Silvio Berlusconi ความรุ่งโรจน์สู่การล่มสลายของชายผู้เป็นตำนานของอิตาลี

ต้องบอกว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีข่าวเด่นดังไปทั่วโลกเลยสำหรับ อดีตนายกรัฐมนตรีของอิตาลีอย่าง Silvio Berlusconi หลายท่านอาจจะรู้จักเขาในนามเจ้าของสโมสรฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่อย่าง AC Milan  แต่ไม่ว่าในฐานะใด Silvio Berlusconi ก็มีประวัติที่น่าสนใจจน netflix นำชีวประวัติมาฉายใน My Way: The Rise and Fall of Silvio Berlusconi

ต้องบอกว่า Berlusconi นั้นมีประวัติที่น่าสนใจมาตั้งแต่เด็ก เขาเกิดมาในครอบครัวชนชั้นกลางเท่านั้นและต้องอพยพครอบครัวหนีจากเมืองมิลานไปตั้งแต่วัยเด็ก เนื่องจากผลของการเข้าโจมตีของสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง

ต้องถือว่าเป็นการเริ่มต้นเรื่องราวชีวิตที่ลำบากไม่ใช่น้อยเลยสำหรับ Berlusconi ในวัยเด็ก ซึ่งตอนเด็ก ๆ ในสมัยที่ยังเรียนในโรงเรียนคาทอลิคนั้นเขาแทบไม่ฉายแววผู้นำที่จะกลายมาเป็นบุคคลสำคัญของประเทศอิตาลีแต่อย่างใด ซึ่งเขาก็ได้ยอมรับว่าสมัยเด็กนั้นโดนเพื่อนคนหนึ่งแกล้งอยู่ตลอดเวลา

จุดเปลี่ยนที่สำคัญในวัยเด็กของ Silvio Berlusconi

สำหรับเด็กที่ต้องย้ายถิ่นฐานเข้ามาแถมยังตัวเล็กกว่าใครเค้าในสมัยเด็ก จึงถูกกลั่นแกล้งจากเพื่อนร่วมชั้นอยู่บ่อยครั้ง จนสุดท้าย Berlusconi ทนจากการถูกกลั่นแกล้งไม่ไหวได้ทำการสู้ด้วยการกระชากคอเพื่อนที่ชอบแกล้งเขา แล้วนำไปกดน้ำ แล้วย้ำว่า “ใครคือนายแก” ซึ่งภาพในวันนั้นของ Berlusconi ทำให้เพื่อนร่วมชั้นมองเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แล้วหลังจากนั้น เขาก็ได้กลายเป็นผู้นำของเหล่านักเรียนร่วมชั้นในทันที จึงเป็นที่มาของความแข็งแกร่ง อดทน และไม่ย่อท้อของ Berlusconi มาจนถึงบั้นปลายชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้

ชีวิตวัยรุ่นกับทางเดินในการเป็นนักดนตรี

ต้องบอกว่าในช่วงแรก ๆ นั้น Berlusconi ไม่มีแววว่าจะมาทำธุรกิจเลยด้วยซ้ำ ในช่วงวัยรุ่นเขาค่อนข้างที่จะหันเหชีวิตไปเอาดีทางด้านดนตรีเสียมากกว่าด้วยซ้ำ โดยเป็นพนักงานในเรือสำราญซึ่งทำหลายหน้าที่มากทั้งเป็น Guide เมื่อเรือลงจอดตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นนักดนตรีกลางคืน รวมถึงร่วมร้องเพลงด้วยในบางโอกาส ซึ่งดูไม่มีวี่แววที่ชายผู้นี้จะกลายมาเป็นนักธุรกิจที่่ยิ่งใหญ่ได้เลย

แต่แล้วโชคชะตาก็เหมือนเป็นใจให้เขาต้องกลับบ้านมาหาพ่อ ซึ่งเป็นนายแบงก์ใหญ่อยู่ที่เมืองมิลาน โดยพ่อเขาได้ตามตัวเขาจนพบ แล้วได้บอกกับ Berlusconi  ว่า “แกจะเป็นนักดนตรี ไปตลอดชีวิตเลยหรือ” ซึ่งสุดท้าย Berlusconi ก็ต้องทิ้งอาชีพนักดนตรีที่แสนรักกลับบ้านมาพร้อมกับพ่อของเขา แล้วกลับมาเรียนต่อด้านกฏหมายที่ประเทศฝรั่งเศสเพื่อประกอบอาชีพเหมือนคนอื่น ๆ ในยุคนั้น

การก้าวเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางกับการเริ่มต้นธุรกิจของBerlusconi ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่าแหล่งที่มาของเงินจำนวนมากตอนเริ่มธุรกิจแรก ๆ มาจากไหน

แม้ทาง Berlusconi จะออกมาปฏิเสธว่าเงินมาจากธนาคารจากแหล่งเงินในสวิสเซอร์แลนด์ แต่นักวิเคราะห์หลาย ๆ คนก็มีหลักฐานหลายอย่างที่เชื่อมโยงเงินของ Berlusconi กับแก๊งค์มาเฟียของอิตาลีที่ใช้ Berlusconi มาฟอกเงินให้พวกเขาผ่านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ถ้าพูดกันตรง ๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่เราจะได้เห็นเงินเถื่อนมาฟอกผ่านธุรกิจที่สวยหรู ทั้งที่ไม่รู้ว่าแหล่งที่มาของเงินนั้นมาจากไหน แม้กระทั่งในไทยเองก็มีเรื่องแบบนี้อยู่เป็นจำนวนมากเพราะเงินที่ได้มาจากธุรกิจสีดำหรือ เทาสุดท้ายก็ต้องฟอกกลับมาเป็นเงินปรกติให้สามารถนำมาใช้ได้อย่างปลอดภัย

ต้องบอกว่าในยุคเริ่มต้นธุรกิจของ Berlusconi นั้น ยุคนั้นเป็นยุคมาเฟียครองอิตาลีเลยก็ว่าได้ ซึ่งแม้สุดท้ายเขายังไม่ถูกตัดสินความผิดจากคดีฟอกเงินนี้จริง ๆ ก็ตาม แต่ต้องบอกว่าจากหลักฐานต่าง ๆ ที่มีอยู่นั้นสามารถเชื่อมโยงเขากับ เหล่ามาเฟียชื่อดังของอิตาลีแน่ ๆ

แต่เนื่องจากว่า Berlusconi เป็นคนประเภทที่ชอบบุกเบิกอะไรใหม่ ๆ ให้กับวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ในยุคนั้นธุรกิจของเขาสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นมหาเศรษฐีหมื่นล้านภายในระยะเวลาไม่กี่ปี รวมถึงในยุคนั้น ช่วงปี 1960-1970 ถือเป็นยุคเฟื่องฟูของอสังหาริมทรัพย์ของอิตาลีด้วย ทำให้บริษัทของเขาทะยานเติบโตอย่างรวดเร็วจนเป็นที่น่าอิจฉาของคู่แข่ง

ก้าวเข้าสู่วงการโทรทัศน์

เมื่อถึงจุดอิ่มตัวกับวงการอสังหาริมทรัพย์ Berlusconi ก็เริ่มสนใจที่จะเข้าสู่วงการโทรทัศน์ ซึ่งในขณะนั้นเพิ่งเริ่มตั้งไข่ ในยุคนั้นช่องทีวีมีแต่รายการของรัฐเท่านั้น นำมาซึ่งอำนาจในการกระจายข่าวสารของเพียงเหล่านักการเมือง

ธุรกิจใดต้องการที่จะมาลงโฆษณาก็ต้องมี connection ที่ดีกับนักการเมืองที่คุมรัฐบาลอยู่เท่านั้น ไม่ได้เปิดพื้นที่เสรีเหมือนอย่างในปัจจุบัน

แต่ Berlusconi มองเห็นช่องทางในการเข้าสู่ธุรกิจนี้ เนื่องจากกฏหมายยังไม่เปิดกว้างนักให้ได้รับช่องทีวีที่ Broadcast ไปทั่วประเทศมีเพียงแค่ช่องรัฐเท่านั้นที่สามารถที่จะ Broadcast ไปได้ทั้งประเทศ แต่มีช่องโหว่อยู่อย่างนึงก็คือช่องทีวีท้องถิ่นสามารถที่จะให้เอกชนเข้ามาสัมปทานได้ 

โดย Berlusconi ได้คิดแผนการในการรวมเครือข่าย Network ของช่องทีวีท้องถิ่นตามเมืองต่าง ๆ ครอบคลุมทั้งประเทศอิตาลีซึ่งก็เปรียบเสมือนการที่จะได้ Broadcast ไปทั่วประเทศได้เหมือนกับทีวีของรัฐ

โดยเทคนิคของ Berlusconi คือ การให้ช่องทีวีในเครือข่ายใช้รายการเดียวกันในการออกอากาศทั้งประเทศ โดยใช้ เทปจาก 4 วันก่อนหน้า เช่น รายการที่จะออกอากาศในวันอาทิตย์จะถูกถ่ายทำในวันพฤหัสฯ แล้วถูกส่งต่อไปยังเครือข่ายทีวีของเขาที่ได้ทำการซื้อมาทั่วประเทศเพื่อให้ออกอากาศรายการเดียวกันพร้อมกันได้ทั่วทั้งประเทศ

เทคนิคนี้ทำให้ Berlusconi สามารถที่จะหา sponsor โฆษณาได้จากผลิตภัณฑ์ใหญ่ ๆ ที่มีฐานลูกค้าอยู่ทั่วประเทศได้ ซึ่งแตกต่างจากหากเป็นทีวีท้องถิ่นสปอนเซอร์ที่จะลงโฆษณาจะมีเพียงแค่ผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นนั้นๆ เท่านั้น ทำให้มูลค่าโฆษณาสูงขึ้นและสามารถทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ รวมถึงได้บุกเบิกเอารายการทีวีใหม่ ๆ ที่แต่เดิมประเทศอิตาลีมีแต่รายการทีวีของภาครัฐเท่านั้น ล้วนแล้วแต่เป็นรายการไม่น่าดูชมซักเท่าไหร่ เมื่อ Berlusconi ได้นำเอาวัฒนธรรมการดูทีวีจากอเมริกาเข้ามาร่วมด้วย ทำให้ช่องของเขาดังจนฉุดไม่อยู่สปอนเซอร์ก็หลั่งไหลเทมา จนทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของ อิตาลีในขณะนั้น

เข้า Take Over ทีม AC Milan

ถ้าพูดถึงทีมอย่าง AC Milan ในยุคนั้น ราว ๆ ช่วงปลาย 1980 นั้นต้องบอกว่าเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทีมหนึ่งในยุโรปเลยก็ว่าได้ นักเตะดัง ๆ ในสมัยนั้นจุดสูงสุดในอาชีพนักฟุตบอลคือการได้มาร่วมทีมอย่าง AC Milan ทีมยักษ์ใหญ่ของศึก กัลโช่ ซีเรียอา ของอิตาลี ซึ่งตอนนั้นถือเป็นลีกฟุตบอลอันดับหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้

การเข้ามา Take Over ทีม AC Milan เป็นบันไดที่สำคัญของ Berluscon เพื่อก้าวเข้าสู่อาชีพนักการเมืองอย่างเต็มตัว ต้องบอกว่าในช่วงนั้นจากฐานแฟนบอลของทีม AC Milan ที่มีมหาศาลรวมถึงภาพลักษณ์ในการเป็นนักบุกเบิก และปฏิวัติ ธุรกิจต่าง ๆ ที่ผ่านมาของ Berlusconi ทำให้ภาพของเขาดูดีมาก ๆ ในสายตาของประชาชนในขณะนั้น กอรปกับ เป็นยุคที่ต้องบอกว่าการคอร์รัปชั่นเต็มบ้านเต็มเมืองอิตาลีในยุคนั้น ทำให้ประชาชนต้องการนักการเมืองหน้าใหม่ ๆ มาปฏิรูปประเทศ

ผลงานของทีม AC Milan หลังจากการเข้ามา take over ของ Berlusconi ทำให้เหล่าแฟนบอลรักเขามากยิ่งขึ้น เพราะสามารถกวาดแชมป์ได้อย่างมากมาย รวมถึงการคว้าถ้วยที่ใหญ่ที่สุดอย่างยูโรเปี้ยนคัพในขณะนั้น ทำให้เหล่าแฟนบอลคลั่งไคล้ Berlusconi มากยิ่งขึ้น ส่งผลต่อคะแนนนิยมทางด้านการเมืองกับเขาโดยตรง

การก้าวเข้าสู่แวดวงการเมือง

ด้วยฐานธุรกิจทั้งทางด้านวงการโทรทัศน์และฐานจากแฟนบอล AC Milan ต้องบอกว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการเข้าสู่อาชีพนักการเมืองขอ Berlusconi เลยก็ว่าได้ รวมถึงความเน่าเฟะของการเมืองอิตาลีในขณะนั้นการคอรัปชั่นที่เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด

ทำให้เป็นเรื่องไม่ยากนักสำหรับ Silvio Berlusconi ที่จะชนะการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีอิตาลี  เขาได้ตั้งพรรคที่ชื่อว่า Forza Italia ขึ้นมาใหม่ โดยรวมรวมเอานักการเมืองรุ่นใหม่เข้ามารวมถึงแนวคิดใหม่ ๆ ของการหาเสียง ทั้งการหาเสียงผ่านช่องรายการมีวีของตัวเอง

ทำให้สามารถเข้าถึงคนได้ทั้งประเทศ และการสร้างภาพลักษณ์แบบคิดใหม่ทำใหม่โดยจะเข้ามาปฏิรูปอิตาลีให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ทำให้สามารถครองเสียงส่วนใหญ่ได้สำเร็จในการลงเลือกตั้งหนแรกของเขา

บทบาทที่สำคัญในเวทีการเมืองโลก

เนื่องจากบุคลิกที่เป็นผู้นำที่เข้ากับคนได้ง่าย รวมถึงเป็นคนที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ยาวนานที่สุดของประเทศ อิตาลี ทำให้ Berlusconi นั้นมีความสนิทสนมกับผู้นำโลกหลายคน

โดยคนที่เค้าสนิทที่สุดน่าจะเป็น วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย ซึ่งทางปูตินได้กล่าวชม Berlusconi หลายครั้งรวมถึงปกป้องทุกครั้งที่มีเขาถูกใส่ร้าย

แม้กระทั่งผู้นำเผด็จการอย่าง โมฮัมหมัด กัดดาฟี่ ประธานาธิบดีของลิเบีย ก็ถือเป็นเพื่อนซี้คนหนึ่งของ Berlusconi เช่นกัน

โดย Berlusconi นั้นมีแนวคิดที่น่าสนใจกับเหล่าประเทศเผด็จการเหล่านี้คือเราไม่สามารถที่จะใช้ระบบประชาธิปไตยที่แท้จริงได้กับประเทศอย่างลิเบียเนื่องจากลิเบียมีชนเผ่าพื้นเมืองอยู่เป็นจำนวนมาก และก็ให้เกียรติ กัดดาฟี่ เหมือนหัวหน้าเผ่าของพวกเขาทั้งหมดซึ่งในกรณีประเทศอย่างลิเบียนั้น ความเป็นประชาธิปไตยอาจจะทำให้ประเทศล่มสลายได้จากการแก่งแย่งชิงอำนาจกันเองของชนเผ่าต่าง ๆ

ไม่เว้นแม้แต่ผู้นำของอเมริกา Berlusconi ถือว่าสนิทสนมอย่างมากกับประธานธิบดี George W Bush แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเห็นได้ว่าความสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้นำต่าง ๆ ของโลกเหล่านี้นั้นมีผลอย่างยิ่งต่อบทบาทของ Berlusconi ในเวทีระดับโลกซึ่งมักจะเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยเจรจาข้อพิพาทต่าง ๆ อยู่สม่ำเสมอ เนื่องจากเขามี connection ที่ดีเยี่ยมกับผู้นำหลาย ๆ ประเทศในยุคที่เขากำลังรุ่งเรืองอยู่

ผลงานที่ต้องยกเครดิตให้กับ Berlusconi ที่เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงในเวทีระดับโลกคือการเป็นตัวตั้งตัวตีในการยุติสงครามเย็นที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างอเมริกากับรัสเซีย

ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งปูตินและบุชจึงเป็นที่มาของการจัดประชุม เพื่อยุติสงครามเย็นที่เป็นหลักไมล์สำคัญในการเปลี่ยนแปลงความตึงเครียดในเวทีการเมืองโลกในเรื่องสงครามเย็น โดยมีการจัดขึ้นที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ที่ Partica di Mare ( Air base)

เมื่อชีวิตก้าวสู่ขาลง

ต้องบอกว่า Berlusconi โดนเล่นงานจากระบบยุติธรรมของอิตาลีมาโดยตลอด แต่เขาก็มักรอดมาได้เสมอ ในยุคที่เขายังเรืองอำนาจอยู่วิธีการของเขาแม้จะไม่ถูกนัก ไม่ว่าจะเป็นการติดสินบนเจ้าหน้าที่หรือการแก้ไขกฏหมายให้มีอายุความสั้นลง ทำให้เขารอดคดีต่าง ๆ มาได้โดยตลอด แต่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับเขามักจะโดนคดีไปเต็ม ๆ ไมว่าจะเป็นเรื่องตั้งแต่ข้อหาในการฟอกเงินในการเริ่มต้นธุรกิจของเขา คนรอบตัวเขาก็โดนคดีกันหมดแต่ตัวของ Berlusconi ยังรอดมาได้

แม้จะรอดตัวจากคดีต่าง ๆ ในประเทศด้วยวิธีการที่สกปรกบ้าง แต่ปัญหาระดับประเทศอย่างปัญหาเศรษฐกิจนั้นเป็นจุดฉนวนสำคัญในยุคขาลงของ Berlusconi เลยก็ว่าได้ สืบเนื่องจากปัญหาวิกฤติการเงินโลกทำให้ประเทศอิตาลีก็ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับประเทศกรีซที่เกือบจะล้มละลาย

ถึงแม้เขาจะสนิทสนมกับผู้นำบางกลุ่มแต่มีอีกกลุ่มที่ไม่เล่นด้วย อย่างเช่นประธานาธิดี นิโคลาส ซาร์โกซี่ ของฝรั่งเศษ และ นาง อังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีของเยอรมันที่เป็นกลุ่มประเทศผู้นำของ EU อยู่ ซึ่งอยากให้ Berlusconi นำประเทศอิตาลีเข้าสู่การช่วยเหลือของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF เป็นการด่วน

แต่ Berlusconi ไม่ยอมที่จะโดนบีบให้ยอมรับเงินของ IMF เรื่องนี้จะเป็นจุดสำคัญซึ่งเป็นการเมืองระหว่างประเทศ โดยเป้าหมายของ ซาร์โกซี่ และ แมร์เคล นั้นต้องการบีบให้นายกรัฐมนตรี Berlusconi ลาออก เพราะไม่ชอบนิสัยของ Berlusconi เป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย เนื่องจากในเวทีระดับโลกบางที Berlusconi มักจะรับปากแต่ไม่ได้ทำตามที่รับปากอยู่บ่อยครั้ง

ซึ่งสุดท้ายประเด็นของเรื่องเศรษฐกิจที่ Berlusconi ไม่สามารถแก้ไขปัญหาภายในประเทศได้ ทำให้คะแนนความนิยมของเขาตกลงไปเรื่อย ๆ เป็นตัวชนวนให้สุดท้ายแล้วนั้นเขาก็ต้องลาออกจากตำแหน่งแต่โดยดีเป็นการสิ้นสุดยุคเรืองอำนาจของ Berlusconi ไปในท้ายที่สุด

*** วันที่ 12 มิถุนายน 2023 Silvio Berlusconi เสียชีวิตในวัย 86 ปี หลังจากป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวมาระยะหนึ่ง ก่อนจะมีอาการปอดติดเชื้อและเสียชีวิตในท้ายที่สุด ***

เราได้เห็นอะไรจากผู้นำอย่าง Silvio Berlusconi

ต้องบอกว่าการเมืองทุกที่ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่ร่ำรวยหรือประเทศยากจนโลกที่สาม การเมืองก็คือการเมืองผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เชื่อเรื่องระบบประชาธิปไตยในอุดมคติ การเมืองมันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ที่มีการดีลให้ลงตัวกันของเหล่านักการเมืองต่าง ๆ เท่านั้น

แต่ชีวิตที่น่าสนใจของ Berlusconi คือเขาเป็นคนที่ทรหดเป็นอย่างมาก ผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ มามากมายทั้งในเวที ภายในประเทศที่ต้องต่อสู้กับระบอบยุติธรรม ที่สุดท้ายแล้วเขาก็สามารถเอาชนะได้แม้จะใช้วิธีที่สกปรก อย่างการไปแก้กฏหมายหรือแม้กระทั่งติดสินบนก็ตาม

ซึ่งหากเรามองจริง ๆ แล้ว ก็ไม่ต่างจากประเทศไทยเราซักเท่าไหร่ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปรกติของระบบการเมืองที่มันเน่าเฟะในทุก ๆ  ที่ของโลก ไม่เว้นแม้แต่เจ้าตำรับอย่างประเทศอเมริกาเองก็ตาม

แม้ภาพลักษณ์ที่ดูเผด็จการแต่ก็ต้องบอกว่า เขาก็สามารถที่จะนำอิตาลีฝ่าวิกฤติมาได้ในหลาย ๆ ครั้ง รวมถึงผลงานชิ้นสำคัญที่ต้องยกเครดิตให้คือเป็นส่วนหนึ่งของการยุติสงครามเย็นระหว่างอเมริกาและรัสเซีย เนื่องด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีของเขากับประธานาธิบดีปูตินและบุช ล้วน ๆ

เรื่องนี้ให้ข้อคิดว่าบางทีปัญหาใหญ่แทบจะรบกันตายหรือใช้ระเบิดนิวเคลียร์บอมบ์กัน สุดท้ายก็แค่มาเจรจากันผ่าน connection ดี ๆ ก็สามารถจบปัญหาใหญ่ ๆ แบบปัญหาสงครามเย็นได้เช่นกัน

สุดท้ายการเมืองก็คือการเมือง ทั้งในระดับโลกหรือภายในประเทศก็ตาม มันก็แค่การเจรจากันให้ผลประโยชน์ต่าง ๆ ลงตัว ทุกอย่างก็สามารถแก้ปัญหาได้ เหมือนที่ไทยเราเคยเจอ

ประเทศเราแทบจะรบกันตายความจริงหากผู้นำต่างๆ  มาคุยกันให้ลงตัว ทุกอย่างมันก็จบ ขนาดปัญหาอย่างสงครามเย็นยังสามารถแก้ไขได้แล้วปัญหาจิ๊บจ้อยอย่างความแตกแยกในไทย ทำไมเราจะแก้ไขกันไม่ได้ล่ะ

Reference : netflix.com


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube