Blood Oil ตอนที่ 11 : Cold Blood

ในขณะที่จามาล คาชอกกี เดินทางมาถึงอิสตันบูลในช่วงก่อนตี 4 ทีมสังหารจากซาอุดิอาระเบีย ทั้งสิบห้าคนก็ได้เข้ามาเตรียมตัวพร้อมที่จะปฏิบัติการครั้งสำคัญแล้ว

คาชอกกี เดินผ่านด่านศุลกากรไปยังอพาร์ทเมนต์ใหม่ของเขาใน Zeytinburnu สำหรับสาเหุตที่เขาต้องเดินทางมาตุรกี ก็เพื่อดำเนินการในเรื่องสมรสกับคู่หมั้น Hatice Cengiz ซึ่งต้องบอกว่ามันเป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับคู่รักข้าวใหม่ปลามัน

หลังจากความชอกช้ำสองปีในการออกมาวิจารณ์โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน คาชอกกี รู้สึกโดดเดี่ยวหลังจากการหย่าร้างครั้งล่าสุด และรู้สึกเหินห่างจากลูก ๆ ของเขาที่ซาอุดิอาระเบีย

การเดินทางมาที่อิสตันบูล มันเป็นช่วงเวลาเติมความสุขให้กับตัวเขามากขึ้น หลังจากใช้เวลาหลายเดือนที่วอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเขาสร้างชื่อให้ตัวเองด้วยการออกมาเปิดหน้าวิจารณ์โมฮัมเหม็ดแบบไม่เกรงกลัวใคร

ในวัยห้าสิบเก้าปี เขาเคยแต่งงานมาแล้วอย่างน้อยสามครั้ง ซึ่งบางครั้งก็ปฏิบัติตามประเพณีของซาอุดิอาระเบียที่แต่งงานกับผู้หญิงมากกว่าหนึ่งคนพร้อมกัน แต่ตอนนี้เขากำลังเริ่มต้นใหม่กับ Hatice ในวัยสามสิบหกปี

หลังจากรับประทานอาหารเช้า แผนของเขาก็คือ ไปที่สถานกงสุลซาอุดิอาระเบียเพื่อรับเอกสารที่พิสูจน์ว่าเขาหย่าร้างและไม่มีภรรยาคนอื่น ซึ่งเป็นข้อตกลงเบื้องต้นกับพ่อของ Hatice และเจ้าหน้าที่ทางการตุรกีก่อนที่พวกเขาจะแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฏหมาย

คาชอกกีได้เข้าไปที่สถานกงสุลเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ด้วยความกังวลใจ แต่เขาแปลกใจอย่างมากที่เจ้าหน้าที่แสดงท่าทีที่เป็นมิตรกับเขาและช่วยเหลือเขาอย่างดี แม้เขาจะออกมาวิจารณ์โมฮัมเหม็ดอย่างรุนแรงผ่านสื่อตะวันตกก็ตาม

เจ้าหน้าที่กงสุลได้บอกกับคาชอกกีว่าจะใช้เวลาสองสามวันในการเตรียมเอกสารและติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่กรุงริยาด ซึ่งแน่นอนว่ามันก็ได้ส่งสัญญาณโดยตรงไปยังสำนักงานข่าวกรองที่ริยาด ที่หวังจะปิดปากคาชอกกี

เมื่อคาชอกกีได้เดินทางไปยังสถานกงสุลอีกครั้งตามนัดหมาย ด้วยบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบสงบ เขาค่อนข้างระมัดระวังตัวเพราะรู้ตัวดีว่าตกเป็นเป้าหมายที่สำคัญของรัฐซาอุดิอาระเบียที่ต้องการกำจัดเขา

และที่สำคัญเขารู้ดีว่าการรักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์นั้นมีปัญหา เพื่อนของเขาถูกแฮ็คโดยมัลแวร์ที่ส่งมาในรูปแบบลิงก์ซ้ำ ๆ โทรศัพท์สองเครื่องของเขาซึ่งใช้สื่อสารกับนักข่าวจากทั่วโลก ซึ่งมีข้อมูลลับมากมายได้หลุดออกไป

เขาจึงได้ส่งโทรศัพท์ไปให้กับ Hatice คู่หมั้น โดยบอกว่าจะกลับออกมาในอีกครึ่งชั่วโมง ถ้าเขาไม่ออกมา เขาสั่งให้เธอโทรหายาซินเพื่อนของเขาทันที

ยาซิน ฮัคเทย์ นักการเมืองตุรกีที่มีความใกล้ชิดกับประธานาธิบดี เรเจป ทายยิป แอร์โดอัน และเป็นเพื่อนที่สนิทกับคาชอกกี ตั้งแต่ช่วงอาหรับสปริง

ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่า คาชอกกี เดินเข้าไปในอาคารสถานกงสุลอย่างใจเย็น โดยสวมเสื้อเบลเซอร์สีเข้มและกางเกงขายาวสีเทา

ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นคาชอกกี ที่เดินทางเข้าไปอย่างใจเย็น
ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นคาชอกกี ที่เดินทางเข้าไปอย่างใจเย็น (CR: The Indian Express)

ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา คาชอกกี ได้เปลี่ยนจากผู้มีอิทธิพลที่สนับสนุนราชวงศ์ไปสู่ภัยคุกคามความมั่นคงของชาติในสายตาของราชสำนัก การเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ คาชอกกี พูดหรือเขียนไว้ในคอลัมน์ของเขาใน Washington Post

แต่ความสัมพันธ์ของคาชอกกีกับนักการเมืองตุรกีที่มีความใกล้ชิดกับประธานาธิบดี แอร์โดอัน เป็นหลักฐานให้โมฮัมเหม็ดมองว่า คาชอกกี กำลังทำงานร่วมกับอำนาจต่างประเทศเพื่อบ่อนทำลายซาอุดิอาระเบีย

และพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับ คาชอกกี ที่เป็นปัญหาคนสำคัญคือ Maggie Mitchell Salem ซึ่งทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการบริหารของ Qatar Foundation International และช่วยคาชอกกีในการเขียนและแก้ไขข้อมูลในคอลัมน์ที่เขาเขียนในหนังสือพิมพ์ Washington Post ทำให้เขาถูกมองว่าทรยศชาติด้วยการไปทำงานให้กับศัตรูของประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของเขา

มีรายงานข่าวว่าคาชอกกี กำลังร่วมก่อตั้งกลุ่มใหม่ Democracy for Arab World Now หรือ DAWN ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนไหวที่ยั่วยุราชวงศ์เป็นอย่างมาก ชื่อดังกล่าวมันชวนให้โมฮัมเหม็ดนึกถึงอาหรับสปริง

ซาอุด อัล คาห์ตานี รองผู้อำนวยการของโมฮัมเหม็ด ผู้ซึ่งจับตามองคาชอกกีมาหลายปี และพยายามขอให้ คาชอกกี กลับมาที่ซาอุดิอาระเบีย แต่ คาชอกกี กังวลว่าคำร้องขอของ คาห์ตานี นั้นจะกลายเป็นกับดักเพื่อนำเขากลับมาจองจำที่ซาอุฯ

คาห์ตานี ใช้วิธีการแฮ็คโทรศัพท์หรือลักพาตัวกลุ่มคนที่ต่อต้านราชวงศ์ และนำพวกเขากลับไปที่ซาอุดิอาระเบีย ใน twitter เขามักจะประกาศความจงรักภักดีต่อโมฮัมเหม็ด และมักเปิดเผยต่อสาธารณชนว่าเขามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับเจ้าชาย

คาห์ตานี ติดตาม คาชอกกี ในช่วงหลายสัปดาห์ที่นำไปสู่การเข้ามายังสถานทูดครั้งแรกในอิสตัลบูล และเจ้าหน้าที่ที่นั่นก็ได้แจ้งเขาว่า คาชอกกี จะกลับมาอีกครั้ง ทีมงานด้านเทคนิคกลุ่มนึงของ คาห์ตานี ได้บินไปอิสตันบูลเพื่อเคลียร์อุปกรณ์ต่าง ๆ ในสถานกงสุลที่พวกเขาสงสัยว่ารัฐบาลตุรกีอาจจะมีการแอบบันทึกอยู่

คาห์ตานีนั้นเป็นผู้ดูแลด้านกิจการสื่อของซาอุดิอาระเบีย และเป็นหน่วยงานที่ค่อนข้างเป็นความลับ ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ปฏิบัติภารกิจจะถูกเรียกว่า Saudi Rapid Intervention Group โดยมีผู้บัญชาการคือ มาเฮอร์ อัลดูลาซิส มูเทรบ

เจ้าหน้าที่ในสถานกงสุลได้รับคำสั่งว่าไม่ให้มาปรากฏตัวในวันที่ คาชอกกี เดินทางมารับเอกสารเรื่องการหย่าร้างของเขา และเหล่าคนงานที่มีบ้านใกล้สถานกงสุล ก็ได้รับคำสั่งให้อยู่แต่ในบ้าน

นาทีก่อนที่ คาชอกกี จะเดินทางมาถึงสถานกงสุล มูเทรบ ถาว่า “สัตว์บูชายัญมาถึงหรือยัง”

มูเทรบ หัวหน้าทีมงานอุ้มฆ่า คาชอกกี
มูเทรบ หัวหน้าทีมงานอุ้มฆ่า คาชอกกี (CR:africa-online.com)

เมื่อ คาชอกกี เดินทางมาถึงหลังจากนั้นไม่นานสถานการณ์ก็เริ่มบานปลาย ทีมของมูเทรบ ได้นำตัว คาชอกกี ขึ้นไปชั้นบนของสถานกงสุล

“เราจะต้องพาคุณกลับบ้าน” “มีคำสั่งจากอินเตอร์โพล ขอให้ส่งคุณกลับ เรากำลังมารับคุณ” มูเทรบ บอกกับ คาชอกกี

“ทำไมผมจะไม่อยากกลับไปประเทศตัวเองล่ะ ยังไงผมก็ต้องกลับไป” คาชอกกี ตอบอย่างกังวล

“อินเตอร์โพลกำลังจะมา ดังนั้นเราต้องจับคุณไว้จนกว่าพวกเขาจะมา” มูเทรบ กล่าว

“นี่เป็นการละเมิดกฏหมายทุกประเภท ผมกำลังถูกลักพาตัว” คาชอกกี กล่าว

“เราจะพาคุณกลับไปซาอุดิอาระเบีย และถ้าคุณไม่ช่วยเรา คุณก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในท้ายที่สุด” หนึ่งในทีมงานของมิเทรบ กล่าว

แต่คาชอกกี พยายามที่จะดิ้น และผลักทีมที่มาอุ้มตัวเขา สุดท้ายพวกเขาได้ดึงเข็มฉีดยาออกมา

“คุณจะฉีดยาผมเหรอ” คาชอกกี กล่าวคำพูดสุดท้ายของชีวิตในเวลา 13.33 น.

และอีก 5 นาทีต่อมา คาชอกกี ก็สลบและหมดลมหายใจ เวลา 13.39 น. ผู้เชี่ยวชาญด้านการหั่นศพ ได้หั่นร่างของ คาชอกกี ออกเป็นชิ้น ๆ อย่างน่าสยดสยอง

งานยังไม่เสร็จสมบูรณ์ มุสตาฟา อัล มาดานี หนึ่งในทีมงานของอุ้มฆ่าของมูเทรบ ที่มีลักษณะคล้ายกับคาชอกกี สวมเสื้อผ้าและแว่นตาของคาชอกกี และปกปิดด้วยเคราปลอมเดินออกไปทางประตูด้านหลังสถานกงสุล

เขานั่งแท็กซี่ไปที่มัสยิดแห่งหนึ่ง พร้อมกับสมาชิกคนอื่น ๆ ในทีม หลังจากนั้นก็ทำลายหลักฐานเครื่องแต่งกายของคาชอกกีทั้งหมด ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่สนามบิน และกลับบ้านด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวสองลำ ซึ่งเป็นเครื่องบินของกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน

หลังจากรอนานกว่า 3 ชั่วโมง Hatice แฟนสาวของคาชอกกี ได้โทรหา ยาซิน ในเวลา 16.41 น. ตอนแรกเขาไม่ได้รับโทรศัพท์ แต่พอเห็นการโทรเข้ามาถี่ ๆ เขาจึงได้รับ Hatice ได้แจ้งยาซินว่า คาชอกกี หายไปในสถานกงสุลเป็นเวลา 3 ชั่วโมงแล้ว

ยาซิน ค่อนข้างเป็นห่วง และเข้าใจถึงความเสี่ยงของ คาชอกกี และบอก Hatice ว่าเขาจะติดต่อกับหน่วยงามความมั่นคงของรัฐ สายแรกที่เขาโทรหาคือ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองของตุรกี Hakan Fidan

จากนั้น ยาซิน ก็ได้โทรไปที่สำนักงานของประธานาธิบดี แอร์โดอัน และบอกกับเลขาของประธานาธิบดีว่าเกิดอะไรขึ้น ในตอนนั้นไม่มีเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของตุรกีคนใดทราบว่า คาชอกกี ได้เสียชีวิตไปแล้ว

ต้องบอกว่าการสังหารคาชอกกี ในครั้งนี้ จะทำให้ตุรกีและซาอุดิอาระเบียมีปัญหากันในแบบที่ ทั้งโมฮัมเหม็ดและ แอร์โดอัน ไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น พวกเขามีผลประโยชน์ต่าง ๆ ร่วมกัน ที่สำคัญที่สุดคือการเอาชนะผู้ก่อการร้ายอิสลามในซีเรีย และแทบจะไม่มีประโยชน์ใด ๆ ในการเป็นศัตรูกัน

แม้ทั้งสองประเทศจะมีความตึงเครียดจากปัญหากาตาร์ เนื่องจากกาตาร์และตุรกีเป็นพันธมิตรที่ยาวนาน และ แอร์โดอัน ก็รู้สึกว่าเขาไม่สามารถละทิ้งพันธมิตรเพื่อสนับสนุนการคว่ำบาตรของซาอุดิอาระเบียได้

ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ของคาชอกกี แอร์โดอัน เองก็ยังคงหวังจะบรรลุข้อตกลงบางอย่างกับ ซาอุดิอาระเบียได้ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตุกรีได้พูดคุยกับฝั่งซาอุฯ พวกเขาได้รับคำสั่งจากโมฮัมเหม็ดให้สนับสนุนความพยายามของซาอุดิอาระเบียในการคว่ำบาตรกาตาร์

ถึงตอนนี้ เมื่อรวมกับเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากล ที่เขารู้ดีว่าเป็นฝีมือของใคร ที่มาสังหารคาชอกกีในประเทศของเขา เออร์โดอัน ก็เริ่มเชื่อมั่นว่า โมฮัมเหม็ด เป็นอุปสรรคที่สำคัญที่สุดต่อความสัมพันธ์ระหว่างตุรกี – ซาอุดิอาระเบีย และดูเหมือนเรื่องของคาชอกกี มันจะทำให้สิ่งต่าง ๆ เลวร้ายลงไปอีก

แล้วรอยบาดแผลจากคดีของคาชอกกี จะทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศต้องถึงคราวตัดขาดหรือไม่ จะเกิดอะรไขึ้นต่อกับคดีที่สะเทือนขวัญสั่นประสาทประชาชนทั้งสองประเทศ และประชาคมโลกที่ออกมาสับเละซาอุดิอาระเบียกับการกระทำบ้า ๆ ในครั้งนี้ โปรดอย่าพลาดติดตามต่อในตอนหน้าครับผม

–> อ่านตอนที่ 12 : Saudi Royals Fall

ย้อนไปอ่านตั้งแต่ตอนแรก & Credit แหล่งข้อมูลบทความ


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube