Game (AI) of Thrones กับสงครามแย่งชิงโอกาสทางธุรกิจมูลค่า 800 พันล้านดอลลาร์ในทศวรรษหน้า

ศึกสงครามทางด้านเทคโนโลยีในทุก ๆ ครั้ง มันเดิมพันด้วยตลาดมูลค่ามหาศาล ซึ่งเราได้เห็นสงครามหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา ที่เหล่าบริษัทเทคโนโลยีทุ่มสุดตัวเพื่อคว้าโอกาสทางธุรกิจ และพยายามฆ่าคู่แข่งให้ตาย ไม่ให้เป็นขวากหนามในอนาคต

ไล่มาตั้งแต่ ยุคคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ที่ Microsoft เอาชนะ Apple ไปได้ ถึงขั้นที่ว่า Steve Jobs ต้องสูญเสียอำนาจในการควบคุม Apple ในยุคนึงเลยทีเดียว ก่อนที่จะมาคำรามได้อีกครั้งในการกลับมาในคำรบที่สอง

หลังจากนั้น เรียกได้ว่า การแข่งขันทางด้านเทคโนโลยี ดุเดือด เลือดพล่าน ทุ่มเทสรรพกำลังกันแบบหมดหน้าตัก อินเทอร์เน็ต , Ecommerce , Search Engine , Social Media , Smartphone , Tablet ซึ่งเราจะได้เห็นกลุ่มผู้เล่นเดิม ๆ ที่บดบี้กันแบบสนุกมาก ๆ ทั้ง Micrososoft , Apple , Google หรือ แม้กระทั่ง Meta เจ้าพ่อโซเชียลมีเดีย

เมื่อเวลาผ่านไป ทุกฝ่ายต่างไปตั้งฐานที่มั่นในธุรกิจที่ตัวเองถนัด เพื่อไม่ให้ถูกคุกคามจากเหล่าเพื่อนบ้านใน Silicon Valley เหล่านี้ ที่พร้อมจะย่างกรายเข้ามาตะครุบเหยื่อได้ทุกเมื่อ

ซึ่งก็ต้องบอกว่าปีที่แล้วเป็นปีที่ยากสำหรับเหล่าบริษัทเทคโนโลยี อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น และการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรงโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของภาคส่วนนี้ค่อนข้างสูง

แต่เมื่อล่วงมาถึงปี 2023 ดูเหมือนว่าความรุ่งเรืองของเทคโนโลยี AI ได้กระชากเหล่าบริษัทเทคโนโลยีขึ้นมาจากหลุมได้อีกครั้ง

“เราประเมินว่านี่เป็นโอกาสทางธุรกิจมูลค่า 800,000 ล้านดอลลาร์ในทศวรรษหน้า เนื่องจาก AI จะมีบทบาททั้งในภาคส่วนองค์กรธุรกิจและสำหรับผู้บริโภคโดยทั่วไป” Dan Ives นักวิเคราะห์ทางด้านเทคโนโลยีจาก Wedbush กล่าว

หลังจากที่ OpenAI ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Microsoft ในเดือนพฤศจิกายนและได้ทำการเปิดตัว ChatGPT ซึ่งเป็น Chatbot “Generative AI” ที่สามารถตอบคำถาม เขียนอีเมล หรือแม้แต่ผ่านการทดสอบ MBA มาแล้ว เหล่านักลงทุนก็ได้เริ่มกลับมามองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับ AI ซึ่งทำให้บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งต่างแย่งกันเปิดตัวหรืออวดเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของพวกเขาเพราะกลัวจะถูกทิ้ง

Dan Ives นักวิเคราะห์ทางด้านเทคโนโลยีจาก Wedbush (CR:USA Herald)
Dan Ives นักวิเคราะห์ทางด้านเทคโนโลยีจาก Wedbush (CR:USA Herald)

Google ได้เปิดตัว Chatbot อย่าง Bard ในเดือนกุมภาพันธ์ และตามมาด้วย Meta ที่เปิดตัว LLaMa ในเดือนเดียวกัน เทคโนโลยี Generative AI ยังใช้ในซอฟต์แวร์สร้างภาพใหม่ เช่น DALL-E 2 ของ OpenAI, Stable Diffusion และ Midjourney ซึ่งสามารถสร้างภาพที่เหมือนจริงจากการเพียงแค่ใส่ input ข้อความ

แต่ก็ต้องบอกว่า AI นั้นเป็นมากกว่าแค่ Chatbot และโปรแกรมสร้างรูปภาพ Ives ให้เหตุผลว่ามันจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่พลิกเกมในระดับเดียวกับอินเทอร์เน็ตที่จะมีการใช้งานแพร่หลาย ซึ่งหมายความว่าแม้ท่ามกลางเศรษฐกิจที่สั่นคลอน เหล่านักลงทุนก็ไม่ควรรีรอ

“AI ที่ฉลาดล้ำสามารถทำลายล้างโลกเราได้เกือบทุกภาคส่วน” Ives กล่าว โดยให้เหตุผลว่าเทคโนโลยีดังกล่าวฉลาดกว่ามนุษย์มาก ๆ อยู่แล้ว

JPMorgan กำลังใช้ AI เพื่อช่วยทำนายพฤติกรรมของ Federal Reserve และ Plantir บริษัทซอฟต์แวร์ AI ของ Peter Thiel กำลังมี demand แบบไม่เคยปรากฎมาก่อนสำหรับแพลตฟอร์มข่าวกรองในสนามรบ

สำหรับ Ives มองว่าผู้นำตัวจริงเสียงจริงของเทคโนโลยี AI ในตอนนี้คือ Microsoft ซึ่งเขาเชื่อว่าบริษัทของ Satya Nadella จะสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจ Search Engine จาก Google ได้ เนื่องจากมีการรวม ChatGPT เข้ากับ Bing ในเครื่องมือค้นหาของพวกเขา

“สำหรับ Microsoft โอกาสในการสร้างรายได้จาก Bing นั้นมีอยู่มหาศาล” เขากล่าว “ทุก % ของส่วนแบ่งที่แย่งชิงมาจาก Google จะนำไปสู่การเกิดใหม่ของ Bing ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นเม็ดเงินโฆษณามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์”

Microsoft ยังอยู่ในสถานะที่ดีที่จะได้กำไรจากการพัฒนา AI ในช่วงเริ่มต้นเนื่องจากธุรกิจคลาวด์อย่าง Azure ซึ่ง Scott Guthrie รองประธานบริหารกลุ่มคลาวด์และ AI ของ Microsoft ได้ให้รายละเอียดไว้ว่า Microsoft ได้ทุ่มเททรัพยากรเป็นเวลาหลายปีในการสร้างทรัพยากรทางด้าน supercomputing ในธุรกิจคลาวด์เพื่อช่วยสนับสนุนเทคโนโลยี AI

Scott Guthrie รองประธานบริหารกลุ่มคลาวด์และ AI ของ Microsoft (CR:GeekWire)
Scott Guthrie รองประธานบริหารกลุ่มคลาวด์และ AI ของ Microsoft (CR:GeekWire)

ในขณะที่ Ives เชื่อว่า Microsoft เป็นผู้นำด้านนคลาวด์คอมพิวติ้งที่ทำให้พวกเขาเป็นผู้นำตลาดที่ชัดเจนในการแข่งขันด้าน AI ในขณะนี้

Ives ยังได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า บริษัทอื่น ๆ รวมถึงยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Google , Apple , Meta , Nvidia และ Amazon รวมถึงบริษัทขนาดเล็กเช่น C3.AI และ SoundHound จะต่อสู้กันในทศวรรษหน้าและใช้จ่ายเงินหลายพันล้านในการเดิมพันกับธุรกิจนี้

ซึ่งโดยรวมแล้ว เหล่านักวิเคราะห์เชื่อกันว่า AI จะเป็นธีมเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ และนักลงทุนควรรีบฉวยโอกาส เพราะธีม AI จะเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดที่เราจะได้เห็นในรอบ 22 ปีของการ Boom ขึ้นมาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนั่นเองครับผม

References :
https://fortune.com/2023/05/22/artificial-intelligence-stocks-market-outlook-wedbush-800-billion-opportunity
https://fortune.com/2023/02/24/mark-zuckerberg-meta-new-ai-product-llama/
https://news.microsoft.com/source/features/ai/how-microsofts-bet-on-azure-unlocked-an-ai-revolution/
https://fortune.com/2023/01/21/chatgpt-passed-wharton-mba-exam-one-professor-is-sounding-alarm-artificial-intelligence/


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube