อีโก้, ความกลัว และผลประโยชน์ : กับจุดกำเนิดของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (A.I.)

ในเดือนกรกฎาคมปี 2015 Elon Musk ฉลองวันเกิดครบรอบ 44 ปี ด้วยงานปาร์ตี้ที่จัดขึ้นสามวันสามคืน ซึ่งภรรยาของเขาจัดให้ในรีสอร์ทแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย บรรยากาศเต็มไปด้วยครอบครัวและเพื่อนสนิท โดยมีเด็ก ๆ วิ่งเล่นไปทั่วรีสอร์ทสุดหรูแห่งนี้

คืนแรกหลังอาหารมื้อค่ำ Elon Musk และ Larry Page นั่งคุยกันใกล้กองไฟริมสระว่ายน้ำ หัวข้อสำคัญของการสนทนาในครั้งนั้นคือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (A.I.)

ต้องบอกว่าทั้งสองเป็นเพื่อนกันมานานกว่าทศวรรษซึ่ง Page ถือเป็นหนึ่งในคนกลุ่มน้อยมาก ๆ ที่สนิทสนมกับ Musk แบบมองตาก็รู้ใจ

Musk เคยพูดติดตลกว่าเขามักจะแอบไปนอนบนโซฟาของ Larry Page หลังจากที่ได้เล่นวีดีเกมทั้งคืน

แต่บรรยากาศในคืนนั้นมันต่างไป เพราะเต็มไปด้วยความตึงเครียด เจ้าพ่อแห่งโลกเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลต่อโลกกำลังถกเถียงกันว่าปัญญาประดิษฐ์จะช่วยยกระดับมนุษยชาติหรือจะทำลายล้างพวกเรากันแน่?

การสนทนาที่ดำเนินไปจนถึงเวลาดึกดื่นยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนมากกว่า 30 คนที่มาร่วมงานต่างเข้ามาล้อมวงฟังด้วยความตั้งใจ

Larry Page ที่มีปัญหาในเรื่องเส้นเสียงมานานกว่าทศวรรษ พูดกระซิบบอกถึงวิสัยทัศน์ของเขาเกี่ยวกับยุคทองของดิจิทัลที่มนุษย์จะผสานเข้ากับเครื่องจักรปัญญาประดิษฐ์และในวันหนึ่งจะเกิดรูปแบบของปัญญาที่หลากหลายแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงทรัพยากร

Elon Musk ได้โต้แย้งว่าหากสิ่งนั้นเกิดขึ้น มนุษยชาติจะถึงคราวล่มสลาย เครื่องจักรจะทำลายล้างมนุษย์อย่างแน่นอน

ด้วยความผิดหวังในตัวเพื่อน Page ยืนยันว่าควรที่จะสร้างโลกยูโทเปียตามที่เขาคาดการณ์ไว้ ซึ่งท้ายที่สุดในคืนนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มสั่นคลอน

Page ได้เรียก Elon Musk ว่า “พวกสายพันธุ์นิยม (specieist)” ซึ่งคือพวกที่ให้ความสำคัญกับมนุษย์มากกว่าสิ่งมีชีวิตดิจิทัลในอนาคต

Elon Musk ได้กล่าวว่า คำดูถูกนั้นเป็น “ฟางเส้นสุดท้าย” ของความสัมพันธ์ระหว่างเขาและ Page

หลายคนที่ได้ยินต่างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็อดขำกับมันไม่ได้ พวกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่อีกหนึ่งการโต้เถียงทางวิชาการแบบที่มักจะเกิดขึ้นในงานปาร์ตี้ของพวกเนิร์ด ๆ ใน Silicon Valley

แต่แปดปีต่อมา บทสนทนาอันดุเดือดของพวกเขาทั้งสองเหมือนจะกลายเป็นเรื่องจริง คำถามที่ว่าปัญญาประดิษฐ์จะยกระดับให้กับโลกหรือทำลายล้างโลกเรากันแน่ ได้กลายมาเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องในหมู่นักเทคโนโลยีชั้นนำใน Silicon Valley

เหล่าผู้ใช้งาน ChatBot นักวิชาการ บรรดานักการเมืองที่ได้กลิ่นของผลประโยชน์อันมหาศาล และหน่วยงานกำกับดูแล ต่างถกเถียงกันอย่างถึงพริกถึงขิงว่าเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ควรจะถูกควบคุมหรือปล่อยให้มันดำเนินไป

การถกเถียงในครั้งนี้ทำให้เหล่ามหาเศรษฐีระดับโลกบางคนต้องปะทะคารมกัน อาทิเช่น Elon Musk , Larry Page , Mark Zuckerberg แห่ง Meta , นักลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่าง Peter Thiel, Satya Nadella จาก Microsoft และ Sam Altman จาก OpenAI ทุกคนต่างต่อสู้เพื่อแย่งชิงขุมทรัพย์ทางธุรกิจอันมหาศาลนี้

ความสำเร็จของ OpenAI กับ ChatGPT แสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่ก้าวล้ำหน้าได้อย่างรวดเร็ว และนั่นทำให้บริษัทอื่น ๆ ต้องเร่งเครื่องเพื่อตามให้ทัน

ในปี 2023 การแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์ได้เข้าสู่ยุคใหม่ มหาเศรษฐีระดับโลกต่างทุ่มเงินมหาศาลเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีนี้ หวังที่จะได้เปรียบคู่แข่งและเข้าครอบครองส่วนแบ่งการตลาดที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google , Microsoft , Amazon และ Meta ต่างก็มีทีมวิจัยปัญญาประดิษฐ์ที่แข็งแกร่ง พวกเขากำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น เครื่องจักร AI ที่สามารถคิดได้อย่างอิสระ เข้าใจภาษามนุษย์ และควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างอิสระ

นอกจากนี้ ยังมีบริษัทสตาร์ทอัพจำนวนมากที่เข้ามาแข่งขันในตลาดนี้เช่นกัน พวกเขาได้รับเงินทุนสนับสนุนจากนักลงทุนชั้นนำ และกำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ปัญญาประดิษฐ์สำหรับรถยนต์ไร้คนขับ ปัญญาประดิษฐ์สำหรับการรักษาโรค และปัญญาประดิษฐ์สำหรับการศึกษา

การแข่งขันด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และยังไม่ชัดเจนว่าบริษัทใดจะได้เปรียบในระยะยาว สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงความเสี่ยงของเทคโนโลยีนี้ และหาวิธีควบคุมเทคโนโลยีนี้อย่างปลอดภัย

ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งคือความเป็นไปได้ที่ปัญญาประดิษฐ์จะกลายเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ

หากปัญญาประดิษฐ์พัฒนาจนมีสติปัญญาและความสามารถเทียบเท่ามนุษย์หรือเหนือกว่า มันจะสร้างภัยอันตรายต่อมวลมนุษยชาติได้ เช่น พวกมันอาจใช้อาวุธเพื่อโจมตีมนุษย์ หรืออาจใช้เทคโนโลยีควบคุมจิตใจเพื่อล้างสมองมนุษย์

เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญญาประดิษฐ์กลายเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ จำเป็นต้องมีการควบคุมและกำกับดูแลเทคโนโลยีนี้อย่างเข้มงวด รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลจำเป็นต้องกำหนดกฎระเบียบและแนวทางปฏิบัติสำหรับการพัฒนาและการใช้ปัญญาประดิษฐ์

นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญคือต้องพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ให้มีจริยธรรม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

เพราะปัญญาประดิษฐ์มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงโลกไปอย่างสิ้นเชิง มันสามารถช่วยให้เราแก้ปัญหาที่มีความซับซ้อน เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความยากจน และโรคภัยไข้เจ็บ

แต่ปัญญาประดิษฐ์มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน จำเป็นต้องมีการศึกษาและถกเถียงอย่างรอบคอบเกี่ยวกับอนาคตของปัญญาประดิษฐ์ เพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาก็คือบทบาทของมนุษย์ในยุคปัญญาประดิษฐ์

หากปัญญาประดิษฐ์พัฒนาจนมีสติปัญญาและความสามารถเทียบเท่าหรือเหนือกว่า นั่นก็จะทำให้มนุษย์อาจสูญเสียการควบคุมโลกให้กับเครื่องจักร

บางคนเชื่อว่ามนุษย์ควรพยายามควบคุมปัญญาประดิษฐ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เครื่องจักรจะควบคุมมนุษย์

แต่บางคนก็เชื่อว่ามนุษย์ควรร่วมมือกับปัญญาประดิษฐ์อย่างเท่าเทียมกัน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาโลกที่ดีขึ้น

อีกประเด็นที่สำคัญที่ต้องพิจารณาคือความเท่าเทียมทางเทคโนโลยี

ปัญญาประดิษฐ์มีศักยภาพที่จะสร้างความแตกต่างทางเศรษฐกิจและสังคมที่รุนแรง หากเทคโนโลยีนี้ถูกควบคุมโดยกลุ่มคนหรือประเทศเพียงไม่กี่กลุ่ม

สิ่งสำคัญคือต้องพัฒนาปัญญาประดิษฐ์อย่างทั่วถึง เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้และได้รับประโยชน์จากมัน

อนาคตของปัญญาประดิษฐ์นั้นยังไม่แน่นอน

เทคโนโลยีนี้อาจเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการพัฒนาโลก แต่ก็มีศักยภาพที่จะสร้างอันตรายเช่นกัน

จำเป็นต้องมีการศึกษาและถกเถียงอย่างรอบคอบเกี่ยวกับอนาคตของปัญญาประดิษฐ์ เพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ

บทสรุป

การแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และยังไม่ชัดเจนว่าบริษัทใดจะได้เปรียบในระยะยาว ยังมีคำถามที่ค้างคาใจเช่น เรื่องความเท่าเทียม ความสามารถหรือศักยภาพที่แท้จริงของมัน หรือการถูกควบคุมโดยกลุ่มคนเพียงบางกลุ่ม

คำถามเหล่านี้ยังคาใจพวกเรามาเป็นเวลานาน และยังไม่ชัดเจนว่าจะมีคำตอบที่ชัดเจนเมื่อใด

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจน

อนาคตของปัญญาประดิษฐ์สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของมนุษย์ในตอนนี้ ที่ต้องตัดสินใจว่าจะใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อสร้างประโยชน์หรือเพื่อสร้างความเสียหาย มนุษย์ต้องตัดสินใจว่าโลกในอนาคตจะเป็นโลกที่มนุษย์และเครื่องจักรอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข หรือโลกที่มนุษย์ถูกควบคุมโดยเครื่องจักร

อนาคตของปัญญาประดิษฐ์อยู่ในมือของมนุษย์

การตัดสินใจของมนุษย์ในวันนี้ จะกำหนดโลกในอนาคต

References :
https://www.nytimes.com/2023/12/03/technology/ai-openai-musk-page-altman.html
https://www.businessinsider.com/larry-page-elon-musk-specieist-ai-dangers-2023-12
https://fortune.com/2023/09/12/elon-musk-larry-page-friendship-over-ai/


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube