ตอนนี้ ทิศทาง ของ twitter ค่อนข้างที่จะชัดเจนแล้ว บริษัทก็กำลังเติบโตในทุกแง่มุม ทั้ง จำนวนผู้ใช้งาน ผู้คนใช้งานเป็นประจำโดย tweet กว่า 35 ล้าน tweet ต่อวัน แต่จำนวนพนักงานของบริษัทนั้นเพิ่มอย่างช้า ๆ ยังมีเพียงไม่ถึง 100 คนเท่านั้น
เหล่าคณะกรรมการของบริษัท ก็ได้กดดันเอฟ ให้เริ่มว่าจ้างมืออาชีพ มารับมือสถานการณ์ ของบริษัทที่กำลังเติบโตอย่างฉุดไม่อยู่ บริษัทควรที่จะมี CTO , COO และ CFO มืออาชีพมาดูแลได้แล้ว
แต่ปัญหาใหญ่ของเอฟ คือ เป็นคนที่ตัดสินใจอะไรได้ล่าช้ามาก ๆ และเค้ามักที่จะเลือกคนมาทำงานจากเพื่อนก่อนเสมอ ซึ่งจะเป็นคนที่เขาสามารถเชื่อใจได้ว่า จะไม่มาทำลายเขาในภายหลัง หรือ มาเร่งการตัดสินใจอันแสนช้าของเขานั่นเอง
และ เพื่อนคนหนึ่งที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทสำคัญกับ Twitter คือ ดิก คอสโตโล ที่จะมารับหน้าที่ในตำแหน่ง COO เพื่อช่วยเหลือเอฟ ในการจัดการภายในบริษัท
ทั้งคู่ได้รู้จักกัน จากการที่ ดิก ได้ขายบริษัทชื่อ Feed Burner ที่ช่วยเหล่าบล็อกเกอร์ จัดการบล็อกโพสต์ของพวกเขา โดยขายให้กับ google กว่า 100 ล้านเหรียญ ซึ่งทำให้ทั้งคู่ได้พบกัน และเป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุด
ปัญหาคือตอนนี้ twitter มันกำลังเติบโตมากเกินกว่าบริษัทอื่น ๆ ที่เอฟเคยได้เจอะเจอมา เพราะมันกำลังกระจายไปทั่วโลก ผู้คนหลายล้านคนกำลังใช้งาน twitter ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นที่มาของการที่ต้องมีโค้ช มาช่วยเอฟ ในการจัดการในเรื่องการตัดสินใจต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
และคน ๆ นั้น ก็ไม่ใช่ใคร เขาคือ บิล แคมป์เบลล์ โค้ช CEO ในตำนาน ที่เคยให้คำปรึกษา สตีฟ จ๊อบส์ , แอริค ชมิตต์ รวมถึง แลรรี่ กับ เซอร์เกย์ ของ google ก็ล้วนผ่านมือ บิล แคมปเบลล์มาแล้วทั้งสิ้น ซึ่งสุดท้าย เอฟก็ได้ตกลงเข้าพบกับ บิลล์ แคมป์เบลล์
หลังจากได้ลองมา Coaching กับ บิล แคมป์เบลล์ เอฟก็เริ่มหลงเคลิ้มกับแคมป์เบลล์ มีการพบปะพูดคุยกันสัปดาห์ละครั้ง ซึ่ง ในภายหลัง บิล แคมป์เบลล์ ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทใน twitter อีกคน แม้จะไม่ได้เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง แต่เขาก็มักเข้ามาร่วมประชุมกรรมการของ twitter อยู่เสมอ ในฐานะ โค้ช CEO
Steve Jobs 2.0
ส่วนทางฟากฝั่ง แจ๊ค นั้น ได้เริ่มสร้างตัวตนใหม่ ผ่านการเปลี่ยน style การแต่งตัว เป็นเสื้อเชิ้ตติดกระดุม และเริ่มสวมสูทเป็นประจำ เริ่มเป็นคนที่ยึดติดความสมบูรณ์แบบมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้น มันถูกออกแบบมาให้คล้ายคลึงกับนักธุรกิจผู้ยอดเยี่ยมที่สุดในอเมริกาอย่าง สตีฟ จ็อบส์
แจ๊คนั้นเป็นคนที่ชื่นชม จ๊อบส์ เสมอมา เขาพยายามที่จะทำความเข้าใจในสไตล์การทำธุรกิจของจ๊อบส์ ในปี 2009 ตอนที่ แจ๊ค เริ่มสร้าง Square ขึ้นมานั้น เขาไม่ใช่แค่ยกย่อง จ๊อบส์ เฉย ๆแต่เขาพยายามเลียนแบบทุกสิ่งของจ๊อบส์
เขาทดลองด้วยแว่นตาแบบกลมของจ๊อบส์ และเริ่มเลียนแบบการแต่งกายประจำวัน แม้กระทั่งฟังเพลง บีเทิลส์ ศิลปินคนโปรดของจ๊อบส์
แจ๊คเริ่มว่าจ้างอดีตพนักงานของ apple ให้มาทำงานที่ Square เริ่มมีไตล์การพูดที่ใช้คำรูปแบบเดียวกับ จ๊อบส์ ตัวอย่างเช่น “ไม่มีใครเคยทำสิ่งนี้มาก่อน” “วิเศษ” “น่าประหลาดใจ” “น่ายินดี” ซึ่งคำเหล่านี้ จ๊อบส์ชอบใช้ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของ apple แทบจะทั้งสิ้น
ซึ่งมันไม่ใช่แผนการใหญ่โตของแจ๊คที่จะเลียนแบบจ๊อบส์ ทว่ามันคือแผนการทีละเล็กละน้อยที่ร่วมเติมแต่งในการสร้างตัวตนใหม่ของเขา
หลังจากที่ จ๊อบส์ ล้มป่วยลงในปี 2009 สื่อก็พยายามหา สตีฟ จ๊อบส์คนต่อไป ซึ่งสำหรับแจ๊ค การสร้างตัวตนใหม่ให้กลายเป็น Steve Jobs 2.0 ขึ้นมานั้น ไม่ใช่เพียงแค่เลียนแบบว่ามีวิสัยทัศน์แบบจ๊อบ มันยังเป็นผลที่ไม่ได้ตั้งใจของการจุดไฟที่แจ๊คพยายามก่อตั้งขึ้น ตั้งแต่เขาถูกขับออกจาก twitter และมันเป็นกองไฟที่จะรมควันให้เอฟออกจากบริษัทไปด้วย
ถึงแม้ตอนนี้ เฟนตัน บอร์ดที่มี power สูงจะอยู่ฝ่ายแจ๊คมาโดยตลอดหลังจากได้คุยกัน แต่ปัญหาคือ จะทำอย่างไรให้ เฟร็ด กับ บิฌาน ที่อยู่ข้างเอฟ หันมาสนับสนุนเขาด้วย
แต่มันเหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิตให้ทุกอย่างเป็นใจเข้าทางแจ๊ค เมื่อรองประธานฝ่ายวิศวกรรม อย่าง ไมค์ แอ๊บบอต ได้มาปรึกษากับแจ๊ค เรื่องทิศทางของบริษัท ซึ่งตอนนั้น ไมค์ คิดว่า แจ๊ค ยังคงมีบทบาทสำคัญอยู่ใน twitter เพราะแจ๊คมักบอกกับสื่อต่าง ๆ ว่าเขาคือคนคิดค้น twitter
และแน่นอน แจ๊ค ก็ปฏิบัติการใส่ไฟเต็มที่ บอก ไมค์ ว่า ตำแหน่งรองประธานของ ไมค์ นั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าตำแหน่ง CEO หรอก การไปปรึกษาเอฟมันก็ไม่มีอะไรคืบหน้าอย่างแน่นอน ให้บอกความกังวลเหล่านี้กับเหล่าคณะกรรมบริษัท อย่าง เฟร็ด , บิฌาน หรือ เฟนตัน เลย หรือ ไม่ก็บอกความกังวลเหล่านี้ไปถึง บิลล์ แคมป์เบลล์โค้ชของเอฟ เลยด้วยก็ดี
ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ ไมค์ เริ่มไปบอกผู้บริหารคนอื่น ๆ ใน twitter ให้มาพบแจ๊คด้วย ซึ่งถึงจุดนี้ แจ๊ค กำลังสร้างกองกำลังในการก่อกบฏ ใน twitter ขึ้นมาอีกครั้ง
แล้วเอฟล่ะ กำลังทำอะไรอยู่ ด้วยนิสัยส่วนตัวที่ชอบหนีปัญหามาตั้งแต่แรก แทนที่จะไปจัดการเรื่องการบริหาร เอฟดันเอาตัวเองไปหมกมุ่น กับเรื่องการออกแบบ twitter version ใหม่ ซึ่งเป็นการละเลยงานประจำวันของ CEO โดยใช่เหตุ ทำให้ความสัมพันธ์ของเขาในตำแหน่ง CEO กับเหล่าผู้บริหารของ twitter ดูย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ
มันทำให้ตอนนี้ แจ๊ค ค่อย ๆ สะสมกองกำลัง ในการที่จะก่อการปฏิวัติ รัฐประหาร แย่งชิง อำนาจกลับมาอีกครั้ง ตอนนี้แผนการของ แจ๊ค กำลังเริ่มเห็นทางสว่าง ในการที่เค้าจะกลับคืน Twitter ได้อีกครั้งแล้ว เอฟที่ไป focus ผิดจุด ทิ้งงาน CEO ทำให้เกิดความเหินห่างกับเหล่าผู้บริหารระดับสูงของ Twitter ซึ่งต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาทั้งหมด ถึงตอนนี้ใกล้จะถึงบทสรุปของ Series อันยาวนานนี้แล้ว โปรดติดตามในตอนต่อไปครับผม
–> อ่านตอนที่ 12 : Betray Ev
<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 :The Beginning *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***
Credit แหล่งข้อมูลบทความ
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA
Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ
Geek Forever’s Podcast
“Open Your World With Technology“
AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning
Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ