เริ่มแรกที่เรารู้จัก MSN Messenger นั้นต้องนับย้อนไปตั้งแต่การก่อตั้งขึ้นในปี 1999 และ ในภายหลังได้ถูกแปรเปลี่ยนมาเป็น Windows Live Messenger ซึ่งอดีตยักษ์ใหญ่แห่งบริการส่งข้อความถูกปิดฉากบริการไปในวันที่ 31 ตุลาคม 2014 และ คุณอาจสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น?
ต้องบอกว่าถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สนใจของการไม่สามารถปรับตัวได้ เมื่อธุรกิจถูก Disrupt ซึ่งในยุคนั้น ก็คือการเปลี่ยนผ่านจากยุค PC ไปยังยุคของ Smartphone ที่ดูเหมือน Microsoft นั้นจะปรับตัวช้าเกินไป ทั้งที่บริการอย่าง Windows Live Messenger มีผู้ใช้งานสูงสุดถึงกว่า 300 ล้านคนในยุคนั้น
ภาพจำของ Mark Zuckerberg ที่คนส่วนใหญ่ได้เห็นนั้นอาจจะมาจากภาพยนตร์เรื่อง “The Social Network” แต่หลายคนก็ไม่ได้รับรู้เกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของ Mark Zuckerberg มากมายนัก
mark zuckerberg ถือเป็น อัจฉริยะ คนหนึ่งในด้านคอมพิวเตอร์ ที่หลายคนรู้จักดีในฮาร์วาร์ด เขามีประวัติด้านคอมพิวเตอร์ที่ไม่ธรรมดามาตั้งแต่ตอนเรียน high school โดยเขากับเพื่อน ได้เคยร่วมกันสร้างสร้าง plugin ของ media player เพื่อหา playlist ตามรสนิยมของผู้ใช้ ในชื่อ Synapse
บริษัท ใหญ่ ๆ อย่าง Microsoft และ AOL ต้องการซื้อแอปนี้ ซึ่งมีข่าวว่าทาง Microsoft นั้นเคยยื่นข้อเสนอถึง 1 ล้านดอลลาร์ แต่ Mark ได้ปฏิเสธทั้ง Microsoft หรือ AOLและอัปโหลดแอปตัวนี้แจกฟรี ๆ
ข้อความที่ตัดตอนมาจากบทวิจารณ์: “นี่เป็นโปรแกรมเล่น Media ที่ล้ำสมัยที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นในปัจจุบันที่มีฟังก์ชั่นเดียวที่ฉันพบว่ามันขาดคือเครื่องมือแก้ไขแท็กขั้นสูงและความสามารถในการจัดกลุ่มตามอัลบั้ม”
ซึ่งจะเห็นได้ว่า Mark นั้นสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในยุคนั้น ในขณะที่เข้าเรียนอยู่เพียงแค่ High School เพียงเท่านั้น และที่สำคัญ มันเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า เรื่องเงินนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการแต่อย่างใด เขาต้องการสร้างสิ่งที่เปลี่ยนแปลงโลกเราให้ดีขึ้น จนได้มาสร้าง Facebook ขึ้นมาจนประสบความสำเร็จอย่างสูงในภายหลังนั่นเอง
โดยทาง Microsoft นั้นใช้แผนที่เหนือเมฆมาก ๆ คือนำ Internet Exproler ออกสู่ตลาดโดยแถมมากับระบบปฏิบัติการ Windows 95 เลยแทบจะทันที โดย Microsoft นั้นก็ได้พัฒนาตัว IE โดยใช้พื้นฐานมาจาก Mosaic ที่พวกเขาได้ลิขสิทธิ์ต่อมาจาก Spyglass นั่นเอง
NetScape นั้นใช้กลยุทธ์ในการนำโปรแกรมออกเผยแพร่ทาง internet ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้ามาดูตัวโปรแกรมได้ และได้เริ่มก้าวไปสู่การพัฒนาโปรแกรมสำหรับเครือข่ายในองค์กร และโปรแกรมด้านการค้าใน internet เพื่อสร้างรายได้ให้มากที่สุด
แต่ Microsoft นั้นเป็นบริษัทที่ทุนหนาอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหาเรื่องการเงินแต่อย่างใด จึงได้เข้ามาต่อสู้อย่างเต็มตัวและดุเดือดมากยิ่งขึ้น ซึ่งในการแถม Browser ไปกับระบบปฏิบัติการ และเป็นยิ่งส่งเสริมให้คนหันมาใช้ ระบบปฏิบัติการ Windows 95 มากยิ่งขึ้น
ซึ่งสุดท้ายก็มีการฟ้องร้องกัน โดยมีการกล่าวหาว่า Microsoft ผูกขาดการตลาดของระบบปฏิบัติการ ทางฝั่ง Microsoft นั้นก็ไม่แยแสในเรื่องที่เกิดขึ้นเดินหน้าแถม Browser ต่อไปจนครองส่วนแบ่งแทบจะทั้งหมดของ Browser ไปได้ในท้ายที่สุด
และ ทำให้ Netscape ต้องถูกขายให้กับ AOL ในภายหลังก่อนจะพัฒนากลายมาเป็น Mozilla Firefox อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ส่วนคดีความฟ้องร้องนั้น ถึงแม้สุดท้าย ศาลจะพิพากษาให้ Microsoft เป็นฝ่ายผิด แต่ Microsoft ก็ยินยอมจ่ายค่าปรับเพียงร้อยกว่าล้านเหรียญเท่านั้น ซึ่งเปรียบเหมือนในสงครามนี้ Microsoft ยอมแพ้ในศาลแต่ ในเชิงธุรกิจนั้น Netscape ได้ตายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเองครับผม
แล้วเราได้อะไรจากการเรื่องราวของ NetScape จาก Blog Series ชุดนี้
ต้องบอกว่า Web Browser นั้นถือเป็นอีกหนึ่งในนวัตกรรม ที่เปลี่ยนโลกเราไปตลอดการ แม้การเกิดขึ้นของ World Wide Web จาก Tim Berner lee นั้นจะเกิดมาก่อนก็ตาม แต่การที่ทำให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึง internet ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้นนั้น ก็เป็นผลมาจากโปรแกรม Web Browser ตัวแรกอย่าง Mosaic ที่ Marc Andreeessen เป็นผู้ให้กำเนิดขึ้นมา
แต่แน่นอนว่า เมื่อการเติบโตไปเข้าหูยักษ์ใหญ่ ที่ครอบครองตลาดแบบเบ็ดเสร็จอย่าง Microsoft มันก็เป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะชนะยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft ได้ ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญครั้งหนึ่งให้กับเหล่า startup ยุคหลังว่า ไม่ควรที่จะเข้าไปต่อกรกับ ยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft แต่เนิ่น ๆ
แน่นอนว่า เราจะได้เห็นบริษัทยุคหลัง ได้รับประโยชน์จากการเรียนรู้จากเรื่องราวของ NetScape ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คงจะเป็น Google ที่พวกเขาทำทุกอย่างให้เงียบที่สุด และเลี่ยงการต่อกรกับยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft ให้มากที่สุด
ซึ่ง Google นั้นประสบความสำเร็จ เพราะกว่า Microsoft จะรู้ตัวนั้น พวกเขาได้พัฒนาเทคโนโลยีจนนำห่างไปไกลแล้ว จน Microsoft ไม่สามารถที่จะไล่ตาม Google ได้ทันในที่สุด แม้จะพยายามบีบอย่างไร แต่มันก็ช้าเกินไปเสียแล้วนั่นเอง ซึ่งจะเห็นได้ว่า Google นั้นรับบทเรียนจากการเข้าไปต่อสู้กับ Microsoft ของ NetScape อย่างชัดเจน
ถือเป็น Business Case Study ครั้งยิ่งใหญ่ในวงการเทคโนโลยีโลกเลยก็ว่าได้สำหรับการปฏิเสธการเข้าซื้อ Google ของ Excite ในปี 1999 ก่อนที่ Google จะท้อใจในการขายกิจการและสองผู้ร่วมก่อตั้งที่ต้องทิ้งการเรียนมาสร้างธุรกิจจนกลายเป็นธุรกิจแสนล้านอย่างในปัจจุบัน
มันเคยมีบทเรียนครั้งสำคัญของนักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่อย่าง John D. Rockefeller ซึ่งทำให้ บริษัท สแตนดาร์ดออยล์เป็น บริษัท ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในการไล่ซื้อกิจการคู่แข่งไม่ว่าจะเล็กจะใหญ่ขนาดไหน เพราะต้องการทำให้ สแตนดอร์ดออยส์ ผูกขาดตลาดนั่นเอง
ความจริงที่ว่า Google ได้เสนอให้ Excite อีกครั้งด้วยจำนวนเงินที่น้อยลงและยังคงถูกปฏิเสธมันถือว่าเป็นความผิดพลาดซ้ำสองที่ไม่น่าให้อภัยเป็นอย่างยิ่ง
แม้ตัวเพจและบรินวางข้อตกลงเกี่ยวกับข้อเสนอที่ทำให้ยากต่อการยอมรับ แต่การที่ George Bell ปฏิเสธข้อเสนอเพียงเพราะ Google ยืนยันว่า Excite ใช้เครื่องมือค้นหาของตนมันดูเหมือนเป็นวิธีการคิดที่ผิดมหันต์
ซึ่งแน่นอนว่า George Bell อาจจะคิดอย่างดีแล้วว่าเสิร์ชเอ็นจิ้นของพวกเขาอย่าง Excite ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของเว็บไซต์ในโลกในขณะนั้น ทำไมจึงควรเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้เพื่อฟังนักศึกษาที่ยังเรียนไม่จบจากสแตนฟอร์ดด้วยซ้ำ
อีกฝากฝั่งหนึ่งนั้น Microsoft และเหล่าผู้บริหาร แทบจะไม่ยินดียินร้ายกับการเกิดขึ้นของเหล่าบริการค้นหาทางออนไลน์เลยเสียด้วยซ้ำ ต้องเข้าใจว่า Microsoft นั้นชัดเจนว่าเกิดมาจาก Software ด้านองค์กร ไม่ว่าจะเป็น Windows หรือ ชุด Microsoft Office ซึ่งพวกเขาก็ขายกันไม่ทันอยู่แล้วแค่เพียง product สองตัวนี้
มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ว่า Microsoft แทบไม่แยแสกับกระแสออนไลน์ บ้าเห่อ ของเหล่าบริษัทหน้าใหม่ในขณะนั้น เพราะมันมีจำนวนผู้ใช้งานเพียงน้อยนิด และยังไม่มีใครคิดว่าจะทำเงินจากมันได้อย่างไร
แต่ด้วยความเป็นยักษ์ใหญ่ จึงได้ทำการกระจายความเสี่ยงไว้ โดยในปี 1997 นั้น Microsoft ได้สร้างเว๊บท่าขนาดใหญ่ แต่จะใช้บริการค้นหาจริง ๆ ของอีกหนึ่งบริษัทคือ Inktomi ซึ่งตอนนั้นเริ่มทำบริการที่เป็นลักษณะเว๊บ Crawler เพื่อไปดึงดูดข้อมูลต่าง ๆ ทั่ว WWW มาทำ Index หรือดัชนี
แต่ Microsoft ก็ไม่ได้เพิ่มเทคโนโลยีการค้นหาที่วิเศษอะไรเลยให้กับ Inktomi และไม่ได้จริงจังกับมันมากนักในขณะนั้น ทำให้หลาย ๆ บริการค้นหาในออนไลน์ในขณะนั้น แทบจะมีความสามารถไม่ต่างกัน