วิถีผู้นำแบบ Elon Musk ผู้ที่มีวิธีการจัดการแบบโครต Toxic แต่ประสบความเร็จในทางธุรกิจได้เช่นเดียวกัน

หลังจากที่ผมได้ทำ Blog Series ชุด A Day In The Life ที่ถ่ายทอดเรื่องราวประจำวันของเหล่าผู้นำทั้งในทางธุรกิจหรือผู้นำทางการเมืองทั่วโลก ได้รับผลตอบรับที่ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว

มันก็มีอีกแง่มุมหนึ่งที่ผมสนใจ นั่นก็คือสไตล์ของความเป็นผู้นำ หรือวิธีการจัดการบริหารองค์กรของผู้นำเหล่านี้ ที่มีสไตล์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนมาก ๆ ต้องบอกว่าแม้ในหนังสือแนวการจัดการจะมีข้อมูลส่วนใหญ่ที่เป็นด้านโลกสวยที่เหมือนจะเป็นสูตรสำเร็จ แต่ผมเชื่อว่าในการบริหารธุรกิจจริงหรือแม้กระทั่งการบริหารประเทศให้ประสบความสำเร็จนั้น ทุกคนมีสไตล์การบริหารที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

หลายคนบริหารงานแบบฉีกกฎเกณฑ์ Playbook ด้านการบริหาร ตำราด้านการบริหารมากมาย และประสบความสำเร็จกลายเป็นสุดยอดนักธุรกิจได้เช่นกัน

วันนี้ตอนแรก จะมาพูดถึงชายที่ชื่อ Elon Musk ที่เรียกได้ว่า เป็นหนึ่งคนที่ฉีกทุกกฎเกณฑ์การบริหารงานธุรกิจ แทบจะเรียกได้ว่าสไตล์ของ Elon Musk นั้น แทบจะเป็นการจัดการแบบ Toxic ที่ไม่มี Playbook เล่มไหนเขียนถึงแนวนี้เลย แต่ Musk ได้กลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในทางธุรกิจมากที่สุดในโลกอีกหนึ่งคน

สไตล์ ‘ไม่ยอมใครง่าย ๆ’ ของ Musk

นับตั้งแต่เข้าครอบครอง Twitter เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2022 Musk ได้สั่งเลิกให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน ยกเลิกอาหารกลางวันของพนักงาน และเลิกจ้างพนักงานประมาณ 3,700 คน ประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนพนักงานทั้งหมด 

หลายคนต่างช็อคเมื่อพวกเขารู้ตัวว่ากำลังถูกไล่ออกโดยไม่สามารถเข้าถึงแล็ปท็อปของบริษัทได้อีกต่อไป

เพียงไม่กี่วันต่อมา Musk มีทีมสอดแนมค้นหาข้อความส่วนตัวของพนักงานใน Slack และไล่คนที่วิจารณ์เขาออกทันที

Musk เลิกจ้างพนักงานประมาณ 3,700 คน ประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนพนักงานทั้งหมด (CR:Truthout)
Musk เลิกจ้างพนักงานประมาณ 3,700 คน ประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนพนักงานทั้งหมด (CR:Truthout)

Musk ได้ยื่นคำขาดถึงพนักงานเพื่อให้คำมั่นกับ Twitter ยุคใหม่ที่ “ฮาร์ดคอร์สุดๆ” ซึ่ง “หมายถึงการทำงานเป็นเวลานานหลายชั่วโมงด้วยความเข้มข้นในการทำงานสูง” พนักงานมีเวลาจนถึง 17.00 น. ของวันถัดไปในการตัดสินใจว่าจะอยู่หรือไป

มีรายงานว่าพนักงานประมาณ 500 คนเขียนใบลาออกทันที

ดูเหมือนว่า Musk จะไม่ได้คาดการณ์ถึงปฏิกิริยานี้ เมื่อใกล้ถึงเส้นตาย เขาเริ่มนำพนักงานคนสำคัญเข้าร่วมการประชุมโดยพยายามโน้มน้าวให้พวกเขาอยู่ต่อ

นอกจากนี้ เขายังยกเลิกคำสั่งห้ามทำงานจากที่บ้านโดยส่งอีเมลถึงพนักงานว่า “สิ่งที่จำเป็นสำหรับการอนุมัติในเรื่องดังกล่าวคือผู้จัดการของคุณที่ต้องรับผิดชอบในการรับรองว่าคุณทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมจากที่บ้าน”

แต่พนักงานจำนวนมากตัดสินใจลาออก Twitter ล็อกไม่ให้พนักงานทุกคนออกจากสำนักงานจนถึงวันจันทร์ถัดไป ท่ามกลางความสับสนว่าใครยังคงทำงานอยู่อีกบ้าง

การปลดพนักงานและการปรับโครงสร้างเป็นเรื่องปกติในการเปลี่ยนแปลงองค์กร แต่วิธีที่ Musk จัดการมีผลกระทบอย่างมากต่อผู้ที่จากไปเช่นเดียวกับผู้ที่ยังคงอยู่ 

ทางเลือกมีความสำคัญ

แล้ว SpaceX และ Tesla บริษัทที่ Musk สร้างชื่อเสียงล่ะ? ความสำเร็จของบริษัทเหล่านี้ไม่ได้พิสูจน์ว่าเขาเป็นผู้นำที่ดีหรือ?

ต้องบอกว่ามีความแตกต่างอย่างมากระหว่างบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยพันธกิจอย่าง SpaceX และแพลตฟอร์มอย่าง Twitter

เมื่อมีภารกิจร่วมกันเพื่อบรรลุสิ่งที่พิเศษหรือที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนพนักงานมักจะตั้งใจทำงานเป็นเวลานานมาก ๆ และพร้อมทุ่มเทให้กับองค์กรแบบสุด ๆ แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

พวกเขาจะเลือกที่จะทำงานให้มากกว่าและทำงานหลายชั่วโมงหากรู้สึกว่าสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ขององค์กร พวกเขาต่างคิดว่างานของพวกเขามีความสำคัญ แต่ประเด็นสำคัญก็คือพวกเขาเลือกที่จะทำตามวิสัยทัศน์ของ Musk

พนักงานใน SpaceX เลือกที่จะทำตามวิสัยทัศน์ของ Musk (CR:Orange County Register)
พนักงานใน SpaceX เลือกที่จะทำตามวิสัยทัศน์ของ Musk (CR:Orange County Register)

ดังที่พนักงาน Twitter คนหนึ่งทวีตหลังจากมีการแจ้งผ่านอีเมลของ Musk:

“ฉันไม่ต้องการทำงานให้กับคนที่ขู่เราทางอีเมลหลายครั้งเกี่ยวกับ ‘คนที่ทุ่มเททำงานแบบพิเศษเท่านั้นที่ควรทำงานที่นี่’ ในเมื่อฉันทำงาน 60-70 ชั่วโมงต่อสัปดาห์อยู่แล้ว”

Musk ปฏิบัติต่อพนักงานเหมือนเครื่องจักร

ทั้ง Tesla และ SpaceX มีพนักงานที่ไม่มีความสุขจำนวนมากโดยมีเคสการฟ้องร้องเกี่ยวกับสภาพการทำงานและรูปแบบการจัดการของ Musk อยู่บ่อยครั้ง หลายคนบอกว่าการทำงานกับ Musk นั้น Toxic มาก ๆ

แต่เขาได้รับการยกย่องในเรื่องความคิดของเขา การแก้ปัญหาทางวิศวกรรม การท้าทายโมเดลธุรกิจแบบเก่า ๆ ที่อาจไม่มีประโยชน์อีกต่อไป แต่พื้นฐานของความเป็นผู้นำยังคงมีความสำคัญ และ Musk ก็ยังขาดในเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างมาก

Musk ยึดถือรูปแบบการบริหารที่ปฏิบัติต่อพนักงานเหมือนฟันเฟืองในเครื่องจักร ไม่ใช่มองพวกเขาว่าเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจ พนักงานของเขาต้องเสียสละความเป็นอยู่ที่ดีเพื่อทำตามวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ของเขา

สิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้ได้จากสไตล์ความเป็นผู้นำของ Elon Musk

Elon Musk เป็นบุคคลที่ซับซ้อน และสไตล์ความเป็นผู้นำของเขาก็มีความซับซ้อนเช่นกัน ในหลาย ๆ ด้าน เขาเหมือนเป็นแรงผลักดันในวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ แต่ในอีกทางหนึ่งเขาเรียกร้องจากพนักงานมากจนเกินไปและบางครั้งเลยเถิดไปถึงขั้นข่มขู่พนักงาน

เช่นเดียวกับ ผู้นำคนอื่นๆแนวทางของเขามีทั้งด้านบวกและด้านลบ และยังมีเรื่องราวอีกมากที่ต้องเรียนรู้จากวิธีที่เขาเป็นผู้นำ รวมถึงบทเรียนที่น่าสนใจดังต่อไปนี้:

  • เชื่อในตัวคุณเอง. ผู้คนจำนวนมากมักมองว่าแนวคิดของ Musk นั้นบ้าๆ บอๆ แต่เขาเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์และความทะเยอทะยานของเขา เขาไล่ล่าในสิ่งที่เขาเชื่อมั่นอย่างไม่ลดละ
  • กำหนดขอบเขตที่ชัดเจน Musk ผลักดันตัวเองจนถึงขีดจำกัด และในหลาย ๆ ด้าน มันคือบทเรียนที่ดีในสิ่งที่ไม่ควรทำ กำหนดขอบเขตสำหรับตัวคุณเอง เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องทำงาน 100 ชั่วโมงและนอนบนพื้นสำนักงานของคุณ
  • ทำให้รู้สึกว่ามีปลอดภัยที่จะล้มเหลว หนึ่งในหลายๆ เหตุผลที่บริษัทต่างๆ ของ Musk สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยวิธีที่พวกเขาทำนั้นเป็นเพราะ Musk เป็นผู้ที่ไม่แคร์ความล้มเหลว เขารู้ว่าพนักงานของเขาต้องรู้สึกว่าพวกเขาสามารถล้มเหลวได้โดยไม่ต้องกลัวผลกระทบหรือการโดนตำหนิ นั่นเป็นบทเรียนที่มีค่าสำหรับผู้นำทุกคนที่ต้องเป็นหัวหอกในทีมที่มีนวัตกรรมซึ่งความผิดพลาดล้มเหลวถือเป็นเรื่องปรกติมาก ๆ  

ต้องบอกว่า Elon Musk ไม่ได้เป็นผู้นำที่สมบูรณ์แบบ และจริงๆ แล้วแทบไม่เข้าใกล้สิ่งนั้นเลย เมื่อเราศึกษาจาก Playbook ตำราการเป็นผู้นำที่มีอยู่มากมาย 

เรียกได้ว่า Musk กำลังสร้างแบบอย่างที่เป็นอันตรายสำหรับธุรกิจอื่นๆ ที่จะปฏิบัติตาม หากวิธีการจัดการของเขาพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จสำหรับ Twitter อาจส่งผลให้ผู้นำธุรกิจรายอื่นทำตามตัวอย่างของเขาในอนาคต

แต่ด้วยความที่บริษัทของ Musk ประสบความสำเร็จมากมายและชื่อเสียงของเขาในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ถือได้ว่าแหวกแนวที่สุดในตลาด เขาจึงเป็นหนึ่งในผู้นำที่ควรค่าแก่การเรียนรู้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบคนอย่างเขาเช่นเดียวกัน เพราะดูเหมือนว่าจะมีน้อยคนในโลกที่สามารถทำสิ่งเดียวกับชายที่ชื่อ Elon Musk ทำได้สำเร็จนั่นเองครับผม

References :
https://www.fingerprintforsuccess.com/blog/elon-musk-leadership-style
https://theconversation.com/elon-musks-hardcore-management-style-a-case-study-in-what-not-to-do-194999
https://theconversation.com/elon-musks-archaic-management-style-prioritizes-profit-over-people-195520#:~:text=Musk%20adheres%20to%20a%20mechanistic,for%20the%20sake%20of%20profit.
https://www.reddit.com/r/askmanagers/comments/yzb08z/elon_musk_management_style/
https://www.nbcnews.com/tech/tech-news/elon-musks-twitter-takeover-gives-new-type-power-rcna26211


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube