เมื่อถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2017 ในขณะที่ startup blockchain สามารถระดมทุนได้หลายล้านดอลลาร์ในเวลาไม่กี่นาที ราคา bitcoin ก็พุ่งไปสูงถึง 2,000 ดอลลาร์ ส่วนราคาของ ether ก็พุ่งทะลุ 200 ดอลลาร์ ตัวของ Vitalik กำลังเดินทางเข้าไปประชุมแบบปิดที่ศูนย์การประชุมในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในประเทศรัสเซีย

เขากำลังจะพูดกับหนึ่งในผู้นำที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกอย่าง Vladimir Putin แม้การประชุมจะใช้เวลาไม่นานนัก แต่ข่าวรายงานว่า Vitalik ได้อธิบายถึงโอกาสในการใช้เทคโนโลยีที่เขาพัฒนาขึ้นในประเทศรัสเซีย ซึ่ง Putin เองก็สนับสนุุนแนวคิดในการสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรรัสเซียที่เป็นไปได้ แถมยังกล่าวปิดท้ายว่า “blockchain นั้นเจ๋ง”

แม้ก่อนหน้านี้รัสเซียจะทั้งต่อต้านและสนับสนุน blockchain บางครั้งพวกเขาเรียกว่าเป็นโครงการ Ponzi (แชร์ลูกโซ่) และบางครั้งก็สนับสนุนเทคโนโลยี blockchain แต่หลังจากการพบกับ Vitalik มีรายงานข่าวอย่างต่อเนื่องว่ารัสเซียได้หันมาใช้ crypto อย่างมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

แต่ก็ต้องบอกว่าเหล่าชุมชน crypto ก็ไม่ได้ปลื้มมากนัก เพราะมองว่าตัว Putin นั้นเป็นพวกเผด็จการ เพราะ crypto ยึดมั่นในแนวคิดเสรีนิยม หลายคนก็วิพากษ์วิจารณ์ Vitalik อย่างรวดเร็วสำหรับการพบกับ Putin ของเขาในครั้งนี้

Vitalik เองนั้นต้องการให้ Ethereum กลายเป็นคอมพิวเตอร์โลก เขาจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างชุมชนที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้การสนับสนุน ซึ่งเขาให้น้ำหนักไม่ต่างจากเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง

เขาเดินทางไปประชุม พบปะชุมชน crypto งาน hackathon และการประชุมทางธุรกิจกับ CEO และเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่เสมอ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดในโลก เขาพูดได้คล่องขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับเมื่อตอนเปิดตัว Ethereum ครั้งแรกในปี 2014

ภายในกลางปี 2017 นอกเหนือจาก เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เขายังเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ ปารีส เวียนนา สิงคโปร์ มอลตา ไทเป และ โอ๊คแลนด์ด้วย ปีนั้นเขาได้เดินทางไปต่างประเทศมากสุด 4-5 ครั้งต่อเดือน และ Ming ก็มักจะเดินทางไปกับเขาเพื่อเข้าร่วมประชุมด้วย

เขาได้เริ่มโฟกัสไปยังเรื่องของพลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อนเทคโนโลยี blockchain มากขึ้น มันเป็นที่ถกเถียงว่าพลังงานเหล่านี้มันมีความสะอาดแค่ไหน ประเทศจีนซึ่งเป็นฐานหลักของพลังงานที่ใช้ในการขุด Bitcoin ใช้พลังงานจากถ่านหินถึง 60% ตามรายงานของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในปี 2017

แม้ Satoshi Nakamoto ยังไม่เคยเปิดเผยตัวตน ทำให้สาวก Bitcoiners ไม่สามารถบูชาใครที่เป็นตัวบุคคลได้ แต่ผู้สร้าง Ethereum นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงแค่คนส่วนใหญ่จะรู้จัก Vitalik เพียงเท่านั้น แต่เขายังเป็นบุคคลสาธารณะอีกด้วย

Vitalik ทั้งเผยแพร่งานวิจัยของ Ethereum พูดในที่ประชุม โพสต์บน Reddit หรือคอยโต้ตอบในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทั้งเรื่องการขึ้นลงของราคา ether ความบ้าคลั่งของ ICO นั่นทำให้ Vitalik มีสถานะเปรียบเสมือนร็อคสตาร์ของโลก crypto

แต่ Vitalik เองก็รู้สึกเบื่อกับคำขอในการแนะนำการลงทุนใน ICO อย่างต่อเนื่องเช่นกัน เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน วันรุ่งขึ้นหลังจาก Bancor ระดมทุนได้ 153 ล้านดอลลาร์ เขาได้ทวีตว่าเขาจะไม่เป็นที่ปรึกษาสำหรับโครงการ ICO ในอนาคตอีกต่อไป ยกเว้น OmiseGo และ Kyber Network ซึ่งเขาได้ให้คำมั่นสัญญาไว้แล้ว

ผู้คนซื้อ ether เพื่อลงทุนใน ICO ซึ่งทำให้ราคายังคงสูงขึ้น และเมื่อราคาสูงขึ้น ผู้คนจำนวนมากขึ้นก็อยากทำ ICO มันเป็นวงจรที่อุบาทว์

ในเดือนมิถุนายน มูลค่าของ Bitcoin ลดลงต่ำกว่า 45% ของตลาดทั้งหมดเป็นครั้งแรก มูลค่าตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วของ Ethereum ทำให้เกิดการเก็งกำไร ซึ่งกำลังจะแซงหน้า Bitcoin ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่เรียกว่า ““the flippening”

เหล่าเว็บไซต์ชื่อดังที่ทุ่มเทให้การติดตามความก้าวหน้าของ Ethereum ส่วนแบ่งการตลาดของ Bitcoin ได้ถูกแย่งชิงจากเกือบ 90% ตอนต้นปี และกำลังลดลงเรื่อย ๆ สะท้อนให้เห็นถึงจำนวนเหรียญที่มีขนาดเล็กกว่ามีมูลค่าพุ่งสูงขึ้นมากเพียงใด

มูลค่าตลาดรวมของสกุลเงินดิจิทัลทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายน จาก 47 พันล้านดอลลาร์ในเดือนก่อนหน้า และ 18 พันล้านดอลลาร์เมื่อช่วงต้นปี

นั่นหมายความว่าตลาด crypto เพิ่มขึ้นสองเท่าในระยะเวลาเพียงแค่ 30 วันเท่านั้น และเพิ่มขึ้นมากกว่า 400% ในเวลาเพียง 5 เดือน

ในปี 2017 มีเหรียญเกือบ 1,000 เหรียญที่แตกต่างกันใน CoinMarketCap ซึ่งจัดอันดับ cryptocurrencies ตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด โดยมี 137 เหรียญที่มีมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

บริษัทที่จดทะเบียนในตลาด Nasdaq เช่น Dropbox , Norwegian Cruise Line และ Hasbro มีมูลค่าตลาดใกล้เคียงกับโทเค็นซอมบี้ ที่มีมากมาย เช่น FedoraCoin , PotCoin , SmileyCoin , Foldingcoin, Pepe Cash และ Einsteinium ซึ่งถูก list อยู่ในแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยน

มีแม้กระทั่งเหรียญพระเยซูซึ่งบันทึกเวลาการทำธุรกรรมระหว่างผู้ถือโทเค็นและบุตรของพระเจ้า มีแม้กระทั่ง TrumpCoin , PutinCoin , DentaCoin (“โซลูชั่น blockchain สำหรับอุตสาหกรรมทันตกรรมทั่วโลก”) และ โทเค็นที่ไร้ประโยชน์อีกมากมายเกิดขึ้น

ในไม่ช้าพื้นที่ crypto ก็ถูกโจมตีครั้งใหม่ เป็นคำแถลงของ ก.ล.ต. เกือบหนึ่งปีหลังจากการล่มสลายของ DAO หน่วยงานกำกับดูแลได้ตรวจสอบการขายและสรุปว่าโทเค็น DAO ถือเป็นหลักทรัพย์ นั่นหมายความว่าคนกลางในการขายอาจละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง

ก.ล.ต. สหรัฐฯ เริ่มมองว่า โทเค็นดิจิทัลถือได้ว่าเป็นสัญญาการลงทุน ที่มีผลกระทบเป็นอย่างมาก ซึ่งหมายความว่า startup ที่ขายเหรียญดิจิทัลให้ใครก็ตามอาจละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ

ก.ล.ต. กล่าวว่า ไม่สำคัญว่าการขายจะเกิดขึ้นด้วย cryptocurrencies ไม่ใช่ดอลลาร์ นอกจากนี้ยังไม่สนใจว่าเทคโนโลยีใดจะสนับสนุนหรือมีโค้ดคอมพิวเตอร์ที่ทำให้ฟังก์ชันบางอย่างเป็นไปโดยอัตโนมัติก็ตาม

โทเค็นดิจิทัลที่ขายต้องเป็นหลักทรัพย์ที่มีการลงทะเบียน ซึ่งค่าคอมมิชชันที่เกิดขึ้น อาจจะได้รับข้อยกเว้น แต่ท้ายที่สุด ก.ล.ต. ก็ออกเพียงแค่คำเตือนและตัดสินใจที่จะไม่ดำเนินการบังคับใด ๆ

ในขณะที่ ICO ยังคงดึงดูดเงินทุนหลายล้านดอลลาร์ คนทั้งโลกเริ่มหันมามอง แต่เหล่านักพัฒนาในมูลนิธิ Ethereum แทบจะไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย Ming ได้ของให้พนักงานของมูลนิธิงดเว้นจากการพูดคุยเกี่ยวกับราคา crypto

ทีมงานนักพัฒนาเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวสเตจที่สามหลังจากการเปิดตัวของ Ethereum ที่เรียกว่า Metropolis ซึ่งสองสเตจแรกที่ผ่านมาคือ Frontier และ Homestead

Metropolis จะประกอบด้วยการอัปเดตแยกกันสองครั้งผ่านทาง hard fork อันแรกชื่อว่า Byzantium ซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 16 ตุลาคม และส่วนที่สองคือ Constantinople ที่จะถูกนำมาใช้ในภายหลัง

ซึ่ง Byzantium fork นั้นจะเป็นการปูทางไปสู่การลดรางวัลของผู้ขุดลง รวมถึงความสามารถของ Ethereum ในฟังกชันที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวที่เรียกว่า Zero-knowledge proofs ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้พิสูจน์ว่าพวกเขามีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดโดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตนเอง

ตัวอย่างของ Zero-knowldege proofs เช่น การเปิดโอกาสให้ผู้ยื่นขอจำนองสินทรัพย์พิสูจน์ตัวตนโดยไม่ต้องใช้บุคคลที่สาม ซึ่งพวกเขาสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดของผู้ให้กู้โดยไม่เปิดเผยสิ่งอื่นใดเกี่ยวกับบัญชีข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขาได้

ถือเป็นก้าวเล็ก ๆ ที่กำลังก้าวไปข้างหน้าและเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีที่จะมีในเครือข่ายของ Ethereum ซึ่ง Vitalik ได้ฉลองการอัปเดทครั้งใหญ่นี้ใน Waterloo ซึ่งเป็นเมืองของมหาวิทยาลัยเก่าของ Vitalik และถือโอกาสจัด Ethereum Hackathon อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกที่นั่นด้วย

ซึ่งต้องบอกว่า Byzantium fork นั้นไม่ใช่สิ่งเดียวที่จะเปลี่ยนเส้นทางเดินของ Ethereum ไปข้างหน้า แต่ยังรวมถึงงาน hackathon ในครั้งนี้ด้วย

Benny Giang เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ศูนย์บ่มเพาะซอฟต์แวร์ในแวนคูเวอร์ที่ชื่อ Axiom Zen พวกเขามุ่งเน้นไปที่การนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาสู่มวลชน

Benny เป็นหนึ่งในกลุ่มคนแรก ๆ ที่ได้ทดสอบแว่นตาอัจฉริยะ Google Glass และชุดหูฟังเสมือนจริง และเมื่อ cryptocurrencies กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนพูดถึงแต่ไม่ได้ใช้งานจริง ๆ พวกเขาจึงตัดสินใจลองใช้ดู

Roham Gharegozlou ผู้ก่อตั้ง Axiom Zen ได้นำทีมของพวกเขามารวมกันในงาน hackathon และให้พวกเขาคิดไอเดียเกี่ยวกับ blockchain มากกว่า 20 รายการในไวท์บอร์ด ซึ่งจากจุดนั้น บรรดาผู้ใช้เทคโนโลยีได้ออกไปคิดเกี่ยวกับแนวคิดที่ดีที่สุด และนักออกแบบก็ทำเช่นเดียวกัน

ในตอนท้ายของวันพวกเขาจัดกลุ่มใหม่ เหล่าผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีต่างตื่นเต้นกับการสร้างโทเค็นส่วนบุคคล กล่าวคือ โทเค็นที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นสกุลเงินดิจิทัล

เหล่าดีไซเนอร์ได้มีข้อสรุปที่สำคัญ คือ สิ่งที่พวกเขาทำต้องเกี่ยวข้องกับแมว แมวเป็นผู้ปกครองอินเทอร์เน็ตด้วยเหตุผลที่มันน่ารักและตลกมาก และที่สำคัญมันจะกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ต

ซึ่งรูปแบบที่ดีที่สุดก็คือ พวกเขาจะสร้างคอลเลกชั่นแมว และเรียกมันว่า CryptoKittes และรุ่นแรกจะถูกสร้างขึ้นที่ Ethereum Hackathon ใน Waterloo ต้องบอกว่าเบื้องหลังความคิดที่ดูเหมือนไร้สาระเหล่านี้ กำลังจะกลายเป็นนวัตกรรม blockchain ครั้งยิ่งใหญ่

แทนที่จะเชื่อมโยงรูปภาพกับโทเค็น ERC20 แบบปกติ ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับที่ใช้สำหรับการสร้างโทเค็นเพื่อทำ ICO Roham และทีมของเขาตัดสินใจสร้างมาตรฐานโทเค็น Ethereum ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ซึ่งสร้างขึ้นเป็นตัวแทนของ “สิ่งของ” แต่ละรายการ ไม่ใช่สกุลเงิน ซึ่งพวกมันจะเป็นเหรียญประเภทใหม่ทั้งหมด

Roham และ ทีมของเขาพูดคุยกันว่า คำที่เหมาะสมสำหรับสิ่งนี้คืออะไร และตัดสินใจจะใช้คำว่า “non-fungible tokens” หรือ NFT ซึ่งหมายความว่าแต่ละโทเค็นมีเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ แบบโทเค็น ether,bitcoin หรือ ERC20 ที่ขายใน ICO

นอกเหนือจากแมวดิจิทัลของสะสมแล้ว วิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ คือ โทเค็นภายใต้มาตรฐานใหม่ที่เรียกว่า ERC721 สามารถเชื่อมโยงกับสิ่งของที่หายากและมีมูลค่าสูงเช่น งานศิลปะ และ สินค้าฟุ่มเฟือย ของสะสมอื่น ๆ เช่น การ์ดเบสบอล และไอเทมที่ใช้และแลกเปลี่ยนภายในวีดีโอเกม เช่น อาวุธเสมือนจริง

Benny อยู่ที่นั่นเพื่อกระจายข่าว และเมื่อสิ้นสุดสามวันของการ hackathon เหล่าแฮ็กเกอร์ Ethereum เริ่มสนใจในการซื้อและขาย CryptoKitties เช่นเดียวกับที่พกวเขากำลังทำงานในโครงการของพวกเขา และ NFT นี่เองมันได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ครั้งสำคัญ ที่จะทำให้โลก crypto สั่นสะเทือนอีกครั้ง

–> อ่านตอนที่ 13 : The Infinite Machine (ตอนจบ)

ย้อนไปอ่านตั้งแต่ตอนแรก & Credit แหล่งข้อมูลบทความ

• Facebook
• Twitter
• Line