สรุปเนื้อหา เมื่อ BYD ยานยนต์ไฟฟ้าจากจีนกำลังลุกขึ้นมาท้าทายอำนาจผู้บุกเบิกอย่าง Tesla

เรียกว่าสอดรับกับข่าวลดสะบั้นหั่นแหลกอีกครั้งของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนอย่าง BYD ที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนชื่อดัง Warren Buffett ที่สถานการณ์ในตอนนี้ได้แซงหน้า Tesla ขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลกตั้งแต่ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2023

BYD ก่อตั้งโดย Wang Chuanfu เริ่มต้นจากการผลิตแบตเตอรี่สำหรับโทรศัพท์มือถือในช่วงทศวรรษ 1990 ต่อมาในปี 2003 บริษัทได้ปรับเปลี่ยนมาสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ และปัจจุบันได้กลายเป็นแบรนด์รถยนต์อันดับหนึ่งในประเทศจีน รวมถึงเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ขณะนี้ BYD กำลังขยายธุรกิจอย่างรุกในตลาดโลก

Elon Musk ได้กล่าวในการประชุมรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ของ Tesla ว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากจีนจะ “ทำลายล้างบริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่ในโลก” หากไม่มีการแทรกแซงจากหน่วยงานกำกับดูแล โดย BYD มีเป้าหมายที่จะเข้าสู่ตลาดอเมริกาเหนือ แต่ก็ต้องเผชิญกับการต่อต้านจากรัฐบาล แล้ว BYD จะสามารถรักษาการเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ต่อไปได้หรือไม่ และอะไรคือก้าวต่อไปของยักษ์ใหญ่ในวงการยานยนต์ไฟฟ้ารายนี้

Highlights

🚗 BYD กำลังแซงหน้า Tesla ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีน

🚀 การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ BYD ในช่วงระยะเวลาอันสั้น

💰 การลงทุนของ Warren Buffett ใน BYD และผลกระทบที่เกิดขึ้น

💲 กลยุทธ์การตั้งราคาที่แข่งขันได้ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จของ BYD

🌍 การมุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่และการขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกของ BYD

🌟 ศักยภาพของ BYD ในการคุกคามแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก

Key Insights

💻 BYD ก่อนปี 2019 แทบจะมองไม่เห็นอนาคตเลยว่าจะกลายมาเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลก จุดเปลี่ยนคือการได้นักออกแบบจากเยอรมันมาช่วยเหลือ และในปี 2022 บริษัทก็เริ่มหยุดการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปและมุ่งหน้าสู่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว

🚗 Warren Buffett ได้เข้าซื้อหุ้น 10% ของ BYD ในปี 2008 และใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีผลักดันตัวเองก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ Tesla ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีน โดยมียอดจดทะเบียนรถใหม่และตัวเลขการผลิตที่สูงกว่า Tesla ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ไตรมาสที่สี่ของปี 2023

💡สงครามราคาที่เรียกได้ว่าแดงเดือดในจีนทำให้ Tesla ต้องหั่นราคาสู้ถึง 20-30% ทำให้สามารถที่จะคงยอดขายไม่ให้เสียหายไปมากกว่านี้

🔋 ความสำเร็จของ BYD มาจากการโฟกัสไปที่ความสามารถในการแข่งขันด้านราคา ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ และการขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์สู่ตลาดโลก

🌍 การปรับเปลี่ยนของบริษัทสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่และรถยนต์ไฮบริดปลั๊กอิน รวมถึงการลงทุนในแบรนด์ย่อยระดับหรู สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างนวัตกรรมและความหลากหลายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD

💥 การเติบโตอย่างรวดเร็วและการครองตลาดของ BYD ในประเทศจีน ประกอบกับแผนการขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกอย่างทะเยอทะยาน ถือเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อผู้ผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิมและแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับท็อปของตลาดอย่าง Tesla

🌎 แม้จะเผชิญความท้าทาย เช่น ภาษีนำเข้าและอุปสรรคทางการค้าในตลาดสำคัญอย่างสหรัฐอเมริกา แต่ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ความสามารถในการผลิต และกลยุทธ์การตั้งราคาที่แข่งขันได้ของ BYD ทำให้บริษัทมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในตลาดระดับโลกหรือแม้กระทั่งในอเมริกาเหนือเองก็ตาม

🚀 การเติบโตของผู้ผลิตรถยนต์จากจีน นำโดย BYD เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก โดยบริษัทจากจีนมีศักยภาพที่จะ disrupt ตลาดแบบดั้งเดิมและกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมขนส่งที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแบบเบ็ดเสร็จได้ในอนาคต

🌟 ในขณะที่จีนกำลังสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้เล่นสำคัญในภาคยานยนต์ ผลกระทบของผู้ผลิตรถยนต์จากจีนอย่าง BYD ต่อตลาดโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ซึ่งจะสร้างทั้งโอกาสและความท้าทายให้กับผู้เล่นที่มีชื่อเสียงดั้งเดิมในอุตสาหกรรมนี้

Opinion

เรียกได้ว่าแบรนด์รถยนต์ทั่วโลกต่างกำลังอยู่ในภาวะหนาว ๆ ร้อน ๆ กันเลยทีเดียวนะครับกับการพุ่งทะยานของแบรนด์รถยนต์จากจีนโดยเฉพาะหัวหอกอย่าง BYD

ซึ่งก็ต้องบอกว่าพวกเขาใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีเพียงเท่านั้น ที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตรถยนต์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลกได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มันเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจในการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศให้ก้าวขึ้นสู่ระดับโลก ซึ่งล้วนแล้วแต่พัฒนามาด้วยรูปแบบแพทเทิร์นเดียวกันเด๊ะ ๆ

ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน ที่พยายามดึงแบรนด์ใหญ่ ๆ อย่าง Apple หรือ Samsung เข้าไปผลิตในประเทศของพวกเขาแล้วคอยเรียนรู้ สร้างซัพพลายเชน และเริ่ม R&D ผลิตภัณฑ์ของตนเองขึ้นมาอย่าง Huawei หรือ Xiaomi หรืออีกหลากหลายอุตสาหกรรมก็จะใช้รูปแบบเดียวกันนี้เป็นกลยุทธ์หลัก

ซึ่งจะเห็นได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าก็เฉกเช่นเดียวกัน การได้ Tesla เข้าไปสร้างฐานการผลิตในจีนที่ GigaFactory ในเมืองเซี่ยงไฮ้นั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์จากจีน เพราะพวกเขาได้เรียนรู้ถึงการพัฒนารถระดับท็อป ซัพพลายเชนในระบบทั้งหมดก็ต้องยกระดับเพื่อสร้างส่วนประกอบต่างๆ ให้ทัดเทียมมาตรฐานที่ Tesla ต้องการ

สุดท้ายด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐที่ผสานร่วมกันกับเอกชนอย่างได้ลงตัว เราก็ได้เห็นแบรนด์ของพวกเขาอย่าง BYD ที่ตอนนี้กำลังขึ้นมาเฉิดฉายในเวทีโลก และแซงหน้าผู้บุกเบิกวงการอย่าง Tesla ได้สำเร็จไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเองครับผม

สรุปเนื้อหา ภาวะผู้นำในโลกที่แตกแยก โดย Morris Chang แห่ง TSMC และ Joe Tsai แห่ง Alibaba Group

เป็นบทสัมภาษณ์สองเทพแห่งวงการเทคโนโลยีที่น่าสนใจจากช่อง Asia Society ทั้ง Dr. Morris Chang ผู้ก่อตั้ง Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) และ Joe Tsai ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานของ Alibaba Group สองสุดยอดผู้นำธุรกิจและนักนวัตกรรมระดับโลก

ทั้งสองได้มาแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับภาวะผู้นำ การศึกษา และนวัตกรรมสำหรับโลกที่กำลังเผชิญความตึงเครียดจากปัญหาทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจโลกที่กำลังแตกแยก และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสังคมอย่างรวดเร็ว โดยมี Ida Liu (Global Head of Citi Private Bank) เป็นผู้ดำเนินรายการ

Highlights

🌟 Dr. Morris Chang เล่าถึงวิสัยทัศน์เบื้องหลังการก่อตั้ง TSMC ในไต้หวัน และโมเดลธุรกิจที่พวกเขานำมาใช้

💡 Joe Tsai ได้แบ่งปันเส้นทางชีวิตจากการทำงานในวงการ private equity สู่การร่วมก่อตั้ง Alibaba กับ Jack Ma โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจสำคัญ ๆ ของบริษัท

🔐 เรื่องราวความแตกแยกระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน โดยเน้นถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

🎓 ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับความสำคัญของการศึกษาในเอเชียและสหรัฐอเมริกา

🌐 Dr. Chang พูดถึงความท้าทายและความก้าวหน้าในเทคโนโลยีชิป โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการหาทางออกสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงาน

🌟 Joe Tsai ได้แบ่งปันคุณลักษณะที่สำคัญของผู้นำ: ในด้านสติปัญญา ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) และความอ่อนน้อมถ่อมตัว ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ

🌍 มุมมองที่มองโลกในแง่ดีต่ออนาคต โดยเน้นย้ำถึงความเชื่อที่ว่าผู้คนทั่วโลกต่างต้องการสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ท่ามกลางปัญหาความท้าทายทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน

Key Insights

🌏 Dr. Morris Chang และ Joe Tsai ได้พูดคุยเกี่ยวกับการทะเลาะกันระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน โดยแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นโดยเฉพาะในด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

🚀 Dr. Chang ได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิวัฒนาการของเทคโนโลยีในการผลิตชิป โดยโฟกัสไปที่การพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ล้ำหน้ากว่าคู่แข่งและปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มของอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป

🤝 ผู้นำทั้งสองท่านเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสื่อสาร และการสร้างความไว้วางใจระหว่างประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งโดยเฉพาะปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความซับซ้อนอย่างที่เราได้เห็นกันในทุกวันนี้

🧠 Dr. Chang เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างฐานความรู้ที่แข็งแกร่งในหลากหลายสาขา และการพัฒนาในเรื่องของวิสัยทัศน์ ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่จำเป็นสำหรับการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ

💡 Joe Tsai เน้นถึงคุณค่าของสติปัญญา ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) และความอ่อนน้อมถ่อมตัวในการเป็นผู้นำ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจ้างบุคลากรที่มีความสามารถ

🌟Joe Tsai ได้พูดคุยเกี่ยวกับการเข้ามาเป็นเจ้าของทีมกีฬาอย่างไม่คาดคิดกับ Brooklyn Nets โดยเน้นย้ำถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจของทีมกีฬาอาชีพในลีกสำคัญอย่าง NBA ของสหรัฐฯ

🎓 ทั้งสองท่านได้พูดถึงผลกระทบของการศึกษาต่อการพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถ โดย Dr. Chang ยอมรับถึงระบบโรงเรียนอาชีวศึกษาของไต้หวันในการสร้างแรงงานที่มีทักษะในภาคการผลิต ในขณะที่ Joe เน้นถึงประโยชน์ของการศึกษาระดับอุดมศึกษาของอเมริกาในการส่งเสริมนวัตกรรม

💻 Dr. Chang แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ TSMC โดยโฟกัสที่การพัฒนาชิปที่มีขนาดเล็กลงและประหยัดพลังงานมากขึ้น พร้อมทั้งยอมรับถึงข้อจำกัดของกฎของมัวร์ (Moore’s Law) ในการผลิตชิป

🌟 ผู้นำทั้งสองท่านได้พูดถึงการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคต โดยเชื่อมั่นในเรื่องที่มนุษย์ทุกคนต้องการสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันทั่วโลก แม้จะมีความขัดแย้งกันก็ตามที

Opinion

ส่วนตัวสำหรับสิ่งที่น่าสนใจก็คือเรื่องการศึกษาโดยเฉพาะในไต้หวันที่ สร้างระบบโรงเรียนอาชีวะที่มีคุณภาพ และสุดท้ายก็สามารถสร้างแรงงานที่มีคุณภาพสูงป้อนสู่ภาคการผลิตในสินค้านวัตกรรมของประเทศของพวกเขาได้

ตรงนี้จะเห็นได้ว่ายิ่งยุคหลังๆ คนรุ่นใหม่เริ่มที่จะเรียนในสายอาชีพน้อยลงไปมาก ส่วนใหญ่เข้าสู่การศึกษาแบบสามัญแทบจะทั้งสิ้น ทำให้ขาดแรงงานผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งผมว่าเป็นปัญหาหนึ่งของโครงสร้างการศึกษาของประเทศเราที่น่าสนใจ ที่ต้องมีการปรับให้คนหันมาเรียนฝั่งสายอาชีพกันมากกว่านี้

ซึ่งมันดูเหมือนว่าประเทศเราในตอนนี้ กำลังกลายเป็นประเทศที่มีแต่คนคิด แต่คนลงแรงทำจริง ปฏิบัติจริงมันได้เริ่มทยอยหายสาปสูญไปจากระบบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเองครับผม

สรุปเนื้อหา AI Deception เหล่าบริษัทเทคโนโลยีกำลังหลอกลวงพวกเราอย่างไร

AI คำ Buzzword ที่แทบจะมีอยู่ทุกหนแห่ง มันเป็นอย่างที่โฆษณาไว้จริงหรือไม่? หรือเป็นแค่การหลอกลวงครั้งใหญ่? ในตอนนี้เราจะเห็นว่าแม้ AI จะมีประโยชน์บางอย่าง แต่ด้วยกระแสความนิยมของมันก็ส่งผลเสียต่อวงการเทคโนโลยีเช่นเดียวกัน

เป็นคลิปวีดีโอที่น่าสนใจจากช่อง ColdFusion นะครับที่ได้พูดถึงวิธีที่บริษัทเทคโนโลยีกำลังหลอกลวงผู้บริโภคด้วยคำโกหกคุยโวเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI ตั้งแต่การโฆษณาเว่อร์เกินจริงไปจนถึงการออกมาบอกทุกวี่ทุกวันว่ามันจะมาแย่งงานมนุษย์ไปจนหมดสิ้น

Highlights

🤖 ประวัติศาสตร์การหลอกลวงด้วย AI: จาก Mechanical Turk ไปจนถึงระบบชำระเงินของ Amazon

🌐 การเติบโตของ AI washing : บริษัทต่างๆ หลอกลวงนักลงทุนด้วยการสร้างกระแส AI ปลอม ๆ ขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน

💸 ผลกระทบของกระแส AI: ฟองสบู่ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงผลิตภัณฑ์ AI ที่ล้มเหลว

📉 ผลกระทบของ AI ต่อการโยกย้ายงานและการเลิกจ้างครั้งใหญ่

🚀 วงจรของ Gartner hype cycle ซึ่งมนุษย์มีแนวโน้มที่จะตื่นเต้นเกินไปเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่จะปฏิวัติวงการรูปแบบใหม่ ๆ

💡 การสร้างสมดุลโดยตระหนักถึงศักยภาพของ AI ไปพร้อมๆ กับคำนึงถึงข้อจำกัดของมัน

🌟 การเรียกร้องให้มีแนวทางที่ต้องเปิดโอกาสให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ เพื่อให้สามารถนำ AI ไปใช้เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า

Key Insights

🌐 ในปี 1770 Wolfgang Von Kempelen นักประดิษฐ์ชาวฮังการีได้เปิดตัวเครื่องเล่นหมากรุกอัตโนมัติที่เรียกว่า The Mechanical Turk เขาได้ตระเวนสาธิตไปทั่วยุโรป สิ่งประดิษฐ์ที่ใช้ในการเล่นหมากรุกนี้ชนะการแข่งขันส่วนใหญ่กับผู้เล่นหมากรุกมนุษย์จริงๆ และมีการกล่าวกันว่ามันสามารถเอาชนะผู้เล่นอย่าง Napoleon และ Benjamin Franklin ได้ด้วย และมันก็ดังกระฉูดจนกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในยุคนั้น

อย่างไรก็ตาม ความจริงแล้วมันเป็นเพียงคนที่ซ่อนอยู่ใต้โต๊ะคอยควบคุมเครื่องอย่างลับๆ ซึ่งกล่าวอีกนัยหนึ่งคือมันเป็นการแหกตาครั้งใหญ่นั่นเอง

🤖 250 ปีต่อมาในปี 2016 Amazon ได้ทำเรื่องคล้ายๆ กัน ระบบชำระเงินของพวกเขาที่เรียกว่า Just Walk Out อนุญาตให้ลูกค้าเพียงแค่หยิบสินค้าจากร้านและเดินออกไปได้เลย ภายใต้ระบบนี้ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องสแกนสินค้าด้วยตนเองที่จุดชำระเงิน การทำธุรกรรมและโลจิสติกส์ถูกจัดการโดยอัตโนมัติเบื้องหลังด้วย AI ซึ่งเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างระบบ Computer Vision, Sensor Fusion และ Deep Learning

ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น เทคโนโลยีที่เรียกว่า AI ของ Amazon นั้นจริงๆ แล้วขับเคลื่อนโดยคนกว่าพันคนในอินเดียที่คอยดูและติด tag วิดีโอเพื่อให้แน่ใจว่าระบบการชำระเงินจะทำงานได้อย่างถูกต้อง การที่มนุษย์ติด tag ข้อมูลนั้นเป็นวิธีที่โมเดล AI มักจะได้รับการฝึกฝนในตอนแรกเช่นเดียวกัน ซึ่งก็ไม่มีอะไรผิด แต่ประเด็นคือการโฆษณาที่เว่อร์เกินจริงนั้นทำให้ทุกคนเข้าใจผิด แม้กระทั่งในปี 2022 ชาวอินเดียหนึ่งพันคนเหล่านี้ยังคงตรวจสอบการทำธุรกรรมถึง 70% ใน ร้าน Amazon Go 20 แห่ง ร้านขายของชำ Amazon Fresh 40 แห่ง และร้าน Whole Foods อีก 2 แห่ง

💸 บริษัทที่เข้าร่วมใน “AI washing” โฆษณาแบบโม้เกินจริงเกี่ยวกับความสามารถของผลิตภัณฑ์ AI ของตนเพื่อดึงดูดนักลงทุนและผู้บริโภค ซึ่งในที่สุดนำไปสู่ความคาดหวัง และอาจทำให้เกิดการล่มสลายของตลาดได้ในท้ายที่สุด

🧠 Gartner Hype Cycle สำหรับ AI ซึ่งดูเหมือนว่าเรากำลังอยู่ในช่วงของความคาดหวังที่เกินจริงของเทคโนโลยี AI และกำลังค่อยๆ เข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความผิดหวัง ซึ่งหมายความว่าจะมีเรื่องน่าผิดหวังมากมายของเทคโนโลยีนี้รออยู่ข้างหน้า การประยุกต์ใช้ AI ที่แท้จริงจะเกิดขึ้นหลังจากที่กระแสเห่อของมันจางหายไป

🤯 การใช้เทคโนโลยี AI ในทางที่ผิดส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นอันตราย เช่น AI chatbot ที่ให้ข้อมูลไม่ตรงประเด็น หรือสร้างข้อมูลเท็จและส่งไปยังหน่วยงานของรัฐ

👥 แม้ว่า AI จะมีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของมนุษย์ แต่ก็มีความกังวลว่าอาจนำไปสู่การสูญเสียงานครั้งใหญ่ของมนุษย์ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม เช่น การบริการลูกค้าและการขาย เนื่องจากบริษัทต่างๆ ให้ความสำคัญกับการใช้ระบบอัตโนมัติมากกว่าแรงงานมนุษย์

⚠️ แม้จะมีกระแสความนิยมในเทคโนโลยี AI แต่ก็มีการฉุกคิดมากขึ้นว่าคำคุยโม้โอ้อ้วดเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI ยังไม่เป็นจริงทั้งหมด ทำให้เกิดแนวทางที่ระมัดระวังมากขึ้นสำหรับการนำไปใช้และผลกระทบต่อสังคม

🤔 เนื้อหาในวิดีโอนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการประเมินบทบาทของ AI ในเรื่องของแรงงาน และผลกระทบทางจริยธรรมของการแทนที่คนงานด้วย AI โดยเรียกร้องให้มีแนวทางที่สมดุลและโปร่งใสมากขึ้นในการนำ AI มาใช้

🔄 เทคโนโลยี AI กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่การตระหนักถึงความเสี่ยงและข้อจำกัดที่อาจเกิดขึ้นของ AI ในขณะเดียวกันก็ยอมรับศักยภาพของมันในการเสริมพลังความสามารถให้กับมนุษย์และช่วยในการขับเคลื่อนนวัตกรรมในอนาคต

Opinion

ก็ต้องบอกว่าเทคโนโลยี AI ที่เราได้เห็นในปัจจุบันนี้คงไม่ได้เป็นเรื่องหลอกลวงทั้งหมด แต่มุมมองของเนื้อหาในวีดีโอในบางเรื่องมันก็น่าคิด โดยเฉพาะเรื่องของ AI Washing ซึ่งผมว่าแม้ในประเทศไทยก็คงเจอ เอะอะอะไรก็ AI ไว้ก่อนซึ่งบางครั้งคนที่นำไปใช้ก็ไม่ได้รู้จริงเกี่ยวกับเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ดีนัก

แม้กระทั่งบริษัทยักษ์ใหญ่ เราเห็นพวกเขาหน้าแตกมาหลายครั้ง ตัวอย่างเช่น Google เอง ที่พยายามเข็นผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่พร้อมออกมา แต่ดันโม้คุณสมบัติซะเว่อร์เกินจริง จนในที่สุดก็ถูกสื่อใหญ่แฉมาก่อนหน้านี้แล้ว

เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่าบริษัทเทคโนโลยีรายเล็กรายใหญ่ ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของกระแส AI นี้ ซึ่งผมคิดว่ามันก็เป็นทั้งโลก เพราะมันดึงดูดความ Wow หรือสามาถเรียกเงินจากนักลงทุน หรือผู้บริหารในองค์กรได้จริง ที่กลัวการตกเทรนด์ในการเกาะไปกับกระแสของเทคโนโลยีนี้นั่นเองครับผม

สรุปเนื้อหา THE MINDSET OF A WINNER ทัศนคติสู่การเป็นแชมป์โดย Kobe Bryant

“หากคุณต้องการเป็นผู้ชนะ มาเล่นกับผม หากคุณต้องการอันดับสอง ไสหัวไปที่อื่นเถอะ” – Kobe Bryant

เป็นอีกหนึ่งคลิปวีดีโอที่ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียวจากช่อง Motiversity ที่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับ Kobe Bryant เกี่ยวกับทัศนคติของการเป็นแชมป์ เป็นที่หนึ่งเพียงเท่านั้น

โดย Bryant เน้นย้ำถึงความสำคัญของความทุ่มเท การทำงานหนัก และการเอาชนะอุปสรรคเพื่อให้ประสบความสำเร็จทั้งในวงการบาสเกตบอลและในชีวิต เขาพูดถึงทัศนคติของผู้ชนะ ความสำคัญของวินัยในตนเอง และความจำเป็นที่ต้องท้าทายตัวเองอย่างต่อเนื่องเพื่อไปสู่ความเป็นเลิศในระดับที่สูงขึ้น

Highlights

🏀 Kobe Bryant เน้นย้ำถึงความสำคัญของความทุ่มเทและการทำงานหนักเพื่อให้ประสบความสำเร็จในวงการบาสเกตบอล

💪 Bryant พูดถึงความสำคัญของการรู้จักตนเองและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเอาชนะจุดอ่อน

📚 Bryant พูดถึงคนระดับท็อปอย่าง Michael Jordan , Magic Johnson ที่ทำสิ่งที่เหลือเชื่อได้ และจะทำอย่างไรที่เขาจะก้าวไปถึงจุด ๆ นั้นได้

🧠 Bryant ได้แบ่งปันทัศนคติเรื่องความเข้มแข็งทางด้านจิตใจและการมุ่งเน้นไปที่เกมการแข่งขัน โดยได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์อย่าง Gladiator

🤝 Bryant เน้นย้ำถึงการเสียสละและความมุ่งมั่นที่จำเป็นต่อการสร้างความเป็นเลิศในวงการบาสเกตบอล

🏆 Bryant อธิบายกระบวนการตัดสินใจและวิธีในการลงทุนทั้งแรงและเวลาให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

🏋️‍♂️ Bryant เล่าถึงการเอาชนะอาการบาดเจ็บและอุปสรรคด้วยความมุ่งมั่น

👨‍👧‍👦 Bryant สะท้อนถึงความสำคัญของการเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก ๆ

Key Insights

🏀 Kobe Bryant เน้นย้ำถึงความสำคัญของทัศนคติและความทุ่มเทในการประสบความสำเร็จ เขาชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่ต้องผลักดันตัวเองให้พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งและมุ่งมั่นสู่ความยิ่งใหญ่อย่างต่อเนื่อง

💪 Bryant เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานหนักและมีวินัยในการฝึกฝนทักษะ ความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละในการฝึกซ้อมและพัฒนาตนเอง แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความพยายามอย่างสม่ำเสมอในการบรรลุเป้าหมาย

📚 ตำนานบาสเกตบอลผู้นี้พูดถึงความสำคัญของการศึกษาเกมและทำความเข้าใจรายละเอียดต่าง ๆ การวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองทำให้ Bryant สามารถปรับเปลี่ยนการฝึกซ้อมและพัฒนาประสิทธิภาพการเล่นจริงในสนามได้

Bryant สะท้อนถึงการเสียสละและการตัดสินใจที่เขาทำเพื่อมุ่งสู่การเป็นแชมป์ รวมถึงการให้ความสำคัญกับอาชีพมากกว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวในบางครั้ง เขาเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการตัดสินใจที่ยากลำบากและการมุ่งเน้นที่เป้าหมายระยะยาว

🤝 Bryant แบ่งปันแนวทางการตัดสินใจในธุรกิจ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการวิจัย การประเมินอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น และการรายล้อมตัวเองด้วยบุคคลที่มีความหลงใหลและทุ่มเทให้กับสิ่ง ๆ นั้นจริง ๆ

💥 ไอคอนแห่งวงการ NBA พูดถึงความยืดหยุ่นและความมุ่งมั่นที่จำเป็นในการเอาชนะอุปสรรค เช่น การบาดเจ็บ ความเชื่อมั่นอย่างหนักแน่นของ Bryant ในความสามารถที่จะเอาชนะความท้าทายเป็นตัวอย่างอันทรงพลังของความอดทนและความเข้มแข็งทางด้านจิตใจ

🌟 ความมุ่งมั่นของ Bryant ในการเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก ๆ และการวางตัวเป็นแบบอย่างที่ดีแม้ในยามเผชิญกับความยากลำบาก แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของเขาต่อการเป็นตัวอย่างที่ดีทั้งในและนอกสนาม

Opinion

ต้องบอกว่าทั้งทัศนคติและปรัชญาการใช้ชีวิตของ Kobe Bryant ไม่เพียงแต่ช่วยให้เขาประสบความสำเร็จในฐานะนักกีฬาบาสเกตบอลระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในการพัฒนาตนเองและเอาชนะอุปสรรคในชีวิตด้วย

แนวคิดของ Bryant เน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีวินัย การทำงานหนัก และการมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศและต้องเป็นที่หนึ่งเท่านั้น ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในทุกด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน หรือการพัฒนาตนเอง

นอกจากนี้ ทัศนคติของเขาในการเผชิญหน้ากับความท้าทายและการเอาชนะอุปสรรคยังเป็นบทเรียนอันมีค่าสำหรับทุกคนที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากในชีวิต การยึดมั่นในเป้าหมายใหญ่ การเรียนรู้จากความผิดพลาด และการไม่ยอมแพ้แม้ในยามที่ดูเหมือนจะไม่มีทางออกเป็นคุณสมบัติที่ Bryant ได้แสดงให้เห็นตลอดอาชีพของเขา

ในท้ายที่สุด แนวคิดและปรัชญาของ Kobe Bryant จึงไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์สำหรับนักกีฬาเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่ต้องการประสบความสำเร็จและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชีวิตของตนเองและผู้อื่นอีกด้วยนั่นเองครับผม

สรุปเนื้อหา AI และอนาคตของเรา กับ Yuval Noah Harari และ Mustafa Suleyman

สื่อใหญ่อย่าง The Economist ได้นำ Yuval Noah Harari และ Mustafa Suleyman มาร่วมกันถกเถียงเกี่ยวกับการปฏิวัติทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่ที่สุดในยุคสมัยของมนุษย์เรา โดยมีการพูดคุยกันถึงผลกระทบของ AI ต่ออนาคตอันใกล้ วิธีการควบคุมเทคโนโลยีนี้ และความเป็นไปได้ที่ AI จะมีความเป็นอิสระในการตัดสินใจและมีสติปัญญาที่เหนือมนุษย์

Yuval Noah Harari นักประวัติศาสตร์ ผู้เขียนหนังสือขายดีระดับนานาชาติอย่าง Sapiens: A Brief History of Humankind และ Mustafa Suleyman ผู้ประกอบการ และผู้เขียนหนังสือชื่อดังอย่าง The Coming Wave : Technology, Power, and the Twenty-first Century’s Greatest Dilemma ได้ถกเถียงกันเกี่ยวกับความเสี่ยงและโอกาสของ AI โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการคิดหาแนวทางป้องกัน และการสร้างความร่วมมือกันในระดับโลกเพื่อกำหนดกฎระเบียบที่ชัดเจนเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้

Highlights

🤖 Mustafa คาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า โมเดล AI จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าพันเท่า และสามารถสร้างลำดับการกระทำได้ ไม่ใช่แค่สร้างข้อความ

👀 Yuval เตือนว่าการพัฒนา AI ที่มีความเป็นอิสระและมีความสามารถในการตัดสินใจด้วยตนเอง จะเป็นจุดสิ้นสุดของประวัติศาสตร์ที่มนุษย์เป็นผู้ครอบงำ

🔒 Mustafa เน้นย้ำถึงความสำคัญของการกำหนดข้อจำกัดในการพัฒนา AI เพื่อป้องกันผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์และเพื่อให้มั่นใจว่ามนุษย์ยังคงสามารถควบคุมพวกมันได้

👾 Yuval เปรียบเทียบภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจาก AI ขั้นสูงกับการรุกรานของมนุษย์ต่างดาว โดยชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในการควบคุมสิ่งมีชีวิตที่มีความฉลาดเหนือมนุษย์

🛡️ Mustafa สนับสนุนการนำหลักการคิดแบบ Safety First มาใช้ในการพัฒนา AI เพื่อลดความเสี่ยงและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากกว่าการแข่งขัน

🌍 Yuval เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ประเทศต่าง ๆ ต้องมีการพูดคุยกันเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI เพื่อกำหนดกฎระเบียบการใช้งานร่วมกัน และปกป้องสังคมจากภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับ AI

Key Insights

🤖 Yuval Noah Harari และ Mustafa Suleyman ได้ถกเถียงเกี่ยวกับความเสี่ยงและโอกาสของ AI โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างความร่วมมือและกฎระเบียบร่วมกัน เพื่อรับมือกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่จะเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่สุดที่มนุษย์เราไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน

🚀 เทคโนโลยี AI กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยคาดการณ์ว่าภายในปี 2028 โมเดล AI จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าปัจจุบันเป็นพันเท่า และสามารถสร้างแนวคิดและกระบวนการทำงานใหม่ ๆ ได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์อีกต่อไป

👽 Yuval แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ AI จะมีความเป็นอิสระและมีสติปัญญา โดยเปรียบเทียบว่าเหมือนกับการเผชิญหน้ากับการรุกรานของมนุษย์ต่างดาวจากเทคโนโลยีที่อาจเหนือการควบคุมของมนุษย์

⚠️ Mustafa สนับสนุนการใช้หลักการคิดแบบ Safety First (ปลอดภัยไว้ก่อน) ในการพัฒนา AI โดยเรียกร้องให้มีการจำกัดความสามารถที่มีความเสี่ยงสูงบางอย่าง และให้มีการสร้างกรอบการกำกับดูแลที่อิงตามความเสี่ยงเหล่านี้

🌍 ความสำคัญของการสร้างพันธมิตรในเรื่องนี้กับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ในการกำหนดกฎระเบียบสำหรับเทคโนโลยี AI แม้ว่าบางประเทศอาจไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายมันจะเป็นการทำเพื่อปกป้องสังคมและป้องกันการแข่งขันที่ไร้การควบคุม

🏛️ ความจำเป็นในการสร้างสถาบันหรือองค์กรใหม่ ๆ ที่มีทรัพยากรพร้อมทั้งด้านบุคลากร เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี รวมถึงความไว้วางใจจากสาธารณชน เพื่อกำกับดูแลการพัฒนา AI และควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

🛡️ ทั้ง Yuval และ Mustafa เน้นย้ำถึงความสำคัญของการกำหนดค่านิยมและกฎระเบียบของการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อป้องกันเหล่าบริษัทเทคโนโลยีที่หิวโหยแต่เงินตรา ซึ่งท้ายที่สุดจะเป็นการปกป้องสังคมมนุษย์ในยุคแห่งความก้าวหน้าของ AI แบบไร้ขีดจำกัดเหมือนที่เราเห็นกันในทุกวันนี้

Opinion

เป็นสองสุดยอดนักคิดที่เราต้องหันมาฟังอย่างจริงจัง ในเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI ที่ตอนนี้ เหล่าบิ๊กเทคในซิลิกอน วัลเลย์ กำลังทำทุกอย่างตามอำเภอใจ โดยไม่ได้สนใจผลกระทบที่จะเกิดขึ้นมากนัก

มันเป็นคลื่นเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง พลังทำลายล้างของมันต้องเรียกได้ว่ามากกว่าเทคโนโลยีใด ๆ ที่มนุษย์เราเคยประสบพบเจอมา

จะเห็นได้ว่าทั้งสองคิดเหมือนกันในเรื่องความปลอดภัยที่ต้องมาก่อน ซึ่งการปล่อยให้เทคโนโลยีถูกครอบงำโดยองค์กรธุรกิจที่แสวงหาแต่ผลกำไรนั้น ไม่เป็นผลดีต่อโลกเราในระยะยาวอย่างแน่นอน

คราวนี้ลองมาคิดดูว่าต้องเป็นองค์กรระดับไหนที่จะมาควบคุมกำกับดูแล และมีทรัพยากรพร้อมเหมือนที่ทั้ง Yuval และ Mustafa ต้องการ ผมว่าต้องเป็นองค์กรระดับ UN ที่มีวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งขึ้นมาดังนี้

“เพื่อให้บรรลุถึงความร่วมมือระหว่างประเทศในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมหรือมนุษยธรรม และการส่งเสริม/สนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพสำหรับทุกคน โดยไม่เลือกปฏิบัติในเรื่องเชื้อชาติ เพศ ภาษาหรือศาสนา เพื่อเป็นศูนย์กลางสำหรับประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งหลายให้กลมกลืนกัน”

ท้ายที่สุด ถือว่าเป็นบทสนทนาที่ทรงคุณค่าของสองสุดยอดนักคิด ที่ออกมาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการคิดแผนการล่วงหน้าเพื่อเตรียมความพร้อมและการผสานความร่วมมือกันอย่างจริงจังของทุก ๆ ประเทศทั่วทุกมุมโลก เพื่อรับมือกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นจาก AI และเพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกพัฒนาในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติโดยรวมนั่นเองครับผม