“เพอร์ร่า” ย้ำแบรนด์น้ำแร่คุณภาพระดับโลก ออกฉลากดีไซน์ใหม่ “My Everyday Natural Wonders” เสิร์ฟความมหัศจรรย์ธรรมชาติสู่ผู้บริโภค

“เพอร์ร่า” น้ำแร่ไทยรายแรก ที่ได้รับมาตรฐาน Aquacert จากประเทศฝรั่งเศส  คิกออฟแคมเปญการตลาดรับไฮซีซั่น ส่งดีไซน์ฉลากลิมิเต็ด เอดิชั่น 3 ลวดลายพิเศษ ภายใต้แนวคิด “My Everyday Natural Wonders” ถ่ายทอดความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ผสานการเป็นแบรนด์แฟชั่นไอคอนอย่างลงตัว พร้อมเติมโมเมนต์ความสดชื่นให้ผู้บริโภคด้วยไอเทมสุดเซอร์ไพรส์ “Home café starter kit” ดีไซน์พิเศษลวดลายเดียวกันกับขวดน้ำแร่เพอร์ร่า เอาใจสาวกสายแฟชั่นได้สะสม

นายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล Chief Marketing Officer – Brand บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า “จุดแข็งของการทำตลาดน้ำแร่เพอร์ร่า คือการชูด้านคุณภาพ และคุณประโยชน์ของสินค้าที่อยู่ในระดับพรีเมี่ยม ควบคู่กับการสื่อสารเพื่อตอกย้ำภาพในการเป็นแฟชั่นแบรนด์ที่มีความแตกต่าง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยังทำให้น้ำแร่เพอร์ร่า ได้รับการรับรองมาตรฐานในด้านขั้นตอนการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากสถาบัน Aquacert ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นน้ำแร่แบรนด์แรกและแบรนด์เดียวของไทยที่ได้รับมาตรฐานระดับโลกดังกล่าว

และการสร้างสรรค์กลยุทธ์การตลาดอย่างต่อเนื่อง เพิ่มสีสันและความตื่นเต้นให้กับผู้บริโภคทุกครั้งที่มีการออกคอลเล็กชั่นสินค้า ดีไซน์ฉลากใหม่ๆ ทำให้แบรนด์มีความโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด จนเป็นที่ยอมรับและสามารถครองใจกลุ่มเป้าหมายได้(Top of Mind)”

ล่าสุด เพอร์ร่าได้เปิดตัวแคมเปญการตลาด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “My Everyday Natural Wonders” บนขวดน้ำแร่เพอร์ร่าฉลากลิมิเต็ด เอดิชั่น 3 ดีไซน์พิเศษ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติในกลิ่นอายของประเทศฝรั่งเศส คือ ร้านดอกไม้หลากสีในกรุงปารีส, ลวดลายเทือกเขามงบล็องในช่วงกลางคืน และภาพสระบัวของโคลด์ โมเนต์ ศิลปินชื่อดังชาวฝรั่งเศส ซึ่งแต่ละลวดลายที่ดีไซน์บนฉลากน้ำแร่เพอร์ร่า ถูกถ่ายทอดผ่านความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่ให้ทั้งความสดชื่น ชุ่มชื่น สอดคล้องกับคุณประโยชน์ของน้ำแร่เพอร์ร่า ที่มีแร่ธาตุ สามารถดื่มด่ำได้ทุกวัน และฉลากที่สวยงาม  คงความเป็นแฟชั่น โดย illustrator ชื่อดังชาวไทย “จี๊ป ภาสินี คงเดชะกุล” ที่มีผลงานร่วมกับแบรนด์ระดับโลกมากมาย

นอกจากนี้ น้ำแร่เพอร์ร่า ยังเพิ่มลูกเล่นให้แบรนด์ สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภค ด้วยการออกโปรโมชั่นพิเศษ “Home café starter kit” นำเสนอไอเทมสุดเซอร์ไพรส์เอาใจกลุ่มเป้าหมาย ที่มาพร้อมกันทั้ง แก้วน้ำ, จานแก้ว และผ้ารองจานดีไซน์พิเศษลวดลายเดียวกับบนฉลากน้ำแร่เพอร์ร่า มาเติมโมเมนต์เล็กๆให้กับทุกวันของผู้บริโภคเต็มไปด้วยสีสัน ความสดชื่นหัวใจยิ่งขึ้น

สำหรับน้ำแร่เพอร์ร่าคอลเล็คชั่นใหม่ วางจำหน่ายในรูปแบบฉลากลิมิเต็ด ขนาด 600 มิลลิลิตรผ่านช่องทางเซเว่น อีเลฟเว่น และในรูปแบบแพคพิเศษทั้งขนาด 600 มิลลิลิตร และ 1,500 มิลลิลิตร โดยวางจำหน่ายผ่านห้างค้าปลีกชั้นนำทั่วไป ตั้งแต่วันนี้ – เมษายน 2565

ที่ผ่านมา นอกจากการมุ่งมั่นผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และประสบความสำเร็จได้รับการการันตีคุณภาพจากสถาบันระดับโลกแล้ว เพอร์ร่ายังสร้างสีสันให้กับตลาดน้ำแร่เมืองไทยในฐานะ Fashion Brand มาโดยตลอด ผ่านการ Collaboration กับไทยดีไซน์เนอร์ชั้นนำและศิลปินระดับโลกมากมาย เพื่อออกแบบลวดลายบนขวดเป็นคอลเล็กชั่นพิเศษใหม่ๆ อาทิ Disaya, Issue, Asava ฯลฯ และ Jennifer Bouron ศิลปินชื่อดังชาวฝรั่งเศส สร้างความสุขและรอยยิ้มให้ผู้บริโภค

ถอดรหัส Crypto Power เมื่ออุตสาหกรรมเกมเวียดนามเตรียมบุกโลกผ่านเทคโนโลยีบล็อคเชน

ต้องบอกว่ามีความน่าสนใจอย่างมากนะครับ สำหรับศักยภาพของเกมบล็อคเชนที่พัฒนาโดยบริษัทจากประเทศเวียดนาม แล้วทำไมพวกเขาถึงสามารถดึงดูดเงินลงทุนไปได้มากมาย ถือเป็นก้าวแรกแห่งความสำเร็จที่น่าสนใจมาก ๆ ของประเทศเพื่อนบ้านของเรา

ความสำเร็จของเกมชื่อดังอย่าง Axie Infinity ได้เปิดโอกาสให้กับสตาร์ทอัพเวียดนามที่ต้องการก้าวไปสู่ระดับโลก นั่นทำให้กองทุนเพื่อการลงทุนจากต่างประเทศจำนวนมากให้ความสนใจกับสตาร์ทอัพจากผู้ก่อตั้งชาวเวียดนาม

ตัวอย่างเช่น Whydah บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านเกมบล็อคเชนซึ่งก่อตั้งโดยนักธุรกิจ Tri Pham ดึงดูดการลงทุน 25 ล้านดอลลาร์จากกองทุนรวมขนาดใหญ่เพียง 10 วันหลังจากประกาศเปิดตัว โปรเจคอย่าง IronSail Sipher ยังระดมทุนได้ 6.8 ล้านดอลลาร์ในรอบ Seed Round เพื่อสร้างเกม World of Sipheria ซึ่งเป็นระบบนิเวศเกมบนพีซีแบบ pre-context ที่พัฒนาบนเทคโนโลยีบล็อกเชน

ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีบล็อคเชนกำลังถูกนำไปใช้อย่างมากในอุตสาหกรรมเกม เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำใน NFT/GameFi และ Axie Infinity เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน Axie ขายโทเค็นบน Binance Launchpad ในเดือนตุลาคม 2020 ในขณะนั้น มูลค่าของมันอยู่ที่ 10 เซนต์สหรัฐฯ ต่อโทเค็น แต่ปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 100 ดอลลาร์ต่อโทเค็น

Axie เพิ่งระดมทุนได้ 152 ล้านดอลลาร์ในรอบการระดมทุน Sereis B ปัจจุบันและมีผู้ใช้ประมาณ 2 ล้านคนต่อวัน ปริมาณการซื้อขาย crypto ในตลาด NFT นั้นมีมูลค่าประมาณ 2.2 พันล้านดอลลาร์

ตามสถิติของ Newszoo ในปี 2021 จะมีผู้คนเกือบสามพันล้านคนที่เล่นเกมทั่วโลก ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบกับปี 2020 ในขณะเดียวกันตามรายงานของ App Annie Intelligence เวียดนามอยู่ในอันดับที่สองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในแง่ของส่วนแบ่งการตลาดของการดาวน์โหลดเกมบนแอปพลิเคชันมือถือซึ่งคิดเป็น 22 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2020 ตลาดเกมเวียดนามเติบโตขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ในแง่ของการดาวน์โหลด การใช้จ่ายของผู้เล่นเกมเพิ่มขึ้น 50%

ใน 10 อันดับแรกของผู้ผลิตเกมมือถือระหว่างประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เวียดนามติดอันดับถึงห้ารายไม่ว่าจะเป็น : Amanotes, OneSoft, Gamejam, VNG และ Arrasol เมื่อเร็ว ๆ นี้ เวียดนามยังมีโครงการเกมอีกมากมายที่เกิดขึ้นและได้รับทุนจากนักลงทุนรายย่อยและกองทุนทั่วโลก

วิดีโอเกมที่เล่นเพื่อหารายได้บน NFT เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าบล็อคเชนและสกุลเงินดิจิทัลทำงานอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานของเศรษฐกิจภายในบล็อคเชน 

Axie Infinity เป็นตัวอย่างที่ดีมาก ๆ ของการวิจัยและความรู้เกี่ยวกับกลไกของเกมเพื่อหาเลี้ยงชีพจากการเล่นเกม ผู้เล่นจำเป็นต้องผสมพันธุ์ Axies เพื่อทำให้ Axie NFT แข็งแกร่งขึ้นเพื่อเล่นกับผู้เล่นคนอื่นในเกม หากไม่มีตัวละครที่แข็งแกร่งกว่า จะเป็นการยากกว่าที่จะชนะ ทำให้ผู้เล่นได้รับสิ่งจูงใจที่ท้าทาย

พวกเขาสามารถได้รับโทเค็นซึ่งสามารถแปลงเป็น cryptocurrencies สกุลหลักเช่น bitcoin ได้ Axie NFT ราคาแพงอาจมีราคาหลายแสนดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับความหายากและลักษณะของพวกมัน

Axie NFT ราคาแพงอาจมีราคาหลายแสนดอลลาร์ (CR:br.atsit.in)
Axie NFT ราคาแพงอาจมีราคาหลายแสนดอลลาร์ (CR:br.atsit.in)

จากการที่สื่อใหญ่ได้เผยแพร่เรื่องราวความสำเร็จมากมายในพื้นที่ชนบทหลายแห่งในฟิลิปปินส์ ซึ่งมีตั้งแต่ผู้เล่นที่สามารถหาเงินเพื่อมาช่วยเหลือครอบครัวของเขาในช่วงการแพร่ระบาดไปจนถึงผู้เล่นที่สามารถซื้อบ้านหลังงามผ่านการเล่นเกมอย่าง Axie Infinity แต่ในทางกลับกัน cryptocurrencies มีความผันผวนมาก และ GameFi ก็มีความเสี่ยงมากเช่นเดียวกัน มีผู้สูญเสียมากมายที่เกิดขึ้นจากเกมเหล่านี้แม้กระทั่งในประเทศไทยเองก็ตาม 

ซึ่งการที่จะเข้าไปสู่วงการนี้ควรประเมินความเสี่ยงของตนเองเมื่อลงทุนด้วยเงินจริงในเกม ตัวอย่างเช่น เป็นเกมที่เล่นเพื่อหารายได้และไม่ฟรี ข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดประการหนึ่งคือต้นทุนเริ่มต้นซึ่งค่อนข้างสูง ตัวอย่างเช่น มีบางช่วงเวลาที่ผู้เล่นจะต้องลงทุนอย่างน้อย 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อ Axie อย่างน้อยสามตัวเพื่อเข้าร่วมเกม

Binance เพิ่งเปิดตัวกองทุนเพื่อการเติบโต 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุน Binance Smart Chain โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเร่งการนำสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ ประมาณครึ่งหนึ่งของเงินทุนจะมุ่งไปที่การลงทุนในด้านต่างๆ เช่น เกม, VR และบริการทางการเงินบนบล็อคเชน ส่วนที่เหลือจะไปที่โปรแกรมผู้สร้าง ช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง และการพัฒนาคนในวงการ

มาถึงตอนนี้มีอีกหลายโครงการจากเวียดนามที่กลายเป็นผู้ชนะในการคว้าเงินลงทุนจาก Binance ไม่ว่าจเป็น Faraland, My DeFi Pet และ Theta Arena นั่นทำให้เวียดนามเป็นหนึ่งในตลาดหลักของการพัฒนาเกม และในปี 2022 Binance เองก็จะยังคงใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและเครือข่ายของพวกเขา เพื่อสนับสนุนโครงการบล็อคเชนที่มาจากเวียดนามมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเองครับผม

References : https://vir.com.vn/blockchain-games-become-force-to-be-reckoned-with-90544.html
https://www.dealstreetasia.com/stories/vietnam-blockchain-games-277105/
https://www.forbes.com/newsletters/alpha-alarm/2021/10/21/metaverse-in-numbers-how-vietnam-is-fueling-the-crypto-game-boom
https://doanhnghiephoinhap.vn/nguo-viet-nam-co-anh-huong-top-10-trong-linh-vuc-tien-dien-tu-2021.html

Geek Monday EP121 : Good Doctor กับเทคโนโลยีการแพทย์ทางไกลอัจฉริยะในการต่อสู้กับ COVID19

Good Doctor Technology (GDT) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกิดจากการบรรจบกันของยักษ์ใหญ่ในเอเชีย 3 ราย ได้แก่ Ping An Good Doctor จากประเทศจีน Grab จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ SoftBank จากญี่ปุ่น Ping An Good Doctor เป็นแอปพลิเคชั่น telemedicine ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนในแง่ของจำนวนผู้ใช้และความครอบคลุมประชากรทั้งหมด

GDT ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของแพทย์ และแพทย์ที่ใช้ Doctor’s Workbench ที่เปิดใช้งาน AI เพื่อให้คำปรึกษาออนไลน์สามารถอุทิศเวลาทำงาน 70 ถึง 80% ในการให้คำปรึกษาเมื่อเทียบกับการทำงานสนับสนุนทางคลินิก ระบบจะดูแลการป้อนข้อมูล การรวบรวมข้อมูล การชำระเงิน และงานการดูแลระบบและเวิร์กโฟลว์อื่นๆ โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ แพทย์สามารถปรึกษากับผู้ป่วยหลายรายพร้อมกันได้

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3I4m6ew

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/3uZS3kr

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/3H6lovU

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/3s008ns

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/mXoBVaWH9FQ

References Image : https://www.hhmglobal.com/knowledge-bank/news/good-doctor-technology-strengthens-ecosystem-partnerships-to-drive-more-innovation-and-growth-for-telehealth-in-thailand

ประสบการณ์ติดโควิด กักตัว Home Isolation ผ่านเทคโนโลยีของ Good Doctor

ต้องบอกว่าโควิดสายพันธ์โอไมครอน ติดง่ายอย่างเหลือเชื่อนะครับ ส่วนตัวผมเองก็เป็นคนระแวดระวังมาโดยตลอด แทบไม่ได้ออกไปไหน Work From Home มาตลอด 2 ปี ตั้งแต่โควิดระบาดในวันแรก แต่สุดท้ายก็ติดโควิดจนได้

ส่วนตัวก็เลยอยากจะมาบันทึกประสบการณ์ในการติดโควิดครั้งนี้ และแง่มุมที่น่าสนใจโดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยี ที่ตอนนี้มีการจัดการระบบค่อนข้างดีเลยจากทางการ ที่ทำให้สามมารถจัดการผู้ติดเชื้อโควิดจำนวนมาก ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ติดโควิดได้อย่างไร?

ตอนนี้ก็ยังไม่สามารถหาสาเหตุได้อย่างชัดเจนว่าไปติดมากจากไหน เพราะส่วนตัวออกข้างนอกก็สวมแมสก์ตลอดเวลา มีเพียงแค่ตอนรับประทานอาหารและดื่มกาแฟเท่านั้น ที่มีการถอดแมสก์ออก

ซึ่งจากข่าวที่ออกมาสายพันธ์ุโอไมครอน ติดง่ายมาก ส่วนอาการเริ่มต้นที่เริ่มเอะใจว่าน่าจะติดโควิด ก็คือ มีอาการเดียวกับหลังฉีดวัคซีน AZ คือ มีไข้ ไอ เจ็บคอ ซึ่งอาการมาอย่างรวดเร็วมากภายใน 1-2 วัน ที่รู้ตัวเพราะมันเป็นอาการป่วยที่ไม่เคยเจอมาก่อนคล้ายกับหลังฉีดวัคซีน

ส่วนตัวเองก็ไม่เคยตรวจ ATK เลยซักครั้งตั้งแต่โควิดระบาด แต่หลังจากอาการดังกล่าว 2 วัน จึงได้ลองตรวจดูทั้งแบบน้ำลายและแบบสอดจมูก ซึ่งให้ผลเหมือนกันคือ ติดโควิด

เริ่มกระบวนการ Home Isolation

หลังจากรู้ว่าติดเชื้อ ก็ได้ดำเนินการตามกระบวนการปรกติ โทรไป 1330 ของสปสช. ซึ่งสถานการณ์การระบาดยังไม่พีค ทำให้สายค่อนข้างว่างอยู่เยอะ มีการโทรสอบถามอาการอัพเดทอยู่ตลอดในช่วงแรก ว่าเราได้รับความช่วยเหลือแล้วหรือยัง

ถัดไปอีกวันก็มีเจ้าหน้าที่จาก จีดีทีคลินิกเวชกรรมโทรเข้ามา เพื่อไล่สอบถามและประเมินอาการว่าเราสามารถที่จะทำ Home Isolation ได้หรือไม่ หรือ ควรไปที่ hospitel ที่รัฐจัดไว้ให้

เนื่องจากผ่านอาการช่วงหนักมาแล้ว (1-2 วันแรก) มีอาการที่เหลือคือ ไอและเจ็บคอ ทำให้สามารถที่จะเข้า Home Isolation ได้ จากนั้น จีดีทีคลินิก ก็ให้ร่วมโครงการ โดยลงทะเบียนผ่าน Line และ App ของ Good Doctor ซึ่งสามารถโหลดได้ใน App Store และ Play Store

เริ่มกระบวนการรักษาผ่าน Good Doctor

ส่วนนี้อยากมาเล่าประสบการณ์ที่น่าสนใจ เพราะ มันเป็นการใช้เทคโนโลยี Telemedicine ที่น่าสนใจมากในภาวะวิกฤติโรคระบาดอย่างนี้ ซึ่งมีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่ต้องใช้เทคโนโลยีมาจัดการกับคนหมู่มาก

ผมว่าส่วนนึงที่การกระจายของโอไมครอนต่ำกว่าที่คาดการณ์ก็น่าจะมาจากระบบเบื้องหลังที่มีการปรับมาระดับนึงแล้ว แตกต่างจากช่วงปีที่แล้วที่โควิดเดลต้าระบาดหนัก และภาวะเตียงล้น หาเตียงไม่ได้ ซึ่งผมคิดว่าทางรัฐก็คงหาวิธีจัดการจนมาสู่กระบวนการที่ใช้เทคโนโลยีอย่าง Good Doctor ที่เห็นในตอนนี้

สำหรับข่าวล่าสุดที่ออกมาว่า ทารัฐจะกลับไปให้สิทธิ์ตามของแต่ละคน ก็น่าเสียดายนะครับ แต่ก็พอเข้าใจเหตุผลเพราะต้องใช้เงินที่สูงมากกับผู้ป่วยแต่ละคน ยิ่งตอนนี้โอไมครอน กำลังขึ้นสู่จุดพีค จำนวนผู้ป่วยน่าจะแตะหลักหลายหมื่นได้เลย

สำหรับกระบวนการรักษาผ่านแอปอย่าง Good Doctor เราก็สามารถปรึกษาแพทย์ผ่านแอปได้เลย ตั้งแต่วันแรก ๆ ซึ่งหลังจากคุยปรึกษากัน (ผ่าน chat) แจ้งอาการที่ยังคงมีอยู่ไป กระบวนการต่าง ๆ ก็เริ่มต้นขึ้นทันที

น่าสนใจคือ Good Doctor มีการร่วมมือกับบริการ Delivery อย่าง Grab เมื่อคุณหมอทำการสั่งยาเสร็จ ก็จะทำการส่งผ่าน Grab มาให้ภายในระยะเวลาเพียงแค่ไม่เกิน 1 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าสุดยอดมาก

ปรึกษาผ่านแอป จ่ายยาผ่าน Grab ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง
ปรึกษาผ่านแอป จ่ายยาผ่าน Grab ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง

สำหรับส่วนตัวผม ที่ยังพอมีอาการอยู่บ้างแต่ไม่หนัก ก็ได้ทั้งที่ตรวจไข้ ที่วัดระดับออกซิเจนในเลือด รวมถึงยาอีกชุดใหญ่ ตามอาการรวมถึงยาฟาวิพิราเวียร์ตัวหลักที่มีการจ่ายให้ทันทีตั้งแต่วันแรก

โดยจะมีการกักตัวเป็นเวลา 10 วัน ไม่ออกไปไหน ส่วนอาหารก็จะมีคูปองของ Food Panda และ Grab มาให้จำนวนเงินวันละ 300 บาท โดยต้องมีการสั่งแบบครั้งเดียวใช้คูปองได้ครั้งเดียวในแต่ละวัน ก็จะทำการสั่งแบบเผื่อมาเลยทั้ง มื้อกลางวันและมื้อเย็น

ส่วนการอัพเดทอาการนั้น ก็จะมีระบบบันทึก ในส่วนของอุณภูมิร่างกาย รวมถึงระดับออกซิเจนในเลือก ในช่วง 10 โมงเช้า และ 4 โมงเย็นของทุก ๆ วันเพื่อแจ้งให้ระบบทราบ ซึ่งก็คงเป็นรูปแบบเดียวกับการกักตัวที่ hospitel

การบันทึกข้อมูลประจำวันเพื่อแจ้งผ่านระบบ
การบันทึกข้อมูลประจำวันเพื่อแจ้งผ่านระบบ

ซึ่งในแต่ละวัน เราก็สามารถเข้าไปปรึกษาแพทย์ได้ ว่าอาการเป็นอย่างไร รวมถึงหากเกิดเหตุฉุกเฉินอาการรุนแรงก็จะมีช่องทางในการติดต่อแบบเร่งด่วนได้

ส่วนตัวผมเอง อาการก็เริ่มหายไปตั้งแต่วันที่ 4-5 เริ่มดีขึ้น เหลือแค่ไอเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็มีการจ่ายยาเพิ่มในส่วนของอาการที่ยังไม่หายจากคุณหมอ ซึ่งถือว่าดูแลได้ดีมาก ๆ จนหายสนิท ใช้เวลาราว ๆ 1 อาทิตย์

บทสรุป

ผมมองว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าสนใจเลยทีเดียวสำหรับ Telemedicine ที่ อาจจะถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของเทคโนโลยีนี้ หลังการแพร่ระบาดของ COVID ซึ่งอาจจะกลายเป็น New Normal ใหม่ในการรักษาผู้ป่วยได้ในอนาคต

เอาจริง ๆ หลังจากได้ลองใช้แล้วติดใจ ผมก็คิดว่า คงจะใช้บริการของ Good Doctor ต่อไปในอนาคต ซึ่งผมว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีศักยภาพมาช่วยผู้ป่วยได้ ไม่ต้องไปแออัดรอคิวอยู่ที่ โรงพยาบาล หากเป็นอาการป่วยทั่วไป เราก็ปรึกษาหมอแบบออนไลน์ได้เลย และใช้งานได้จริง

ผมมองว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ทั้งความพร้อมเรื่องเทคโนโลยี 4G , 5G ที่ครอบคลุมทั้งประเทศเราในปัจจุบัน รวมถึงการปรับพฤติกรรมครั้งสำคัญ ทำให้ Delivery แพลตฟอร์มกระจายไปทั่วประเทศ อยู่ส่วนไหนของประเทศก็มีอาหารมาส่งถึงที่บ้านเราได้ ซึ่งยาและเวชภัณฑ์ก็คงสามารถทำได้เช่นเดียวกัน

สิ่งที่ผมเสียดายอย่างเดียวของเทคโนโลยีนี้ ก็คือ หลังจากไปลองค้นหาข้อมูลมามันไม่ใช่ของคนไทยแต่อย่างใด เป็นเทคโนโลยีที่เกิดจากบริษัทยักษ์ใหญ่ 3 ราย ได้แก่ Ping An Good Doctor จากประเทศจีน , Grab จากสิงคโปร์ และ ได้ทุนใหญ่จากบริษัทลงทุนชื่อดังอย่าง Softbank ซึ่งตอนนี้กำลังลุยตลาดเต็มตัวในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ซึ่งเท่าที่หาข้อมูล มันก็มีบริการของไทยอยู่นะครับ แต่คงไม่สามารถ scale ขึ้นเทียบเท่าระดับที่ Ping An Good Doctor ทำได้ และหากแจ้งเกิดได้สำเร็จโดยเฉพาะหลังจากการระบาดของโควิด แถมยังได้ข้อมูลที่สำคัญจากการเรียนรู้ผ่านฐานข้อมูลขนาดใหญ่จากการแพร่ระบาดของโควิด ผมว่าตลาดนี้เป็นตลาดที่ใหญ่มหาศาล และ พฤติกรรมคนก็อาจจะเปลี่ยนในเรื่อง Telemedicine คล้ายกับพฤติกรรมการสั่งอาหารที่ตอนนี้ มันได้กลายเป็นเรื่องปรกติ New Normal ไปแล้วนั่นเองครับผม

Credit Image : https://www.bangkokpost.com/life/social-and-lifestyle/2168287/virtual-consultations-available-on-the-good-doctor-app

Geek Life EP27 : เคล็ดลับการเพิ่ม Productivity จาก Elon Musk, Jeff Bezos และ Steve Jobs

ทุกคนมีเวลาในหนึ่งวัน 24 ชั่วโมงเท่ากันกับคนอย่างElon Musk ซึ่งไม่ใช่เพียง CEO ของ Tesla แต่ยังรวมถึง SpaceX, The Boring Company และ Neuralink และ Jack Dorsey ซึ่งเป็น CEO ของทั้ง Twitter และ Square

แล้วผู้ก่อตั้งมหาเศรษฐีที่มีงานยุ่งเช่น Musk และ Dorsey จะจัดการวันเวลาของพวกเขาอย่างไร? และนี่คือเคล็ดลับของ Musk’s, Dorsey’s และผู้นำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคนอื่นๆ ในการเพิ่ม Productivity

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/36qkHkF

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/35cXAtj

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/3I3DZu9

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/3I8YhST

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/XG_dS3ul4qk

References Image : https://in.askmen.com/career/1124786/article/jeff-bezos-elon-musk-steve-jobs-and-more-the-weirdest-habits-of-highly-successful-ceos-and-business