Blood Oil ตอนที่ 1 : Prologue

การได้รับสายโทรศัพท์อย่างเร่งด่วนในเวลาตี 4 ตั้งแต่เช้าตรู่ มันคงไม่ใช่เรื่องปรกติอย่างแน่นอน เมื่อกษัตริย์ได้ส่งผ่านข้อความมายังผู้แทนราชสำนัก “มาทันที” ท่านต้องการพบหลานชายของเขา เจ้าชายอัลวาลีด บิน ทาลัล อัล ซาอุด โดยด่วนที่สุด

อัลวาลีด เป็นนักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบียที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกเป็นเวลามาหลายทศวรรษ เขาเป็นคนประเภทที่ว่า มีแต่ผู้คนอยากจะเข้าหา ด้วยเงินตราที่เขามีมากมายจนแทบจะใช้ไม่หมดภายในชาตินี้

ด้วยความมั่งส่วนตัวที่ประมาณ 18,000 ล้านดอลลาร์ ในสายตาของชาวอเมริกันหรือยุโรปส่วนใหญ่ เขาคือเบอร์หนึ่งของซาอุดิอาระเบีย เขามีฝูงบินรวมถึงเครื่องบินเจ็ต 747 ที่มีเก้าอี้คล้ายบัลลังก์อยู่ตรงกลาง และเรือยอทช์มูลค่า 90 ล้านดอลลาร์ พร้อมรองรับแขกระดับ VIP 20 คนได้สบายๆ

เจ้าชายผู้มีอำนาจเหนือธุรกิจอเมริกัน โดยมีหุ้นในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวอเมริกัน ไม่ว่าจะเป็น Citibank , Apple หรือ Twitter รวมถึงบริษัท Kingdom Holding ของ เจ้าชายอัลวาลีด ยังเป็นเจ้าของกลุ่มโรงแรมในเครือ Four Seasons ที่มีชื่อเสียงในด้านที่พักสุดหรู

ซาอุดิอาระเบียกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การเกิดขึ้นเสียงดนตรียามค่ำคืน หลังจากหลายทศวรรษที่มีการห้ามสิ่งเหล่านี้ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

ประชาชนชาวซาอุดิอาระเบียรู้สึกสับสนอย่างแท้จริง จากการปฏิรูปที่รวดเร็ว โรงภาพยนตร์กำลังเพิ่มขึ้น ผู้หญิงเดินไปรอบ ๆ เมืองด้วยสิทธิเสรีภาพที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจจากการพึ่งพาน้ำมันเป็นหลักเหมือนในอดีต

แต่สิ่งสำคัญที่ อัลวาลีด รับรู้ได้อย่างชัดเจนก็คือควาสั่นคลอนที่เกิดขึ้นในราชวงศ์ ซึ่งฐานรากของพระราชวังที่ดูหรูหราโอ่อ่านั้นดูเหมือนจะอ่อนแอลงไป

หลังจากการครองราชย์ของกษัตริย์ ซัลมาน บิน อับดลลาซิซ อัล ซาอุด นานกว่า 2 ปี อัลวาลีด ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับราชวงศ์ที่ถูกเรียกตัวในตอนกลางคืน หรือ ถูกหลอกให้ขึ้นเครื่องบินเพื่อพบว่าตัวเองกำลังถูกพากลับบ้านที่ซาอุดิอาระเบียและถูกนำมาคุมขัง

ชายที่อยู่เบื้องหลังการกระทำเหล่านี้ คือ ซัลมาน โมฮัมเหม็ด บิล ซัลมาน อัล ซาอุด ลูกชายคนที่หกของกษัตริย์ซัลมาน ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องคนเล็กของอัลวาลีด ซึ่งอายุเพียงแค่ 32 ปี แต่มีชื่อเสียงในด้านอารมณ์และความก้าวหน้าในเรื่องการเปลี่ยนแปลงซาอุดิอาระเบียอย่างรวดเร็ว

โมฮัมเหม็ด บิล ซัลมาน ชายผู้ที่กำลังจะมาเปลี่ยนแปลงซาอุดิอาระเบียแบบที่ไม่เคยใครคาดคิดมาก่อน
โมฮัมเหม็ด บิล ซัลมาน ชายผู้ที่กำลังจะมาเปลี่ยนแปลงซาอุดิอาระเบียแบบที่ไม่เคยใครคาดคิดมาก่อน (CR:tehrantimes.com)

โมฮัมเหม็ดเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับลุงของเขาก่อนหน้า ซึ่งเป็นอดีตกษัตริย์ที่ได้รับอำนาจจากความเห็นพ้องต้องกันของราชวงศ์ และมีความอนุรักษ์นิยมอย่างสุดโต่ง เพราะเกรงกลัวว่าราชวงศ์จะเสียอำนาจไป

ซึ่งอัลวาลีด ก็เชื่อว่า เหล่าราชวงศ์ที่ถูกควบคุมตัวส่วนใหญ่นั้น มักจะเป็นฝ่ายแนวคิดทางการเมืองตรงข้ามกับโมฮัมเหม็ด ที่คอยสร้างความเดือนร้อนจากต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นจากในฝรั่งเศสหรือสหราชอาณาจักร

อัลวาลีด รู้สึกประทับใจโมฮัมเหม็ด ที่กล้าเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศ เปลี่ยนจากประเทศที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดของศาสนาอิสลามที่อนุรักษ์นิยมสุดโต่ง ไปสู่อำนาจอาหรับสมัยใหม่ ที่เริ่มพึ่งพาเศรษฐกิจที่หลากหลาย และให้สิทธิที่เท่าเทียมกันมากยิ่งขึ้นระหว่างผู้ชายและผู้หญิง

และที่สำคัญ โมฮัมเหม็ด ได้นำแนวคิดที่แข็งกร้าวที่สุดของ อัลวาลีด มาใช้ในการปฏิรูปทางด้านการเงินของประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่อัลวาลีด นั้นรอมาทั้งชีวิต

ซึ่งหลังจากได้รับข้อความจากสำนักงานราชวัง เขาต้องเข้าพระราชวังด่วนในค่ำคืนที่เหน็บหนาวในเดือนพฤศจิกายนปี 2017 ไม่นานหลังจากได้รับสาย เขาก็ได้ออกจากค่ายที่พักกลางทะเลทรายด้วยรถของตัวเองเพื่อเดินทางกลับไปยังริยาด เมืองหลงของประเทศทันที

เมื่อมาถึง Royal Court ผู้ช่วยของกษัตริย์ออกมาข้างนอกเพื่ออธิบายว่ามีการประชุมอยู่ใกล้ ๆ กันที่โรงแรม Ritz-Carlton อัลวาลีด ถูกนำทางไปยังรถคันใหม่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรถขบวนใหญ่

“โทรศัพท์ของผมอยู่ในรถ” เจ้าชายอัลวาลีด พูดอย่างกังวลใจ

“เดี๋ยวเราจะนำไปให้ท่านเอง” ผู้ช่วยกษัตริย์กล่าว

แน่นอนว่าสถานการณ์ในตอนนั้นทำให้ อัลวาลีด ถูกตัดออกจากโลกภายนอกทันที การเดินทางบนขบวนรถคันใหม่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ก็ไปถึงโรงแรม

เมื่อเข้าไปในล็อบบี้ของโรงแรม ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยของ Royal Court ล้อมตัวเขาไว้ เขารู้สึกขนลุกทันทีเพราะในโรงแรมพบกับความว่างเปล่า คนในราชสำนักพาเขาเข้าไปในลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังห้องสูทของโรงแรมทันที

เมื่อถึงห้องด้วยความกังวลอย่างหนัก เขาจึงเปิดโทรทัศน์ มีข่าวด่วนว่า นักธุรกิจและสมาชิกราชวงศ์หลายสิบคนถูกจับกุมในข้อหาทุจริต โดยอัลวาลีดเป็นคนแรกที่มาถึง ซึ่ง The Ritz ได้กลายสภาพจากโรงแรมสุดหรู เป็นคุกชั่วคราวแล้วในขณะนั้น

ในช่วงสองสามคืนแรก ผู้ถูกกักขังหลายคนถูกสั่งให้อยู่แต่ในห้อง พร้อมด้วยผู้คุ้มกันติดอาวุธ มีบางคนที่สามารถนำมือถือเล็ดรอดเข้ามาได้ เพราะเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยจะยึดโทรศัพท์เพียงหนึ่งเครื่องของแต่ละคนเท่านั้น

มันเป็นภาพที่ไม่เคยมีใครได้พบเห็นมาก่อน กับภาพของมหาเศรษฐี นักธุรกิจ หรือ เชื้อพระวงศ์ ที่นอนบนที่นอนบาง ๆ พร้อมผ้าห่มหลากสี นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับหนึ่งในกลุ่มคนที่มีอำนาจและความมั่งคั่งมากที่สุดในโลกใบนี้

อัลวาลีด ถูกจับคุมขับใน The Ritz เป็นภาพที่เหลือเชื่อมาก
อัลวาลีด ถูกจับคุมขังใน The Ritz เป็นภาพที่เหลือเชื่อมาก (CR:TheTelegraph)

มันมีความลับบางอย่างที่จะต้องได้รับการเปิดเผย อำนาจใหม่ของราชสำนักของอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย กำลังจะจัดการกับการคอร์รัปชั่นที่มีมากว่าหลายทศวรรษ

กลุ่มคนดังกล่าวที่ถูกกักขัง บางคนต้องบอกว่าเป็นคนที่อำนาจอย่างเหลือเชื่อ เช่น มิเทบ บิล อับดุลลาห์ อัล ซาอุด ลูกชายของอดีตกษัตริย์องค์ก่อน และเป็นหัวหน้าของ Saudi National Guard

ซึ่งต้องบอกว่าเป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจสูงสุด เพราะกองกำลังดังกล่าวเป็นหนึ่งในกองกำลังขนาดใหญ่ ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องราชวงศ์จากภัยคุกคามโดยมีกำลังทหารกว่า 125,000 คนประจำการอยู่ ซึ่งหนึ่งในบทบาทหลักก็คือ การป้องกันการรัฐประหารของทหาร แต่ตอนนี้ นายใหญ่ของกองกำลังดังกล่าวอย่างเจ้าชาย มิเทบ กำลังถูกจองจำ ที่ The Ritz เช่นเดียวกัน

ในสองสามวันแรก มีการจับกุมมากกว่า 50 คน The Ritz เริ่มจะไม่พอที่จะคุมตัวกลุ่มคนเหล่านี้ ทำให้มีการเพิ่มสถานที่คุมขังไปยังสถานที่ปลอดภัยอื่น ๆ ในริยาด มากกว่าสามร้อยแห่ง

การจับกุมดังกล่าวเป็นผลงานของคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตที่ถูกเก็บไว้เป็นความลับ และมีเป็นคำสั่งโดยตรงจากกษัตริย์ซัลมาน โดยอัยการสูงสุดของซาอุดิอาระเบียประกาศว่าจะมีการยึดเงินคืนกว่า หนึ่งแสนล้านดอลลาร์ที่เกิดจากการทุจริต และ การฉ้อโกงในหลายทศวรรษที่ผ่านมา

แม้จะดำเนินการโดยกษัตริย์ซัลมาน แต่ทุกคนรู้ว่านี่คือผลงานของโมฮัมเหม็ด ซึ่งตอนนี้มกุฏราชกุมารองค์ใหม่กำลังนำพาซาอุดิอาระเบียก้าวสู่ยุคใหม่ด้วยความก้าวร้าว รุนแรง และรวดเร็ว อย่างที่ไม่เคยมีใครคาดคิด

ต้องบอกว่าชายที่ถูกจับกุมทั้งหลายเหล่านี้ ล้วนเคยมีบทบาทที่สำคัญในการสร้างอาณาจักรซาอุดิอาระเบียขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจก่อสร้างชื่อดัง เจ้าของบริษัทท่องเที่ยว ที่เคยช่วยเหลือนักเรียนชาวซาอุดิอาระเบียหลายพันคนให้ได้รับการศึกษาในอเมริกาและยุโรป

หรือแม้กระทั่งรัฐมนตรีของรัฐบาลยุคก่อน ที่ช่วยปรับปรุงระบบการดูแลสุขภาพและการเงินของประเทศให้ทันสมัยก็ไม่รอดพ้นจากการถูกจับกุมในครั้งนี้

แน่นอนว่าพวกเขาอาจจะร่ำรวยในกระบวนการที่อาจจะมีการละเมิดกฏหมายของซาอุดิอาระเบีย แต่ไม่เคยมีใครประนามพวกเขาว่าเป็นอาชญากรมาก่อน ซึ่งสิ่งที่พวกเขาทำในอดีตนั้นก็ได้รับอนุมัติจากกษัตริย์องค์ก่อน แต่ตอนนี้ต้องบอกว่ากฏเกณฑ์ต่าง ๆ มันได้เปลี่ยนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มันเป็นมากกว่าการปฏิรูปและแผนการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ The Ritz แสดงให้เห็นถึงความเน่าเฟะของครอบครัวของพวกเขาเองแทบจะทั้งสิ้น

แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าแนวทางของโมฮัมเหม็ดที่รุนแรง ก้าวร้าว แบบที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนจะเกิดขึ้นในประเทศที่มั่งคั่งที่สุดแห่งนึงของโลกอย่างซาอุดิอาระเบีย

แต่มันเป็นการตัดสินใจขั้นเด็ดขาดของเขา ชายผู้ที่จะมาเปลี่ยนเศษซากปรักหักพัง ของสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ทหาร ตำรวจ หน่วยข่าวกรอง กระทรวงต่าง ๆ ของรัฐบาล และการเดิมพันในธุรกิจครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การก่อกำเนิดขึ้นของอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย เขาไม่ใช่เป็นเพียงแค่ตัวแทนอำนาจของกษัตริย์แห่งอาณาจักรซาอุดิอาระเบียเท่านั้น แต่เขากำลังจะกลายเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดอีกคนหนึ่งบนโลกใบนี้ของพวกเราต่างหาก

–> อ่านตอนที่ 2 : The King is Dead

ย้อนไปอ่านตั้งแต่ตอนแรก & Credit แหล่งข้อมูลบทความ


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube