Chinapages กับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตของ Jack Ma

หลายคนน่าจะทราบกันดีว่าเดิมทีนั้น Jack Ma เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ที่เมืองหังโจว ของประเทศจีน แต่ ครูสอนภาษาอย่างเขา เจอจุดเปลี่ยนอะไรที่ทำให้ กลายมาเป็นเจ้าพ่อบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Alibaba ที่เราได้เห็นกันในวันนี้

เรื่องมันเริ่มต้นจากในต้นปี 1995 นั้น เมืองหังโจวเกิดดีความสัญญากับต่างประเทศขึ้นมาคดีหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องการลงทุนสร้างทางด่วนกับบริษัทในอเมริกา ซึ่งมีข้อพิพาทกัน ทำให้เทศบาลเมืองหังโจวต้องตัดสินใจส่งตัวแทนไปติดต่อกับฝ่ายอเมริกัน เพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาท

ซึ่งมันกลายเป็นภารกิจของแจ๊ค ที่ขณะนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องภาษาอังกฤษที่สุดแห่งสำนักแปลไห่โป่ ที่ต้องไปช่วยเหลือเทศบาล โดยเขาต้องเดินทางไปยังอเมริกาที่เมือง ลอสแองเจลลิส

ตอนอยู่ประเทศจีนมีครูต่างชาติคนหนึ่งที่ชื่อฟิล ซึ่งเคยเล่าเรื่องลูกเขยของเขาให้ฟัง ว่ากำลังทำอะไรบางอย่างกับ “internet” อยู่ที่เมือง ซีแอตเทิล

นั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นที่แจ๊ค ได้ถือโอกาส ไปทำความรู้จักกับ internet โดยหลังจากภารกิจเสร็จ แจ๊คไปตามที่อยู่ที่ฟิลได้ให้ไว้ และไปพบกับลูกเขยของเพื่อนอย่างรวดเร็ว เขาคือแซม ที่ขณะนั้น กำลังก่อตั้งบริษัท VBN บริษัทขนาดเล็ก ซึ่งตอนนั้นกำลังให้บริการ ISP เจ้าแรกแห่ง Silicon Valley แถมยังเป็นบริษัทแรกที่ทำธุรกิจนี้ในอเมริกาอีกด้วย

และนี่เป็นครั้งแรกที่แจ๊ค ได้เห็นเจ้า internet กับตาตัวเอง ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่แจ๊คเห็นตอนนั้นคือเครื่อง PC386 ที่ทันสมัยที่สุดในโลกของยุคนั้น ซึ่งมีราคาอยู่ที่ประมาณ 600-700 เหรียญ

PC 386 เครื่องคอมพิวเตอร์สุดแรงในยุคนั้น
PC 386 เครื่องคอมพิวเตอร์สุดแรงในยุคนั้น

แจ๊คซึ่งตอนนั้นแทบจะไม่เคยเห็นเจ้าคอมพิวเตอร์มาก่อนเลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึง internet ซึ่งเป็นสิ่งที่ใหม่มากในยุคนั้น และเริ่มทดลองใช้มัน โดยลองพิมพ์คำว่า “Beer” ลงใน Search Engine ของ Yahoo ซึ่งต้องบอกว่าตอนนั้น Yahoo ในยุคก่อนการเกิดของ Google นั้นถือเป็น Search Engine ที่ทันสมัยที่สุดในโลก internet เลยก็ว่าได้

แต่สิ่งที่ทำให้แจ๊คสงสัยมากที่สุด คงจะเป็น ทำไมถึงไม่มีเบียร์จีนโผล่ขึ้นมาเลย แจ๊คนึกในใจว่า หรือเบียร์ฝรั่ง จะมีชื่อเสียงมากกว่าเบียร์จีน พวกฝรั่งคงรู้จักแต่เหมาไถของกุ้ยโจว แต่ไม่รู้จักเบียร์จีนกันอย่างแน่แท้

แต่เขาก็คิดอีกว่า ต่อให้ไม่พบเบียร์จีนใน internet แต่ถ้าจะหา ประเทศจีน ที่มีประชากรถึง 1 ใน 5 ของโลกและมีเนื้อที่ใหญ่โตมหาศาล คงจะหาเจอละมั๊ง

และแล้ว เขาจึงบรรจง คีย์คำว่า “China” ลงในช่อง search engine ของ yahoo อีกครั้ง ผลปรากฏว่าบนจอขึ้นคำที่เหลือมากคือ “no data” หรือไม่มีข้อมูล

และจุดนี้นี่เองที่ทำให้เขาได้ปิ๊งไอเดียที่จะทำการขยายธุรกิจของสำนักแปลไห่โป๋ได้แล้ว โดยจะให้ทีมงานของแซม ช่วยสร้างเว๊บเพจสำนักแปลไห่โป๋เสร็จ และอัพโหลดขึ้น internet ทันที

มันเป็นหน้าเว๊บที่เรียบง่าย จนเข้าขั้นน่าเกลียดเลยด้วยซ้ำ ไม่มีภาพ ไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่มีโฆษณา Flash มีแต่คำอธิบายเป็นตัวอักษรไม่กี่ตัวอักษร คือ เป็นการแนะนำสำนักแปลไห่โป๋ บวกกับรายการค่าจ้างแปล เช่น 1,000 ตัวอักษร คิด xx หยวน เป็นต้น พร้อมกับ email ในการติดต่อ

เมื่อแจ๊คเดินทางกลับจากซีแอตเทิลถึงหังโจว ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ของแจ๊คนั้นได้นำเอาของวิเศษหนึ่งอย่างมาจากอเมริกาด้วย มันคือ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คอินเทล 386 ซึ่งเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในขณะนั้นเลยก็ว่าได้

เพียงแค่คืนแรกที่กลับถึงหังโจว แจ๊ค เขาก็เริ่มเดินหน้าธุรกิจที่เขาได้คิดไว้อย่างทันที เขาเชิญเพื่อนสนิทที่สุด 24 คนมากินข้าวที่บ้าน และเริ่มบรรเลงโชว์ ของวิเศษ (คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คอินเทล 386) ทุกคนที่ถูกเชิญมาต่างอ้าปากค้าง และรู้สึกทึ่งกับเจ้าสิ่งนี้ ซึ่งไม่ต่างจากตอนที่แจ๊ค นั้นเห็นคอมพิวเตอร์สุดแรงนี้ ครั้งแรกที่อเมริกา

Jack Ma กับเพื่อนสนิท 24 คนของเขา
Jack Ma กับเพื่อนสนิท 24 คนของเขา

เขากล่าวกับเพื่อนว่า ๆ จะลาออกจากงานมาเริ่มธุรกิจ internet แต่มันกลับกลายเป็นว่าเพื่อน ๆ ของเขาทั้งหมดแทบจะคัดค้านกับแนวคิดของ แจ๊ค หลาย ๆ คนก็พยายามถามรายละเอียดของ internet จากแจ๊ค 

แต่ก็อย่างที่ทราบ แจ๊ค นั้นก็มีความรู้ทางด้าน internet แบบผิวเผินเท่านั้น ไม่สามารถตอบคำถามใด ๆ จากเพื่อน  ๆ เขาได้เลย ซึ่งหลังจากให้ทำการโหวตปรากฏว่า 23 คันค้าน และมีคนเห็นด้วยกับแจ๊ค เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

และแม้จะแทบไม่มีเสียงสนับสนุน แต่ สัญชาติญาณของแจ๊ค นั้นก็สั่งให้เขาเริ่มธุรกิจนี้แบบทันที ก้าวแรกของการสร้างธุรกิจคือหาเงินทุน ซึ่งแจ๊คและภรรยานั้นได้ทุ่มเงินหมดตัว 6,000 หยวน และทำการรวบรวมจากญาติพี่น้องได้อีกราว  ๆ 40,000 หยวน และ อีกส่วนคือการนำเอาสินทรัพย์ของสำนักแปลภาษาไห่โป๋ธุรกิจแรกของเขาออกเทขายทั้งหมด ซึ่งได้มาอีก 30,000 หยวน รวมเป็นส่วนของตัวเขาและภรรยาทั้งสิ้น 80,000 หยวน

และเพื่อนที่สนับสนุนแนวคิดนี้ของแจ๊คอย่าง เหออิปิง นั้น ก็ได้ร่วมลงทุน 10,000 หยวน ส่วนอีก 10,000 หยวนสุดท้ายได้มาจากเพื่อนอีกคนที่ชื่อ ซ่งเว่ยชิง  ซึ่งทำให้มีเงินลงทุนตั้งต้นของธุรกิจใหม่ของแจ๊คนั้น มีรวมแล้วประมาณ 100,000 หยวน

และในที่สุดบริษัทเทคนิคอินเตอร์เน็ตไห่โป๋ เจ้อเจียง ที่ดำเนินการกิจการไดเร็กทอรี่อุตสาหกรรมการค้าออนไลน์ และเป็นเว๊บไซต์ internet แห่งแรกของประเทศจีน – เยลโล่เพจเจส ประเทศจีน ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อเดือน เมษายน ปี 1995

และในวันที่ 9 พฤษภาคม 1995 ไชน่าเพจเจส (http://www.chinapages.com) ก็ได้ขึ้นออนไลน์อย่างเป็นทางการ และเป็นเว๊บไซต์ธุรกิจเว๊บแรกในประวัติศาตร์ของ internet ของประเทศจีนในที่สุด

Chinapages ธุรกิจ internet แรกของ Jack Ma
Chinapages ธุรกิจ internet แรกของ Jack Ma

แม้ช่วงแรก ๆ จะล้มลุกคลุกคลาน แต่เขาก็พาบริษัทฝ่าวิกฤติ จนสุดท้ายได้หันมา ทำธุรกิจ ecommerce อย่าง alibaba และพาบริษัทก้าวขึ้นเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการเทคโนโลยีในประเทศจีนอย่างที่เราได้เห็นกันในทุกวันนี้นั่นเองครับ

–> อ่าน Blog Series : Jack Ma Rise of the Dragon

References : https://socket3.wordpress.com/tag/386/
https://www.alibabagroup.com/en/about/history?year=1999

ประวัติ Jack Ma แห่ง Alibaba ตอนที่ 5 : Break the Wall

ในการขึ้นเหนือครั้งแรก ในปี 1995 นั้น แจ๊ค พบกับความผิดหวัง กับความพยายามเผยแพร่ความคิด เรื่อง internet ในเมืองหลวง ดูเหมือน มันยังเร็วเกินไปที่ทางปักกิ่ง จะยอมรับสิ่งนี้ แต่สองปีผ่านไป โลกมันก้าวเดินไปอย่างรวดเร็ว การกลับมาครั้งนี้ แจ๊คต้องทำให้สำเร็จให้ได้ เพราะ ที่หังโจว ยังรอความหวังจากเขาอยู่

ในเดือนธันวาคม ปี 1997 นั้น แจ๊ค ได้รับหนังสือเชิญจากกระทรวงการค้าต่างประเทศของจีน เขาได้นำคณะทีมงาน ที่ดึงมาจากไชน่าเพจเจสด้วยราว 13 คน ซึ่งเป็นผู้ที่ล้วนภักดีต่อแจ๊คแทบจะทั้งสิ้น แจ๊คกำลังจะทำงานใหญ่ที่เมืองหลวง

ขณะนั้น กระแสของ internet กำลังลุกลามไปทั่วโลก และทางรัฐบาลจีนก็ไม่อยากตกรถด่วนขบวนนี้ ทางกระทรวงการค้าต่างประเทศต้องการสร้างเว๊บไซต์ภายใน ขนาดใหญ่ เพื่อช่วยเหลือในเรื่องการค้าระหว่างประเทศ เพื่อให้ข้อมูลกับเหล่านักธุรกิจและนักลงทุน ทั้งจากภายใน และต่างประเทศ

และสิ่งที่คนระดับสูงของกระทรวงการค้าต่างประเทศห่วงที่สุด คือ การหาคนมีฝีมือมีคุณภาพและเหมาะสมที่สุดมาดำเนินการ กับงานใหญ่เช่นนี้ และเป็นแจ๊คนี่เอง ซึ่งมีชื่อเสียงจากไชน่าเพจเจส และมีประสบการณ์มากพอ กลายเป็นตัวเลือกแรกของเหล่าบรรดาผู้นำในกระทรวง

หลังจากที่แจ๊คเดินทางถึงปักกิ่งแล้ว งานรับผิดชอบหลักของเขา และทีมงาน คือ การบุกเบิกเว๊บไซต์ทางการของกระทรวงการค้าต่างประเทศ แจ๊คและทีมงานรวม 13 คน แม้จะเป็นจำนวนไม่มาก แต่ทุกคนล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญ แทบจะทั้งสิ้น ทำให้บรรลุภารกิจสามารถทำให้เว๊บสร้างเสร็จอย่างรวดเร็วและประสบความสำเร็จ

หลังจากประสบความสำเร็จจาก เว๊บไซต์ภายในที่เป็น intranet ยังไม่ออก internet สากลได้สมบูรณ์แล้ว แจ๊ค นึงเริ่มเกลี้ยกลุ่มให้บุคคลระดับสูงของกระทรวง ให้สร้าง “ตลาดซื้อขายออนไลน์แห่งประเทศจีน” เพราะ internet จะเปลี่ยนประเทศจีน เหล่าผู้บริหารจึงเห็นด้วยกับแนวความคิดของแจ๊ค และ อนุมัติในที่สุด

แจ๊คผลักดันให้ทำเว๊บไซต์ ออกสู่ internet สากล
แจ๊คผลักดันให้ทำเว๊บไซต์ ออกสู่ internet สากล

ปีเศษ ที่แจ๊คกับทีมงานอยู่ที่ปักกิ่ง พวกเขาประสบความสำเร็จในการทำเว๊บตลาดซื้อขายออนไลน์ , เว๊บการค้าส่งออกแห่งประเทศจีนออนไลน์ , เว๊บการลงทุน และมันยังเป็นเว๊บรัฐบาลที่ดีที่สุดด้วยเมื่อเทียบกับกระทรวงอื่น ๆ และได้รับการยกย่องให้เป็นเว๊บไซต์ดีเด่นของจีนในปี  1999

และความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ก็เกิดขึ้นในวันที่ 4 พฤษภาคม ปี 1998 เว๊บไซต์ยักใหญ่อย่าง YAHOO ได้เปิดเว๊บ YAHOO ภาษาจีนขึ้น และทำให้แจ๊ค นั้นได้มีโอกาสพบกับ เจอร์รี่ หยาง ซึ่งขณะนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังสุด ๆ ในอเมริกา

แม้จะยังไม่เริ่มมีสำนักงานในประเทศจีน แต่ YAHOO ในขณะนั้น ก็คิดจะขยายกิจการใหม่ในประเทศจีน นั่นคือ กิจการโฆษณาผ่านเว๊บไซต์

การเยือนจีนครั้งนี้ของ เจอร์รี่ หยางนั้น แจ๊ค เป็น ไกด์ ให้ทั้งวัน ตั้งแต่รับประทานอาหาร จนถึง การนำพาทัวร์ ไปท่องเที่ยวตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ แจ๊คอยู่เคียงข้างเจอร์รี่ หยางโดยตลอดเวลา 3 วันที่เขาอยู่ในประเทศจีน

แจ๊ค เป็นผู้ดูแล เจอร์รี่ หยาง ตลอดเวลาที่อยู่ในประเทศจีน
แจ๊ค เป็นผู้ดูแล เจอร์รี่ หยาง ตลอดเวลาที่อยู่ในประเทศจีน

และมันเป็นความสัมพันธ์ที่ดีในขณะ ที่แจ๊ค เป็นผู้รับรอง ซึ่ง เจอร์รี่ หยางนั้นค่อนข้างประทับใจ แจ๊ค เป็นอย่างมาก มันเป็นมิตรภาพของเพื่อน ล้วน ๆ ซึ่งเจอร์รี่ หยาง มั่นใจว่าแจ๊คนั้นต้องกลายเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างแน่นอน

หลังจากแจ๊คและทีมงานทำงานที่ปักกิ่งมาได้เกือบปี โดยที่ภารกิจต่าง ๆ เริ่มเสร็จสิ้น แจ๊ค ก็เริ่มมองหาอนาคต ว่าจะทำอย่างไรต่อ การอยู่กับรัฐบาลแบบตอนนี้นั้น แจ๊ค ดูเหมือนมันจะเริ่มที่จะไม่มีอนาคต

หลาย ๆ อย่างไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่เขาทำไว้กับรัฐบาล เช่น การจะได้หุ้น 30% ของตลาดซื้อขายออนไลน์ของรัฐบาลที่เคยสัญญากับเขาไว้ก่อนหน้า กลายเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากระบบราชการที่ไม่เอื้ออำนวย ตอนนี้เขาและทีมงาน ได้รับเงินเป็นเงินเดือน เพียงคนละไม่กี่พันหยวนเท่านั้น

แม้แจ๊คจะให้ทางเลือกกับทีมงาน ว่าหากอยากที่จะอยู่ต่อเพื่อสานงานต่อที่ปักกิ่ง ก็สามารถที่จะอยู่ได้ หรือ จะย้ายไปอยู่กับ YAHOO ประเทศจีน ซึ่งตอนนั้นมาตั้งสำนักงานในจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอาจจะได้ผลประโยชน์ที่สูงกว่าก็สามารถเลือกเดินทางนี้ได้ เพราะตอนนั้นทีมงานของเขาแข็งแกร่งมากแล้ว และประสบความเร็จกับผลงานให้กับรัฐบาลอย่างสูง

ตอนนี้แจ๊ค ต้องการกลับหังโจว ต้องการกลับบ้านเกิดเพื่อไปบุกเบิกธุรกิจอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนการกลับไปตั้งธุรกิจใหม่นั้น ต้องลำบากเหมือนกับตอนตั้ง ไชน่าเพจเจส ใหม่ ๆ และเขาคิดว่าจะสร้างเว๊บไซต์ธุรกิจใหม่ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แจ๊คได้ถามทีมงานว่า จะกลับไปกับเขาหรือไม่ โดยให้เวลาทีมงานทั้งหมดตัดสินใจสามวัน เพื่อเลือกอนาคตของตัวเอง

ให้ทีมงานตัดสินใจอนาคตด้วยตัวเอง ว่าจะกลับหังโจวไปเริ่มธุรกิจใหม่พร้อมเขาหรือไม่
ให้ทีมงานตัดสินใจอนาคตด้วยตัวเอง ว่าจะกลับหังโจวไปเริ่มธุรกิจใหม่พร้อมเขาหรือไม่

แม้แจ๊คจะให้คิดสามวัน แต่เพียงห้านาที ทุกคนก็ตัดสินใจได้แล้ว มันคือทางเลือกเดียวของพวกเขา กลับหังโจวด้วยกัน แล้วเริ่มต้นกันใหม่!

นี่เป็นทีมงานที่มีคุณภาพ สร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้กับรัฐบาลได้สำเร็จ มันถึงเวลาที่พวกเขาต้องทำเพื่อตัวเขาเองเสียที และที่สำคัญ พวกเขาต่างรู้ใจกันมานาน เปรียบเสมือนพี่น้อง ไม่มีใครลังเล ที่จะตัดสินใจกลับหังโจว ร่วมกับแจ๊ค นายที่พวกเขารักที่สุด

ถึงตอนนี้ ภารกิจที่ปักกิ่งของแจ๊ค ก็บรรลุเป้าหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมยังได้ประสบการณ์มากมายที่ล้ำค่า จากการร่วมงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาล ทีมของเขาก็แกร่งขึ้นอีกระดับ และเขามั่นใจว่าตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะสร้างสิ่งที่ยิงใหญ่ สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงจีน และโลกไปตลอดกาล สิ่ง ๆ นั้นคืออะไร แล้วการเดินทางกลับหังโจว ครั้งนี้ จะเกิดอะไรขึ้นกับ แจ๊คและทีมงาน โปรดติดตามในตอนต่อไป

–> อ่านตอนที่ 6 : Alibaba

<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 :Internet *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***

Credit แหล่งข้อมูลบทความ

ประวัติ Jack Ma แห่ง Alibaba ตอนที่ 2 : ChinaPages

เมื่อแจ๊คเดินทางกลับจากซีแอตเทิลถึงหังโจว ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ของแจ๊คนั้นได้นำเอาของวิเศษหนึ่งอย่างมาจากอเมริกาด้วย มันคือ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คอินเทล 386 ซึ่งเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในขณะนั้นเลยก็ว่าได้ 

เพียงแค่คืนแรกที่กลับถึงหังโจว แจ๊ค เขาก็เริ่มเดินหน้าธุรกิจที่เขาได้คิดไว้อย่างทันที เขาเชิญเพื่อนสนิทที่สุด 24 คนมากินข้าวที่บ้าน และเริ่มบรรเลงโชว์ ของวิเศษ (คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คอินเทล 386) ทุกคนที่ถูกเชิญมาต่างอ้าปากค้าง และรู้สึกทึ่งกับเจ้าสิ่งนี้ ซึ่งไม่ต่างจากตอนที่แจ๊ค นั้นเห็นคอมพิวเตอร์สุดแรงนี้ ครั้งแรกที่อเมริกา

เมื่อถึงจีนเรียกเพื่อนนักธุรกิจมาฟังเรื่อง internet ทันที
เมื่อถึงจีนเรียกเพื่อนนักธุรกิจมาฟังเรื่อง internet ทันที

หลังจากนั้น แจ๊ค ก็ได้เริ่มพูดถึงเรื่อง internet และได้บรรยายถึงความวิเศษของมันที่เขาได้เจอมาที่อเมริกา และพรรณนา ว่า มันวิเศษยิ่งกว่าโทรศัพท์เสียอีก แค่เพียงคลิกเดียวก็สามารถเข้าถึงทุกแห่งทุกหนในโลกได้ และ ให้วิสัยทัศน์ว่า เจ้าสิ่งนี้ จะต้องรุ่งเรืองในประเทศจีนได้อย่างแน่นอน

แต่ต้องเข้าใจว่า ในยุคนั้น ไม่มีใครเข้าใจกับคำว่า internet แม้แจ๊ค จะพยายามพูดล้างสมองเพื่อนอย่างไรก็ตาม แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มเพื่อน ๆ ของเขาที่ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจในจีนอยู่แล้ว จะไม่ได้สนใจมันแต่อย่างใด หาว่าแจ๊คนั้นเป็นคนเพ้อฝัน

เขากล่าวกับเพื่อนว่า ๆ จะลาออกจากงานมาเริ่มธุรกิจ internet แต่มันกลับกลายเป็นว่าเพื่อน ๆ ของเขาทั้งหมดแทบจะคัดค้านกับแนวคิดของ แจ๊ค หลาย ๆ คนก็พยายามถามรายละเอียดของ internet จากแจ๊ค  แต่ก็อย่างที่ทราบ แจ๊ค นั้นก็มีความรู้ทางด้าน internet แบบผิวเผินเท่านั้น ไม่สามารถตอบคำถามใด ๆ จากเพื่อน  ๆ เขาได้เลย ซึ่งหลังจากให้ทำการโหวตปรากฏว่า 23 คันค้าน และมีคนเห็นด้วยกับแจ๊ค เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

และในที่สุดแจ๊ค ก็ได้พบกับความจริงที่โหดร้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นคือ ไม่ว่าจะอย่างไร เขาคงไม่สามารถที่ชักจูงเหล่าเพื่อน ๆ ของเขาให้มาลองทำธุรกิจ internet กับเขาได้อย่างแน่นอน ทำให้แจ๊คเสียใจมากและถึงกับจิตตกไปเลยทีเดียว

แต่แม้จะมีถึง 23 คนที่คัดค้าน มันยังมีอีกหนึ่งคนที่สนับสนุนความคิดของแจ๊ค ซึ่งเพื่อนคนนี้สนับสนุนให้แจ๊คได้ลองทำดู ซึ่ง เขาคือ เหออิปิง เป็นเพื่อนนักศึกษามหาวิทยาลัยครูหังโจวของแจ๊ค

และแม้มันจะมีเพียงหนึ่งเสียงสนับสนุน แต่ สัญชาติญาณของแจ๊ค นั้นก็สั่งให้เขาเริ่มธุรกิจนี้ ก้าวแรกของการสร้างธุรกิจคือหาเงินทุน ซึ่งแจ๊คและภรรยานั้นได้ทุ่มเงินหมดตัว 6,000 หยวน และทำการรวบรวมจากญาติพี่น้องได้อีกราว  ๆ 40,000 หยวน และ อีกส่วนคือการนำเอาสินทรัพย์ของสำนักแปลภาษาไห่โป๋ธุรกิจแรกของเขาออกเทขายทั้งหมด ซึ่งได้มาอีก 30,000 หยวน รวมเป็นส่วนของตัวเขาและภรรยาทั้งสิ้น 80,000 หยวน

แจ๊คและภรรยาลงขันกับญาติ ๆ และเพื่อนอีกสองคน ตั้งบริษัทขึ้นมา
แจ๊คและภรรยาลงขันกับญาติ ๆ และเพื่อนอีกสองคน ตั้งบริษัทขึ้นมา

และเพื่อนที่สนับสนุนแนวคิดนี้ของแจ๊คอย่าง เหออิปิง นั้น ก็ได้ร่วมลงทุน 10,000 หยวน ส่วนอีก 10,000 หยวนสุดท้ายได้มาจากเพื่อนอีกคนที่ชื่อ ซ่งเว่ยชิง  ซึ่งทำให้ตอนนี้ เงินลงทุนตั้งต้นของธุรกิจใหม่ของแจ๊คนั้น มีรวมแล้วประมาณ 100,000 หยวน

และในที่สุดบริษัทเทคนิคอินเตอร์เน็ตไห่โป๋ เจ้อเจียง ที่ดำเนินการกิจการไดเร็กทอรี่อุตสาหกรรมการค้าออนไลน์ และเป็นเว๊บไซต์ internet แห่งแรกของประเทศจีน – เยลโล่เพจเจสประเทศจีน ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อเดือน เมษายน ปี 1995

และในวันที่ 9 พฤษภาคม 1995 ไชน่าเพจเจส (http://www.chinapages.com) ได้ขึ้นออนไลน์อย่างเป็นทางการ และเป็นเว๊บไซต์ธุรกิจเว๊บแรกในประวัติศาตร์ของ internet ของประเทศจีน

chinapages ในสมัยแรก ๆ เป็นเว๊บไดเร็กทอรี่ คล้าย ๆ yahoo
chinapages ในสมัยแรก ๆ เป็นเว๊บไดเร็กทอรี่ คล้าย ๆ yahoo

แต่ทุกอย่างมันก็ไม่ได้เริ่มต้นด้วยกลีบกุหลาบ ระยะแรกเริ่ม เป็นช่วงเวลาที่ ไชน่าเพจเจส ลำบากที่สุด ออฟฟิสหลักของบริษัทนั้น ก็แค่เช่าบ้านธรรมดาหลังหนึ่งเป็นห้องทำงาน และ มีอุปกรณ์ชิ้นเดียวคือ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คอินเทล 386 ที่แจ๊คนั้นได้หอบหิ้วมาจากอเมริกานั่นเอง 

เพียงแค่ค่าเช่าออฟฟิส ก็กินเงินทุนของแจ๊คไปมากโขแล้ว เพราะต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็นปี ซึ่งในสภาวะย่ำแย่ในช่วงแรก ๆ ของการก่อตั้งบริษัทนั้น ในบัญชีบริษัทมีเงินสดเหลือเพียง 200 หยวน เท่านั้น และ ที่สำคัญ ไชน่าเพจเจส ยังแทบจะไม่มีลูกค้าเลยด้วยซ้ำ

กับทีมงาน chinapages ยุคก่อตั้ง
กับทีมงาน chinapages ยุคก่อตั้ง

นักธุรกิจในประเทศจีนซึ่งแทบไม่เคยได้ยินคำว่า internet มาก่อน ซึ่งการที่แจ๊ค จะไปอธิบายให้พวกเขาเสียเงินซื้อในสิ่งที่มองไม่เห็นและจับต้องไม่ได้ ทำให้บรรดาเถ้าแก่นักธุรกิจจีนต่างส่ายหน้าหนี internet กันแทบจะทั้งสิ้น และมองมันเป็นเรื่องหลอกลวงเท่านั้น

สาเหตุหลักอีกประการหนึ่งน่าจะมาจากราคาที่สูงลิ่ว เพราะไชน่าเพจเจสในยุคแรกเป็นการร่วมมือกับบริษัท VBN ของสหรัฐ เช่า server จากอเมริกา และต้องมีการแบ่งผลกำไร 40:60 ซึ่ง ไชน่าเพจเจสนั้นได้เพียง 40% ส่วน VBN ที่นอนรอลูกค้าอยู่ที่อเมริกานั้นได้ถึง 60% และต้นทุนของค่าจ้างในการทำเว๊บเพจนั้นก็แพงเอามาก ๆ เสียด้วย

และการที่ลูกค้าจะเห็นหน้าโฮมเพจของตัวเองนั้นก็ต้องให้ VBN print ภาพหน้าโฮมเพจออกมาและส่งด่วนทาง UPS กลับมาที่หังโจว เพื่อโชว์ให้ลูกค้าดู ซึ่งมันเป็นโมเดลธุรกิจที่แปลกประหลาดอย่างมาก หากคุณเป็นลูกค้าของแจ๊คในยุคนั้น ก็คงคิดเหมือนคนเหล่านี้ เพราะ จีนตอนนั้นยังไม่สามารถเข้าถึง internet ได้นั่นเอง

และลูกค้ารายแรก ๆ ส่วนใหญ่นั้นเป็นเพื่อนนักธุรกิจของแจ๊ค ซึ่งตอนแรกนั้นแทบจะไม่คิดค่าใช้จ่าย อยากจะช่วย promote ให้ฟรี ๆ เพื่อเป็นการบุกเบิกลูกค้า และ ทำให้ลูกค้าคนอื่น ๆ เริ่มหันมาสนใจบ้าง

และในที่สุดไชน่าเพจเจส ก็ได้ลูกค้าที่จ่ายเงินเป็นรายแรก นั่นก็คือ โรงแรมระดับสี่ดาวของเมืองหังโจว  โรงแรมวั่งหู ซึ่งเจ้าของโรงแรมนั้นก็เป็นเพื่อนของแจ๊ค อีกเช่นเคย

เนื่องจากไม่มีใครที่หังโจวนั้นรู้จักกับ internet แจ๊คจึงต้องรับภาระหนักในการไปโฆษณาเผยแพร่ และไปสาธิตให้ลูกค้าแต่ละรายด้วยตัวเอง ซึ่งแจ๊ค ในขณะนั้นโดยตำแหน่งแล้วเป็นผู้จัดการ แต่ความจริงเขาก็คือ เซลล์แมน ของไชน่าเพจเจสต่างหาก และ ยังทำตัวเป็นจิตอาสา ในการเผยแพร่ความรู้ด้าน internet ของจีนให้ชาวเมืองหังโจวอีกด้วย

ทำงานจิตอาสาให้ความรู้ด้าน internet กับชาวเมืองหังโจว
ทำงานจิตอาสาให้ความรู้ด้าน internet กับชาวเมืองหังโจว

และแม้ความจริงแล้วนั้น เหล่าลูกค้ารุ่นแรก ๆ ของไชน่าเพจเจส จะมีความคลางแคลงใจต่อ internet ที่แจ๊คโฆษณาให้ แต่มันก็เริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นกับธุรกิจของพวกเขาเหล่านั้น กลุ่มลูกค้าเหล่านี้เริ่มได้รับโทรศัพท์และแฟกซ์สอบถามจากต่างประเทศ ซึ่งพวกเขาแทบจะไม่เคยเจอมาก่อนเลยด้วยซ้ำ แต่ลูกค้าเหล่านั้นก็ยังไม่เชื่อถึงความเชื่อมโยงของผลลัพธ์เหล่านี้กับไชน่าเพจเจสของแจ๊ค พวกเขายังแค่มองมันเป็นคำหลอกลวงของแจ๊ค เหมือนเคย

และเหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างแจ๊คบ้างแล้ว ในที่สุด เดือน กรกฏาคม ปี 1995 ด้วยการอนุมัติของกรมโทรคมนาคม สังกัดกระทรวงไปรษณีย์ของจีน มีการจัดตั้งสาย internet เฉพาะกิจ 44K ที่เซี่ยงไฮ้เป็นครั้งแรก และมันก็เริ่มทำให้แจ๊คเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์บ้างแล้ว

หนึ่งเดือนหลังจากนั้น มันเป็นวันที่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ต้องจารึกชื่อของแจ๊ค หม่า มันเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ internet ของประเทศจีน 

มันเป็นวันที่แจ๊ค นำเจ้าคอมพิวเตอร์ เชื่อมต่อกับ internet 44K ที่เซี่ยงไฮ้ ได้สำเร็จ แจ๊คหมุนโทรศัพท์ถึงโทรคมนาคมของเซี่ยงไฮ้ ผ่านไปราว ๆ นาทีกว่า ๆ การเชื่อมต่อ internet ก็สำเร็จในที่สุด ในวันนั้นมีการถ่ายทอดการเชื่อมต่อครั้งสำคัญนี้ผ่านสถานีโทรทัศน์ในเมืองหังโจว 

เชื่อมต่อ internet ผ่านการหมุนโทรศัพท์
เชื่อมต่อ internet ผ่านการหมุนโทรศัพท์

เมื่อแจ๊ค เริ่มเปิดโปรแกรม Mosaic ซึ่งเป็น Web Browser ในสมัยนั้น และบรรจงพิมพ์ address “http://www.chinapages.com”  หลังจากรอกว่า 3 ชั่วโมง เว๊บเพจทั้งหมดก็ดาวน์โหลดเสร็จสิ้น และมันปรากฏภาพของเพจหน้าหลักของโรงแรมวั่งหู ลูกค้ารายแรกของแจ๊ค รวมถึง เพจของลูกค้าคนอื่น ๆ เรียงรายตามมาในหน้าของไชน่าเพจเจส

ลูกค้าต่างตื่นเต้น ผู้สื่อข่าวที่มาทำข่าวก็ตื่นเต้น และที่ตื่นเต้นที่สุดคงจะเป็นแจ๊ค และหุ้นส่วนของเขา หลังจากทำงานหนักกันมากว่า 4 เดือน ในที่สุดพวกเขาก็ได้เห็นเว๊บเพจของตนเองบน internet และหลุดพ้นจากการที่เหล่าผู้คนต่าง ๆ กล่าวหาว่าเขาเป็นคนหลอกลวงได้เสียที

ต้องบอกว่า การที่ชาวเมืองหังโจวได้เห็นเรื่องจริงของ internet ผ่านจอโทรทัศน์ที่ทำการถ่ายทอดเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้ชาวหังโจว เริ่มที่จะกลับมาเชื่อแจ๊ค ได้อีกครั้ง internet ไม่ได้เป็นเรื่องหลอกลวงที่แจ๊ค สร้างขึ้นมา ไม่ใช่เป็นเรื่องของสิ่งลี้ลับ หรือ เรื่องผีสาง แต่ internet มันคือสิ่งมหัศจรรย์ใหม่ ที่กำลังจะมาเปลี่ยนวิถีชีวิตชาวจีน รวมถึงชาวโลก

สำหรับแจ๊คและหุ้นส่วนแล้ว มันเต็มไปด้วยคราบน้ำตาแห่งความปิติยินดีรวมถึงความสุข และนับเป็นก้าวที่สำคัญที่สุดก้าวนึงของแจ๊ค ที่ได้ปลดแอกเรื่องที่เขาถูกกล่าวหาว่าหลอกลวงได้เสียที และมันช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แจ๊คที่ต่อไปนี้จะไม่ได้จำกัดอยู่ในเพียงเมืองเล็ก ๆ อย่างหังโจวแล้ว ธุรกิจของเขามันกำลังเริ่มที่จะขยายไปต่างมณฑล ก้าวต่อไปของแจ๊ค กับ ไชน่าเพจเจส จะเป็นอย่างไร โปรดติดตามในตอนต่อไปครับผม

–> อ่านตอนที่ 3 : The Wall of Capital

<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 :Internet *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***

Credit แหล่งข้อมูลบทความ