัง ในขณะนั้นญี่ปุ่นได้แปรสภาพเป็นรัฐทหารที่ใช้เงินจำนวนมหาศาลไปใช้สร้างเรือรบและรถถัง แทนที่จะจัดหาอาหารให้ประชาชน 

นั่นทำให้เด็กที่โตขึ้นได้รับอาหารไม่เพียงพอ ในที่สุด หลายคนเสียชีวิตเนื่องจากขาดสารอาหาร ซึ่งยาคูลท์เป็นสินค้าราคาถูก ที่ใครๆ ก็สามารถซื้อได้

ยาคูลท์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ราคาถูก คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้
ยาคูลท์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ราคาถูก คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้

ในปี 1941 Yoshie ภรรยาของ Shirota เสียชีวิต ในขณะเดียวกันก็เกิดสงครามโลกครั้งที่สองขึ้น สงครามดำเนินต่อไปเป็นเวลาสี่ปี ก่อนที่ญีปุ่นจะพ่ายแพ้ให้กับอเมริกา

หลังจากนั้น Shirota ได้มาก่อร่างสร้างธุรกิจยาคูลท์กับเพื่อนของเขาแบบเต็มตัวในปี 1950 การผลิตและการตลาดของยาคูลท์ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง 

สำหรับชื่อยาคูลท์นั้นมาจากภาษาเอสเปรันโต “จาฮูรูโต” ซึ่งแปลว่าโยเกิร์ต เนื่องจากยาคูลท์เป็นเครื่องดื่มโปรไบโอติกที่คล้ายกับโยเกิร์ตมาก

ในปี 1955 Shirotaได้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่โตเกียว ยาคูลท์ ผลิตภัณฑ์หลักของเขากำลังได้รับความนิยม นั่นทำให้เขาประสบความสำเร็จด้วยงานวิจัยของเขาในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และความสำเร็จในฐานะนักธุรกิจ

Shirota มีโอกาสเข้าร่วมการสัมมนาระดับนานาชาติด้านจุลชีววิทยาในสหภาพโซเวียตในปี 1966 และในปี 1969 ความพยายามของ Shirota ได้รับการยอมรับด้วยรางวัล Tokyoku Kunyon Jitsusho Jusho ที่เป็นความสำเร็จสูงสุดในชีวิตของเขาในท้ายที่สุด

ปัจจุบันบริษัทประสบความสำเร็จในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มของยาคูลท์โดยใช้แลคโตบาซิลลัสและจุลินทรีย์อื่น ๆ ผลิตเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ยาคูลท์ยังคงเติบโตและขยายตัวอย่างต่อเนื่องจวบจนถึงปัจจุบัน

Minoru Shirota ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ปี 1982 รวมอายุ 82 ปี

*** หมายเหตุ ***

ส่วนสาวยาคูลท์ หรือที่ในญี่ปุ่นเรียกว่า ยาคูลท์ซัง หรือยาคูลท์เลดี้ เป็นวิธีการขายที่บริษัทยาคูลท์คิดขึ้น เริ่มใช้ตั้งแต่เมื่อปี 1963 เพราะเล็งเห็นว่าผู้หญิงสามารถเข้าถึงผู้บริโภค ซึ่งในยุคนั้นคนซื้อมักเป็นแม่บ้าน และยังทำให้ติดตลาดโดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณามากเท่าการวางขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตอีกด้วย

References : https://www.scmp.com/lifestyle/health-wellness/article/2172303/yakult-story-japanese-health-drink-conquered-world
https://en.wikipedia.org/wiki/Yakult_Honsha
https://yakult.com.mt/company-mt/the-origins/