Geek Monday EP24 : Heineken กับการใช้ IoT Big Data และ AI ปรับปรุงธุรกิจ

ต้องบอกว่า ทุกอุตสาหกรรมสามารถได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง Big Data, IoT และ AI และนั่นรวมถึงผู้ผลิตเบียร์ชาวดัตช์อย่าง Heineken ที่เป็นผู้นำการผลิตเบียร์ทั่วโลกในช่วง 150 ปีที่ผ่านมา

แต่วันนี้ในฐานะผู้ผลิตเบียร์อันดับหนึ่งในยุโรปและอันดับ 2 ของโลกพวกเขาเพิ่มผลประกอบการด้วยการใช้เทคโนโลยีอย่าง Big Data และ AI 

และเมื่อบริษัทเริ่มการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดเบียร์สหรัฐที่น่าเกรงขาม พวกเขาวางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลจำนวนมหาศาลที่พวกเขารวบรวม ซึ่งในขณะนี้พวกเขาขายเบียร์ไปได้มากกว่า 8.5 ล้านบาร์เรล ในสหรัฐอเมริกา

แต่พวกเขาหวังว่าจะเพิ่มจำนวนเหล่านั้นด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและการเพิ่ม AI เพื่อปรับปรุง การดำเนินงานการตลาด การโฆษณา และประสบการณ์ของลูกค้าที่ดีขึ้นนั่นเอง

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน Podbean : http://bit.ly/2nXZpF0

ฟังผ่าน Apple Podcast :  https://apple.co/2lEqPPg

ฟังผ่าน Google Podcast :  http://bit.ly/2BsGvcD

ฟังผ่าน Spotify : https://spoti.fi/32wz3sF

ฟังผ่าน Youtube :    https://youtu.be/pvBK9wovpYQ

BCI กับการแปลงความคิดคนเป็นอัมพาตเป็นคำพูด

การปลูกฝังสมองใหม่จากสถาบันวิจัยการแพทย์ฟินสไตน์ในนิวยอร์กอาจจะสามารถอ่านความคิดของผู้คนและสำหรับผู้ที่ไม่สามารถพูดด้วยตนเองได้ เช่นผู้ที่เป็นอัมพาต ให้สามารถพูดออกมาดัง ๆ ผ่านความคิดของพวกเขา

ระบบคอมพิวเตอร์สมอง Brain-Computer Interface (BCI) จะเป็นระบบที่ตั้งอยู่บนพื้นผิวของสมอง โดยขั้วไฟฟ้าจะทำการตรวจจับสัญญาณประสาทที่ส่งออกจากบริเวณสมองที่รับผิดชอบในการรับรู้และสร้างคำพูดซึ่งจะถูกถอดรหัสโดยคอมพิวเตอร์ในห้องปฏิบัติการรายงานจาก statnews.com

เทคโนโลยี BCI ยุคปัจจุบันไม่สามารถสร้างเส้นทางการส่งสัญญาณเสียงพูดที่สมบูรณ์แบบได้ คนที่ใช้ระบบใหม่นี้จะไม่สามารถสร้างคำพูดที่ไพเราะ แต่จากข้อมูลใหม่ของ  statnews.com  แพทย์เชื่อว่าพวกเขาอาจปล่อยให้คนที่เป็นอัมพาต สามารถบอกผู้ดูแลได้ว่าพวกเขาหิวกระหาย เกิดความเจ็บปวด หรือสิ่งอื่น ๆ ที่ค่อนข้างเรียบง่าย สำหรับพวกเขา แต่เป็นสิ่งสำคัญที่พวกเขาต้องการแสดงออกมาผ่านคำพูด

นอกจากนี้ยังอาจช่วยให้แพทย์ทราบว่าคนที่ไม่รู้สึกตัว จะสามารถรู้สึกตื่นตัวและตอบสนองหรือหลับไปตามเวลาที่กำหนดได้นั่นเอง

แต่ทาง statnews.com นั้นชี้ให้เห็นอย่างว่าอินเทอร์เฟซคอมพิวเตอร์กับสมองทางการแพทย์ เช่นนี้กำลังถูกทดสอบกับอาสาสมัครที่ได้รับการผ่าตัดสมองสำหรับโรคลมชักอย่างรุนแรงเป็นที่เรียบร้อยแล้วแล้ว

การปลูกถ่ายสมองอาจจะมีผลกระทบต่อการทำลายสมองหรือถูกปฏิเสธโดยระบบประสาทและเนื่องจากอุปกรณ์ไม่ได้อยู่ตลอดไป การผ่าตัดสมองหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจึงมีความจำเป็น แต่สักวันหนึ่งหากคำถามเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของสมองได้รับการแก้ไขดูเหมือนว่าพลังการช่วยเหลือของการปลูกถ่าย BCI ก็พร้อมที่จะใช้มันเป็นเรื่องปรกติเหมือนกับการผ่าตัดรูปแบบอื่น ๆ นั่นเอง

References : https://www.statnews.com http://www.medgadget.com/img/kjfdjye.jpg

Flying Jet Suit กับอนาคตชุด Iron Man บนโลกแห่งความจริง

ชุดเจ็ทโบอิ้งเลียนแบบไอรอนแมนเพิ่งได้รับการอัพเกรดคุณสมบัติใหม่ : การเสริมปืนกลที่ติดตั้งบนไหล่ซึ่งยิงได้เหมือนอาวุธโจมตีในหนัง ไอรอนแมนจริง ๆ

James Bruton วิศวกรโครงการดังกล่าว ได้อัปโหลดวิดีโอ แสดงรายละเอียดการสร้างป้อมปืนสำหรับชุดเจ็ท ซึ่งได้มีการแสดงโดยผู้ก่อตั้ง บริษัท ริชาร์ด บราวนิ่ง ที่ทำการสวมชุดสูทเพื่อโฉบเหนือลานจอดรถในขณะที่ยิงปืนไรเฟิลอัดลมแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ

และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้ผลิตอุปกรณ์การบินส่วนบุคคลได้บอกใบ้อย่างละเอียด ที่พวกเขาสนใจในการทำสงครามจริง ๆ  ในเดือนกรกฎาคมนักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศสชื่อ Franky Zapata ได้ใช้ Hoverboard บินได้ของเขาในชื่อว่า Flyboard Air เพื่อทะยานขึ้นเหนือขบวนพาเหรด Bastille Day ของปารีสด้วยปืนของเล่นในมือ

อย่างไรก็ตามการออกแบบของ Bruton ได้พัฒนาแนวคิดนี้ไปอีกขั้นหนึ่ง ด้วยการติดตั้งปืนยาวบนป้อมปืนที่ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของหมวกนิรภัยของนักบิน เหมือนกับชุด Iron Man ของโทนี่ สตาร์ค ในหนังจริง ๆ

ไม่ว่าเทคโนโลยีดังกล่าว จะเกี่ยวข้องกับทหารจริง ๆ หรือไม่ หรือเป็นการจ้าง โดยบริษัท ใด บริษัทหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาต้องใช้เงินทุนที่ค่อนข้างสูงเพื่อช่วยพวกเขาในการสร้างชุดทหารที่ใช้เทคโนโลยีที่สุดล้ำดังกล่าวได้

แต่ นาย กาวิน วิลเลียมสัน ปลัดกระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร ดูเหมือนจะติดใจเรื่องการใช้ชุดเจ็ท ทางการทหารเหล่านี้ เพื่อมาใช้ในสงครามจริง ๆ โดยบริษัทได้ทำการเพิ่มปืนไรเฟิลเข้าไปหลังจากการสาธิตให้ทางกาวินดูเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยจินตนาการถึงถึงรูปแบบการจู่โจมเรือรบในอนาคตนั่นเอง

References : https://gizmodo.com

Movie Review : Eli (อีไล จิตต้องขัง)

ถือเป็นสัปดาห์ที่หนัง netflix เข้าใหม่น่าสนใจหลายเรื่องทีเดียวเลยนะครับ สำหรับในอาทิตย์ นี้ และ Eli (อีไล จิตต้องขัง) ก็เป็นอีกหนึ่งหนังฟอร์มใหญ่ของ Netflix ที่เข้าฉายให้ได้รับชมกันเช่นกันในอาทิตย์นี้ และด้วยหนังสไตล์นี้ที่ผมชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยไม่พลาดชมตั้งแต่วันแรก ๆ ที่เข้า netflix

สำหรับเรื่องย่อ นั้น ELi อีไล จิตต้องขัง ครอบครัวมิลเลอร์ได้พาลูกชายที่ป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง ย้ายเข้ารับการรักษาในบ้านปลอดเชื้อแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ห่างไกล เพราะคิดว่านี่คือหนทางสุดท้ายในการรักษาโรคนี้ เพราะพวกเขาได้พยายามมาหลาย ๆ วิธีแล้ว แต่ เมื่อถึงบ้านหลังดังกล่าว อีไลต้องทรมานจากจิตหลอนอันน่าสะพรึงกลัว ที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต

ต้องบอกว่า ELi (อีไล จิตต้องขับ) นั้นถือเป็นอีกหนึ่งหนังสยองขวัญจาก Netflix โดยเป็นหนังที่ทำโดยค่าย Paramount พร้อมได้ ลีลี่ ไทเลอร์ จาก The Nun มาเล่นตัวเอก (รับบท เป็น Dr. Isabella Horn หมอผูัที่จะมารักษาอีไล) และแน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นหนัง Original Netflix ที่ฉายใน Netflix เพียงที่เดียวเท่านั้น

เอาจริง ๆ ตอนแรกผมก็ไม่ได้ตั้งความหวังไว้สูงมากนัก กับหนังเรื่องนี้ และยังไม่ได้มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวหนังมากนัก เข้าไปดูเพราะเป็นหนัง Suggest จาก netflix พอดี และเป็นหนังสไตล์ที่ผมชอบอยู่แล้วเช่นกัน

แต่พอได้ดูจริง ๆ กลับพบว่า มันสนุกแบบเหลือเชื่อมาก ๆ เรื่องนี้ หนังเรื่องนี้ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ของหนังสยองขวัญ สั่นประสาท ที่เดาเนื้อเรื่องได้ยากมาก ๆ แม้คุณจะพยายามเดาว่าจุดจบมันเป็นอย่างไร แต่รับรองว่าคุณจะเดามันไม่ถูกอย่างแน่นอน

การแสดงของ หนูน้อย ชาร์ลี ชอตเวลล์ ที่รับบท Eli นั้นเรียกได้ว่า ทำผลงานการแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม มันเป็นหนังที่มีส่วนผสมหลาย ๆ อย่างรวมกัน ทั้งความเป็นดรามา ของเรื่องภายในครอบครัว เรื่องของความสยองขวัญสั่นประสาทจากผี รวมถึงความเป็น Sci-Fi ที่หนังเรื่องนี้ต้องบอกว่า ผสมผสานเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างกลมกล่มและลงตัวเป็นอย่างมาก

คือ ถ้าหนังเรื่องนี้ฉายในโรงภาพยนต์ ก็น่าจะสร้างรายได้แบบถล่มทลายได้ไม่ยาก เพราะเป็นหนังคุณภาพจริง ๆ ที่เหลือเชื่อว่า netflix สามารถเจรจาซื้อลิขสิทธิ์มาลงเฉพาะของพวกเขาได้ เป็นหนังฟอร์มยักษ์ของ netflix ที่ทุกคนไม่ควรพลาดจริง ๆ ครับ สำหรับหนังเรื่องนี้

และอยากบอกว่า จุดพีคที่สุด ก็คือตอนท้ายของเรื่องราว ที่จะมาเฉลยปมทุกอย่าง ที่ต้องบอกว่า เป็นบทบสรุปที่จะทำให้คุณอึ้งไปตาม ๆ กัน และคุณไม่มีทางเดาเนื้อเรื่องตอนจบได้อย่างแน่นอน ซึ่งผมว่าเป็นหนังที่ไม่ควรพลาดที่สุดสำหรับแฟน ๆ netflix ในปีนี้ครับผม

Series Review : Marianne (มารียาน)

เรียกได้ว่าเป็น Series สุดหลอดแห่งปีเลยก็ว่าได้สำหรับ ผลงานในเรื่อง Marianne (มารียาน) จากประเทศฝรั่งเศษ ที่ได้มาลงใน Netflix ในช่วงกลางเดือน กันยายน ที่ผ่านมา และแน่นอน ผมเป็นแฟนพันธุ์แท้หนังแนวนี้อยู่แล้ว ไม่พลาดชมอย่างแน่นอน

ต้องบอกว่า ได้ดู Series ชุดนี้มาซักพักหนึ่งแล้ว แบบรวดเดียวจบเลยทีเดียว เป็น Series ไม่กี่เรื่องที่ผมสามารถดูแบบรวดเดียวจบได้แบบนี้ กับความหลอนที่ต้องบอกว่า ประทับใจแฟนพันธุ์แท้หนังผี หนังสยองขวัญ อย่างตัวผมเองเลยทีเดียว

สำหรับเนื้อเรื่องย่อ กล่าวถึง เอ็มม่า ลาห์ซิมง นักเขียนนิยายชื่อดังฝันร้ายถึงมารียานทุกคืน
จนเธอเขียนหนังสือเกี่ยวกับมารียาน และสร้างลิซซี่ ลาล์ก (Lizzie Larck) มาเพื่อสู้กับมารียาน ในหนังสือของเธอ

แต่สิ่งที่เธอเขียนกลายเป็นจริงขึ้นมา เหมือนเธอต้องเจอกับมนต์คำสาป และทำให้คนรอบตัวของเธอเกิดเรื่องสยองขวัญไปหมด มารียานอยากให้นางเอกเขียนนิยายต่อ แม้นางเอกจะเขียนให้ลิซซี่ตายในเล่มที่แล้ว มารียานก็ต้องการภาคต่อ จึงเป็นที่มาของการดำเนินเรื่องใน Series ชุดนี้นั่นเอง

คุณป้าสุดหลอน กับการแสดง ที่น่ากลัวสุด ๆ
คุณป้าสุดหลอน กับการแสดง ที่น่ากลัวสุด ๆ

และเรื่องมันไม่ได้จบเพียงเท่านั้นอีกต่อไป เมื่อเธอพบว่า เริ่มมีสิ่งแปลกๆ ในระหว่างที่กำลังโปรโมทหนังสือที่เธอคิดว่าเธอนั้นได้เขียนบทสรุปถึงจุดจบของ มารียานไปเป้นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่ด้วยการเริ่มเรื่องมาเมื่อ ‘แคโรไลน์’ เพื่อนเธอในสมัยเรียนมาที่งานเปิดตัวหนังสือดังกล่าวด้วย และ ได้มอบสิ่งของบางอย่างที่เธอนั้นคุ้นเคยดีเพราะเธอมันเป็นหนึ่งในส่วนประกอบของหนังสือที่เธอแต่งขึ้นมานั่นก็คือ ‘เครื่องรางปิศาจ’ ซึ่งมีลักษณะเป็นถุงหนังมัดเชือก และมีฟันเน่าๆ อยู่ในถุง!

และ สุดท้าย เธอต้องไปตามล่าหาความจริงที่เกิดขึ้น ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ กับ หมู่บ้านที่เธอเคยอาศัยอยู่ เกิดอะไรขึ้นกับพ่อแม่ของเธอ รวมถึงแก๊งเพื่อน ๆ ของเธอในวัยเยาว์ หนังสือที่เธอแต่งนั้น มันกลายมาเป็นเรื่องจริง หรือ ทุกคนต่างหลอนไปเอง

ถ้าถามว่ามันพีคตอนไหน ก็ต้องบอกว่า ช่วง ep1-4 นี่แหละ ที่เป็นเรื่องราวที่ดำเนินเข้มข้นเป็นอย่างมาก ทำให้เราได้สยองไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และ คอยเดาว่า มันคือ เรื่องจริง หรือ ทุกอย่างมันคือเรื่องหลอน กับกลุ่มคนพวกนี้ที่พวกเขาได้พบเจอสิ่งประหลาดที่เหมือนออกมาจากหนังสือเธอเป๊ะ ๆ

ซึ่ง Series ชุดนี้ ก็ได้ถ่ายทอดเรื่องราว ลำดับ ตามหนังสือ ที่เธอได้แต่งขึ้นมานั่นเอง ทุกตัวละครที่มาเกี่ยวข้องในเรื่อง มันมีความสัมพันธ์กันหมด เป็น series ที่คาดเดาอะไรไม่ถูกเลย บรรยากาศของเมืองชายฝั่งของฝรั่งเศษที่ดำเนินเรื่องมันก็หลอนมาก จริง ๆ

แถมเรื่องราวก็เล่าเรื่องได้น่าติดตามอีกด้วย เป็นการดูรวดเดียวจนจบเลย ต้องบอกว่าเป็น Series ชุดที่สนุกมากที่สุดเรื่องนึง ที่ได้ดูมาใน Netflix เลยก็ว่าได้ แม้ตอนท้าย ๆ จะดูเอื่อย ๆ ไปหน่อยก็ตามที แต่มันเป็นบทสรุปที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ที่แฟน ๆ หนังสยองขวัญ เขย่าประสาท ไม่ควรพลาดเป็อย่างยิ่งครับผม

ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
Fanpage :facebook.com/tharadhol.blog
Blockdit :blockdit.com/tharadhol.blog
Twitter :twitter.com/tharadhol
Instragram :instragram.com/tharadhol