เมื่อการ Like มีโอกาสที่จะทำผิดกฏหมาย

นั่งดูข่าวในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามีการเถียงกันในประเด็นเรื่องการ like post ต่าง  ๆ ใน facebook ว่าผิดกฏหมายหรือไม่ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าถกเถียงกันพอสมควรในเรื่องนี้เนื่องจากค่อนข้างเป็นประเด็นใหญ่ มีผลกระทบต่อประชาชันทั่วไปแทบจะทุกคนที่เล่น facebook เลยก็ว่าได้

สำหรับการ like ใน facebook ก่อนหน้าหน้าไม่น่าจะมีการนำมาเป็นประเด็นเหมือนการ share เนื่องจากการ share นั้นเป็นส่งที่ค่อนข้างชัดเจนว่าผู้ share นั้นตั้งใจ share ข้อมูลดังกล่าว ซึ่งตามกฏหมายก็ถือว่าเข้าข่ายการกระทำโดยเจตนาเผยแพร่ข้อมูล ซึ่งหากข้อมูลนั้นเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์นั้น ก็สามารถถือว่าได้เป็นการเจตนาทำผิดอย่างชัดเจน

แต่ในส่วนของการ like นั้นต่างออกไป เนื่องจากการ like ไม่ได้หมายความถึงการเห็นด้วยกับ post นั้น ๆ เพียงอย่างเดียว และเนื่องจาก facebook นั้นมีปุ่มให้แสดงอารณ์ต่อ post เพียงแค่ปุ่ม like นั้นทำให้คนทั่วไป ใช้ปุ่ม like ในอารมณ์ที่ต่างกันเช่น เห็นด้วยกับ post หรือ เห็นด้วยกับคนที่ share post ซึ่งมีความหมายที่ต่างกันมาก ๆ แต่เนื่องจาก algorithm ของ facebook ในการแสดงผล feed นั้นก็จะมีการแสดงการ like ของเพื่อนในบาง post ซึ่งทำให้มีการถกเถียงในประเด็นในเรื่องการเจตนาเผยแพร่ข้อมูลเหมือนกันเนื่องจาก ไปแสดงการ like post ใน feed ของเพื่อนซึ่งเมื่อตีความแล้วก็สามารถมองได้ว่าเป็นการเผยแพร่ข้อมูลเหมือนกันแต่จะเจตนาหรือไม่นั้น ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า การ like นั้นบอกได้หลายอารมณ์ ไม่สามารถตีความว่าเห็นด้วยกับ post นั้น ๆ ได้อย่างเดียวซึ่งต้องเป็นที่ถกเถียงในเรื่องกฏหมายกันต่อไปว่า จะตีความกันอย่างไร

แต่ก็ถือเป็นสิ่งที่มีผลกระทบต่อคนทั่วไปเป็นอย่างมากหลังจากได้ยินข่าวนี้ ซึ่งถือว่าการ like เป็นเรื่องปรกติของคนทั่วไปที่ใช้ facebook อยู่แล้ว และหากมีการตัดสินคดีที่เกี่ยวข้องกับการ like แล้วผิดขึ้นมาในอนาคตก็คงต้องมีการระมัดระวังในเรื่องการ like ผ่าน post ใน facebook ให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น

Img Ref : contentfac.com

 

เมื่อ Facebook กำลังจะมี Dislike Button

เป็นข่าวครึกโครมเลยทีเดียวกับการออกมาเปิดเผยของ mark zuckerberg  ที่มีแนวโน้มที่จะพิจารณาเพิ่มปุ่ม dislike เข้ามาในระบบ facebook ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนั้น facebook มีแต่ปุ่ม like ที่มีมานานแทบจะตั้งแต่เริ่มต้นระบบเลยก็ว่าได้ ซึ่งการแสดงออกของมนุษย์กับปุ่ม like นั้นแต่ละคนก็จะมีอารมณ์ในการกดปุ่มที่แตกต่างกัน แต่เนื่องจากมีเพียงปุ่มเดียวให้กด ก็เลยไม่สามารถเข้าใจถึงพฤติกรรมที่แท้จริงของ user ที่ได้ทำการกด like ในแต่ละครั้ง

ซึ่งส่วนนี้ facebook คงคิดมาอย่างดีแล้วว่าการที่จะเพิ่มปุ่มอื่น ๆ เช่น dislike button นั้นก็คงเป็นการพัฒนาเพื่อเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าในส่วน post หรือ page ต่าง ๆที่มีอยู่ในระบบซึ่งหากมีปุ่ม dislike ขึ้นจริง ก็คงจะต้องมีการปรับกระบวนการคิดในด้านการวางแผนการตลาดกันพอสมควร  campaign แย่ๆ  บางตัวผมคิดว่าก่อนหน้านี้ อย่างมากเราก็แค่ share ต่อ ๆ กันไป แต่เมื่อมีปุ่ม dislike เพิ่มเข้ามา ก็จะกระทบต่อแบรนด์ต่าง ๆ ในแง่ลบโดยตรง เนื่องจากพฤติกรรมที่มีการกด dislike นั้นเป็นผลด้านลบต่อ brand แน่ ๆ ไม่เหมือนปุ่ม like บางครั้งเราก็ไม่ได้ถูกใจ แต่เราแค่ เห็นด้วย , เห็นใจ หรือ เสียใจกับ post ต่าง ๆ  เราก็สามารถแสดงได้ทางการกด like หรือ comment เท่านั้น

ถ้ามองในด้าน technology นั้นดูเหมือนง่ายแค่เพิ่มปุ่ม dislike เพิ่มเข้าไปไม่น่ายากอะไร แต่กับระบบที่ใหญ่อย่าง facebook รวมถึงจำนวนผู้ใช้งานกว่าพันล้านบัญชีนั้น คิดว่าคงไม่เป็นเรื่องง่ายที่จะเพิ่มปุ่มใด ๆ เข้ามาซึ่งจะ effect กับหลาย ๆ อย่างในระบบ เช่นเดียวกับปุ่ม like  ซึ่งจะถูกนำไปคำนวนใน algorithm ที่จะใช้ในการแสดงผลใน feed ของแต่ละคน ซึ่งหากมีปุ่ม dislike เพิ่มขึ้นมาก็คงต้องปรับ algorithm ในส่วนนี้กันยกใหญ่เลยทีเดียว ซึ่งเราอาจจะเห็นข้อมูลผ่าน feed แตกต่างจากที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันเลยแทบจะว่าได้

Img Ref :  fossbytes