Cryptocurrency กับทางเลือกสุดท้ายของวิกฤติการเงินที่ล่มสลายของอัฟกานิสถาน

การเข้ายึดครองประเทศของกลุ่มตอลิบาน ทำให้ระบบการเงินธนาคารของอัฟกานิสถานกำลังล่มสลาย และผู้คนกว่า 39 ล้านคนทั่วประเทศกำลังขาดแคลนเงินในการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน

ผู้บัญชาการของกลุ่มตอลิบานสั่งให้ธนาคารของประเทศปิดทำการเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งแม้จะเป็นมาตรการชั่วคราว แต่ก็ถูกมองว่า อาจจะทำลายระบบการธนาคารที่มีความเปราะบางของประเทศได้เลย

หลังการถูกยึดครอง เงินช่วยเหลือต่าง ๆ ก็ถูกระงับ IMF ปฏิเสธที่จะปล่อยเงินจำนวนมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เดิมถูกกำหนดไว้สำหรับช่วยเหลือประเทศอัฟกานิสถาน

ซึ่งแน่นอนว่า กลุ่มเงินช่วยเหลือต่าง ๆ จากต่างประเทศนั้น ต้องการรอดูท่าทีของกลุ่มตอลิบาน ว่าจะจัดตั้งรัฐบาลในรูปแบบไหนขึ้นมา เพราะการอัดเงินไปตอนนี้มันเป็นความเสี่ยงต่อการสูญเปล่า

และยังรวมถึงบริษัทเอกชนส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Western Union และ MoneyGram ได้หยุดทำธุรกิจในอัฟกานิสถาน และจำกัดการชำระเงินในต่างประเทศ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นแหล่งเงินสนับสนุนหลักสำหรับชาวอัฟกานิสถานจำนวนมาก

ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงความสำคัญของการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจที่่ด้อยพัฒนา เช่น อัฟกานิสถานแล้วนั้น ต้องบอกว่า มันเป็นผลกระทบที่สำคัญมาก ๆ ต่อผู้บริโภคและธุรกิจขนาดเล็กหลายล้านรายในประเทศ

ระบบธนาคารของอัฟกานิสถานอยู่ในภาวะล่มสลาย

ก่อนหน้านี้ อัฟกานิสถานได้พึ่งพาความช่วยเหลือจากต่างประเทศมานานหลายปี เพื่อความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจ

มีรายงานจากเว็บไซต์ India TV ที่รายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า “ธนาคารในอัฟกานิสถาน ไม่มีเงินสดอยู่ในตู้ ATM และธนาคารก็ไม่ได้เปิดดำเนินการ รวมถึงสำนักงานของ Western Union ก็ปิดทำการ”

หรือแม้กระทั่งมีรายงานว่า Ajmal Ahmady รักษาการผู้ว่าการธนาคารกลางของอัฟกานิสถาน ได้เผ่นหนีออกจากประเทศไปแล้ว

Ajmal Ahmady รักษาการผู้ว่าการธนาคารกลางของอัฟกานิสถาน ได้เผ่นหนีออกจากประเทศ (CR:wikipedia)
Ajmal Ahmady รักษาการผู้ว่าการธนาคารกลางของอัฟกานิสถาน ได้เผ่นหนีออกจากประเทศ (CR:wikipedia)

นั่นทำให้ระบบธนาคารของอัฟกานิสถานนั้นอยู่ในภาวะล่มสลาย และผู้คนทั่วประเทศกำลังขาดแคลนเงิน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นผลมาจากความพยายามของประชาคมระหว่างประเทศ ในการแบนกลุ่มตอลิบาน แต่มันทำให้ผู้คนชาวอัฟกันจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงบริการที่สำคัญได้

การช่วยเหลือด้วย Cryptocurrency เป็นทางออกที่เป็นไปได้

ในขณะที่บริษัทต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง Airbnb, Walmart , Verizon และอื่น ๆ กำลังเสนอความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยชาวอัฟกันหลายหมื่นคน สถานการณ์ทางการเงินในประเทศก็ยังไม่มีวี่แววที่จะได้รับการแก้ไขในเร็ว ๆ นี้

การแบนด้านการเงินกับกลุ่มตอลิบาน ประชาคมระหว่างประเทศทำเพื่อป้องกันไม่ให้เงินช่วยเหลือประเทศจำนวนมาก ถูกใช้เพื่อเป็นทุนในกิจกรรมการก่อการร้าย

นั่นทำให้มันเหลือทางเลือกไม่มากนักสำหรับชาวอัฟกันในการทำการค้า การโอนเงิน การชำระสินค้า และบริการที่สำคัญ

ก่อนหน้านี้ Asef Khademi ซึ่งได้เคยทำงานเพื่อปรับปรุงระบบการเงินของประเทศให้ทันสมัย

Khademi ใช้เวลาสามปีครึ่งที่ผ่านมาทำงานให้กับโครงการที่ได้รับทุนจากนานาชาติเพื่อนำสกุลเงินดิจิทัล และการธนาคารมาสู่ชีวิตของผู้คนในอัฟกานิสถาน

โดยระบบการชำระเงินของอัฟกานิสถานหรือ APS นั้น ได้ถูกสร้างขึ้น และได้รับเงินทุนจากธนาคารโลก และกลายเป็นส่วนหนึ่งของธนาคารกลางของอัฟกานิสถานเมื่อสองปีที่ผ่านมา

แต่การบุกเข้ายึดเมืองหลวงอย่างคาบูล ทำให้ Khademi กลายเป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องซ่อนตัวอยู่ในกรุงคาบูล และต้องการออกจากอัฟกานิสถานให้เร็วที่สุด เพราะเขาก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญของกลุ่มตอลิบานเช่นเดียวกัน

Asef Khademi ผู้วางโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินแบบดิจิทัล ก็ต้องหนีตายเช่นเดียวกัน (CR:Linkedin)
Asef Khademi ผู้วางโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินแบบดิจิทัล ก็ต้องหนีตายเช่นเดียวกัน (CR:Linkedin)

“เราหวังว่าความพยายามของเราจะได้ผล” Khademi กล่าวทั้งน้ำตา “ดูเหมือนว่าสิ่งที่ทำมาตลอดสามปีจะไร้ประโยชน์ ทุกสิ่งที่เราทำ ก่อนหน้านี้มันดูเหมือนความฝัน แต่ตอนนี้มันไม่มีทางเกิดขึ้นจริงได้อีกแล้ว”

Lennix Lai ผู้อำนวยการตลาดการเงินที่แลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล OKEx ได้กล่าวว่า “ชาวอัฟกัน ต้องการ Cryptocurrency เพื่อใช้ในการทำธุรกรรม ซึ่งทำให้เราเห็นทราฟฟิกที่เกี่ยวข้องกับ Crypto ในอัฟกานิสถาน ที่คนเริ่มมองหา Bitcoin หรือ Ethereum พุ่งสูงขึ้น”

Lai ได้กล่าวว่า Crypto นั้นได้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดมากกว่าที่เคย ซึ่งทาง Lai เองก็ได้รับคำขอร้องจากหน่วยงานบังคับใช้กฏหมายทั่วโลกตลอดเวลา รวมถึงในสหรัฐอเมริกาเองด้วย

เพราะ Crypto เองก็มีประวัติในเรื่องการถูกนำเงินไปใช้ในเรื่องผิดกฏหมาย ไมว่าจะเป็นยาเสพติด หรือ การฟอกเงินต่าง ๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และตอนนี้สกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้ กำลังถูกมองว่า จะมาใช้สำหรับการก่อการร้ายในอนาคตได้นั่นเองครับผม

References : https://www.technologyreview.com/2021/08/20/1032344/afghanistan-cash-crisis-digital-money/
https://twitter.com/aahmady/status/1427883009164955649?s=20
https://www.buzzfeednews.com/article/clarissajanlim/gofundme-fundraiser-afghanistan-queer-trans
https://www.pymnts.com/news/international/2021/afghanistan-crisis-military-monetary-banks-closed-atms-empty/

Turning Point: 9/11 and the War on Terror กับเรื่องราวจุดเริ่มต้นสู่จุดจบของสงครามที่ยาวนานที่สุดของประวัติศาสตร์อเมริกา

เรียกได้ว่าเป็นสารคดีกึ่งซีรีส์ ที่ปล่อยออกมาได้ถูกเวลาเลยทีเดียวสำหรับ Turning Point:9/11 and the War on Terror ของ Netflix ที่ข่าวล่าสุดประะธานาธิบดี โจ ไบเด้น เพิ่งสั่งถอนกำลังจากอัฟกานิสถานทั้งหมด

สำหรับใครสนใจเรื่องประวัติศาสตร์สงครามนั้น ไม่ควรพลาดสารคดีชุดนี้เป็นอย่างยิ่ง

โดยสารคดีเริ่มต้นด้วยเหตุการณ์ 9/11 ซึ่งจะพาเราย้อนเวลากลับไปสู่อดีตสมัยโซเวียตบุกอัฟกานิสถาน จนกระทั่งถึงสงครามอ่าว

จุดเริ่มต้นที่ตีแผ่ ความล้มเหลว ความขัดแย้งไม่ประสานงานที่เกิดขึ้นระหว่าง FBI และ CIA ที่ควรจะป้องกันเหตุการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นได้ด้วยซ้ำ หากมีการประสานงานกันมากกว่านี้

มันทำให้เราเห็นภาพชัดเจนว่ากลุ่มกบฏและองค์กรก่อการร้ายประเภทนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และทำไมพวกเขาถึงเกิดขึ้นได้ แล้วทำไมพวกเขาถึงได้เกลียดชังชาวอเมริกันยิ่งนัก

สงครามที่ลามปามไปถึงอิรัก ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับการโจมตี 9/11 เลยด้วยซ้ำ การอ้างว่าอิรักมีอาวุธร้ายแรง ซึ่งสุดท้ายมันก็เฉลยแล้วว่า เป็นเรื่องปั้นแต่งขึ้นมาทั้งสิ้น

การวางยุทธศาสตร์ที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงของอเมริกา ผ่านประธานาธิบดีไล่มาตั้งแต่ บุช โอบามา จนมาถึงการถอนกำลังของ โจ ไบเด้น

ซึ่งแม้กระทั่งประธานาธิบดีคนดังอย่าง บารัค โอบามา ก็ล้มเหลวสิ้นเชิงกับสิ่งที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน เมื่อต้องมาเจอกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และความเป็นใหญ่ของหน่วยสืบราชการลับ และหน่วยความมั่นคงของอเมริกา ที่เริ่มสะสมอำนาจไว้ตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช

กลายเป็นว่านโยบายของบารัค โอบามา ที่เน้นการโจมตี ด้วยโดรน ได้กลายเป็นต้นเหตุสำคัญของความคับแค้นใจของชาวอัฟกัน ที่ต้องสูญเสียญาติพี่น้องไปจำนวนมหาศาล เนื่องจาก โดรน เป็นอาวุธที่ทำลายล้างที่ร้ายแรง และส่งผลกระทบต่อผู้บริสุทธิ์เป็นจำนวนมาก

แล้วผลที่ตามมาซึ่งร้ายแรงกว่าเมื่อก่อน ซีรีส์ชุดนี้ค่อย ๆ คลายความล้มเหลวของหน่วยสืบราชการลับ การอนุญาตให้ใช้กำลังอย่างไม่จำกัด และการทรมาน ออกมาทีละน้อย ๆ

การกระทำนอกกฏหมายที่เกิดขึ้นในคุกในกวนตานาโม ประเทศคิวบา หรือ CIA Black Site ที่มีอยู่ทั่วโลก แม้กระทั่งในประเทศไทยเองก็ตามที

หรือเรื่องราวการคอรัปชั่น ในอัฟกานิสถาน ที่ทำให้ประเทศ สุดท้ายแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะป้องกันตัวเองได้ เมื่อทหารอเมริกันถอยทัพออกไป แม้เครื่องไม้เครื่องมือจะพร้อม แต่การคอรัปชั่นที่กัดกินประเทศ ทำให้ไม่มีอะไรไปสู่กลุ่มกองโจรอย่างตอลิบานได้เลย

ต้องบอกว่าซีรีส์ชุดนี้ให้มุมมองที่หลากหลายจากผู้คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวทั้งหมด ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงไปจนถึงประชาชนคนปกติที่ชีวิตเปลี่ยนไปเพราะเหตุ 9/11 

มีการถ่ายทอดผสมผสานแนวคิดของข้อเท็จจริงทั้งหมดเข้ากับอารมณ์ด้วยการปรับบท ซึ่งให้ประสบการณ์การรับชมที่สนุกสนานอย่างมากสำหรับคนที่ชอบซีรีส์แนวนี้ ซึ่งผมชอบมาก

เรื่องราวหลายๆ อย่างที่หลายคนอาจจะไม่รู้ คนที่ยุติสงครามจริง ๆ เริ่มเจรจากับกลุ่มตอลิบานอย่างจริงจัง กับเกิดขึ้นในช่วงประธานาธิบดีอย่างโดนัล ทรัมป์

แต่สิ่งที่น่าสนใจ ที่สารคดีชุดนี้ไม่ได้กล่าวถึง ก็คือ เบื้องหลังตัวจริง บริษัทค้าอาวุธสงคราม ที่คอยผลักดันให้อเมริกันเกิดสงคราม เหมือนคนบ้าคลั่ง หลังเหตุการณ์ 9/11

มันคือการสร้างสงครามแห่งความกลัวให้กับชาวอเมริกันเอง ที่สุดท้ายแล้ว เรื่องราว 20 ปีที่เกิดขึ้น ก็กลับไปที่จุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้งเมื่อ ตอลิบาน กลับมายึดครองอัฟกานิสถานได้เหมือนเดิม และคนที่ได้รับประโยชน์จริง ๆ จากสงครามทั้งหมด ไม่ใช่ชาวอเมริกัน แต่กลายเป็นบริษัทค้าอาวุธ ที่นั่งอยู่ในมุมมืดคอยชักใยให้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นนั่นเองครับผม