ความรักบนเส้นขนาน ของชายบ้างานที่ชื่อ Elon Musk

ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งบทเรียนชีวิตรักของ สุดยอดผู้ประกอบการ ที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกเราผ่านบริษัทของเขา ไม่ว่าจะเป็น Tesla , SpaceX , Hyperloop หรือ SolarCity ที่ล้วนแล้วแต่เป็นธุรกิจที่มองไปที่อนาคตของโลกเราแทบจะทั้งสิ้น

แน่นอนว่าการบริหาร บริษัท ขนาดเท่า Tesla นั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก แต่ Musk ยังเป็นซีอีโอของ บริษัท สำรวจอวกาศ SpaceX ซึ่งมีภารกิจในการพามนุษย์ไปยังดาวอังคาร และ “จุดหมายปลายทางอื่น ๆ ในระบบสุริยะ”

และนั่นไม่ใช่ทั้งหมด Musk ยังก่อตั้งหรือปัจจุบันมีบทบาทสำคัญใน บริษัท อื่น ๆ อีกหลายแห่งโดยมีเป้าหมายดังต่อไปนี้:

  • การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติทั้งหมด (OpenAI)
  • การพัฒนาอินเทอร์เฟซเครื่องสมองเพื่อเชื่อมต่อมนุษย์และคอมพิวเตอร์ (Neuralink)
  • การแก้ปัญหา “การจราจรคับคั่ง” ด้วยเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินขนาดใหญ่อย่าง Hyperloop (The Boring Company)
  • การผลิตพลังงานสะอาดผ่านแผงโซลาร์เซลล์ (SolarCity ซึ่งเป็น บริษัท ย่อยของ Tesla)

แต่ต้องบอกว่า การที่จะต้องบริหารบริษัทหลาย ๆ บริษัท ที่มีภารกิจอันใหญ่หลวงแทบจะทั้งสิ้นแบบที่ Elon Musk ทำนั้น มันก็ทำให้ชีวิตอีกด้านหนึ่งของ Elon Musk ล้มเหลวไม่เป็นท่าเช่นเดียวกัน

ผู้ก่อตั้ง Tesla ผ่านการหย่าร้าง 3 ครั้ง เคยตกหลุมรัก อดีตนักแสดงชื่อดังอย่าง Amber Heard ของ Johnny Depp และตอนนี้กำลังมีลูกกับภรรยาคนปัจจุบันของเขาอย่าง Grimms

ก่อนหน้านี้ Elon Musk ได้เปิดเผยชีวิตส่วนตัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในการสัมภาษณ์เชิงลึกของ Rolling Stone โดย Neil Strauss ที่ตีพิมพ์ในเดือนพฤศจิกายนปี 2017

เขาได้พูดถึงการเลิกลากับ Amber Heard อดีตแฟนสาว ซึ่งแสดงอาการอกหักหลังจากต้องแยกทางกัน รวมถึงความสัมพันธ์ที่เหินห่างกับ Errol พ่อของเขา โดยเรียกเขาว่า “มนุษย์ที่น่ากลัว”

Musk เองได้พบกับภรรยาคนแรกของเขา Justine Wilson ที่มหาวิทยาลัย Queen ในออนแทริโอ ประเทศแคนาดา

หลังจาก Musk ได้ย้ายไปเรียนต่อที่ วอร์ตัน แต่เขาก็ยังคงส่งกุหลาบให้กับ Justine พวกเขาแยกทางกัน แต่กลับมาคบกันอีกครั้งเมื่อ Musk เริ่มทำสตาร์ทอัพครั้งแรกของเขาอย่าง Zip2

Justine เองได้เริ่มทำงานกับนวนิยายเรื่องแรกของเธอหลังจากสำเร็จการศึกษา Justine ได้กล่าวว่า Musk จีบเธอโดยให้บัตรเครดิตกับเธอเพื่อซื้อหนังสือมากที่สุดเท่าที่เธอต้องการ จนในที่สุดทั้งคู่ได้แต่งงานกันในปี 2000

หลังจากนั้นทั้งคู่ได้ย้ายไปลอสแองเจลิส และมีลูกชายชื่อเนวาดา ซึ่งได้เสียชีวิตอย่างกะทันหันจากกลุ่มอาการเสียชีวิตอย่างกะทันหัน (SIDS) แต่ในที่สุด พวกเขาก็ได้มีลูกฝาแฝด และ แฝดสาม รวมทั้งหมด 5 คน

อย่างไรก็ตามทั้งคู่ก็ได้แยกทางกันในปี 2008 หลังจากหย่าร้าง เจ้าพ่อเทคโนโลยีเริ่มออกเดทกับนักแสดงสาว Talulah Riley

Riley และ Musk แต่งงานกันในปี 2010 สองปีต่อมาข่าวการหย่าร้างของทั้งคู่ก็เปิดเผยต่อสาธารณะ เมื่อ Musk ได้ Tweet ถึง Riley ว่า “มันเป็นสี่ปีที่น่าทึ่ง ผมจะรักคุณตลอดไป. คุณจะทำให้ใครบางคนมีความสุขมากในวันหนึ่ง”

แต่ทั้งคู่ก็ได้กลับมาแต่งงานใหม่ในปี 2013 แต่การกลับมาอีกครั้งทั้งคู่ก็ไม่สามารถจูนติดกันได้เหมือนเดิม สุดท้ายต้องมีการหย่าขึ้นอีกครั้งในปีถัดไป หลังจากแต่งงานใหม่ครั้งที่สองได้เพียงปีเดียวเท่านั้น

จากนั้นในปี 2016 Musk ได้เริ่มออกเดทกับนักแสดงสาว Amber Heard แต่พวกเขาก็เลิกรากันในอีกหนึ่งปีต่อมา โดยปัญหาเกิดจากตารางงานที่หนักหน่วงของทั้งคู่

 Musk ได้เริ่มออกเดทกับนักแสดงสาว Amber Heard (CR:mirror.co.uk)
Musk ได้เริ่มออกเดทกับนักแสดงสาว Amber Heard (CR:mirror.co.uk)

ในเดือนพฤษภาคมปี 2018 Musk มาถึงงานกาล่าของสถานบันเครื่องแต่งกายประจำปีอันโด่งดังที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิแทน ข้าง ๆ Grimes นักดนตรีชาวแคนาดา ซึ่ง มีรายงานว่า ทั้งคู่ได้เริ่มคบหาดูใจกับแบบเงียบ ๆ มาซักระยะหนึ่งแล้ว

Grimes และ Musk พบกันทาง Twitter โดย Musk กำลังวางแผนที่จะสร้างเรื่องตลกเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับตัวละคร Rococo Basilisk ใน วีดีโอ Flesh Without Blood ของ Grimes

หลังจากนั้นเดือนมกราคมปี 2020 Grimes ได้โพสต์รูปใน Instragram ของเธอ และ Twitter ของเธอ ในขณะที่เธอกำลังตั้งครรภ์ ซึ่งภายหลังได้มีการยืนยันว่าเธอได้ทำการตั้งครรภ์กับ Elon Musk

ในวันที่ 4 พฤษภาคม ปี 2020 Musk ได้ประกาศให้กำเนิดลูกชายซึ่งเขาและ Grimes ได้ตั้งชื่อว่า X Æ A-12

Musk ได้ประกาศให้กำเนิดลูกชายซึ่งเขาและ Grimes ได้ตั้งชื่อว่า X Æ A-12 (CR:PinkNews)
Musk ได้ประกาศให้กำเนิดลูกชายซึ่งเขาและ Grimes ได้ตั้งชื่อว่า X Æ A-12 (CR:PinkNews)

ในเดือนธันวาคมปี 2020 Musk กล่าวว่า เขาได้ย้ายไปเท็กซัสหลังจากต้องต่อสู้กับรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นเวลาหลายเดือนเกี่ยวกับข้อจำกัดการล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

Grimes และ Baby X ได้ย้ายไปอยู่กับเขาที่นั่น และในเดือนมีนาคม 2020 เขาได้แชร์ภาพครอบครัวที่ถ่ายใกล้กับโรงงานของ SpaceX ในรัฐเท็กซัสตอนใต้

แล้ว Musk แบ่งเวลาให้กับเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวอย่างไร? 

ต้องบอกว่าถ้าใครเคยอ่านประวัติของ Elon Musk แบบเต็ม ๆ จะพบว่า ตั้งแต่เขาเริ่มทำงานนั้น เขาก็โฟกัสไปที่งานอยู่แทบจะตลอดเวลา ช่วงแรกของการพัฒนา Zip2 สตาร์ทอัพบริษัทแรกของ Musk นั้น เขาก็แทบจะขลุกอยู่แต่ที่ office แทบจะ 24 ชม.

ซึ่งในปัจจุบันเขาต้องแบ่งเวลาเพื่อให้โดยพื้นฐานแล้วเขาสามารถมุ่งเน้นไปที่ บริษัท ทีละ บริษัท

เมื่อพูดคุยกับนักข่าว Alison van Diggelen ย้อนกลับไปในปี 2013  Musk อธิบายว่าการบินไปมาระหว่างทางตอนเหนือและตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย โดยทั่วไปจะแบ่งสัปดาห์ของเขาระหว่างสองบริษัทหลักของเขาด้วยวิธีต่อไปนี้:

วันจันทร์: SpaceX

วันอังคาร: Tesla

วันพุธ: Tesla

วันพฤหัสบดี: SpaceX

วันศุกร์: SpaceX

วันเสาร์: Tesla

วันอาทิตย์: Tesla หรือ SpaceX

Musk ระบุว่าตารางเวลานี้เป็นเพียงตัวอย่างและการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่  โดยที่ Musk มักเลือกที่จะมุ่งเน้นไปที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินและเริ่มต้นใหม่ในเช้าวันรุ่งขึ้นกับอีกบริษัทหนึ่ง

แน่นอนว่ามีเพียงไม่กี่คนที่สามารถบริหาร บริษัท หลายแห่งเหมือนที่ Musk ทำได้  และเขาก็เคยกล่าวไว้อย่างชัดเจนในเรื่อง Work Life Balance ว่า “เพื่อความชัดเจนผมก็ไม่สนับสนุนให้ทำงานเจ็ดวันต่อสัปดาห์โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีครอบครัวเหมือนผม ดูชีวิตรักของผมสิ มันพังแทบไม่เป็นท่า”

References : https://www.businessinsider.com/elon-musk-relationships-2017-11#while-musk-and-his-first-wife-became-estranged-justine-wrote-in-marie-claire-that-she-and-riley-ended-up-getting-along-very-well-she-even-sent-her-ex-husbands-girlfriend-an-email-saying-i-would-rather-live-out-the-french-movie-version-of-things-in-which-the-two-women-become-friends-and-various-philosophies-are-pondered-10
https://www.scmp.com/magazines/style/celebrity/article/3132768/elon-musks-love-life-mapped-tesla-founder-divorced-3
https://www.cnbc.com/2017/11/15/why-elon-musk-says-he-needs-to-be-in-love-to-live-a-happy-life.html

Geek Story EP105 : Smartphone War (ตอนที่ 5)

จากตอนที่แล้วทางฝั่ง Google ก็ได้เริ่มแอบทำบางอย่างลับ ๆ โดยหลังจากเปลี่ยนแผนโดยฉับพลันจากมือถือที่ต้องมี keyboard แบบ Blackberry ให้กลายมาเป็นมือถือแบบจอสัมผัสแบบที่ iPhone ทำ

ซึ่งการซุ่มพัฒนานี้ทำโดย Apple แทบจะไม่ระแคะระคายเลยด้วยซ้ำ เพราะหนึ่งในบอร์ดของ Apple ในขณะนั้น ก็คือ เอริก ชมิตต์ ที่เป็น CEO ของ Google นั่นเอง แต่ดูเหมือนงานนี้จะมีการหักหลังกันเกิดขึ้นแล้วในศึกสงครามมือถือครั้งนี้ รับฟังกันต่อได้เลยครับผม

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/2SRvxJU

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
http://bit.ly/2kxHtQ3

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/2m0PTzR

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/c6cnbSpLVEI